ปรึกษาเรื่องครอบครัวค่ะ ยาวหน่อยแต่อยากได้คำแนะนำค่ะ 🙏
เกริ่นคือ ตัวเราเป็นนักศึกษานะคะปกติอยู่กับแม่สองคนที่นี้ที่อยู่เดิมมันมีปัญหา + พี่สาวเราก็มีปัญหากับบ้านแฟนของเขา เลยคุยกันหาบ้านใหม่แบบอาศัยอยู่ด้วยกัน ซึ่งประกอบด้วย เรา แม่ พี่สาวและแฟนพี่สาว
ก็ตกลงกันว่า เราจะจ่ายค่าบ้านคนละครึ่งกับพี่สาว ส่วนแฟนพี่สาว(เราจะเปลี่ยนเป็นเรียกพี่เขยนะคะ) ให้เขาช่วยจ่ายค่าน้ำ-ค่าไฟ เพราะเรามองว่าเขาเข้ามาอยู่ในบ้านก็ควรจะช่วยค่าใช้จ่ายบ้าง ส่วนแม่เราไม่ให้แกจ่ายอะไรเพราะเรามองว่าเรายังดูแลให้เงินแกไม่ได้ แกยังต้องทำงานเราก็อยากช่วยแบ่งเบาภาระแกบ้าง ตอนแรก ๆ พี่สาวเราก็ไม่ค่อยพอใจเหมือนประมาณว่าทำไมฝั่งเขาต้องจ่ายเยอะกว่าฝั่งเรา อันนี้เราคิดว่าในใจแกคงเหมารวมว่าเรากับแม่คือแบบฝั่งหนึ่ง ส่วนตัวเขากับพี่เขยคืออีกฝั่งหนึ่งค่ะ (อันนี้ไม่ได้คิดไปเองนะคะ แต่เวลาเราไปเที่ยวอะไรแบบนี้เราจะเป็นคนจ่ายส่วนของแม่ แล้วก็น้องสาวเราแต่น้องไม่ได้มาอยู่ด้วยนะคะน้องอยู่กับป้า) ก็คุยกันได้ลงตัวอยู่กันมาเป็นปีไม่ได้มีปัญหาอะไรอีก แต่มามีปัญหาตอนหลังนี่แหละค่ะ คือช่วงโควิดเราออกจากงานแล้วก็ท้อง ก็ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการเงินนะคะเรามีเงินเก็บมีแฟนช่วยเรื่องเงิน เราก็จ่ายค่าบ้านได้ตลอด ประเด็นคือทีนี้เราใกล้จะคลอดเราก็คิดว่าอยากเลียงลูกที่บ้านเรา แล้วด้วยความที่ห้องเรามันอบและร้อนมาก ๆ ก็เลยติดแอร์เพื่อจะได้เลี้ยงลูกเขาจะได้นอนสบาย ซึ่งโดยปกติเราไม่ค่อยนอนที่ห้องเราค่ะ เรานอนข้างล่างกับหมาแล้วก็แม่เราเพราะอย่างที่บอกห้องมันร้อนมาก พอวันที่ติดแอร์อยู่ดี ๆ พี่สาวก็พูดกับเราว่าช่วยจ่ายค่าไฟคนละครึ่งนะ เราก็ตอบไปว่า จะช่วยได้ยังไงไม่ได้ทำงานแค่มีเงินมาจ่ายค่าบ้านก็บุญแล้ว ตัวพี่สาวเราก็พูดต่อประมาณว่าค่าไฟตอนนี้ลดลงแล้ว(ตกเดือนละ2500)เหมือนว่าอยากให้เราจ่ายในส่วนนั้นเพราะเราติดแอร์เพิ่มอะไรแบบนี้อะค่ะ
**ห้องเรา เครื่องใช้ไฟฟ้ามีแค่พัดลม,แล้วก็แอร์ // ห้องพี่สาวเรา มีตู้เย็น แอร์ คอมพิวเตอร์ ทีวี แล้วก็พวกเครื่องเสียงอะไรของแกนี่แหละค่ะ
ซึ่งแบบนี้เรามองว่าไม่แฟร์เลยสำหรับความคิดตัวเราเอง ก่อนหน้าที่เราจะท้องเราทำงานเงินเดือนได้แค่5-6000เองค่ะ เพราะเป็นนศ.ทำได้แต่พาร์ทไทม์ แต่เราก็เจียดเงินมาจ่ายค่าบ้านทุกเดือนไม่เคยขาด แถมตอนมาอยู่ใหม่ ๆ ด้วยความที่เราขับรถไม่เป็นบางทีพี่เขยกับพี่สาวเราจะขับรถไปส่งเวลาไปทำงาน อาทิตย์ละ3-4วันนะคะไม่ได้ส่งทุกวัน เราก็ให้ค่าน้ำมันแกครั้งละ100-200ต่ออาทิตย์ ตอนหลังเราก็เสนอเขาว่าจะติดเน็ตแล้วจะจ่ายค่าเน็ตให้ถ้าไปส่งแทนค่าจ้างแกก็ตกลง พอมาตอนหลังเหมือนแกเหนื่อยงานไม่ค่อยมาส่งแล้ว เราก็มาอยู่บ้านแฟนด้วยก็จ่ายค่าเน็ตให้แกไปอีก2เดือน หลังจากนั้นหลัง ๆ ก็อยู่บ้านแฟนยาวเลยค่ะ แต่มีกลับบ้านบ้างนะคะไม่ไกลกันมาก(ก่อนหน้าที่ท้อง5-6เดือนนะคะ) เราก็บอกให้แกยกเลิกเน็ตให้หน่อยไม่ก็ให้แกช่วยจ่ายค่าเน็ตคนละครึ่งเพราะตอนแรกที่เราตกลงจะเป็นคนจ่ายเพราะถือเป็นค่าจ้างในการมาส่งเรา+กับเราไม่ได้อยู่บ้าน เราก็อยากลดภาระเรื่องนี้ลงไปบ้าง แต่แกไม่ได้ยกเลิกให้เราค่ะ เรามารู้ที่หลังว่าแกแอบใช้ต่อจนเขาส่งใบทวงค่าเน็ตย้อนหลังมา4เดือน ก็โมโหแต่ทำอะไรไม่ได้ แกก็บอกกับเราประมาณว่าบอกยกเลิกไปแล้วแต่เขาไม่ยกเลิกให้อะไรประมาณนี้
เราเคยพูดกับแกว่าเห็นใจเราหน่อยนะ เราทำงานได้เงินเดือนแค่ไม่กี่พัน ถ้าเราจ่ายอีกคงไม่ไหวแล้ว พอมาตอนนี้ก็ไม่ได้ทำงาน+มีลูกอีก ในใจก่อนติดแอร์มีแอบคิดเหมือนกันค่ะ แฟนเราก็คิดเพราะแกรู้นิสัยพี่เราดีว่ามันจะมีปัญหาหรือเปล่า เดี๋ยวก็โดนให้จ่ายค่าไฟนั่นนี่เพิ่ม เราก็พูดกับแฟนไปว่าคงไม่หรอกแกคงเห็นแก่หลานด้วยแหละแอร์แค่ตัวเดียวค่าไฟคงไม่เพิ่มสักเท่าไหร่ แต่พอเรื่องที่คิดกลายเป็นเรื่องจริงก็อึ้ง ๆ นิดนึงค่ะ ที่มาตั้งกระทู้นี่ คือตอนนี้เราไม่กล้าใช้แอร์เลยตั้งแต่ติดมาแต่ยังไงพอคลอดก็คงได้ใช้อยู่ดี แล้วถ้าแกพูดขึ้นมาอีกเราควรจะทำยังไง เราคิดว่าแกคิดว่าเรามีเงินอะไรแบบนี้หรือเปล่าจากที่สังเกตมาเพราะแฟนเราก็ให้เงินเราใช้ซื้อของนั่นนี่ให้เหมือนประมาณว่าแฟนเราคงให้เงินเราใช้เยอะแยะ แต่เราก็เคยคุยให้ฟังนะคะว่าเราไม่ได้จากแฟนเยอะขนาดนั้นเพราะแฟนเราก็อยากเก็บเงิน อยากเอาเงินไปทำอะไรส่วนตัวของเขา แล้วพี่สาวเราตอนแรกแกยังเคยพูดว่าให้แฟนเราช่วยจ่ายค่าน้ำไฟเลย เราก็งง เพราะแฟนเราไม่ได้อยู่กับเราเขาแค่แวะมาหามาเล่นกับเราแล้วก็กลับบ้าน แค่นี้เอง บางทีเราก็งงความคิดของพี่สาวเรามากเลยค่ะว่าแกคิดอะไรอยู่ ที่บอกมาทั้งหมดนี่คือเรื่องจริงเล่าครบหมดเลยนะคะไม่ได้กั๊กหรือเอาดีเข้าตัว แต่เหตุการณ์มันเป็นแบบนี้จริง ๆ ค่ะ เผื่อหลาย ๆ คนอ่านแล้วคิดว่าเราเล่าไม่หมด 😅
ก็ที่เล่า ๆ มาทั้งหมดบางเรื่องอาจจะไม่เกี่ยวข้องกันนะคะ แต่ที่เราเล่ามาเนี่ยเพราะเราอยากให้รู้ว่ามีเหตุการณ์อะไรบ้างจะได้ตอบคำถามของเราได้อะค่ะ คำถามคือ
1.การที่เราจ่ายแค่ค่าบ้านคนละครึ่งกับพี่สาว แล้วให้แฟนพี่สาวจ่ายค่าน้ำค่าไฟ (รวมน้ำไฟตกเดือนละ3000-4000) เราเห็นแก่ตัวไหมทำถูกหรือเปล่า
2.ถ้าพี่เราพูดเรื่องให้ช่วยจ่ายค่าไฟอีก เราควรพูดอะไรกับแกดีคะ ก็คือควรจ่ายควรช่วยแกไปอะไรแบบนี้หรือเปล่า อยากขอคำแนะนำหน่อยค่ะ เราจะได้เตรียมตัวเอาไว้
ถ้าอ่านแล้วงง เว้นวรรค หรือใช้คำสับสน ขอโทษด้วยนะคะ พยายามจะเล่าให้ครบให้เข้าใจสุด ๆ แล้วค่ะ ขอบคุณทุกคำแนะนำไว้ตรงนี้เลยนะคะ
เราคิดแบบนี้เห็นแก่ตัวไหม ถูกต้องหรือเปล่า?
เกริ่นคือ ตัวเราเป็นนักศึกษานะคะปกติอยู่กับแม่สองคนที่นี้ที่อยู่เดิมมันมีปัญหา + พี่สาวเราก็มีปัญหากับบ้านแฟนของเขา เลยคุยกันหาบ้านใหม่แบบอาศัยอยู่ด้วยกัน ซึ่งประกอบด้วย เรา แม่ พี่สาวและแฟนพี่สาว
ก็ตกลงกันว่า เราจะจ่ายค่าบ้านคนละครึ่งกับพี่สาว ส่วนแฟนพี่สาว(เราจะเปลี่ยนเป็นเรียกพี่เขยนะคะ) ให้เขาช่วยจ่ายค่าน้ำ-ค่าไฟ เพราะเรามองว่าเขาเข้ามาอยู่ในบ้านก็ควรจะช่วยค่าใช้จ่ายบ้าง ส่วนแม่เราไม่ให้แกจ่ายอะไรเพราะเรามองว่าเรายังดูแลให้เงินแกไม่ได้ แกยังต้องทำงานเราก็อยากช่วยแบ่งเบาภาระแกบ้าง ตอนแรก ๆ พี่สาวเราก็ไม่ค่อยพอใจเหมือนประมาณว่าทำไมฝั่งเขาต้องจ่ายเยอะกว่าฝั่งเรา อันนี้เราคิดว่าในใจแกคงเหมารวมว่าเรากับแม่คือแบบฝั่งหนึ่ง ส่วนตัวเขากับพี่เขยคืออีกฝั่งหนึ่งค่ะ (อันนี้ไม่ได้คิดไปเองนะคะ แต่เวลาเราไปเที่ยวอะไรแบบนี้เราจะเป็นคนจ่ายส่วนของแม่ แล้วก็น้องสาวเราแต่น้องไม่ได้มาอยู่ด้วยนะคะน้องอยู่กับป้า) ก็คุยกันได้ลงตัวอยู่กันมาเป็นปีไม่ได้มีปัญหาอะไรอีก แต่มามีปัญหาตอนหลังนี่แหละค่ะ คือช่วงโควิดเราออกจากงานแล้วก็ท้อง ก็ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการเงินนะคะเรามีเงินเก็บมีแฟนช่วยเรื่องเงิน เราก็จ่ายค่าบ้านได้ตลอด ประเด็นคือทีนี้เราใกล้จะคลอดเราก็คิดว่าอยากเลียงลูกที่บ้านเรา แล้วด้วยความที่ห้องเรามันอบและร้อนมาก ๆ ก็เลยติดแอร์เพื่อจะได้เลี้ยงลูกเขาจะได้นอนสบาย ซึ่งโดยปกติเราไม่ค่อยนอนที่ห้องเราค่ะ เรานอนข้างล่างกับหมาแล้วก็แม่เราเพราะอย่างที่บอกห้องมันร้อนมาก พอวันที่ติดแอร์อยู่ดี ๆ พี่สาวก็พูดกับเราว่าช่วยจ่ายค่าไฟคนละครึ่งนะ เราก็ตอบไปว่า จะช่วยได้ยังไงไม่ได้ทำงานแค่มีเงินมาจ่ายค่าบ้านก็บุญแล้ว ตัวพี่สาวเราก็พูดต่อประมาณว่าค่าไฟตอนนี้ลดลงแล้ว(ตกเดือนละ2500)เหมือนว่าอยากให้เราจ่ายในส่วนนั้นเพราะเราติดแอร์เพิ่มอะไรแบบนี้อะค่ะ
**ห้องเรา เครื่องใช้ไฟฟ้ามีแค่พัดลม,แล้วก็แอร์ // ห้องพี่สาวเรา มีตู้เย็น แอร์ คอมพิวเตอร์ ทีวี แล้วก็พวกเครื่องเสียงอะไรของแกนี่แหละค่ะ
ซึ่งแบบนี้เรามองว่าไม่แฟร์เลยสำหรับความคิดตัวเราเอง ก่อนหน้าที่เราจะท้องเราทำงานเงินเดือนได้แค่5-6000เองค่ะ เพราะเป็นนศ.ทำได้แต่พาร์ทไทม์ แต่เราก็เจียดเงินมาจ่ายค่าบ้านทุกเดือนไม่เคยขาด แถมตอนมาอยู่ใหม่ ๆ ด้วยความที่เราขับรถไม่เป็นบางทีพี่เขยกับพี่สาวเราจะขับรถไปส่งเวลาไปทำงาน อาทิตย์ละ3-4วันนะคะไม่ได้ส่งทุกวัน เราก็ให้ค่าน้ำมันแกครั้งละ100-200ต่ออาทิตย์ ตอนหลังเราก็เสนอเขาว่าจะติดเน็ตแล้วจะจ่ายค่าเน็ตให้ถ้าไปส่งแทนค่าจ้างแกก็ตกลง พอมาตอนหลังเหมือนแกเหนื่อยงานไม่ค่อยมาส่งแล้ว เราก็มาอยู่บ้านแฟนด้วยก็จ่ายค่าเน็ตให้แกไปอีก2เดือน หลังจากนั้นหลัง ๆ ก็อยู่บ้านแฟนยาวเลยค่ะ แต่มีกลับบ้านบ้างนะคะไม่ไกลกันมาก(ก่อนหน้าที่ท้อง5-6เดือนนะคะ) เราก็บอกให้แกยกเลิกเน็ตให้หน่อยไม่ก็ให้แกช่วยจ่ายค่าเน็ตคนละครึ่งเพราะตอนแรกที่เราตกลงจะเป็นคนจ่ายเพราะถือเป็นค่าจ้างในการมาส่งเรา+กับเราไม่ได้อยู่บ้าน เราก็อยากลดภาระเรื่องนี้ลงไปบ้าง แต่แกไม่ได้ยกเลิกให้เราค่ะ เรามารู้ที่หลังว่าแกแอบใช้ต่อจนเขาส่งใบทวงค่าเน็ตย้อนหลังมา4เดือน ก็โมโหแต่ทำอะไรไม่ได้ แกก็บอกกับเราประมาณว่าบอกยกเลิกไปแล้วแต่เขาไม่ยกเลิกให้อะไรประมาณนี้
เราเคยพูดกับแกว่าเห็นใจเราหน่อยนะ เราทำงานได้เงินเดือนแค่ไม่กี่พัน ถ้าเราจ่ายอีกคงไม่ไหวแล้ว พอมาตอนนี้ก็ไม่ได้ทำงาน+มีลูกอีก ในใจก่อนติดแอร์มีแอบคิดเหมือนกันค่ะ แฟนเราก็คิดเพราะแกรู้นิสัยพี่เราดีว่ามันจะมีปัญหาหรือเปล่า เดี๋ยวก็โดนให้จ่ายค่าไฟนั่นนี่เพิ่ม เราก็พูดกับแฟนไปว่าคงไม่หรอกแกคงเห็นแก่หลานด้วยแหละแอร์แค่ตัวเดียวค่าไฟคงไม่เพิ่มสักเท่าไหร่ แต่พอเรื่องที่คิดกลายเป็นเรื่องจริงก็อึ้ง ๆ นิดนึงค่ะ ที่มาตั้งกระทู้นี่ คือตอนนี้เราไม่กล้าใช้แอร์เลยตั้งแต่ติดมาแต่ยังไงพอคลอดก็คงได้ใช้อยู่ดี แล้วถ้าแกพูดขึ้นมาอีกเราควรจะทำยังไง เราคิดว่าแกคิดว่าเรามีเงินอะไรแบบนี้หรือเปล่าจากที่สังเกตมาเพราะแฟนเราก็ให้เงินเราใช้ซื้อของนั่นนี่ให้เหมือนประมาณว่าแฟนเราคงให้เงินเราใช้เยอะแยะ แต่เราก็เคยคุยให้ฟังนะคะว่าเราไม่ได้จากแฟนเยอะขนาดนั้นเพราะแฟนเราก็อยากเก็บเงิน อยากเอาเงินไปทำอะไรส่วนตัวของเขา แล้วพี่สาวเราตอนแรกแกยังเคยพูดว่าให้แฟนเราช่วยจ่ายค่าน้ำไฟเลย เราก็งง เพราะแฟนเราไม่ได้อยู่กับเราเขาแค่แวะมาหามาเล่นกับเราแล้วก็กลับบ้าน แค่นี้เอง บางทีเราก็งงความคิดของพี่สาวเรามากเลยค่ะว่าแกคิดอะไรอยู่ ที่บอกมาทั้งหมดนี่คือเรื่องจริงเล่าครบหมดเลยนะคะไม่ได้กั๊กหรือเอาดีเข้าตัว แต่เหตุการณ์มันเป็นแบบนี้จริง ๆ ค่ะ เผื่อหลาย ๆ คนอ่านแล้วคิดว่าเราเล่าไม่หมด 😅
ก็ที่เล่า ๆ มาทั้งหมดบางเรื่องอาจจะไม่เกี่ยวข้องกันนะคะ แต่ที่เราเล่ามาเนี่ยเพราะเราอยากให้รู้ว่ามีเหตุการณ์อะไรบ้างจะได้ตอบคำถามของเราได้อะค่ะ คำถามคือ
1.การที่เราจ่ายแค่ค่าบ้านคนละครึ่งกับพี่สาว แล้วให้แฟนพี่สาวจ่ายค่าน้ำค่าไฟ (รวมน้ำไฟตกเดือนละ3000-4000) เราเห็นแก่ตัวไหมทำถูกหรือเปล่า
2.ถ้าพี่เราพูดเรื่องให้ช่วยจ่ายค่าไฟอีก เราควรพูดอะไรกับแกดีคะ ก็คือควรจ่ายควรช่วยแกไปอะไรแบบนี้หรือเปล่า อยากขอคำแนะนำหน่อยค่ะ เราจะได้เตรียมตัวเอาไว้
ถ้าอ่านแล้วงง เว้นวรรค หรือใช้คำสับสน ขอโทษด้วยนะคะ พยายามจะเล่าให้ครบให้เข้าใจสุด ๆ แล้วค่ะ ขอบคุณทุกคำแนะนำไว้ตรงนี้เลยนะคะ