หมดความเชื่อเรื่องเวรกรรม-เกี่ยวกับการนับถือศาสนาพุทธไปแล้ว

ต้องบอกก่อนว่าเรานับถือศาสนาพุทธตั้งแต่เกิดแต่พอมาวันนี้...หมดศรัทธาแล้วจริงๆ เรื่องเวรกรรมด้วยเพราะสิ่งที่เรียนรู้และได้รับเกี่ยวกับคำสอนทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว มันไม่จริง!!! เราพอแยกแยะออกได้นะว่าอะไรดีอะไรชั่ว แต่ที่เห็นๆ ชีวิตพบเจอแต่สิ่งแย่ๆกับสิ่งแวดล้อมและตัวบุคคลที่เราได้รับโดยที่ไม่เคยได้สร้างอะไรต่ำๆหยาบช้า หยาบคาย และชั่วช้าเลวทราม ทั้งการกระทำ ความคิด กาย ใจ และวาจา แต่คนที่สร้างเรื่องแย่ๆไว้กับเรากับได้ดิบได้ดี ขอพรบนบานสิ่งศักดิ์สิทธ์ คือสมหวังทุกประการแบบเกินจริง ทั้งที่คนนั้นได้ดูถูกสร้างเรื่องคาวๆให้คนอื่น ชื่อเสียงเสียหายนับไม่ถ้วน คิดลบร้ายกับเราตลอด เราเป็นคนให้อภัยคนแบบอดทนจริงๆ(จริงจนพัง ไม่ทน แบบนี้ชาติหน้าก็เกิดมา ยิ้มเลยล่ะสิ!!!) บางเรื่องต้องลืม แต่เจอเรื่องแย่ความคิดการกระทำลบๆกับคนๆนั้นสวนมาอีก มีแต่คนรักคนแบบนี้ทั้งที่คนแบบนี้ได้ยุ พูด นินทา ว่าร้าย เสียดสี ให้คนอื่นเกลียดเรา คิดแง่ลบ เพ่งร้ายกับเรา และหลายๆเรื่อง ที่เราไม่ได้เอามาเป็นประเด็น (หลายเรื่องหลายคนมาก!!!)การกระทำนี้ไม่ใช่คนเดียวแต่หลายคนมาก บางคนแทบไม่ได้สนิท ไม่รู้จัก แต่กลับกระทำต่อเรา เหมือนเราไปทำอะไรแย่ๆให้เหมือนหมูเหมือนหมา พอละเมื่อยมือ อยากเปลี่ยนไปนับถืออิสลาม เพราะไม่เชื่อเรื่องทำ ยิ้มชาติที่แล้วต้องมาได้รับเรื่อง ยิ้มๆชาตินี้ สิ่งที่ได้ดีชาตินี้ เพราะชาติที่แล้วได้ทำดีไว้พอชาตินี้ทำ ยิ้มยังไงก็ได้ดีหรอ ? ทำไมไม่ทำ ยิ้มทำดีแล้วได้รับชาตินั้นเลยจะได้รู้กันไปเลย.(ลบหลู่หรือป่าวอันนี้ไม่รู้ แต่ไม่เชื่อแล้ว ไม่มีอีกแล้ว แต่ถามว่าทำบุญมั้ย 2-3ปีก่อนทำหนักมากเพราะตั้งแต่เด็กไม่ค่อยมีโอกาสได้ทำเพราะจน เข้าไม่ถึง ไม่เคยทำบุญ-เข้าวัด ที่ทำเพราะเจออะไรมากเยอะ !!!  แต่ตอนนี้เริ่มหยุดห่างเพราะคน ยิ้มๆที่ทำอะไรก็ได้ดี!!! ส่วนมากตอนก็ปล่อยปลา เลี้ยงหมาจรบริเวรที่ไปปล่อยปลา แค่นี้แล้วและช่วยสัตว์เล็กๆน้อยตอนนี้มีบ้างแต่เมื่อก่อนช่วยเกือบหมดเพราะที่บ้านเลี้ยงแมวหลายตัวแมวจรเป็นต้นกำเนิด แต่ตอนนี้เมินแล้วไม่อยากอายุยืนไรมากมาย เบื่อ เซ็งไปหมด ชาแล้วชีวิตจิตใจความรู้สึก ออกทางแววตาแบบว่างเปล่ามาก!!! )
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
เอาตรง ๆ ศาสนาพุทธไม่ได้สอนเพื่อเอาใจใคร ไม่ได้สอนเพราะอยากได้ศาสนิก ไม่ได้สอนให้เป็นทางเลือก แต่สอนความจริงที่เราหนีไม่พ้น

สัจธรรมมันไม่ได้แปรเปลี่ยนตามความเชื่อหรือความพอใจของเรา ไม่ใช่ว่า เออ ศาสนานั้นสอนว่าไม่มีชาติหน้า ถูกใจเรา งั้นนับถือศาสนานั้นดีกว่าจะได้ไม่มีชาติหน้า มันไม่ใช่แบบนี้

ศาสนาพุทธสอนว่า ไฟมันร้อน ถ้าเราจับไฟมือจะโดนไหม้ แบบนี้ แล้วใครไม่เชื่อเอามือไปจับไฟก็โดนเผา แล้วบอกว่าศาสนาพุทธไม่ดีเลย จับไฟแล้วโดนเผา มันไม่ใช่

เรื่องกรรมมักส่งผลชาติหน้ามันเป็นเรื่องจริง มันเป็นกฎธรรมชาติ เหมือนเราปลูกต้นมะม่วง ปลูกไป 3 เดือนเราก็บ่นว่าทำไมยังไม่ได้กินมะม่วง ดูคนอื่นเขามีต้นมะม่วงลูกดกกันหมด แบบนี้ปลูกต้นหอมดีกว่าได้กินแน่ ๆ ถ้าเราไม่เข้าใจตรงนี้ ก็คงไม่มีใครห้ามได้

เช่นกัน สิ่งที่เราเจอตอนนี้ส่วนมากเป็นกรรมในอดีตทั้งสิ้น จึงไม่แปลกที่เราไม่ได้ทำอะไรในชาตินี้แต่ต้องรับผล มันมีที่มาที่ไป ตรงข้าม ถ้าเราไม่เคยทำกรรมบางอย่างไว้ ทำไมเกิดมาต้องเจอล่ะ พระเจ้าบันดาลให้เจอเหรอ เรื่องบังเอิญเหรอ ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ที่เราต้องเจอความไม่ยุติธรรมจากการบันดาลหรือบังเอิญ

พระพุทธเจ้าไม่ได้เป็นผู้บันดาลสิ่งเหล่านี้ให้เรา แต่สอนให้เราเอาตัวรอดจากสิ่งเหล่านี้ในมุมมองที่ไม่มีใครเคยรู้ไม่มีใครเคยเห็น เพราะโลกมันน่ากลัวมาก กิเลสมันน่ากลัวมาก มันบังคับบัญชาให้เราสร้างกรรม แล้วก็บังคับให้รับผล แล้วก็บังคับให้เราตายอย่างยับเยิน บังคับให้เราเกิดอย่างยับเยิน เกิดมาก็ยังลืมทุกอย่างอีก ไม่ใช่ความผิดพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงเพียงบอกหนทางรอดเท่านั้น ไม่ได้บันดาลสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาเหมือนที่บางศาสนาสอน ฉะนั้น ไม่ควรนำไปรวมกัน แต่เราต้องรู้ให้ได้ว่าความจริงเป็นอย่างไรกันแน่ เพราะความจริงมันมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่