น้องเป็นสาวขอนแก่น ยังบ่เคยมีแฟน บ้านอยู่แดนอิสาน น้องเป็นสาววัยอ่อนได้แต่นอนตะแคง ยามมื่อแลงฝันหวาน~~~ (ยืมเพลงงเค้ามา 55++)
อิหลีนั่นเป็นคนร้อยเอ็ด เจ็ดย่านน้ำจร้า 555


   วันนี้น้องจะมารีวิวการข้ามแดนทางบก จากประเทศกัมพูชามุ่งหน้าสู่ประเทศไทย ช่วงโควิดนะคะ (ด่านช่องจอม จังหวัดสุรินทร์) 
ซึ่งจริงๆแล้วจะบอกว่านี่คือการเดินข้ามประเทศทางบกครั้งแรกของเราเลยนะ สิ่งที่คิดคือแอบกังวลเหมือนกัน แต่จริงๆแล้วเรียบง่ายกว่าที่คิดมากๆ แอบปลื้มมมมมม (หน้าแดง แดดมันแร๊งงงงง)
 เริ่มเลยค๊าา Let’s go…

อะๆๆ วันแรกนะคะ  เราเริ่มต้นการเดินทางที่ พนมเปญ เราออกเดินทางเช้ามืด เวลาประมาณตี 5 ของวันด้วยรถส่วนตัว
และด้วยสัมภาระที่เสมือนหนึ่งว่าเรากำลังจะย้ายบ้าน 555

           เราใช้เวลาในการเดินทางจากพนมเปญถึงสียมเรียบประมาณ 6-7 ชั่วโมง (คือขับไปเรื่อยๆอ่ะ) ก็ถึงนครวัดประมาณเที่ยงเกือบๆบ่ายโมง มีแวะถ่ายรงถ่ายรูป ทานข้าวกัน นิดหน่อย และออกเดินทางต่อจากเมืองเสียมเรียบเวลาประมาณสี่โมงเย็น เพื่อไปพักค้างคืนที่ O Smach หรือ อีกชื่อหนึ่งคือจังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชานั่นเอง เราเดินทางไปถึง O Smach ใช้เวลาประมาณ เกือบๆ 3 ชั่วโมง 


         แวะกินข้าวกันประมาณ 1 ทุ่ม ที่ร้านใกล้จุดข้ามด่kนมากๆๆ (เราลืมถ่ายรูปหน้าร้านไว้อ่ะ) เราสั่งหมูกระทะ ส้มตำ ต้มยำทะเล คือประทับใจรสชาติอาหารมาก เนื่องจากมันมีความที่แบบมีกลิ่นนอายของความเป็นไทยสูงมากก ส่วนตัวชอบบบบบ (แนะนำนะคะ) พิกัดร้านอยู่ฝั่งขวามือ ก่อนถึงจุดข้ามด่านประมาณ 500 เมตรค่ะ

        หลังจากนั้นเราก็ Walk in เข้าโรงแรมค่ะ คือไม่มีการจองล่วงหน้าใดๆ โชคดีค่ะว่ามีห้องว่าง (แถวนั้นเงียบสงบมาก ส่วนตัวชอบอีกแล้ว😊 อาจจะเพราะช่วงโควิดด้วยค่ะ) มีรูปโรงแรมแปะให้นะคะ ราคาก็ไม่แพงค่ะ
 

โรงแรมยามเช้าค่ะ
เวลา 08.00 น. เช็คเอ๊าท์ ออกจากที่พักกันนนนน 
เราออกจากที่พัก ตอนแปดโมงครึ่ง เพื่อไปหาข้าวกินก่อนเดินทางเข้าไทยนิดหน่อย ด้วยยย แถ่ แด่แด๊…บายชา(ข้าวผัด) นั่นเอง กินข้าวเช้าเสร็จสับ เราก็เข้าไปพบกับเจ้าหน้าที่ของฝั่งกัมพูชากันเล้ยยยยยย(ตื่นเต้นจัง)  OMG เราเข้าพบกับเจ้าหน้าที่กัมพูชาเพื่อสแตมป์ Passport เวลาประมาณ 09.15 น. (เลทนิดหน่อย) คือก่อนหน้านี้ 1 วัน เจ้าหน้าที่ที่ประเทศไทยได้โทรสอบถามจากบุคคลที่เราให้เบอร์มือถือที่ไทยไว้ เพื่อติดต่อและเพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ได้เตรียมรถมารับไปที่พักกักตัว เพื่อเตรียมความพร้อมอะไรประมาณนี้แหล่ะค่ะ อะๆ ก็เราแจ้งไปว่าเราจะเข้าเก้าโมง พอเลทนิด ตามสเต๊ปเจ้าหน้าที่กัมพูชา ก็มียื้อนิดๆ แต่โดยรวมก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ เย่ 🎉🎉🎉
และแล้วววววววว…เราก็ได้รับการแสตมป์หนังสือเดินทางเรียบร้อยยยยยย แอบแบบปลื้มใจตอนที่ได้เดิมเข้าไปหาป้ายประเทศไทย (ยิ้มแก้มแตกอ่ะ) 

สัมภาระก็เยอะจัด เจ้าหน้าที่ฝั่งกัมพูชาก็ใจดีกับเราเหลือเกิน ให้พี่ๆเราช่วยขนกระเป๋าไปจุดพบเจ้าหน้าที่ไทยด้วย ประทับจายยยยยยยยยยยยอีกเช่นเคย
  อะทีนี้ ต่อด้วยขั้นตอนการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ตรวจกระเป๋า ทุกอย่างอ่ะ เหมือนเราเดินทางที่สนามบินนั่นแหล่ะ แต่กรณีพิเศษของช่วงโควิดก็คือตรวจอุณหภูมิ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง เดี๋ยวแปะไว้ให้ (อันนี้สำคัญมาก) เรียบร้อยทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี (ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีอ่ะ ) ทุกอย่างเรียบร้อยรอรถมารับไปกักตัวประมาณ 10.10 น. 

 
ความประทับใจกับเจ้าหน้าที่กัมพูชาและประเทศกัมพูชาที่ว่าดีแล้ว พอมาเจอเจ้าหน้าที่คนไทย อื้อหืมมมมมมมมม จะบอกว่า โคตรรรรรรรรประทับใจ อบอุ่นกับผืนแผ่นดินไทยจริงๆ ยิ้มแก้มแตกอีก
เรานั่งรอที่จุดพักคนเข้าเมืองประมาณ 20 นาที และแล้ว แถ่ม แทม แท๊มมมมมมมมมมม ก็มีพี่จากศูนย์ดำงธรรมมารับเพื่อส่งตัวเราต่อไปยังที่กักตัวแห่งหนึ่งในเมืองสุรินทร์ 

และแล้ว ก็ถึงสถานที่กักตัวโดยสวัสดิภาพคร๊าาา เราถึงที่กักตัวประมาณ 11 โมง ค่ะ 😁😁🙏

***เอกสาร 3 อย่างที่ต้องเตรียมสำหรับการข้ามด่านช่วงโควิดนะคะ***
 1. ใบรับรองจากสถาทูตไทยในกัมพูชา ต้องลงทะเบียนขอผ่านระบบสามารถเข้าลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ 
dcaregistration.mfa.go.th หรืออ่านรายละเอียดก่อนในลิ้งนี้ค่ะ https://phnompenh.thaiembassy.org/th/content/faqs-covid19?cate=5d73ac5d15e39c46f4006ed0
 2. เอกสาร Fit to travel จากโรงพยาบาลหรือคลีนิกนะคะ (ชุดนี้สามารถสอบถามโรงพยาบาลหรือคลีนิกที่ออกเอกสารได้จากสถาทูตค่ะ) เอกสารจะมีอายุ 72 ชั่วโมงนะคะ ต้องคำนวณดีๆค่ะ
 3. หนังสือเดินทาง (Passport) 

ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ในการเดินทางทางบกครั้งแรกของเราเลย 😁 
เขียนเพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นให้สำหรับใครที่ต้องการเดินทางทางบกช่วงโควิดนะคะ 
สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณผู้สนับสนุนทุกๆฝ่าย ที่ทำให้การเดินทางในครั้งนี้ป่านไปได้ด้วยดี 
ขออภัยหากผิดพลาดประการใด ด้วยเช่นกันนะคะ และขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพค่ะ 😊🙏🙏