(ต่อเนื่องจากกระทู้นี้ค่ะ
https://pantip.com/topic/40314675/desktop )
สมัยยังเด็ก จำได้ว่ายายปลูกต้นไม้เอาไว้หลายชนิดปะปนกันไปในพื้นที่เล็กๆของบ้านยาย
ที่จำได้แม่นมีอยู่ไม่กี่ต้น แต่ที่โดนยายเอามาใช้กับตัวเองหลายครั้ง มีอยู่สองต้นคือ เสลดพังพอน กับ ว่านหางจระเข้
เมื่อก่อน พอเห็นหน้าตาแบบนี้ หนอนฯก็เรียก"เสลดพังพอน"อยู่อย่างเดียว
ตอนนี้เพิ่งทราบ ว่าต้นนี้คือ"เสลดพังพอนตัวเมีย" บางทีก็เรียก"พญายอ" และชื่ออื่นก็คงมีอีกล่ะ แต่วันนี้หนอนฯขอจำแค่เสลดพังพอนตัวเมีย หรือ พญายอก่อน
เด็กสมัยก่อนค่อนข้างโชคดี พวกรุ่นหนอนฯแม้เป็นคนกรุงเทพ แต่ถ้าอยู่ในซอยก็ยังมีพื้นที่ให้วิ่งเล่นนอกบ้านเยอะ รถก็ยังมีไม่มาก ภัยอันตรายนอกบ้านไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ เด็กๆไปเล่นนอกบ้าน พวกผู้ใหญ่ในซอยส่วนใหญ่ก็รู้จักกันหมด ใครดื้อใครซนใครซ่ามากก็ถูกจับได้ไล่ทัน รู้หมดว่าเจ้าคนนี้มันลูกหลานบ้านไหน
หนอนฯเองเป็นคนขี้แพ้ พอไปวิ่งเล่นเหงื่อออกเข้าหน่อย โดนใบไม้ใบหญ้าบางอย่างเข้าไป จะมีอาการผึ่นคันขึ้น บางทีก็เป็นแบบที่เรียกกันว่า"ลมพิษ"
พอเป็นอย่างนี้ คุณยายก็จะรีบไปเด็ดๆๆๆใบเสลดพังพอนตัวเมีย เอามาล้างให้สะอาดแล้วตำให้แหลกผสมกับเหล้าขาว แล้วจับพอกๆๆๆตัวหลานจอมซน
จำได้ว่าไม่นานที่คันๆก็ยุบก็หายคันนะคะ
มาวันนี้โคขวิดทำว่างงาน หนอนฯก็ใช้เวลาว่างไปเรียนวิชาเภสัชกรรมไทย เพิ่งได้เรียนวิธีทำ "ทิงเจอร์เสลดพังพอน" ก็ร้อนวิชานิดๆ
ขอเรียนให้ทราบก่อนว่า รูปที่นำมาใช้เป็นของเพื่อนร่วมชั้น เพราะวันที่เขาเรียนปฏิบัติกัน หนอนฯก็โดดเรียนไปเที่ยวค่ะ
สมุนไพรที่จะนำมาใช้ เพื่อนร่วมชั้นเขาจัดเต็มค่ะ ชุดใหญ่ไฟกระพริบเลย ก็มีดังนี้ค่ะ
เสลดพังพอนตัวเมีย ปริมาณมากสุด
เสลดพังพอนตัวผู้ ปริมาณราว 1/3 ของเสลดพังพอนตัวเมีย
กริช และ สำมะงา จำนวนเล็กน้อย ช่วยเรื่องแก้คัน
ใบพลู อีกสัก 1 ใบ ไม่ต้องใส่เยอะ ช่วยเรื่องแก้อักเสบ แต่เป็นสมุนไพรที่มีรสร้อน ไม่ต้องใช้เยอะ
หมายเหตุ
หนอนฯไม่แน่ใจว่าที่ถูกต้อง ควรต้องเขียน ใบ"กริช" หรือต้องเขียนว่า"กริด"
เราจะใช้การสกัดตัวยาสมุนไพรดังกล่าวด้วยแอลกอฮอล์ค่ะ
เพื่อนๆเขาเตรียม เอธิลแอลกอฮอล์ 95% ดองด้วยโหลแก้วใบใหญ่พอที่จะบรรจุสมุนไพรทั้งหมดได้
วิธีการดูแล้วง้ายง่าย ( อิอิ ไม่ได้ทำเอง ดูรูปเอาจากเพื่อน)
นำสมุนไพรที่เตรียมไว้ เด็ดใบแล้วล้างให้สะอาด
แล้ว "ใบแบบไหนดี เอาหมดเลยป่าว?"
เพื่อนบอก ไม่ๆ เอาแต่ใบ "เพสลาด"
อ้อๆ เอาแต่ใบ"เพ - สะ - หลาด" คือใบที่ไม่อ่อนไม่แก่นั่นเอง
เข้าใจล่ะ
เพื่อนบอกว่า ใบไม้ที่ล้างสะอาดแล้ว ซับน้ำให้แห้ง แล้ว "ฉีก" ใส่โหล
ใส่รวมกันหมดเลย
จากนั้นก็เทแอลกอฮอล์ใส่ลงไปให้ท่วมใบไม้
ปิดฝา
เก็บในที่มืด 1 เดือน
(เพื่อนๆเขาวางในกล่อง แล้วเก็บไว้ในห้องเรียนค่ะ
พอครบหนึ่งเดือน เราพบว่าใบไม้สีซีดเชียว แต่น้ำดองแอลกอฮอล์ที่ได้ สีเขียวสวยมากกกกก
ทั้งนี้ เราต้องกรองให้ดี น้ำยาจะได้เขียวสวยใสปิ๊งนะคะ
ดูสิคะ สีสวยเนอะ
คุณหนอนฯ ร้อนวิชา... มาดูมือใหม่หัดทำ"ทิงเจอร์เสลดพังพอน"กันค่ะ
https://pantip.com/topic/40314675/desktop )
สมัยยังเด็ก จำได้ว่ายายปลูกต้นไม้เอาไว้หลายชนิดปะปนกันไปในพื้นที่เล็กๆของบ้านยาย
ที่จำได้แม่นมีอยู่ไม่กี่ต้น แต่ที่โดนยายเอามาใช้กับตัวเองหลายครั้ง มีอยู่สองต้นคือ เสลดพังพอน กับ ว่านหางจระเข้
เมื่อก่อน พอเห็นหน้าตาแบบนี้ หนอนฯก็เรียก"เสลดพังพอน"อยู่อย่างเดียว
ตอนนี้เพิ่งทราบ ว่าต้นนี้คือ"เสลดพังพอนตัวเมีย" บางทีก็เรียก"พญายอ" และชื่ออื่นก็คงมีอีกล่ะ แต่วันนี้หนอนฯขอจำแค่เสลดพังพอนตัวเมีย หรือ พญายอก่อน
เด็กสมัยก่อนค่อนข้างโชคดี พวกรุ่นหนอนฯแม้เป็นคนกรุงเทพ แต่ถ้าอยู่ในซอยก็ยังมีพื้นที่ให้วิ่งเล่นนอกบ้านเยอะ รถก็ยังมีไม่มาก ภัยอันตรายนอกบ้านไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ เด็กๆไปเล่นนอกบ้าน พวกผู้ใหญ่ในซอยส่วนใหญ่ก็รู้จักกันหมด ใครดื้อใครซนใครซ่ามากก็ถูกจับได้ไล่ทัน รู้หมดว่าเจ้าคนนี้มันลูกหลานบ้านไหน
หนอนฯเองเป็นคนขี้แพ้ พอไปวิ่งเล่นเหงื่อออกเข้าหน่อย โดนใบไม้ใบหญ้าบางอย่างเข้าไป จะมีอาการผึ่นคันขึ้น บางทีก็เป็นแบบที่เรียกกันว่า"ลมพิษ"
พอเป็นอย่างนี้ คุณยายก็จะรีบไปเด็ดๆๆๆใบเสลดพังพอนตัวเมีย เอามาล้างให้สะอาดแล้วตำให้แหลกผสมกับเหล้าขาว แล้วจับพอกๆๆๆตัวหลานจอมซน
จำได้ว่าไม่นานที่คันๆก็ยุบก็หายคันนะคะ
มาวันนี้โคขวิดทำว่างงาน หนอนฯก็ใช้เวลาว่างไปเรียนวิชาเภสัชกรรมไทย เพิ่งได้เรียนวิธีทำ "ทิงเจอร์เสลดพังพอน" ก็ร้อนวิชานิดๆ
ขอเรียนให้ทราบก่อนว่า รูปที่นำมาใช้เป็นของเพื่อนร่วมชั้น เพราะวันที่เขาเรียนปฏิบัติกัน หนอนฯก็โดดเรียนไปเที่ยวค่ะ
สมุนไพรที่จะนำมาใช้ เพื่อนร่วมชั้นเขาจัดเต็มค่ะ ชุดใหญ่ไฟกระพริบเลย ก็มีดังนี้ค่ะ
เสลดพังพอนตัวเมีย ปริมาณมากสุด
เสลดพังพอนตัวผู้ ปริมาณราว 1/3 ของเสลดพังพอนตัวเมีย
กริช และ สำมะงา จำนวนเล็กน้อย ช่วยเรื่องแก้คัน
ใบพลู อีกสัก 1 ใบ ไม่ต้องใส่เยอะ ช่วยเรื่องแก้อักเสบ แต่เป็นสมุนไพรที่มีรสร้อน ไม่ต้องใช้เยอะ
หมายเหตุ
หนอนฯไม่แน่ใจว่าที่ถูกต้อง ควรต้องเขียน ใบ"กริช" หรือต้องเขียนว่า"กริด"
เราจะใช้การสกัดตัวยาสมุนไพรดังกล่าวด้วยแอลกอฮอล์ค่ะ
เพื่อนๆเขาเตรียม เอธิลแอลกอฮอล์ 95% ดองด้วยโหลแก้วใบใหญ่พอที่จะบรรจุสมุนไพรทั้งหมดได้
วิธีการดูแล้วง้ายง่าย ( อิอิ ไม่ได้ทำเอง ดูรูปเอาจากเพื่อน)
นำสมุนไพรที่เตรียมไว้ เด็ดใบแล้วล้างให้สะอาด
แล้ว "ใบแบบไหนดี เอาหมดเลยป่าว?"
เพื่อนบอก ไม่ๆ เอาแต่ใบ "เพสลาด"
อ้อๆ เอาแต่ใบ"เพ - สะ - หลาด" คือใบที่ไม่อ่อนไม่แก่นั่นเอง
เข้าใจล่ะ
เพื่อนบอกว่า ใบไม้ที่ล้างสะอาดแล้ว ซับน้ำให้แห้ง แล้ว "ฉีก" ใส่โหล
ใส่รวมกันหมดเลย
จากนั้นก็เทแอลกอฮอล์ใส่ลงไปให้ท่วมใบไม้
ปิดฝา
เก็บในที่มืด 1 เดือน
(เพื่อนๆเขาวางในกล่อง แล้วเก็บไว้ในห้องเรียนค่ะ
พอครบหนึ่งเดือน เราพบว่าใบไม้สีซีดเชียว แต่น้ำดองแอลกอฮอล์ที่ได้ สีเขียวสวยมากกกกก
ทั้งนี้ เราต้องกรองให้ดี น้ำยาจะได้เขียวสวยใสปิ๊งนะคะ
ดูสิคะ สีสวยเนอะ