เรื่องของเรื่องคือ อยากไปเที่ยวแต่คิดไม่ออกว่าจะไปไหนดี บังเอิญญญว่าช่วงต้นปีที่ผ่านมามีงานไทยเที่ยวไทยมาจัดพอดีจ้าาา
อ่ะ เข้าทางพอดี หน้าร้อนแบบนี้ อยากไปเที่ยวคิดอะไรไม่ออก บอกทะเลสิคะ แต่จะไปทะเลทั้งทีจะไปที่ไหนดี ที่ไหนจะเหมาะกับเวลาพักผ่อนอัน
น้อยนิดมากๆของเรา จริงๆก็มีเข้าตาหลายอัน แต่สุดท้ายยยก็มาจบที่นี่ “Treehouse Villas : เกาะยาวน้อย จ.พังงา”

   ซึ่งจริงๆในการเดินทางไปเกาะนี้ สามารถนั่งเครื่องไปลงได้ทั้งจังหวัดกระบี่และภูเก็ตค่ะ และจากนั้นก็นั่งเรือต่อไปที่เกาะอีกที ในแพคเกจที่ซื้อมาจากงานไทยเที่ยวไทย เป็นแพคเกจที่รวมค่ารถจากสนามบิน ไป-กลับ / ค่าเรือจากท่าเรือบางเลน ไป-กลับ / คอร์สโยคะพื้นฐาน สำหรับ 2 คน / สปา 60 นาที สำหรับ 2 คน / ค่าเรือ ไป-กลับ เกาะผักเบี้ย ฟรี / ค่าที่พัก 2 คืน รวมอาหารเช้า
 
   ทั้งแพคเกจนี้ เราได้มาในราคา 29,900 บาท  จากปกติราคาที่พักอยู่ที่ประมาณ 13,000-22,000 บาท ต่อคืน (ขึ้นอยู่กับช่วงนะคะ) จะรออะไรล่ะคะ จัดเลยจ้า  เริ่มจาก เราต้องทำการสำรองที่พักก่อนค่ะ จากนั้นก็ส่งเลขไฟล์ทให้กับทางที่พัก เพื่อคอนเฟิร์มว่าจะเข้าพักวันไหน เพื่อทำการจองรถและเรือสำหรับรับส่ง
    
   เมื่อวันที่มาถึงสนามบินพนักงานขับรถก็รออยู่แล้วค่ะ จากนั้นก็ทำการนั่งรถเดินทางไปประมาณ 40 นาที ก็จะถึงท่าเรือ เรือออกจากท่าบ่ายสอง นี่ไปถึงตั้งแต่ 11 โมงจ้า คำถามคือรีบหรอ ก็นั่งรอไปค่ะยาวๆ นั่งมองทะเล นั่งมองเขา นั่งมองเราบ้างก็ได้นะ งุ้ยๆ 
พอบ่ายโมงห้าสิบเรือก็มาถึงค่า  เมื่อเรือมาถึงพนักงานก็มาช่วยยกกระเป๋าขึ้นเรือ พร้อมกับให้น้ำเย็นชื่นใจมาคนละ 1 ขวด บริการทุกระดับประทับใจมาก
เว่อรรร์ ใช้เวลาเดินทางทางเรือประมาณ 15-20 นาที ในที่สุดดด ก็มาถึงแล้วววค่าาาาา



   เมื่อมาถึงท่าเรือจะมีพนักงานออกมาต้อนรับพร้อมผ้าเย็น จากนั้นก็นั่งรถกอล์ฟไปเช็คอินจ้าาา 

 

 ส่วนใหญ่แขกที่นี่เป็นชาวต่างชาตินะคะ เจอคนไทยน้อยมากกจริงๆ คิดว่าอยู่ฮาวายกันเลยทีเดียว  ตอนเช็คอินก็ตามขั้นตอนทั่วไป มี welcome drink 
มาเสิร์ฟ พอเช็คอินเสร็จก็ไปที่ห้อง 



  โอ้ยยยยแกรรร คือมันดีมากกก เป็นที่พักที่เงียบ สงบ ส่วนตัว เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาที่พักผ่อนแบบจริงๆ  อากาศในห้องพักถ่ายเทได้สะดวกดีค่ะ ต่อให้อากาศข้างนอกร้อน อากาศข้างในก็ยังเย็นสบายค่ะ มีลมพัดมาเรื่อยๆ 
    ในส่วนของที่พักจะแบ่งเป็น 2 ชั้นนะคะ ชั้นบนเป็นห้องนอน ส่วนชั้นล่างจะเป็นเหมือนห้องนั่งเล่น มีสระว่ายน้ำและมินิบาร์  
ส่วนตัวเราชอบมากกก คือเวลาผ่านไปเร็วมากค่ะ กับการว่ายน้ำเสร็จแล้วขึ้นมานั่งกินข้าว และลงไปว่ายน้ำต่อ วนลูปปปไป ฟินเว่อร์  และในส่วนของมินิบาร์ จะไม่พูดถึงก็คงไม่ได้เพราะทางที่พักให้ฟรีทั้งหมดเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มอัดลมต่างๆ เบียร์ วิสกี้ ส่วนไวน์จะมีค่าใช้จ่ายค่า แค่นั้นเองงง 


  และขอชื่นชมในการออกแบบ และจัดสัดส่วนพื้นที่ใช้สอย รวมไปถึงวัสดุที่ใช้ด้วยค่ะ ส่วนตัวเราเป็นคนไม่ชอบพื้นที่ชื้น หรือพื้นเปียกๆ แต่อย่างที่นี่บริเวณสระน้ำ วัสดุที่ใช้ปูพื้นจะเป็นแบบแห้งเร็วมากๆเลยค่ะ ชอบมาก เดินสบายเท้าไม่เปียก  
 
 
   ในส่วนของห้องนอนชั้น 2 นั้น ก็ตื่นตาตื่นใจไม่แพ้กันเลยค่ะ ทั้งสัดส่วนที่ลงตัวและวิวทะเลที่ สวยงามมากกกก 

ข้างบนก็ยังมีในส่วนของมินิบาร์ให้อีกนะคะ และแน่นอนค่ะ งานนี้ฟรีทุกอย่างงงงง

ส่วนเรื่องของอาหาร สามารถสั่งจากห้องอาหารของที่พัก มาทานที่ห้องได้เลยค่า นอกจากนี้ติดๆกัน ก็จะเป็นที่ตั้งของ Paradise resort ซึ่งเราก็สามารถสั่งอาหารจากที่นี่มาทานได้ด้วยเช่นกันค่ะ ราคาอาหารก็กลางๆค่ะ ไม่ได้แพงเว่อร์แบบที่คิด แต่ค่าน้ำจะแพงสักหน่อย ช่วงเย็นก็จะมีการจัดบุฟเฟ่ต์ แต่ละวันก็จะต่างกันออกไปค่ะ บางวันอาจจะมีซีฟู้ด หรืออาหาร western ซึ่งพนักงานแจ้งว่า การจัดบุฟเฟ่ต์ขึ้นอยู่กับจำนวนแขกที่มาพักค่ะ เพราะฉะนั้นต้องเช็ควันต่อวันนะคะ
     และในส่วนของสปา ที่ติดมากับแพคเกจนั้น จะมีให้เลือก 4 แบบค่ะ มีนวดแผนไทย นวดแบบน้ำมัน นวดแบบบาหลี ซึ่งเลือกระดับความหนักเบาของการนวดได้ตามใจเลยค่ะ ห้องที่ใช้สำหรับสปาก็อยู่แบบส่วนตั๊ว ส่วนตัว ธรรมชาติและเงียบสงบอีกเช่นเคย มันดีมาก จนถึงขั้นพนักงานเรียกละไม่อยากลุกเลยจ้าา (เสียดายที่ไม่ได้เก็บรูปมาฝากค่ะ )

 สรุปแล้วที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งที่ที่แนะนำให้ไป อยากให้ไปมากๆ เป็นที่พักที่ให้ฟีลย้อนวัยไปตอนเด็กๆแบบบ้านต้นไม้ ที่อบอุ่น สงบ และโรแมนติกมากๆค่ะ ชอบทั้งคอนเซปต์ บรรยากาศ วัสดุที่ใช้ และที่ขอชื่นชมที่สุดคือ การบริการของพนักงานที่นี่ค่ะ พี่ๆน่ารักมาก ตั้งแต่พี่คนขับเรือ พนักงานต้อนรับ ไปจนถึงพี่แม่บ้านกันเลยทีเดียว ประทับใจมากๆจริงๆค่ะ สำหรับทริปนี้
    ขอบพระคุณที่ติดตามจนจบการรีวิวนะคะ หากมีข้อสงสัย หรือข้อติชมสามารถคอมเม้นท์มาพูดคุยกันได้นะคะ ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ค่า ... แท๊น !