🔴ศบค.เผยวันนี้พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 7 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศทั้งหมด

วันนี้ (23 พ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายงานถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ว่า
ล่าสุด สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 ในไทยวันนี้ (23 พ.ย.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 7 ราย
ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้า State Quarantine ดังนี้...💌
เยอรมนี 1 ราย
เลบานอน 1 ราย
เดนมาร์ก 1 ราย
สหรัฐอเมริกา 1 ราย
สหราชอาณาจักร 1 ราย
สาธารณรัฐคอซอวอ 1 ราย
กาตาร์ 1
ส่งผลให้ผู้ป่วยติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 3,920 ราย หายป่วยแล้ว 3,766 ราย โดยยังมีผู้ป่วยที่รักษาอาการอยู่ 94 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม มีผู้เสียชีวิตรวม 60 ราย
https://www.sanook.com/news/8301866/
🔴เทียบราคาวัคซีนโควิด โมเดอร์นา-ไฟเซอร์-แอสตราเซเนกา-จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน
ในขณะที่การพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ใกล้จะประสบความสำเร็จ ประเด็นต่อมาที่ผู้คนทั่วโลกจับตามองคือ “ราคา” ของวัคซีน ที่มีดีมานด์สูงเป็นประวัติการณ์นี้
สำหรับราคาของวัคซีนจากกลุ่มผู้พัฒนาตัวเต็งที่ใกล้ประสบความสำเร็จนั้นมีราคาแตกต่างกันตั้งแต่ 3-4 ดอลลาร์สหรัฐ ไปจนถึง 25-37 ดอลลาร์สหรัฐ
➡️โดยวัคซีนจากบริษัทไฟเซอร์นั้น สำนักข่าว ฟอร์บส์ ระบุ จะมีราคาอยู่ที่ 19.5 ดอลลาร์สหรัฐต่อโดส (590 บาท) หรือ 39 ดอลลาร์สหรัฐ (1,181บาท) ต่อ 1 คน เนื่องจากต้องใช้ 2 โดสต่อคน
➡️ส่วนวัคซีนของบริษัทแอสตราเซเนกา สำนักข่าวไฟแนนเชียลไทม์ รายงานว่า มีราคาประมาณ 3-4 ดอลลาร์สหรัฐต่อโดส (90-121 บาท) หรือ 6-8 ดอลลาร์สหรัฐ (181-242 บาท) สำหรับ 2 โดสต่อคน
➡️สำหรับวัคซีนของบริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน สำนักข่าว ซีเอ็นบีซีรายงานว่า อยู่ที่ 10 ดอลลาร์สหรัฐต่อโดส (302 บาท) โดยฉีดเพียงแค่ 1 โดสต่อคน
ด้านวัคซีนของบริษัทโมเดอร์นา จะมีราคาประมาณ 25-37 ดอลลาร์สหรัฐต่อโดส ( 757-1,120 บาท) หรือ 50-64 ดอลลาร์สหรัฐ (1.514-2,240บาท) ต่อ 1 คน เนื่องจากต้องใช้ 2 โดสต่อคน
“สตีเฟ่น แบนเซล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทโมเดอร์นา หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตวัคซีนโควิด-19 เปิดเผยกับสื่อเยอรมัน Welt am Sonntag ว่า บริษัทจะขายวัคซีนให้กับรัฐบาลประเทศต่างๆ ในราคาประมาณโดสละ 25-37 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 757-1,120 บาท) ขึ้นอยู่กับจำนวนวัคซีนที่ประเทศนั้นๆ สั่งซื้อ
ทั้งนี้ผู้บริหารโมเดอร์นา อธิบายว่า ราคานี้ใกล้เคียงกับวัคซีนไข้วัดใหญ่ ซึ่งปกติจะมีราคาเฉลี่ยประมาณ 10-50 ดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม มีความพยายามเจรจาเพื่อซื้อวัคซีนต่ำกว่าราคาดังกล่าวเช่นกัน หนึ่งในนั้นคือสหภาพยุโรป โดยเจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรปรายหนึ่งระบุกับสื่อเยอรมันว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วคณะกรรมาธิการยุโรปพยายามเจรจากับโมเดอนาเพื่อขอซื้อวัคซีนจำนวนหลายล้านโดสในราคาต่ำกว่า 25 ดอลลาร์สหรัฐต่อโดส แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ
ทั้งนี้เชื่อว่าผู้บริโภคจะไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าวัคซีนโควิด-19 ในราคาเต็ม เนื่องจากรัฐบาลแต่ละประเทศต่างพยายามอุดหนุนค่าวัคซีนให้ประชาชนของตนเข้าถึงได้ง่าย
https://www.prachachat.net/world-news/news-560500
🔴อนามัยโลกเตือนยุโรปมีสิทธิเจอโควิดระลอกสาม
องค์การอนามัยโลกกล่าวว่า ทวีปยุโรปยังตอบสนองต่อวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ได้ไม่ดีพอ และมีความเสี่ยงเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกสาม
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ว่า นพ.เดวิด นาบาร์โร ผู้แทนพิเศษด้านการตอบสนองต่อวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ขององค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) ให้ความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าวในทวีปยุโรป ว่าแม้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดระลอกแรกเมื่อช่วงต้นปีนี้เอาไว้ได้ แต่ต่อมาในช่วงฤดูร้อนกลับเกิดความผิดพลาดในการวางรากฐานโครงสร้างที่จำเป็นแก่การควบคุมโรค
อ่านต่อที่ :
https://www.dailynews.co.th/foreign/808397
🔴จังหวัดตาก สั่งล็อกดาวน์ศูนย์พักพิง “บ้านอุ้มเปี้ยม” สอบสวนโรค หลังพบหนุ่มเมียนมาติดไวรัสโควิด-19
หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 เปิดปฏิบัติการเชิงรุกในการตรวจคัดกรองโรคติดเชื้อไวรัส โควิด-19 พื้นที่ชายเเดนไทย – เมียนมา ยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่องเเละเข้มข้น ในพื้นที่ตลอดแนวชายแดน จังหวัดตาก ส่วนเเนวตะเข็บชายเเดน เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เพิ่มมาตรการคุมเข้ม หลังพบข้อมูลมีเเรงงานบางส่วน พยายามลักลอบข้ามเเดนผ่านช่องทางธรรมชาติ
หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 เพิ่มความเข้มในการลาดตระเวนตามแนวพื้นที่ชายแดน รอยต่อระหว่างหมู่บ้าน ชุมชน ป่าลึก เส้นทางเดินป่า ตลอดจนแนวสันเขา เพื่อป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย มาทางช่องทางธรรมชาติ โดยไม่ผ่านมาตรการตรวจคัดกรองโรคติดต่อจากเชื้อไวรัส โควิด-19 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจการค้าเเนวชายเเดน หลังจากพบผู้ติดเชื้อในประเทศเป็นชาวเมียนมา ในพื้นที่ จังหวัดตาก
หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 และ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 เป็น กองกำลังป้องกันชายแดน ถือเป็นกำลังหลักสำคัญในการเฝ้าระวังป้องกัน และรักษาความเรียบร้อย ตามชายแดนไทย – เมียนมา ซึ่งขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 ในต่างประเทศมีความน่าเป็นห่วง พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง กองทัพภาคที่ 3 และกองกำลังนเรศวร เน้นย้ำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร บูรณาการร่วมทุกฝ่าย เพิ่มความเข้มในการลาดตระเวนตามแนวพื้นที่ชายแดน ป้องกันสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวที่อาจหลบหนีเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ โดยไม่ผ่านมาตรการตรวจคัดกรองโรคติดต่อจากเชื้อไวรัส โควิด-19 ให้หน่วยเพิ่มการสกัดกั้น การลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฏหมาย โดยลาดตระเวนเฝ้าตรวจตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวด ประสานการทำงานกับทุกภาคส่วน ฝ่ายปกครอง ป่าไม้ โดยเฉพาะพี่น้องประชาชน ให้ช่วยสอดส่องเป็นหูเป็นตากับเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อป้องกัน เฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไวร้ส covid-19 อย่างต่อเนื่อง การ์ดอย่าตก เพื่อป้องกัน ไม่ให้เชื้อไวรัสกลับมาแพร่ระบาดอีกครั้งในประเทศไทย
หลังมีรายงานว่า จากกรณี ศูนย์พักพิงผู้ลี้ภัยจากการสู้รบบ้านอุ้มเปี้ยม หมู่ที่ 1 ตำบลคีรีราษฎร์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID – 19) ในพื้นที่โซน A จำนวน 1 รายทราบชื่อคือ นายซอกาเน อายุ 48 ปี สัญชาติ เมียนมา พักอาศัยอยู่โซน A ภายในศูนย์พักพิงผู้ลี้ภัยจากการสู้รบบ้านอุ้มเปี้ยม บ้านอุ้มเปี้ยม หมู่ที่ 1 ตำบลคีรีราษฎร์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก (เคยอาศัยในพื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยจากการสู้รบบ้านอุ้มเปี้ยม อำเภอพบพระ จังหวัดตาก และออกจากศูนย์พักพิงฯ ได้ประมาณ 2 ปี) ญาติให้ข้อมูลว่าผู้ป่วยไปทำงานที่ อำเภอวังเจ้า จังหวัดตาก และกลางเดือน ตุลาคม 2563 ไปทำงานต่อที่อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร ประมาณสองสัปดาห์ จากนั้นผู้ป่วยเดินทางกลับไปอำเภอวังเจ้า แต่หลงทางในป่า 10 วัน เดินไม่ไหวพบคนที่มาจากพื้นที่ศูนย์พักพิงฯ จึงขอให้แจ้งญาติมารับกลับ และเดินทางถึงพื้นที่พักพิงฯในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2563 โดยไม่ได้ออกไปไหนเลย ต่อมาวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 เริ่มมีอาการไข้ วันที่ 19 พฤศจิกายน 2563 อาการไม่ดีขึ้น จึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในพื้นที่ศูนย์พักพิงฯ ซึ่งได้ทำการส่งตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด -19 จากSMRU ผลพบเชื้อ จึงได้ส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลแม่สอด โดย เบื้องต้น สถานพยาบาลขององค์การ IRC (International Rescue Committee) ทำการสอบสวนโรคทราบว่า เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2563 ประวัติการตรวจรักษา มีไข้ 37.7 องศาเซลเซียส เหนื่อย Hb. 6.7 sp O2 ร้อยละ 96 ซึ่งบุคคลดังกล่าวได้ลักลอบ มาหลบซ่อนอาศัยอยู่กับญาติที่อยู่ในพื้นที่ศูนย์พักพิงผู้ลี้ภัยจากการสู้รบบ้านอุ้มเปี้ยม จากการตรวจสอบไม่มีสถานะทางทะเบียนของ UNHCR และของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ปัจจุบันผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่ โรงพยาบาลแม่สอด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก
สำหรับการปฏิบัติหลังจากพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ศูนย์พักพิงผู้ลี้ภัยจากการสู้รบบ้านอุ้มเปี้ยม ได้ดำเนินการ ดังนี้...💌
1. จากการสอบสวนโรค พบผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย จำนวน 10 ราย แยกเป็น ผู้พักอาศัยร่วมกับผู้ป่วย จำนวน 4 ราย ผู้เดินทางร่วมกับผู้ป่วย จำนวน 3 ราย และอยู่ระหว่างการสอบสวนโรคเพิ่มเติม จำนวน 3 ราย ผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย ปัจจุบัน กักตัวเพื่อสังเกตอาการอยู่ Quarantine Site ของศูนย์พักพิงผู้ลี้ภัยจากการสู้รบบ้านอุ้มเปี้ยม
2. พื้นที่ โซน A ใช้มาตรการป้องกันการติดเชื้อไวรัสฯ อย่างเข้มงวด ห้ามบุคคลออกนอกเคหะสถาน รวมทั้งจัดกำลังพลจากหน่วยทหารของกองกำลังนเรศวรในพื้นที่ , สมาชิกอาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอพบพระ เฝ้าระวังและป้องกันการเดินทางเข้า – ออกพื้นที่
3. เพิ่มมาตรการ ลาดตระเวน รอบศูนย์พักพิงผู้ลี้ภัยจากการสู้รบบ้านอุ้มเปี้ยม เพื่อป้องกันการลักลอบเข้า – ออกพื้นที่ของศูนย์พักพิงผู้ลี้ภัยจากการสู้รบบ้านอุ้มเปี้ยม
4. ประสานกองบังคับการควบคุมหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 สนับสนุนรั้วลวดหนามเพื่อติดตั้งบริเวณจุดเสี่ยงต่อการลักลอบเข้า – ออกบริเวณพื้นที่ศูนย์พักพิงผู้ลี้ภัยจากการสู้รบบ้านอุ้มเปี้ยม
5. และ เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2563 ทำการสอบสวนโรคผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยเพิ่มเติม จำนวน 1 ราย ต่อมาเวลา 10.00 น. โรงพยาบาลพบพระ ร่วมกับ สถานพยาบาลขององค์การ IRC (International Rescue Committee) ดำเนินการสุ่มตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กับบุคคลในพื้นที่ของศูนย์พักพิงผู้ลี้ภัยจากการสู้รบบ้านอุ้มเปี้ยม จำนวน 100 ราย
ทั้งนี้ จังหวัดตาก มีพื้นที่ติดชายเเดนเมียนมา ระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร ตั้งเเต่อำเภอท่าสองยาง , อำเภอเเม่ระมาด , อำเภอเเม่สอด , อำเภอพบพระ เเละอำเภออุ้มผาง ทำให้ต้องเพิ่มความถี่มาตรการเข้มข้นในการป้องกัน โดยเฉพาะกลุ่มเเรงงานเถื่อน ที่พยายามลักลอบข้ามเเดนผ่านช่องทางธรรมชาติ ทำให้กองกำลังฝ่ายความมั่นคงทั้ง ทหาร ตำรวจ ต้องเพิ่มมาตรการเฝ้าระวัง วางกำลังลาดตระเวนคุ้มเข้มตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะจุดเสี่ยง อย่างเช่น บริเวณริมเเม่น้ำเมย และเส้นทางเดินป่า โดยการลักลอบมีหลายรูปแบบ ส่วนใหญ่จะข้ามกลางคืน การวางกำลังต้องรัดกุมรอบคอบ
ด้าน กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ได้เร่งดำเนินการตามขั้นตอนการสอบสวนและมาตรการป้องกันควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเข้มข้นทั้งสองกรณีดังกล่าว เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่และประชาชนชาวไทยทุกคน ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนการ์ดอย่าตก คงมาตรการสวมหน้ากาก ล้างมือ และเว้นระยะห่าง ตระหนักแต่ไม่ตระหนก ขอให้รับฟังข่าวสารทางการจากกระทรวงสาธารณสุขและจังหวัดอย่างต่อเนื่อง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422
https://www.chiangmainews.co.th/page/archives/1509337/
ไปไหนก็ตามอย่าลืม การ์ดอย่าตกค่ะ....
🔴มาลาริน/23พ.ย.ไทยพบโควิด 7 ราย จาก 7 ประเทศ/เทียบราคาวัคซีนโควิด/WHOเตือนยุโรปมีสิทธิเจอระลอกสาม/ตากเข้มเฝ้าระวังโควิด
วันนี้ (23 พ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายงานถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ว่า
ล่าสุด สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 ในไทยวันนี้ (23 พ.ย.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 7 ราย
ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้า State Quarantine ดังนี้...💌
เยอรมนี 1 ราย
เลบานอน 1 ราย
เดนมาร์ก 1 ราย
สหรัฐอเมริกา 1 ราย
สหราชอาณาจักร 1 ราย
สาธารณรัฐคอซอวอ 1 ราย
กาตาร์ 1
ส่งผลให้ผู้ป่วยติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 3,920 ราย หายป่วยแล้ว 3,766 ราย โดยยังมีผู้ป่วยที่รักษาอาการอยู่ 94 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม มีผู้เสียชีวิตรวม 60 ราย
https://www.sanook.com/news/8301866/
🔴เทียบราคาวัคซีนโควิด โมเดอร์นา-ไฟเซอร์-แอสตราเซเนกา-จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน
ในขณะที่การพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ใกล้จะประสบความสำเร็จ ประเด็นต่อมาที่ผู้คนทั่วโลกจับตามองคือ “ราคา” ของวัคซีน ที่มีดีมานด์สูงเป็นประวัติการณ์นี้
สำหรับราคาของวัคซีนจากกลุ่มผู้พัฒนาตัวเต็งที่ใกล้ประสบความสำเร็จนั้นมีราคาแตกต่างกันตั้งแต่ 3-4 ดอลลาร์สหรัฐ ไปจนถึง 25-37 ดอลลาร์สหรัฐ
➡️โดยวัคซีนจากบริษัทไฟเซอร์นั้น สำนักข่าว ฟอร์บส์ ระบุ จะมีราคาอยู่ที่ 19.5 ดอลลาร์สหรัฐต่อโดส (590 บาท) หรือ 39 ดอลลาร์สหรัฐ (1,181บาท) ต่อ 1 คน เนื่องจากต้องใช้ 2 โดสต่อคน
➡️ส่วนวัคซีนของบริษัทแอสตราเซเนกา สำนักข่าวไฟแนนเชียลไทม์ รายงานว่า มีราคาประมาณ 3-4 ดอลลาร์สหรัฐต่อโดส (90-121 บาท) หรือ 6-8 ดอลลาร์สหรัฐ (181-242 บาท) สำหรับ 2 โดสต่อคน
➡️สำหรับวัคซีนของบริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน สำนักข่าว ซีเอ็นบีซีรายงานว่า อยู่ที่ 10 ดอลลาร์สหรัฐต่อโดส (302 บาท) โดยฉีดเพียงแค่ 1 โดสต่อคน
ด้านวัคซีนของบริษัทโมเดอร์นา จะมีราคาประมาณ 25-37 ดอลลาร์สหรัฐต่อโดส ( 757-1,120 บาท) หรือ 50-64 ดอลลาร์สหรัฐ (1.514-2,240บาท) ต่อ 1 คน เนื่องจากต้องใช้ 2 โดสต่อคน
“สตีเฟ่น แบนเซล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทโมเดอร์นา หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตวัคซีนโควิด-19 เปิดเผยกับสื่อเยอรมัน Welt am Sonntag ว่า บริษัทจะขายวัคซีนให้กับรัฐบาลประเทศต่างๆ ในราคาประมาณโดสละ 25-37 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 757-1,120 บาท) ขึ้นอยู่กับจำนวนวัคซีนที่ประเทศนั้นๆ สั่งซื้อ
ทั้งนี้ผู้บริหารโมเดอร์นา อธิบายว่า ราคานี้ใกล้เคียงกับวัคซีนไข้วัดใหญ่ ซึ่งปกติจะมีราคาเฉลี่ยประมาณ 10-50 ดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม มีความพยายามเจรจาเพื่อซื้อวัคซีนต่ำกว่าราคาดังกล่าวเช่นกัน หนึ่งในนั้นคือสหภาพยุโรป โดยเจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรปรายหนึ่งระบุกับสื่อเยอรมันว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วคณะกรรมาธิการยุโรปพยายามเจรจากับโมเดอนาเพื่อขอซื้อวัคซีนจำนวนหลายล้านโดสในราคาต่ำกว่า 25 ดอลลาร์สหรัฐต่อโดส แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ
ทั้งนี้เชื่อว่าผู้บริโภคจะไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าวัคซีนโควิด-19 ในราคาเต็ม เนื่องจากรัฐบาลแต่ละประเทศต่างพยายามอุดหนุนค่าวัคซีนให้ประชาชนของตนเข้าถึงได้ง่าย
https://www.prachachat.net/world-news/news-560500
🔴อนามัยโลกเตือนยุโรปมีสิทธิเจอโควิดระลอกสาม
องค์การอนามัยโลกกล่าวว่า ทวีปยุโรปยังตอบสนองต่อวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ได้ไม่ดีพอ และมีความเสี่ยงเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกสาม
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ว่า นพ.เดวิด นาบาร์โร ผู้แทนพิเศษด้านการตอบสนองต่อวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ขององค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) ให้ความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าวในทวีปยุโรป ว่าแม้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดระลอกแรกเมื่อช่วงต้นปีนี้เอาไว้ได้ แต่ต่อมาในช่วงฤดูร้อนกลับเกิดความผิดพลาดในการวางรากฐานโครงสร้างที่จำเป็นแก่การควบคุมโรค
อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/foreign/808397
🔴จังหวัดตาก สั่งล็อกดาวน์ศูนย์พักพิง “บ้านอุ้มเปี้ยม” สอบสวนโรค หลังพบหนุ่มเมียนมาติดไวรัสโควิด-19
หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 เปิดปฏิบัติการเชิงรุกในการตรวจคัดกรองโรคติดเชื้อไวรัส โควิด-19 พื้นที่ชายเเดนไทย – เมียนมา ยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่องเเละเข้มข้น ในพื้นที่ตลอดแนวชายแดน จังหวัดตาก ส่วนเเนวตะเข็บชายเเดน เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เพิ่มมาตรการคุมเข้ม หลังพบข้อมูลมีเเรงงานบางส่วน พยายามลักลอบข้ามเเดนผ่านช่องทางธรรมชาติ
หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 เพิ่มความเข้มในการลาดตระเวนตามแนวพื้นที่ชายแดน รอยต่อระหว่างหมู่บ้าน ชุมชน ป่าลึก เส้นทางเดินป่า ตลอดจนแนวสันเขา เพื่อป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย มาทางช่องทางธรรมชาติ โดยไม่ผ่านมาตรการตรวจคัดกรองโรคติดต่อจากเชื้อไวรัส โควิด-19 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจการค้าเเนวชายเเดน หลังจากพบผู้ติดเชื้อในประเทศเป็นชาวเมียนมา ในพื้นที่ จังหวัดตาก
หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 และ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 เป็น กองกำลังป้องกันชายแดน ถือเป็นกำลังหลักสำคัญในการเฝ้าระวังป้องกัน และรักษาความเรียบร้อย ตามชายแดนไทย – เมียนมา ซึ่งขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 ในต่างประเทศมีความน่าเป็นห่วง พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง กองทัพภาคที่ 3 และกองกำลังนเรศวร เน้นย้ำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร บูรณาการร่วมทุกฝ่าย เพิ่มความเข้มในการลาดตระเวนตามแนวพื้นที่ชายแดน ป้องกันสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวที่อาจหลบหนีเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ โดยไม่ผ่านมาตรการตรวจคัดกรองโรคติดต่อจากเชื้อไวรัส โควิด-19 ให้หน่วยเพิ่มการสกัดกั้น การลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฏหมาย โดยลาดตระเวนเฝ้าตรวจตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวด ประสานการทำงานกับทุกภาคส่วน ฝ่ายปกครอง ป่าไม้ โดยเฉพาะพี่น้องประชาชน ให้ช่วยสอดส่องเป็นหูเป็นตากับเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อป้องกัน เฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไวร้ส covid-19 อย่างต่อเนื่อง การ์ดอย่าตก เพื่อป้องกัน ไม่ให้เชื้อไวรัสกลับมาแพร่ระบาดอีกครั้งในประเทศไทย
หลังมีรายงานว่า จากกรณี ศูนย์พักพิงผู้ลี้ภัยจากการสู้รบบ้านอุ้มเปี้ยม หมู่ที่ 1 ตำบลคีรีราษฎร์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID – 19) ในพื้นที่โซน A จำนวน 1 รายทราบชื่อคือ นายซอกาเน อายุ 48 ปี สัญชาติ เมียนมา พักอาศัยอยู่โซน A ภายในศูนย์พักพิงผู้ลี้ภัยจากการสู้รบบ้านอุ้มเปี้ยม บ้านอุ้มเปี้ยม หมู่ที่ 1 ตำบลคีรีราษฎร์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก (เคยอาศัยในพื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยจากการสู้รบบ้านอุ้มเปี้ยม อำเภอพบพระ จังหวัดตาก และออกจากศูนย์พักพิงฯ ได้ประมาณ 2 ปี) ญาติให้ข้อมูลว่าผู้ป่วยไปทำงานที่ อำเภอวังเจ้า จังหวัดตาก และกลางเดือน ตุลาคม 2563 ไปทำงานต่อที่อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร ประมาณสองสัปดาห์ จากนั้นผู้ป่วยเดินทางกลับไปอำเภอวังเจ้า แต่หลงทางในป่า 10 วัน เดินไม่ไหวพบคนที่มาจากพื้นที่ศูนย์พักพิงฯ จึงขอให้แจ้งญาติมารับกลับ และเดินทางถึงพื้นที่พักพิงฯในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2563 โดยไม่ได้ออกไปไหนเลย ต่อมาวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 เริ่มมีอาการไข้ วันที่ 19 พฤศจิกายน 2563 อาการไม่ดีขึ้น จึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในพื้นที่ศูนย์พักพิงฯ ซึ่งได้ทำการส่งตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด -19 จากSMRU ผลพบเชื้อ จึงได้ส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลแม่สอด โดย เบื้องต้น สถานพยาบาลขององค์การ IRC (International Rescue Committee) ทำการสอบสวนโรคทราบว่า เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2563 ประวัติการตรวจรักษา มีไข้ 37.7 องศาเซลเซียส เหนื่อย Hb. 6.7 sp O2 ร้อยละ 96 ซึ่งบุคคลดังกล่าวได้ลักลอบ มาหลบซ่อนอาศัยอยู่กับญาติที่อยู่ในพื้นที่ศูนย์พักพิงผู้ลี้ภัยจากการสู้รบบ้านอุ้มเปี้ยม จากการตรวจสอบไม่มีสถานะทางทะเบียนของ UNHCR และของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ปัจจุบันผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่ โรงพยาบาลแม่สอด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก
สำหรับการปฏิบัติหลังจากพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ศูนย์พักพิงผู้ลี้ภัยจากการสู้รบบ้านอุ้มเปี้ยม ได้ดำเนินการ ดังนี้...💌
1. จากการสอบสวนโรค พบผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย จำนวน 10 ราย แยกเป็น ผู้พักอาศัยร่วมกับผู้ป่วย จำนวน 4 ราย ผู้เดินทางร่วมกับผู้ป่วย จำนวน 3 ราย และอยู่ระหว่างการสอบสวนโรคเพิ่มเติม จำนวน 3 ราย ผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย ปัจจุบัน กักตัวเพื่อสังเกตอาการอยู่ Quarantine Site ของศูนย์พักพิงผู้ลี้ภัยจากการสู้รบบ้านอุ้มเปี้ยม
2. พื้นที่ โซน A ใช้มาตรการป้องกันการติดเชื้อไวรัสฯ อย่างเข้มงวด ห้ามบุคคลออกนอกเคหะสถาน รวมทั้งจัดกำลังพลจากหน่วยทหารของกองกำลังนเรศวรในพื้นที่ , สมาชิกอาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอพบพระ เฝ้าระวังและป้องกันการเดินทางเข้า – ออกพื้นที่
3. เพิ่มมาตรการ ลาดตระเวน รอบศูนย์พักพิงผู้ลี้ภัยจากการสู้รบบ้านอุ้มเปี้ยม เพื่อป้องกันการลักลอบเข้า – ออกพื้นที่ของศูนย์พักพิงผู้ลี้ภัยจากการสู้รบบ้านอุ้มเปี้ยม
4. ประสานกองบังคับการควบคุมหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 สนับสนุนรั้วลวดหนามเพื่อติดตั้งบริเวณจุดเสี่ยงต่อการลักลอบเข้า – ออกบริเวณพื้นที่ศูนย์พักพิงผู้ลี้ภัยจากการสู้รบบ้านอุ้มเปี้ยม
5. และ เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2563 ทำการสอบสวนโรคผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยเพิ่มเติม จำนวน 1 ราย ต่อมาเวลา 10.00 น. โรงพยาบาลพบพระ ร่วมกับ สถานพยาบาลขององค์การ IRC (International Rescue Committee) ดำเนินการสุ่มตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กับบุคคลในพื้นที่ของศูนย์พักพิงผู้ลี้ภัยจากการสู้รบบ้านอุ้มเปี้ยม จำนวน 100 ราย
ทั้งนี้ จังหวัดตาก มีพื้นที่ติดชายเเดนเมียนมา ระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร ตั้งเเต่อำเภอท่าสองยาง , อำเภอเเม่ระมาด , อำเภอเเม่สอด , อำเภอพบพระ เเละอำเภออุ้มผาง ทำให้ต้องเพิ่มความถี่มาตรการเข้มข้นในการป้องกัน โดยเฉพาะกลุ่มเเรงงานเถื่อน ที่พยายามลักลอบข้ามเเดนผ่านช่องทางธรรมชาติ ทำให้กองกำลังฝ่ายความมั่นคงทั้ง ทหาร ตำรวจ ต้องเพิ่มมาตรการเฝ้าระวัง วางกำลังลาดตระเวนคุ้มเข้มตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะจุดเสี่ยง อย่างเช่น บริเวณริมเเม่น้ำเมย และเส้นทางเดินป่า โดยการลักลอบมีหลายรูปแบบ ส่วนใหญ่จะข้ามกลางคืน การวางกำลังต้องรัดกุมรอบคอบ
ด้าน กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ได้เร่งดำเนินการตามขั้นตอนการสอบสวนและมาตรการป้องกันควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเข้มข้นทั้งสองกรณีดังกล่าว เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่และประชาชนชาวไทยทุกคน ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนการ์ดอย่าตก คงมาตรการสวมหน้ากาก ล้างมือ และเว้นระยะห่าง ตระหนักแต่ไม่ตระหนก ขอให้รับฟังข่าวสารทางการจากกระทรวงสาธารณสุขและจังหวัดอย่างต่อเนื่อง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422
https://www.chiangmainews.co.th/page/archives/1509337/
ไปไหนก็ตามอย่าลืม การ์ดอย่าตกค่ะ....