▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศ
เที่ยวไทย
ภูชี้ฟ้า
นักท่องเที่ยว
[CR] ทริปเชียงราย ที่พักแนะนำ ที่พักเปิดใหม่ ล่าสุดเลยจ้า (23-26 พฤศจิกายน 2563)
วันที่2 ภูชี้ดาว-ภูชี้เดือน-ดอยผาตั้ง-ดอยสะโง้
วันที่3 วัดห้วยปลากั้ง-วัดร่องขุ่น-ดอยแม่มอญ
วันที่4 ไปคิดเอาข้างหน้า (ขึ้นเครื่องบ่ายสอง)
ที่พัก 3 คืน ภูทองแคมป์ สตาร์ดอย และ Rain Glamping
ทริปนี้ไปกัน 4 คนพ่อแม่ลูกค่ะ
วันแรก ไม่ได้ขึ้นเครื่องมา 1 ปีเต็ม คิดถึงสนามบินจัง เครื่องถึงก่อนเวลา เราจองรถเช่ากับ SJ Carrent บริการดี สะดวกและรวดเร็วมาก ขึ้นเขาแนะนำเลือกเครื่อง1500cc ขึ้นไปค่ะ
ตอนแรกกะเที่ยวไร่เชิญตะวัน 1 ชั่วโมงแล้วรีบขึ้นที่พักไปดูพระอาทิตย์ตกที่ภูชี้ดาว แต่เอาจริงไร่เชิญตะวันเดิน 1 ชั่วโมงก็รอบอยู่ แต่เราเพลินไปหน่อย มันดีต่อใจ จะอยู่ทั้งวันก็มีร้านขายอาหารและกาแฟไว้บริการ ห้องน้ำเยอะและสะอาดมาก
ขึ้นที่พักไม่ทันพระอาทิตย์ตก มืดก่อน
ที่ภูทองแคมป์ทางขึ้นหวาดเสียวมาก รถขึ้นเกือบไม่ไหว วิวดีงามเพราะอยู่สูงจากถนน เต๊นท์ใหญ่นอนกันได้ทั้ง 4 คน เสริมหมอนผ้าห่มนอนกันสบาย เราชอบแบบวิวสูงและใกล้ห้องน้ำ พี่คนต้อนรับใจดีจัดให้ตามขอ บริการดีมาก สั่งหมูกระทะชุดใหญ่มาและต้องขอเพิ่ม มันอร่อยและเข้ากะบรรยากาศเกิ๊นนน
ชื่นท้องกันไป
ดาวพอมีให้เห็นประปราย ห้องน้ำดีเลยนะ เราจะโอเคกับการที่ห้องน้ำไม่มีกลิ่น มีสายชำระ มีน้ำอุ่นแค่นี้ก็ยอดแล้ว อากาศเย็นขึ้นเรื่อยๆ ประมาณ 14องศา
วันที่2 ตอนตีห้าที่พักมีรถรับส่งฟรีพาไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ภูชี้ฟ้า ที่พักอื่นจะมีค่าบริการ 60 บาท เดินขึ้นไปอีกเกือบโล เหนื่อยอยู่ และวันนี้เมฆมากไม่เห็นพระอาทิตย์ไต่ขึ้นจากขอบฟ้าเลย เราโชคไม่ดีก็ปลอบใจตัวเองที่ยังพอได้เห็นทะเลหมอก
แต่ระหว่างจะเดินลง ก็มีแสงโผล่มาให้เห็นแว๊บนึง ดีใจ
กลับลงมาทานข้าวต้มร้อนๆ ไปนั่งเล่นหน้าเต๊นท์อีกพักก็แพคของเตรียมไปต่อ เต๊นท์ด้านล่างสะดวกสบายมีห้องน้ำในตัว แต่มีลูกกรงรั้วกั้นหน้าเต๊นท์เพื่อความปลอดภัย เราชอบเต๊นท์เรามากกว่าเพราะไม่มีอะไรมาขวางสายตาเลย โปร่งโล่งกว้างไกลมาก
เราขึ้นภูชี้ดาวก่อนเพราะตามเส้นทางวันนี้ภูชี้ดาวจะถึงก่อนภูชี้เดือน จอดรถไว้และเหมารถไปกลับ 500 บาท ถ้ามากันมากกว่า 4 คนก็คนละ 100 บาท ทางสะเทือนมาก เป็นดินเป็นหินลูกลัง ไม่อนุญาตให้ขับขึ้นไปเอง เพราะถนนเล็ก ต้องรู้จังหวะสวนกันด้วย เค้าจะมีวอไว้คอยติดต่อกัน มือต้องหาที่จับยึดไว้ตลอด
ผู้สูงอายุแนะนำนั่งหน้าค่ะ ถ้าไม่แข็งแรงเดินขึ้นไม่ไหวนะคะ เดินสั้นกว่าภูชี้ฟ้าแต่ก็มีช่วงชัน ขึ้นไปถึงแล้วมีทางแยกสองฝั่ง ฝั่งขวาขึ้นไปจุดสูงสุดภูชี้ดาว ฝั่งซ้ายท้าทายและเพื่อไปมองภูชี้ดาวจากอีกฝั่ง หมอกหนาจนเกือบไม่เห็นอะไรเลย
ขับต่อไปอีกกิโลก็ถึงทางขึ้นภูชี้เดือน ต้องใช้บริการรถขึ้นลงราคาเดิม ทางโหดกว่าภูชี้ดาวอี๊กกกก...กระเด้งกระดอนกันไป
จากจุดที่รถส่ง ภูนี้เดินใกล้สุดใน 3 ภู ตอนเราไปมีดอกบัวตองบานด้วยล่ะ มีแยกซ้ายขวาเหมือนกันและนี่เป็นภาพตรงหน้าก่อนจะแยกไปขวาหรือซ้าย
สำหรับเรา ภูชี้เดือนนี่ทางหวาดเสียวมาก ไม่มีอะไรกั้นให้อุ่นใจเลย ขึ้นได้ไม่กล้าลง บางช่วงก็ต้องเกาะแขนแฟนลงมา ไม่งั้นไม่ได้กลับบ้าน แต่ก็ประทับใจไม่น้อยกว่าภูไหนๆ
จุดหมายต่อไป ดอยผาตั้ง ขับต่อไปอีก 30 กว่าโล ได้เดินผ่านซุ้มประตูไปไหว้พระพุทธรูปแล้วก็ต้องหันหลังกลับเนื่องจากตื่นเช้าไป 3 ภูที่ผ่านมาลูกๆ เริ่มออกอาการไม่สู้ ต้องยอมเพราะเราคือทีม
ขับรถต่อไปอีก 3 ชั่วโมงเพื่อเข้าที่พัก ณ ดอยสะโง้ ลูกเมารถหลับตลอดทางเลยอดแวะวัดพระธาตุผาเงินและสามเหลี่ยมทองคำ แนะนำว่าพักที่ดอยผาตั้งซักคืนจะได้รอดูพระอาทิตย์ทั้งตกทั้งขึ้น อีกวันจะได้แวะเที่ยวตามทางสบายๆ น่าจะดีกว่าค่ะ
เช็คอินที่สตาร์ดอยเรียบร้อย ขับต่อขึ้นไปบนยอดดอยไม่ถึงโล ได้ทันดูพระอาทิตย์ตกดินสมใจ
ที่พักของเราวันนี้เป็นเต๊นท์โดมครึ่งวงกลมกึ่งใส มีห้องน้ำส่วนตัว เพิ่งเปิดให้เข้าพักเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 63 เพิ่มเติมจากส่วนที่เป็นอาคารที่พักและร้านกาแฟ วิวพาโนราม่า มองเห็นทิวเขาสลับซับซ้อนข้ามไปถึงฝั่งลาว กลางคืนออกมานั่งนับดาวและนอนไปกับดวงจันทร์
ชอบลานกว้างๆหน้าระเบียงที่พัก และวิวมุมสูงของร้านกาแฟที่เราไปนั่งทานอาหารเช้า มันดีงาม ได้ดูพระอาทิตย์ขึ้นคลอไปกับหมอกลอยเต็มตา อากาศก็เย็นกำลังสบาย
วันที่3 วันนี้ไม่รีบเลย ไม่อยากไปไหนแล้ว กลิ้งไปกลิ้งมาจนเกือบสิบเอ็ดโมง แดดเริ่มแรง ในโดมมีม่านกันแดด มีแอร์ แต่แดดหน้าหนาวมันจัดจริงๆ ออกจากที่พักยังไม่อยากจะแวะไหนเลย มันร้อนมาก เลยไม่ได้แวะสวนคุณปู่กับไร่ชาฉุยฟง แต่เริ่มหิวเลยไปทานข้าวที่วัดห้วยปลากั้ง วัดที่มีเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ ข่าวเค้าว่าที่นี่มีร้านอาหารตามสั่งถูก อร่อยและอิ่ม จานละ 20 บาท ทำใหม่ๆ ไข่ดาวอีก 5 บาท แต่ถ้าใส่กล่องจะคิด 40 บาทนะคะ
จริงดังว่า...
อิ่มแล้วก็ไปวัดร่องขุ่นกันต่อ สถานที่ดูแตกต่างจากสิบกว่าปีที่แล้วมาก มีสิ่งปลูกสร้างใหม่มากขึ้น แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือความงดงามอ่อนช้อยของสถาปัตยกรรมที่อาจารย์เฉลิมชัยยังคงมุ่งมั่นสร้างสรรค์ต่อไป
และนี่คือห้องน้ำที่อลังการที่สุด
เดินดูผลงานอาจารย์ไปทั่วๆ เพลียแดดเลยคิดว่าจะไปสิงห์ปาร์คพรุ่งนี้แทน แล้วก็ขับต่อไปเข้าที่พักชื่อ Rain Glamping อยู่ที่ดอยแม่มอญ อากู๋นำทางเราเข้าทางลูกลังที่สองข้างทางเป็นป่า น่าวังเวงมากจนต้องโทรถามน้องเจ้าของว่าเรามาถูกที่หรือเปล่า ใจหายไปหลายหุน จริงๆมีทางอื่นแต่มันเลือกทางลัดให้...น่ารัก😬สุดท้ายก็ถึงอย่างปลอดภัยค่ะ
ที่พักเปิดให้เข้าพักจริงวันที่ 1 ธันวาคม 63 แต่เราแพลนการเดินทางก่อนจะรู้จักที่นี่ เลื่อนตั๋วก็ไม่ได้ น้องเจ้าของใจดีเลยอนุญาตให้เข้าพักก่อนใคร เป็นลูกค้ารายแรกของเค้าเลย ก่อนหน้านี้จะมีบล็อกเกอร์และเพื่อนฝูงที่มาช่วยกันโปรโมทจนตอนนี้ตอบข้อความไม่หวาดไม่ไหว นั่งคุยถึงความเป็นมากันซักครู่ ก็ได้เวลาพักผ่อน
ชอบความสงบเป็นส่วนตัวของที่นี่ เพิ่งเคยพักรถบ้านเป็นครั้งแรก ทุกอย่างภายในกระทัดรัดแต่ใช้งานได้จริง อุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ รู้สึกได้ถึงความใส่ใจจากเจ้าของ
ระเบียงกว้างขวางพร้อมอ่างอาบน้ำหน้าห้อง ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องไปไหน มีหนังสือซักเล่มหรือจะนั่งติดตามโซเชียลที่ถนัดก็สุขจนต้องบอกใครๆ ให้มากัน
มีของว่าง ผลไม้และไวน์ให้นั่งจิบกันจนลอยละเมอไปถึงดวงจันทร์ดวงดาว หลังติดเบาะ แหงนหน้าขึ้นฟ้า เหยียดขายาวๆ ไปจ้า แช่น้ำอุ่นในอ่างตอนอากาศเย็นๆ มันสบายดีแท้
พ่อแม่ลูกนั่งคุยกันจนดึกดื่นกลางแสงจันทร์ แล้วก็แยกย้ายกันไปนอน...
เช้าแล้ว.....พระอาทิตย์และหมอกจางประจำการตรงเวลา มีคนบอกว่ากล้องเก็บได้เฉพาะภาพถ่าย แต่ความทรงจำจะอยู่กับเราไปตลอด น่าจะจริง
วันที่4 เรามีแพลนจะไปสิงห์ปาร์คแต่คุณพ่อเกิดอาการแฮงค์อย่างหนักจากไวน์ที่ดื่มเมื่อคืน ขับรถเกือบไม่ได้ ต้องจอดข้างทางเป็นระยะกว่าจะถึงสนามบิน เลยอดแวะ โอกาสหน้าคงได้มาเยือนอีกครั้ง คืนรถเช่าเรียบร้อย เช็คอินและเข้าเกท จะบอกว่าข้างในมีข้าวไข่เจียวขายกล่องละ 20 บาท ดีงามนะเธอ ถือไปทานบนเครื่องได้อีกต่างหาก จบทริปเชียงรายแล้วจ้า ถ้ามีโอกาสได้ไปไหนแบบพีคๆ จะมาเล่าใหม่นะ ขอบคุณมากๆ ค่ะที่ติดตาม
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้