เอามาจาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.แดงdit.com/r/coolguides/comments/jz215o/honest_dating_advice/

แปลไวๆ นะ ผิดมั่งก็แก้กันเอา
หลัง : คือ เสริมเติม อรรถาธิบาย
1. ห่วงเรื่องว่าเขาจะชอบเราไหมให้น้อยๆลง แต่ไปใส่ใจให้มากขึ้นส่วนที่ว่าเราเองเนี่ยชอบเขามั่งไหมจะดีกว่า
: อย่าลืมตัวมัวแต่เอาใจเขา เราก็มีสิทธิ์ สมบัติเท่ากันกับเขา
2. การปฏิเสธ หรือ ไม่ยอมรับมันก็ไม่ได้เป็นเรื่องส่วนบุคคลขนาดนั้น การชอบใครหรือถูกใครมาชอบมันเป็นเรื่องของความเข้ากันได้ มากกว่าจะเป็นเรื่องว่าใครมีคุณค่าสูงส่งกว่ากัน
: คือ การโดนปฏิเสธมันธรรมดา และก็ไม่ต้องเอามาใส่ใจเป็นตราบาปขนาดนั้น จับคู่คือ คู่มันเข้ากัน ไม่ได้แปลว่าต้องดีหรือต้องแย่ หรือ ต้องอะไรเลย ถ้าซ้ายขวามันเหมาะเจาะก็เป็นคู่ขึ้นมาเอง
3. หยุดการเลือกอะไรที่มันไม่ได้เลือกเรา ก็ถ้ามันไม่ "สม" เสมอกัน จะไปไล่ตามทำเพื่อ ?
4. ถามตัวเอง : เราจะอยากเป็นเพื่อนกับคนคนนี้ไหม ถ้าเราไม่ได้หลงชมชอบรูปร่างหน้าตากายภาพของเขา ? อันนี้ขอให้ซื่อสัตย์กับตัวเอง
5. จัดไปให้ชัดเจนว่าเราพร้อมจะเป็นฝ่ายให้อะไรบ้างในความสัมพันธ์ใดใด ไม่ใช่เอาแต่สนใจเพียงว่าตัวเองอยากจะเป็นฝ่ายรับอะไร ตัวคุณเองมีความคุณค่าพิเศษอะไรเพื่อเติมลงไปให้กับความเป็นหุ้นส่วนของคุณบ้าง ?
: คู่ก็คือ หุ้นส่วน คู่ร่วมชีวิต มีให้ มีรับ ใครลืมมัวแต่ให้ ใครหลงมัวแต่รับ คุณรีบทบทวนด่วน
6. รู้ว่าเราต้องการอะไรจากคนที่จะมาเป็นคู่ของเรา อะไรคือสิ่งที่เราคิดมาแล้วว่าต่อรองไม่ได้ ? อะไรคือสิ่งที่เราพอจะยืดหยุ่นให้ได้บ้าง ? จากนั้นก็สื่อสารบอกกล่าวความต้องการเหล่านี้ออกไปด้วย อย่าเอาแค่คิดแล้วเก็บไว้คนเดียว
: เรื่องบางเรื่องเรายอมไม่ได้ แต่คนทั่วไปเขาชิวๆ ให้รีบบอกคนที่คบหา เรื่องไหนพอยอมได้แต่จริงๆ ก็ไม่ได้ชอบขนาดนั้นก็ต้องบอกไว้เหมือนกัน ถ้าคนสองคนตกลงสื่อสารกันแต่เนิ่นๆ ก็สามารถทำความเข้าใจกันได้ และในจังหวะที่เข้ากันไม่ได้เลยจริงๆ ก็จะได้เป็นเพื่อนที่ดีกันก็พอ
7. หยุดอึ้งหรือตกใจกับพฤติกรรมที่ซ้ำๆให้เห็น ตัวอย่างเช่น ถ้ามีใครแสดงให้ดูอย่างต่อเนื่องว่าเขาส่งข้อความไม่เก่ง ก็ให้หยุดคาดหวังว่าเขาจะทำได้ จงสังเกตรูปแบบที่เกิดขึ้น แล้วก็เชื่อเขาเสีย
: หมายถึง บางคนจะไม่ยอมรับเลยว่า เขาทำไม่ได้ แล้วก็หัวเสีย หรือ อารมณ์เสียทุกครั้ง คำว่า แค่นี้ทำเป็นเรื่องใหญ่ หรือ แค่นี้ไม่ได้หรือไง ก็คือความหมายนี้ เราควรจะทำความรู้จักว่าเขาเป็นคนแบบนั้น นิสัยแบบนั้น และจะไม่เปลี่ยน และไม่ควรไปเปลี่ยนเขา ถ้าคุณไม่ชอบคุณจงบอกเขา แต่อย่าหวังว่าเขาจะเลิก ซึ่งถ้าเขาปรับได้มันก็ดี ถ้าเขาปรับไม่ได้ ก็ต้องทนและเป็นหน้าที่ของคุณเอง ว่าจะเอาไง แต่การไปโมโห โวยวาย มันไม่ได้อะไร มีแต่แย่ลง ควรจะยอมรับและทำความเข้าใจก่อนเป็นอันดับแรกอย่างมีสติ
8. คุณไม่ต้องสมบูรณ์แบบเพื่อจะถูกรัก เพอเฟคนั้นมันไม่ให้ความรู้สึกว่าเกี่ยวข้องผูกพันกัน คุณจะไม่รู้สึกเชื่อมต่อได้กับมันหรอก เราทั้งหลายล้วนมีข้อด้อย ข้อเสีย จุดอ่อน การยอมรับสิ่งเหล่านี้ได้เป็นสิ่งที่น่าหลงใหลสิ่งที่สุดอย่างหนึ่ง ที่คนเราจะกระทำได้ คนที่ใช่สำหรับเรานั้นจะโอบอุ้มสิ่งที่เราเคยรู้สึกว่าจะต้องซุกซ่อนเอาไว้
: มีสติ รู้จักตัวเอง ไม่ต้องหลอกตัวเอง ไม่ต้องพยายามทำตัวให้สมบูรณ์แบบ แค่รู้ตัวเองแสดงออกตามที่ตัวเองเป็น คนที่รักเราและเหมาะกับเราเขาก็จะยอมรับสิ่งเหล่านั้นของเราเช่นกัน
9. ชีวิตรักของคุณ เป็นพื้นที่บริเวณส่วนนึงจากชีวิตทั้งหมดของคุณ จงอย่าลืมที่จะบำรุงรักษาส่วนอื่นๆ ที่เหลือด้วย ให้นึกภาพดูว่า เมื่อคุณกลับไปสู่บ้าน ไปหาชีวิตที่คุณใฝ่ฝันนั้น ณ ที่นั้น นอกจากใครสักคนคนนั้นแล้ว ชีวิตของคุณควรจะเป็นอย่างไรอีก ? ระบุให้ชัดเจน
: สำนวนฝรั่งอะนะ เขาหมายถึงว่า อย่าทุ่มเทความคิดความฝันลงไปที่คู่ครองอยู่แค่นั้น ให้นึกดูว่า ชีวิตของเราเอง เราอยากมีอะไรบ้าง เป็นอะไรบ้าง คือไม่ทิ้งงาน ความฝัน และแน่นอนว่า อย่าลืมสื่อสารออกไปให้คู่ หรือ คนที่จะมาเป็นคู่ของเราได้ทราบด้วย
เครดิตตาม สปอยครับ และตามลิ้งในภาพ
ดีแค่ไหนไม่รู้แต่ผมว่า เขาเขียนดี เลยลองแปล ให้อ่านกัน
ถ้าเข้าใจได้ตามนี้ จะปลดทุกข์ไปได้มาก ละนะ
เรื่องคู่ คือ ความเสมอกัน ของคนสองคน อกหักแห้วแด่ก นก เป็นเรื่องธรรมดา ก็แค่จับคู่ไม่เจอ มันจะไปง่ายได้ไง
เปิดตากว้างๆ ตั้งสติ เปิดใจกว้างๆ สำรวจตัวเอง สำรวจคนอื่น
ตั้งเสปกไว้ (ศีลธรรมเป็นหลัก ฐานะ การเงิน ก็เอาพอๆกัน นิสัยการใช้เงินพอๆกัน )
ว่ากันไป
คำแนะนำอันสัตย์ซื่อ สำหรับการหาคู่ (Honest Dating Advice)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แปลไวๆ นะ ผิดมั่งก็แก้กันเอา
หลัง : คือ เสริมเติม อรรถาธิบาย
1. ห่วงเรื่องว่าเขาจะชอบเราไหมให้น้อยๆลง แต่ไปใส่ใจให้มากขึ้นส่วนที่ว่าเราเองเนี่ยชอบเขามั่งไหมจะดีกว่า
: อย่าลืมตัวมัวแต่เอาใจเขา เราก็มีสิทธิ์ สมบัติเท่ากันกับเขา
2. การปฏิเสธ หรือ ไม่ยอมรับมันก็ไม่ได้เป็นเรื่องส่วนบุคคลขนาดนั้น การชอบใครหรือถูกใครมาชอบมันเป็นเรื่องของความเข้ากันได้ มากกว่าจะเป็นเรื่องว่าใครมีคุณค่าสูงส่งกว่ากัน
: คือ การโดนปฏิเสธมันธรรมดา และก็ไม่ต้องเอามาใส่ใจเป็นตราบาปขนาดนั้น จับคู่คือ คู่มันเข้ากัน ไม่ได้แปลว่าต้องดีหรือต้องแย่ หรือ ต้องอะไรเลย ถ้าซ้ายขวามันเหมาะเจาะก็เป็นคู่ขึ้นมาเอง
3. หยุดการเลือกอะไรที่มันไม่ได้เลือกเรา ก็ถ้ามันไม่ "สม" เสมอกัน จะไปไล่ตามทำเพื่อ ?
4. ถามตัวเอง : เราจะอยากเป็นเพื่อนกับคนคนนี้ไหม ถ้าเราไม่ได้หลงชมชอบรูปร่างหน้าตากายภาพของเขา ? อันนี้ขอให้ซื่อสัตย์กับตัวเอง
5. จัดไปให้ชัดเจนว่าเราพร้อมจะเป็นฝ่ายให้อะไรบ้างในความสัมพันธ์ใดใด ไม่ใช่เอาแต่สนใจเพียงว่าตัวเองอยากจะเป็นฝ่ายรับอะไร ตัวคุณเองมีความคุณค่าพิเศษอะไรเพื่อเติมลงไปให้กับความเป็นหุ้นส่วนของคุณบ้าง ?
: คู่ก็คือ หุ้นส่วน คู่ร่วมชีวิต มีให้ มีรับ ใครลืมมัวแต่ให้ ใครหลงมัวแต่รับ คุณรีบทบทวนด่วน
6. รู้ว่าเราต้องการอะไรจากคนที่จะมาเป็นคู่ของเรา อะไรคือสิ่งที่เราคิดมาแล้วว่าต่อรองไม่ได้ ? อะไรคือสิ่งที่เราพอจะยืดหยุ่นให้ได้บ้าง ? จากนั้นก็สื่อสารบอกกล่าวความต้องการเหล่านี้ออกไปด้วย อย่าเอาแค่คิดแล้วเก็บไว้คนเดียว
: เรื่องบางเรื่องเรายอมไม่ได้ แต่คนทั่วไปเขาชิวๆ ให้รีบบอกคนที่คบหา เรื่องไหนพอยอมได้แต่จริงๆ ก็ไม่ได้ชอบขนาดนั้นก็ต้องบอกไว้เหมือนกัน ถ้าคนสองคนตกลงสื่อสารกันแต่เนิ่นๆ ก็สามารถทำความเข้าใจกันได้ และในจังหวะที่เข้ากันไม่ได้เลยจริงๆ ก็จะได้เป็นเพื่อนที่ดีกันก็พอ
7. หยุดอึ้งหรือตกใจกับพฤติกรรมที่ซ้ำๆให้เห็น ตัวอย่างเช่น ถ้ามีใครแสดงให้ดูอย่างต่อเนื่องว่าเขาส่งข้อความไม่เก่ง ก็ให้หยุดคาดหวังว่าเขาจะทำได้ จงสังเกตรูปแบบที่เกิดขึ้น แล้วก็เชื่อเขาเสีย
: หมายถึง บางคนจะไม่ยอมรับเลยว่า เขาทำไม่ได้ แล้วก็หัวเสีย หรือ อารมณ์เสียทุกครั้ง คำว่า แค่นี้ทำเป็นเรื่องใหญ่ หรือ แค่นี้ไม่ได้หรือไง ก็คือความหมายนี้ เราควรจะทำความรู้จักว่าเขาเป็นคนแบบนั้น นิสัยแบบนั้น และจะไม่เปลี่ยน และไม่ควรไปเปลี่ยนเขา ถ้าคุณไม่ชอบคุณจงบอกเขา แต่อย่าหวังว่าเขาจะเลิก ซึ่งถ้าเขาปรับได้มันก็ดี ถ้าเขาปรับไม่ได้ ก็ต้องทนและเป็นหน้าที่ของคุณเอง ว่าจะเอาไง แต่การไปโมโห โวยวาย มันไม่ได้อะไร มีแต่แย่ลง ควรจะยอมรับและทำความเข้าใจก่อนเป็นอันดับแรกอย่างมีสติ
8. คุณไม่ต้องสมบูรณ์แบบเพื่อจะถูกรัก เพอเฟคนั้นมันไม่ให้ความรู้สึกว่าเกี่ยวข้องผูกพันกัน คุณจะไม่รู้สึกเชื่อมต่อได้กับมันหรอก เราทั้งหลายล้วนมีข้อด้อย ข้อเสีย จุดอ่อน การยอมรับสิ่งเหล่านี้ได้เป็นสิ่งที่น่าหลงใหลสิ่งที่สุดอย่างหนึ่ง ที่คนเราจะกระทำได้ คนที่ใช่สำหรับเรานั้นจะโอบอุ้มสิ่งที่เราเคยรู้สึกว่าจะต้องซุกซ่อนเอาไว้
: มีสติ รู้จักตัวเอง ไม่ต้องหลอกตัวเอง ไม่ต้องพยายามทำตัวให้สมบูรณ์แบบ แค่รู้ตัวเองแสดงออกตามที่ตัวเองเป็น คนที่รักเราและเหมาะกับเราเขาก็จะยอมรับสิ่งเหล่านั้นของเราเช่นกัน
9. ชีวิตรักของคุณ เป็นพื้นที่บริเวณส่วนนึงจากชีวิตทั้งหมดของคุณ จงอย่าลืมที่จะบำรุงรักษาส่วนอื่นๆ ที่เหลือด้วย ให้นึกภาพดูว่า เมื่อคุณกลับไปสู่บ้าน ไปหาชีวิตที่คุณใฝ่ฝันนั้น ณ ที่นั้น นอกจากใครสักคนคนนั้นแล้ว ชีวิตของคุณควรจะเป็นอย่างไรอีก ? ระบุให้ชัดเจน
: สำนวนฝรั่งอะนะ เขาหมายถึงว่า อย่าทุ่มเทความคิดความฝันลงไปที่คู่ครองอยู่แค่นั้น ให้นึกดูว่า ชีวิตของเราเอง เราอยากมีอะไรบ้าง เป็นอะไรบ้าง คือไม่ทิ้งงาน ความฝัน และแน่นอนว่า อย่าลืมสื่อสารออกไปให้คู่ หรือ คนที่จะมาเป็นคู่ของเราได้ทราบด้วย
เครดิตตาม สปอยครับ และตามลิ้งในภาพ
ดีแค่ไหนไม่รู้แต่ผมว่า เขาเขียนดี เลยลองแปล ให้อ่านกัน
ถ้าเข้าใจได้ตามนี้ จะปลดทุกข์ไปได้มาก ละนะ
เรื่องคู่ คือ ความเสมอกัน ของคนสองคน อกหักแห้วแด่ก นก เป็นเรื่องธรรมดา ก็แค่จับคู่ไม่เจอ มันจะไปง่ายได้ไง
เปิดตากว้างๆ ตั้งสติ เปิดใจกว้างๆ สำรวจตัวเอง สำรวจคนอื่น
ตั้งเสปกไว้ (ศีลธรรมเป็นหลัก ฐานะ การเงิน ก็เอาพอๆกัน นิสัยการใช้เงินพอๆกัน )
ว่ากันไป