▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เที่ยวทะเล
บันทึกนักเดินทาง
ลุงกะป้าพายายแฝดเที่ยว กระบี่ 1
เลยต้องจัดไป เมื่อถึงกระบี่ จะเข้าเมืองยังไงดีละ เพราะเท่าที่หาข้อมูลมาคือแพงงงงงงงงงะ เดินออกมาเห็นน้องเขายืนเรียกใช้บริการรถเข้าเมือง เลยเข้าไปถามราคาตามมาตรฐานป้ายเป๊ะ น้องเขาถามกี่คน และ @#!%^&* สรุปคือได้ 300 บาท 4 คน โอเคร รับได้ เราได้จองโรงแรมเพชรไพลินไว้ ในราคาเข้าร่วมโครงการเที่ยวด้วยกัน 2 ห้อง 1 คืนที่ราคา 500 บาท
เนื่องจากวันที่เราไปเป็นวันศุกร์ ในเงื่อนไขการเที่ยวด้วยกันคือเขาจะให้ Gift Voucher เรา 1200 บาท สำหรับ 2 ห้อง 1 คืน (เงื่อนไข ถ้าเป็นวันธรรมดาจันทร์ถึงพฤหัสบดี จะได้คืนละ 900 บาทต่อ 1 ห้อง ศุกร์ถึงอาทิตย์จะได้ 600 บาทต่อคืนต่อ 1 ห้อง) จะใช้ได้ถึงก่อนเที่ยงคืนของวันถัดไป ซึ่งเราตั้งใจจะไปใช้ที่พีพี เมื่อถึงโรงแรม มีเวลานิ๊ดหนึ่งไปถนนคนเดินกระบี่กันซึ่งอยู่หลังห้างโว๊ค เดินไปประมาณกิโลหนึ่งน่าจะได้ ที่นั่นเราได้ใช้สิทธิ์คละครึ่งในการหาไรทานกัน ขอบอกว่าที่นั่น มีเกือบทุกร้าน เสร็จแล้วก็กลับโรงแรม
วันที่ 21 พฤศจิกายน 2563
เนื่องจากทางที่เดินไปถนนคนเดินเมื่อคืนคือถนนเส้นเดียวกับตลาดเช้า ลุงกะป้าเลยใช้เวลานี้ก่อนไปท่าเรือเดินไปตลาดหาไรทานกัน อันนี้ขอเล่าความประทับใจนิ๊ดหนึ่ง เดินไปได้ครึ่งทางละก็ชิว ๆ ไม่ได้เหนื่อยหรือไรก็เดินคุยกันไปเรื่อย ๆ (นินทายายแฝดที่ยังไม่ตื่น) อยู่ ๆ มีรถ MU7 สีขาวจอดรถและเข้าเกียร์ถอยมาหาเรา แล้วเรียกขึ้นรถไปตลาดด้วยกัน อึ้งหงะ!! ความจริงเขาขับผ่านไปเลยก็ไม่มีใครว่า นับถือน้ำใจนางม๊ากกกก ประทับใจปนแปลกใจคนมีน้ำใจยังเหลืออีกเยอะบนโลกใบนี้ ขอบคุณมาก มากค่ะ ขอบคุณจริง จริง
หลังจากนั้นเราก็กลับโรงแรมเพื่อเตรียมตัวไปท่าเรือจิลาด ด้วยตั๋วไปกลับพีพี ก่อนขึ้นเรือทุกคนจะต้องถ่ายรูป และแจ้งที่อยู่ที่ติดต่อได้ไว้กับท่าเรือ
เมื่อถึงพีพี จะต้องแจ้งชื่อที่อยู่ทำการวัดไข้ก่อนขึ้นเกาะพร้อมจ่ายค่าขึ้นเกาะคนละ 20 บาท
พวกเราพักกันที่โรงแรมปานมณี ติดกะตลาดของชาวบ้าน เหตุผลคือหาอาหารได้ง่าย (ด้วยเหตุผลว่าคนไม่ค่อยมีอาจจะหาอาหารทานได้ยากและที่สำคัญราคาน่าจะแพงหูฉี่) รู้ไหมว่าเอาจริงแล้วอาหารและราคาพวกเรารับได้ อาจจะราคาสูงกว่าทั่วไปนิ๊ดหนึ่งแต่ปริมาณเยอะว่าที่ขายกันทั่วไปและที่สำคัญคนละครึ่งเยอะมากนะจ๊ะจะบอกให้ ส่วนโรงแรมไม่ได้เข้าร่วมโครงการเที่ยวด้วยกันเราเราจ่ายค่าที่พักไป 2 คน 2 ห้อง 1500 บาท ที่สำคัญคือเด็ก ๆ สามารถหาทานไรได้เองถ้าเกิดเราไม่อยู่ ไม่ต้องห่วง ค่ำนี้กะว่าจะไปจุดชมวิว แต่ก็ไม่ได้ไปเพราะฝนตกชาวบ้านบอกว่าอย่าขึ้นเลยอาจจะลื่น พรุ่งนี้เช้าค่อยขึ้น เครงั้นเดินเตร่ ทั่วเกาะแล้วกัน
วันที่ 22 พฤศจิกายน 2563
วันนี้ตื่นแต่เช้ามากตั้งใจจะไปเดินขึ้นจุดชมวิวหลังจากที่พลาดเมื่อวานเย็น และแล้วสมกับความอยากวิวที่ได้สมคำร่ำลือจริง ๆ หายเหนื่อยเป็นปลิบทิ้ง
เอาละอิ่มเอมละก็ลงไปเตรียมตัวไปนั่งเรือไปเที่ยวรอบเกาะพีพีเลกัน ในราคา 1200 บาท สำหรับ 4 คน 3 ชั่วโมง มีน้ำดื่มและ snorkel และชูชีพให้ อาหารกลางวันและ snack เตรียมไปเอง เราเลยได้ข้าวไก่ทอดติดไป 6 ห่อ และกาแฟไป แค่เอาไปเตรียมคิดว่าน่าจะทันกลับมาทานกลางวันที่โรงแรม
ที่อ่าวมาหยาไม่สามารถขึ้นเกาะได้ ทางอุทยานปิด พี่คนขับเรือว่าปีหน้าน่าจะเปิดให้ขึ้น ก็รอดูข่าวแล้วกัน ได้มีโอกาสคุยกะพี่เขา เขาเล่าให้ฟังว่าตอนช่วงโควิด ทางพีพได้ปิดเกาะคนนอกไม่ให้เข้าคนในไม่ให้ออก ชาวบ้านที่ขับเรือก็ไปหากินทางอื่น ทั้งเกาะเหลือเรือหางยาวอยู่ 3 ลำ รวมทั้งของพี่เขา
ขอบอกว่าทริปนี้สนุกมากดำน้ำคนก็น้อย อาหารการกินที่เกาะก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด นั่นหมายความว่าเราไม่ได้ไปแบบคุณหนูนะ ถ้าไปติดเกาะสามารถอยู่ได้สบาย ๆ ชิว ๆ อีกอย่างที่พยายามอย่าเขียนไว้ในแผนคือการไปไหนตอนเย็น คือฝนตกทุกวันค่า
มีต่อนะคะ
ลุงกะป้าพายายแฝดเที่ยว กระบี่ 2