-- R I P P L E E F F E C T--
วันนี้รักไปเจอคำนี้มา
จากแวดวงของเศรษฐกิจและการตลาด
เป็นปรากฏการณ์ที่อธิบายถึง
ผลกระทบจากจุดเล็กๆแค่จุดเดียว
สามารถกระจายผลลัพธ์ออกไปในวงกว้างได้
เหมือนโยนหินลงน้ำจ๋อมนึง
แล้วน้ำกะกระเพื่อมออกเป็นวงกว้างได้ไกลๆนั่นแล
.
พอรักได้ฟังถึงเรื่องนี้ รักนึกถึงผลของ Skin care
ที่รักเคยให้คำปรึกษาทั้งหมดขึ้นมาทันที
รักเลยอยากเอามาแชร์ให้ฟัง
เพราะหลายๆครั้งเคสที่เข้ามา
ก็มาจากปรากฏการณ์ง่ายๆของ RIPPLE EFFECT นี่แหละ
🤩🤩 #ในแง่บวก
สมมตินะ เราใช้สกินแคร์อย่างถูกสมดุล
ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวอย่างสม่ำเสมอ 💧💧💧
ความชุ่มชื้นที่ผิวได้ไปอย่างเพียงพอ
จะไปขับเคลื่อนวงจรการทำงานของผิวทั้งหมด
ในทางตรงที่ได้คือผิวชุ่มชื้น อิ่มฟูเต่งน้ำทันที 🥰🥰🥰
.
แต่ในทางอ้อมที่เป็น Ripple effect
ความเต่งฟูของผิวจากความชุ่มชื้น
จะทำให้ผิวเกิดการสะท้อนแสงได้ดี ✨✨
ผิวก็ดูสว่างกระจ่างใส ดูออร่าอย่างที่เราคุ้นๆกัน
แล้วยังไม่พอ ริ้วรอยต่างๆที่เกิดจากความแห้งเหี่ยวของเซลล์ผิว
พอเซลล์ผิวเต่งฟู บวมน้ำ ผิวก็จะตึงกระชับไปด้วย
ผลคือ ริ้วรอยก็จะดูตื้นขึ้น
.
เห็นมั้ยว่า แค่เรา INPUT สิ่งที่ถูกต้องลงไปในผิวแค่อย่างเดียว
มันกระจายผลดีในแนวกว้างต่อสุขภาพผิวของเราได้ขนาดไหน
แต่ในทางกลับกัน
😖😖 #ในแง่ลบ
ถ้าเกิดใช้ Skin care ผิดสมดุล ❌
ใช้แต่ตัวที่ทำให้ขาว ผลัดเซลล์ผิว หรือเอาแต่รักษาสิวอย่างเดียว
ในทางตรงอาจจะมีประโยชน์แรกคือสิวหาย 😮😮
ฟังก็ดูโอเคหนิ ไม่น่ามีปัญหาอะไร
แต่ถ้าในระยะยาว ก็จะส่งผลเสียแนวกว้าง
ผิวอาจจะเกิดการแห้ง 🍂🍂
พอแห้งๆมากๆเข้า
ร่างกายก็ชดเชยด้วยการผลิตน้ำมันไขมันมาปกคลุมผิว
น้ำมันที่ออกมามากเกินไป 🥵🥵🥵
พอไปรวมกับเซลล์ผิวที่ตายแล้วจากความแห้ง
ก็จับกลุ่มเสริมการอุดตัน รูขุมขนก็ดูกว้าง
สิวก็ตามขึ้นมาหนักกว่าเดิม
.
🔴🔴🔴🔴
และนี่คือ ผลของการ INPUT สิ่งที่ไม่ถูกหลักการลงไปแค่อย่างเดียว
แต่กลับสร้างผลเสียให้ผิวมากมาย ⚠️
ทำให้ผิวติดลูปวงจรที่ไม่หายซักที ⚠️
บางคนก็มาในรูปของการเป็นสิวซ้ำๆ ⚠️
บางคนก็กลายเป็นผิวแพ้ง่าย ⚠️
ใช้ครีมอะไรก็ใช้ไม่ได้ ⚠️
หรืออาจจะบานปลายจากผิวแพ้ง่าย⚠️
เป็นผิวไวแสง⚠️
ฝ้าแดด และริ้วรอยจากแดดไปเลยก็ได้ ⚠️
.
ซึ่งเริ่มมาจากจุดเล็กๆ
จากการแต้มสิวมากไป เลเซอร์มากไป
หรือใช้ไวท์เทนนิ่งเยอะไป
วันนี้รักเลยมาชวนคิดแหละว่า
RIPPLE EFFECT
มันเกิดขั้นได้กับทุกอย่าง
แม้กระทั่งการเลือกใช้ Skin care
.
ถ้าทุกคนรู้ว่าการ INPUT อะไร
แล้วมันจะกระจายผลลัพธ์แบบนั้นออกไป
วันนี้จะยังใช้ Skin care ที่ไม่ตอบโจทย์กับผิวอีกมั้ย ❎❎
หรือจะใช้อะไรที่มันเสี่ยงๆ ดูจะให้ผลเสียมากกว่าผลดีอีกมั้ย
หรือจะมีความเชื่อเรื่องของการรีวิว และ บิวตี้บล็อกเกอร์
โดยไม่หันกลับมาดูความต้องการของผิวตัวเองอีกมั้ย
.
ถ้าไม่ ก็ขอให้ใช้หลักของ RIPPLE EFFECT
ในการ INPUT สิ่งดีๆ แก่ผิวของตัวเอง
ซึ่งไม่ใช่แค่ด้านความชุ่มชื้นอย่างเดียวแบบที่รักยกตัวอย่าง
แต่รวมถึงด้านความกระจ่างใสในแบบที่สมดุล
การเสริมสร้างความแข็งแรงในชั้นผิว
หรือการลดเลือนริ้วรอยต่างๆ
ให้เหมาะสมกับวัยและสภาพผิวของตัวเองไปด้วย
.
รักมั่นใจเลยว่า
ถ้าเราทำให้เกิด RIPPLE EFFECT ที่ดีๆหลายๆวง
จากการ INPUT แต่สิ่งดีๆให้ผิวในทุกๆมิติ
ผิวก็จะดีขึ้นและแข็งแรงขึ้นแน่นอน
แล้วความแข็งแรงจากภายในของผิวนี้แหละ
จะทำให้ผิวสวยสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอกได้ในที่สุด
.
เพราะรักรู้ว่า ถ้าหากผิวดีจากภายใน
ไม่ว่าจะมีปัญหาผิวอะไรก็จแก้ได้
และความมั่นใจในตัวเองความเชื่อว่าทุกคนดูดีได้ในตัวเองก็จะเกิดขึ้น
#LoveYourSkin
#เภสัชกรรัก รักผิวแบบสมดุล
RIPPLE EFFECT - ผลกระทบของการใช้ skincare
-- R I P P L E E F F E C T--
วันนี้รักไปเจอคำนี้มา
จากแวดวงของเศรษฐกิจและการตลาด
เป็นปรากฏการณ์ที่อธิบายถึง
ผลกระทบจากจุดเล็กๆแค่จุดเดียว
สามารถกระจายผลลัพธ์ออกไปในวงกว้างได้
เหมือนโยนหินลงน้ำจ๋อมนึง
แล้วน้ำกะกระเพื่อมออกเป็นวงกว้างได้ไกลๆนั่นแล
.
พอรักได้ฟังถึงเรื่องนี้ รักนึกถึงผลของ Skin care
ที่รักเคยให้คำปรึกษาทั้งหมดขึ้นมาทันที
รักเลยอยากเอามาแชร์ให้ฟัง
เพราะหลายๆครั้งเคสที่เข้ามา
ก็มาจากปรากฏการณ์ง่ายๆของ RIPPLE EFFECT นี่แหละ
🤩🤩 #ในแง่บวก
สมมตินะ เราใช้สกินแคร์อย่างถูกสมดุล
ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวอย่างสม่ำเสมอ 💧💧💧
ความชุ่มชื้นที่ผิวได้ไปอย่างเพียงพอ
จะไปขับเคลื่อนวงจรการทำงานของผิวทั้งหมด
ในทางตรงที่ได้คือผิวชุ่มชื้น อิ่มฟูเต่งน้ำทันที 🥰🥰🥰
.
แต่ในทางอ้อมที่เป็น Ripple effect
ความเต่งฟูของผิวจากความชุ่มชื้น
จะทำให้ผิวเกิดการสะท้อนแสงได้ดี ✨✨
ผิวก็ดูสว่างกระจ่างใส ดูออร่าอย่างที่เราคุ้นๆกัน
แล้วยังไม่พอ ริ้วรอยต่างๆที่เกิดจากความแห้งเหี่ยวของเซลล์ผิว
พอเซลล์ผิวเต่งฟู บวมน้ำ ผิวก็จะตึงกระชับไปด้วย
ผลคือ ริ้วรอยก็จะดูตื้นขึ้น
.
เห็นมั้ยว่า แค่เรา INPUT สิ่งที่ถูกต้องลงไปในผิวแค่อย่างเดียว
มันกระจายผลดีในแนวกว้างต่อสุขภาพผิวของเราได้ขนาดไหน
แต่ในทางกลับกัน
😖😖 #ในแง่ลบ
ถ้าเกิดใช้ Skin care ผิดสมดุล ❌
ใช้แต่ตัวที่ทำให้ขาว ผลัดเซลล์ผิว หรือเอาแต่รักษาสิวอย่างเดียว
ในทางตรงอาจจะมีประโยชน์แรกคือสิวหาย 😮😮
ฟังก็ดูโอเคหนิ ไม่น่ามีปัญหาอะไร
แต่ถ้าในระยะยาว ก็จะส่งผลเสียแนวกว้าง
ผิวอาจจะเกิดการแห้ง 🍂🍂
พอแห้งๆมากๆเข้า
ร่างกายก็ชดเชยด้วยการผลิตน้ำมันไขมันมาปกคลุมผิว
น้ำมันที่ออกมามากเกินไป 🥵🥵🥵
พอไปรวมกับเซลล์ผิวที่ตายแล้วจากความแห้ง
ก็จับกลุ่มเสริมการอุดตัน รูขุมขนก็ดูกว้าง
สิวก็ตามขึ้นมาหนักกว่าเดิม
.
🔴🔴🔴🔴
และนี่คือ ผลของการ INPUT สิ่งที่ไม่ถูกหลักการลงไปแค่อย่างเดียว
แต่กลับสร้างผลเสียให้ผิวมากมาย ⚠️
ทำให้ผิวติดลูปวงจรที่ไม่หายซักที ⚠️
บางคนก็มาในรูปของการเป็นสิวซ้ำๆ ⚠️
บางคนก็กลายเป็นผิวแพ้ง่าย ⚠️
ใช้ครีมอะไรก็ใช้ไม่ได้ ⚠️
หรืออาจจะบานปลายจากผิวแพ้ง่าย⚠️
เป็นผิวไวแสง⚠️
ฝ้าแดด และริ้วรอยจากแดดไปเลยก็ได้ ⚠️
.
ซึ่งเริ่มมาจากจุดเล็กๆ
จากการแต้มสิวมากไป เลเซอร์มากไป
หรือใช้ไวท์เทนนิ่งเยอะไป
วันนี้รักเลยมาชวนคิดแหละว่า
RIPPLE EFFECT
มันเกิดขั้นได้กับทุกอย่าง
แม้กระทั่งการเลือกใช้ Skin care
.
ถ้าทุกคนรู้ว่าการ INPUT อะไร
แล้วมันจะกระจายผลลัพธ์แบบนั้นออกไป
วันนี้จะยังใช้ Skin care ที่ไม่ตอบโจทย์กับผิวอีกมั้ย ❎❎
หรือจะใช้อะไรที่มันเสี่ยงๆ ดูจะให้ผลเสียมากกว่าผลดีอีกมั้ย
หรือจะมีความเชื่อเรื่องของการรีวิว และ บิวตี้บล็อกเกอร์
โดยไม่หันกลับมาดูความต้องการของผิวตัวเองอีกมั้ย
.
ถ้าไม่ ก็ขอให้ใช้หลักของ RIPPLE EFFECT
ในการ INPUT สิ่งดีๆ แก่ผิวของตัวเอง
ซึ่งไม่ใช่แค่ด้านความชุ่มชื้นอย่างเดียวแบบที่รักยกตัวอย่าง
แต่รวมถึงด้านความกระจ่างใสในแบบที่สมดุล
การเสริมสร้างความแข็งแรงในชั้นผิว
หรือการลดเลือนริ้วรอยต่างๆ
ให้เหมาะสมกับวัยและสภาพผิวของตัวเองไปด้วย
.
รักมั่นใจเลยว่า
ถ้าเราทำให้เกิด RIPPLE EFFECT ที่ดีๆหลายๆวง
จากการ INPUT แต่สิ่งดีๆให้ผิวในทุกๆมิติ
ผิวก็จะดีขึ้นและแข็งแรงขึ้นแน่นอน
แล้วความแข็งแรงจากภายในของผิวนี้แหละ
จะทำให้ผิวสวยสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอกได้ในที่สุด
.
เพราะรักรู้ว่า ถ้าหากผิวดีจากภายใน
ไม่ว่าจะมีปัญหาผิวอะไรก็จแก้ได้
และความมั่นใจในตัวเองความเชื่อว่าทุกคนดูดีได้ในตัวเองก็จะเกิดขึ้น
#LoveYourSkin
#เภสัชกรรัก รักผิวแบบสมดุล