▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวไทย
ภาพถ่าย
โรงแรมรีสอร์ท
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศ
[CR] รีวิว...Veranda High Resort Chiang Mai ประทับใจตั้งแต่ต้นจนจบ
บอกก่อนนะครับว่าที่นี่เป็นโรงแรมที่ผมฝันจะไปพักสักครั้งมานานแล้ว และผมเป็นสมาชิกบัตร Accor และเมื่อมีทริปไปเที่ยวตะลอนภาคเหนือ เลยไม่พลาดที่จะจัด Veranda High Resort Chiang Mai เข้าไปในโพรแกรมด้วย ที่นี่ไม่ใช่ที่พักราคาถูก จริงๆค่อนไปทางแพงเลยแหละ ตอนนี้โรงแรมเข้าร่วมเราเที่ยวด้วยกันด้วยนะครับ จริงๆจะได้ราคาที่ดีกว่าใช้บัตร Accor แต่ผมต้องการเก็บแต้มเลยต้องเลือกใช้บัตร
กระทู้นี้รวดเดียวจบเหมือนเดิมนะครับ รูปอาจจะเยอะหน่อย เก็บกระเป๋าตามมาเลยครับ
โรงแรม Veranda High Resort Chiang Mai เป็นโรงแรมใน M Gallery ซึ่งเป็นระดับ Up scale ซึ่งสูงกว่า Novotel หรือ Mercure ซึ่งโรงแรมที่อยู่ในกลุ่ม M Gallery ยกตัวอย่างในกรุงเทพก็เช่น โรงแรม Vie ตรงสะพานหัวช้าง หรือโรงแรม Muse Bangkok ตรงหลังสวน
กลับมาที่ Veranda High โรงแรมจะอยู่เชิงดอยสุเทพแต่ค่อนไปทางด้านหลัง เดินทางจากเชียงใหม่ได้ 2 เส้นทางคือใช้เส้นทาง เชียงใหม่-หางดง ถึงแยกสะเมิงเลี้ยวขวาเข้าถนนหมายเลข 121 ต่อด้วย 1269 ระยะทางประมาณ 9 กม.โรงแรมจะอยู่ขวามือ หรือใช้เส้นทางรอบเมืองเชียงใหม่ แล้วมาเลี้ยวขวาเข้าถนน 1269 วิ่งไปอีกประมาณ 7 กม. ถ้ามาจากแถวนิมมาน หรือฝั่งสวนสัตว์เชียงใหม่ ใช้ถนนรอบเมืองเชียงใหม่สะดวกกว่า แต่ถ้ามาจากสนามบิน เส้นทางเชียงใหม่-หางดงสะดวกกว่าครับ
ผมไปจากเชียงใหม่ จอดรถที่ลานจอดรถด้านล่างใต้ต้นไม้ แต่มารู้ตอนกลับว่ามีที่จอดรถใต้อาคารด้วย...รู้ช้าไปหน่อย ใบไม้เต็มรถเลย พนักงานนำรถกอล์ฟมารอรับที่รถ พนักงานรีบนำกระเป๋าขึ้นรถแล้วขับพาไปส่งที่หน้าทางเข้าส่วนต้อนรับ
ผมไปถึงตั้งแต่ยังไม่เที่ยง ตามสิทธิของบัตร Accor จะได้อัพเกรดห้องพักไปในระดับที่สูงขึ้น ซึ่งพนักงานแจ้งว่าปรับระดับห้องพักของผมเป็นห้องแบบ Plung Pool Villa แต่ห้องยังไม่ได้ มีตัวเลือกคือจะออกไปเที่ยวข้างนอกก่อนหรือจะรอในห้องพักที่จองไว้ตอนแรก...คงรู้คำตอบนะครับ เลือกนั่งเล่นรอในห้องดีกว่า
พนักงานขับรถกอล์ฟไปส่งที่ห้อง ซึ่งเป็นแบบ Valley Deluxe Scenery ขนาดห้อง 58 ตรม. ราคาสมาชิก Accor ที่จองไปคือ คืนละ 5,364 บาทรวมอาหารเช้า ขนาดห้องถือว่าใหญ่มากแล้วสำหรับผม เปิดประตูเข้าไปครั้งแรกยังคิดว่าจริงๆห้องนี้ก็โอเคแล้วนะ อาคารห้องพักจะเล่นระดับ 3 ชั้นโดยชั้นล่างสุดจะเห็นวิวนาขั้นบันไดจำลองแบบเต็มตา ส่วนชั้น 2 และ 3 จะได้วิวที่กว้างขึ้น
ขนาดห้องพักที่ค่อนข้างใหญ่ ทำให้วางเตียงขนาดใหญ่และยังมีที่เหลือเฟือให้วางเดย์เบดได้อีก 1 ตัว และโต๊ะทำงานขนาดย่อมๆอีก 1 ชุดและยังมีที่เหลือให้นั่งๆนอนๆได้อีกสบายๆ สำหรับผมมีเพียงโทรทัศน์เท่านั้นที่ดูจะเล็กไปหน่อยเมื่อเทียบกับขนาดห้อง
ถึงเป็นห้องระดับนี้แต่ก็มีอ่างให้แช่ตัวด้วย แต่ถ้าไม่ชอบแช่ก็มีที่อาบน้ำแบบฝักบัวไว้ให้ด้วยครับ ส่วนสบู่ แชมพูใช้ของ THANN ถ้าดูแบบนี้จะเหมือนว่าห้องนอนกับห้องน้ำไม่มีอะไรกั้น แต่สามารถเลื่อนบานไม้มาปิดเพื่อความเป็นส่วนตัวได้
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกก็ครบถ้วนตามมาตรฐานโรงแรมระดับนี้ นอกห้องมีที่นั่งไว้ให้จิบกาแฟชมวิวต้นไม้เขียวๆตอนเช้าได้ และมีบ่อน้ำอยู่ถัดไปแต่เท่าที่ดูไม่ใช่บ่อไว้ให้เล่นครับ ทำไว้ประดับเฉยๆ
เที่ยงแล้วไปหาข้าวทานกันครับ...สิทธิของบัตร Accor ที่ผมชอบอีกอย่างคือทานอาหาร 2 คนลด 50% นี่แหละทานที่โรงแรมเลยแล้วกัน ผมไปทานที่ร้าน The Higher Room ซึ่งบริการอาหารเช้าด้วย เท่าที่เคยเห็นในรูปที่นี่เหมือนจะเปลี่ยนการตกแต่งเพดานไป เมื่อก่อนจะเหมือนไม้ถักกันไปมา แต่ตอนนี้จะเหมือน...เอ่อ เหมือนดินสอไม้ที่เหลาแล้วเป็นแผ่นๆนั่นแหละครับ
ราคาอาหารก็เป็นไปตามระดับของโรงแรมคือค่อนไปทางราคาสูง
ผมสั่งเนื้อส่วนภรรยาสั่งแซลมอน เนื้อขนาดไม่ใหญ่มากแผ่นไม่หนาย่างมาได้ค่อนข้างดีเป็นมีเดียมแร ปรุงรสด้วยเกลือพริกไทย โดยรวมรสชาติใช้ได้ครับ ส่วนแซลมอนมาพร้อมกับข้าวกระเทียม แซลมอนไม่แห้งเกินไปซอสรสเปรี้ยวอมหวานเข้ากันดี ตบท้ายด้วยน้ำสับปะรด อิ่มอร่อยในราคาลดแล้วเหลือไม่ถึง 800 บาท คุ้มมากๆ
อิ่มแล้วก็เดินเล่นเสียหน่อย ชั้นล่างของร้านอาหารเป็นยิมไว้ออกกำลังกาย และมีจักรยานให้เช่าขี่ได้
เดินดูรอบๆโรงแรมเสียหน่อย สิ่งที่ชอบคือมันเขียวไปหมดเลยครับ สงบและสดชื่นมากๆ การตกแต่งของโรงแรมผสมความเก่าใหม่ ธรรมชาติกับความทันสมัยไว้ด้วยกัน อย่างอาคารโรงแรมเป็นอาคารทันสมัยแต่มีแนวกำแพงเก่าอยู่ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าเก่าจริงหรือทำให้เก่า มีศาลาบนเนินเตี้ยๆไว้ชมวิวได้
ประมาณบ่ายโมง พนักงานก็แจ้งว่าห้องพักได้แล้ว จากนั้นก็ขนของขึ้นรถกอล์ฟแล้วขับลึกเข้าไปด้านใน ห้องพักโซนนี้จะแบ่งเป็นหลังๆ 1 หลังจะมี 2 ชั้น ชั้นบนเป็นห้องแบบ Scenery Pavilion มีอ่างให้แช่ตัวได้และเห็นวิวมุมสูง ชั้นล่างจะเป็นห้อง Plung Pool Pavilion ที่ผมจะพักคืนนี้ครับ
ความรู้สึกตอนเข้าห้องมาครั้งแรกคือ "จะใหญ่ไปใหน" ห้องใหญ่มากครับ ถ้านอนคนเดียวผมว่าเหงาอ่ะ Plung Pool Pavilion เป็นห้องขนาด 88 ตรม. ราคาที่ผมดูในเวปสำหรับสมาชิกคือคืนละ 8,000 กว่าบาท ได้อัพเกรดมาแบบนี้คุ้มมากๆ
ห้องพักจะแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ หลังเตียงจะเป็นโซนห้องน้ำ(ซึ่งใหญ่มาก) จากนั้นเป็นห้องนอนและด้านหน้าที่ติดกับพื้นที่สวนด้านนอกจะเป็นที่นั่งเล่นและบ่อแช่ตัวอยู่นอกชานอีกที
ส่วนของที่นั่งเล่นกับส่วนที่นอนจะมีม่านกั้นไว้เผื่ออยากได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้น สิ่งที่ห้องนี้ไม่มีเมื่อเทียบกับห้องที่แล้วคือห้องนี้ไม่มีโต๊ะทำงาน อารมณ์ประมาณว่าอยู่ห้องนี้ให้มาพักผ่อนให้เต็มที่ งานวางไว้นอกห้องก่อน
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบถ้วน แต่สิ่งที่ไม่ชอบเป็นการส่วนตัวในห้องนี้คือโทรทัศน์เล็กมากถ้าไปนอนดูบนเตียงนี่แทบจะดูไม่รู้เรื่อง ถ้าได้ขนาดที่ใหญ่กว่านี้หน่อยน่าจะดีทีเดียว WIFI ความเร็วใช้ได้ครับดูคลิป FullHD สบายๆ
หน้าห้องน้ำมีโต๊ะเครื่องแป้งอยู่ เปิดประตูห้องน้ำที่เป็นบานเลื่อนเข้าไปจะเห็นโต๊ะขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางเป็นอ่างล้างหน้าแบบ His & Her แต่เป็นแบบยืนคนละด้านนะครับไม่ใช่ยืนข้างกัน
ด้านขวาของห้องเป็นอ่างอาบน้ำ ขนาดใหญ่พอประมาณเลยครับแช่ตัวชมวิวต้นไม้เขียวๆด้านนอกได้ ลึกเข้าไปด้านในเป็นที่อาบน้ำแบบฝักบัว ส่วนด้านซ้ายของห้องน้ำเป็นโถสุขภัณฑ์ที่นั่งชมวิวได้เช่นเดียวกัน แต่ไม่มีประตูปิดนะครับ ถ้ามีใครทำอย่างอื่นอยู่ในห้องน้ำด้วยก็อาจจะเขินๆหน่อย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น