บทที่ 1
https://pantip.com/topic/40330702/comment4-6
ท้ายบทที่แล้ว
มีรอยเท้าประหลาด ปรากฏวนเวียนรอบยานในรัศมีห้าสิบเมตร เพราะพื้นส่วนใหญ่ป็นหินแข็ง จึงสังเกตไม่ชัดเจน แต่ก็พอสรุปได้ว่า เมื่อคืนมีบางอย่างวนเวียนอยู่รอบยานอย่างที่รู้สึก
เอาละสิ
บนดาวดวงนี้มีสิ่งมีชีวิต
..........
ไม่ว่าจะเป็นอะไร ก็สร้างความตื่นเต้นได้มากสมควร แน่นอนว่าผมไม่ได้รู้สึกวิตกหวาดกลัวอะไรมากมาย เป็นความอยากรู้มากกว่า ว่าคืออะไรกันแน่ ผู้มาเยือนลึกลับยามราตรีต้องการอะไร
แสงสว่างเริ่มจากขอบฟ้าทิศตะวันออก ราวกับเป็นรุ่งอรุณอันสดชื่น นี่เป็นสิ่งที่ผมชอบมาก เวลาเช้าตรู่เย็นฉ่ำสบายที่แสนวิเศษ ทำให้อารมณ์ดีอย่างประหลาด
สำรวจบริเวณไหนก่อน ?...
รู้สึกว่าต้องทำทั้งที่ไม่มีความจำเป็น หรือดวงดาวแห่งนี้กำลังบงการ อดคิดเล่น ๆ ไม่ได้ คนเราบางทีก็เหมือนแมว อยากรู้อยากเห็น สำรวจไปทั่ว ทั้งที่ยังไม่รู้ถึงประโยชน์
ทิศตะวันตก...ผมตัดสินใจอย่างมีหลักการ เมื่อวานไปทิศตะวันออก วันนี้ลองไปทิศทางตรงกันข้ามดูบ้าง ผมทานอาหารเช้าอย่างง่าย ๆ รอจนสายจึงปิดโปรแกรมจอห์น ป้องกันการส่งข้อมูลอัตโนมัติ เพราะไม่อยากให้ข้อมูลดวงดาวรั่วไหล สวมชุดสำรวจให้เรียบร้อย เดินมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตก ด้านนี้ทิวเขาปรากฏอยู่ไม่ไกล น่าจะเดินไปถึงไม่ยาก
ผ่านโขดหินใหญ่น้อยระเกะระกะ ใช้เวลาครึ่งชั่วโมง ก็มาถึงเนินเขาเล็ก ๆ ถัดไปเป็นป่าค่อนข้างหนาทึบมากกว่าแนวด้านทิศตะวันออก ภูเขาอยู่เบื้องหน้า มีสายธารกว้างสิบกว่าเมตรไหลผ่านขวางทาง
มีแม่น้ำด้วย ให้มันได้อย่างนี้สิ...ผมร้องในใจอย่างคาดไม่ถึง วันก่อนเห็นแอ่งน้ำก็เหลือเชื่อแล้ว นี่แม่น้ำทั้งสาย! ไม่มากไปหน่อยแล้วหรืออย่างไร ระยะความกว้างของแม่น้ำไม่น่าต่ำกว่าสิบเมตรน่าจะเป็นปัญหา
แต่พอทดลองเดินลงน้ำไปสำรวจ พบว่ากระแสน้ำไหลเอื่อย ไม่รุนแรงน่ากลัว ความลึกมากที่สุดอยู่ในระดับเมตรนิด ๆ เท่านั้น สามารถเดินข้ามไปได้ อุณหภูมิน้ำเหมือนผ่านเครื่องทำน้ำอุ่น ให้ความรู้สึกอยากแช่ให้สบายตัว และนั่นคือสิ่งที่ผมทำ
สนุกละสิ มีแม่น้ำอุ่น ๆ ด้วย แต่ยังไม่มีสัตว์น้ำเสนอหน้ามาทักทาย
แช่น้ำรับรู้สัมผัสความอุ่นจนพอใจ จึงเดินข้ามแม่น้ำ ชุดสำรวจป้องกันน้ำได้ ไม่ก่อปัญหาเรื่องความเปียกชื้น ชายหาดริมธารเป็นพื้นทรายสลับแผ่นหินใหญ่น้อยสวยงาม ผมมองด้วยความรู้สึกสุขสงบ แม้จะรู้สึกว่าบรรยากาศหนาวเย็น รู้สึกประหลาดใจเมื่อสัมผัสถึงกระแสลมอุ่นผิดปกติพัดมาจากภูเขาสูง
แม่น้ำอุ่น กระแสลมอุ่น ยามรุ่งอรุณ เป็นความรู้สึกดี ๆ
ก็ไม่เลว..สำหรับที่นี่ คิดว่าพออาศัยอยู่ได้นาน เท่าที่ต้องการ
คิดถึงแอนนาอีกแล้ว ความคิดเจ้ากรรม ความพิสดารแห่งความคิดอย่างหนึ่งคือการควบคุมมันได้ยาก หรือไม่ได้เลย ไม่แน่...อาจมีเวลาว่างพอจะนั่งสมาธิลองดูก็ได้ ศึกษาศาสตร์โบราณดูบ้างคงไม่เสียหลาย ไม่ละ... คนอย่างผมนั่งสมาธิ ขัดอิมเมจ เงยหน้ามองท้องฟ้า ร้องเสียงดัง
“แอนนา เสียใจด้วยนะที่คุณไม่ได้มากับผม”
เปล่า...ผมไม่ได้รู้สึกเสียใจจริง ๆ การตะโกนให้ความรู้สึกเสมือนปลดปล่อยบางอย่าง ไม่อยากคิดถึงแอนนามากเกินไปก็เท่านั้น เธอจากไปกับชายอื่นแล้ว สายลมพัดมาจากภูเขา ทำให้เริ่มอยากเดินไปดูว่ากระแสลมอุ่นมาจากไหนกัน เดาว่าอาจพัดออกมาจากโพรงถ้ำที่กักเก็บความร้อนไว้ จึงให้รู้สึกถึงความอบอุ่นพัดผ่าน ถ้าจะให้แน่ใจต้องเดินไปตรวจดู อาจจะพบว่ากระแสลมพัดออกมาจากปากถ้ำ อาจมีแหล่งสร้างพลังงานความร้อนอะไรสักอย่างอยู่ด้านใน
มีถ้ำขนาดใหญ่ใต้หน้าผาสูงจริงด้วย ขณะกำลังยืนด้อม ๆ มอง ๆ หน้าทางเข้า หางตาก็มองเห็นอะไรบางอย่างเคลื่อนตัวอยู่ในแนวหินด้านข้าง ผมหันไปมองตามสัญชาตญาณ เร็วพอมองเห็นใครบางคน หลบวูบไปหลังโขดหินใหญ่
รูปร่างคล้ายมนุษย์! หัวใจเต้นแรงทันที แน่ใจว่าไม่ได้คิดไปเอง นี่อาจเป็นการค้นพบอย่างใหม่เอี่ยม ไม่ว่าจะเป็นใคร หรืออะไร สิ่งนั้นไม่ควรจะเป็นอันตราย เพราะคาดคะเนดูแล้ว ถ้าเจ้าสิ่งลึกลับต้องการเล่นงานผม คงทำได้หลายครั้งแล้วหลังจากลงมาเหยียบพื้นดวงดาว ความอยากรู้อยากเห็นมีมากกว่าความกลัว ผมเดินตรงไปยังบริเวณที่เงาประหลาดวูบหายไป
มีรอยเท้า
เป็นรอยเท้าของมนุษย์ชัด ๆ รอยเท้าใครบางคน ลักษณะไม่ได้สวมรองเท้า ก้าวย่ำบนพื้นทราย อ้อมไปด้านหลังโขดหินใหญ่ แล้วขึ้นไปบนพื้นหินแข็ง ผมได้แต่นึกเสียดาย เพราะไม่สามารถแกะรอยเท้าต่อไปได้
ดาวดวงนี้มีสิ่งมีชีวิต แถมยังอาจจะเป็นมนุษย์เสียด้วย ถ้าไม่ใช่มนุษย์ ก็ต้องเป็นตัวอะไรที่มีเท้าเหมือนมนุษย์
ไม่น่าเป็นไปได้ ถ้าจะเป็นพวกมนุษย์ต่างดาว มีรูปร่างเหมือนชาวโลก จะไม่บังเอิญมากไปหน่อยหรือ บอกไม่ถูกว่าตกใจหรือแปลกใจ อุตส่าห์วางแผนหนีชาวโลกมาดวงดาวที่ไม่มีใครอยากสำรวจ ยังจะมาพบมนุษย์เข้าให้อีก
ใจหนึ่งก็รู้สึกดีใจเล็ก ๆ บางทีอาจไม่เลวเสียเลยทีเดียว ถ้ามีใครสักคนเป็นเพื่อน ความรู้สึกสับสนปนเปกันไปหมด กวาดสายตามองไปรอบบริเวณ ตามแนวโขดหินก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ
ผมพยายามระงับสติอารมณ์ คิดตามหลักเหตุผล ถ้ามีมนุษย์ พวกเขาก็ควรจะต้องมีแหล่งพำนักอาศัย มีสิ่งก่อสร้าง เครื่องมือเครื่องใช้ ปรากฏให้เห็น ถ้าลองสำรวจไกลออกไปอีก ก็ควรพบแหล่งอารยธรรมสักแห่ง นอกจากว่าพวกเขาเป็นมนุษย์ถ้ำ ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำลึกไปตามแนวเขายาวเหยียด ความคิดดังกล่าวทำให้ผมเริ่มวางเป้าหมายการสำรวจทันที ง่ายที่สุดก็ควรเริ่มต้นตามถ้ำต่าง ๆ แต่หลังจากการลองดูตามถ้ำหลายแห่งแถวนั้น ไม่พบร่องรอยหลักฐานแห่งอารยธรรม ไม่มีสิ่งของเครื่องใช้ปรากฏให้เห็นแม้สักชิ้น
เวลาบ่ายคล้อย จึงยุติการค้นหา ความกระตือรือล้นเกี่ยวกับเพื่อนใหม่ลดลง ลองสำรวจดูในป่าบริเวณเชิงเขา พบว่าผลไม้หลายชนิดสามารถกินได้อย่างไม่เป็นพิษ อร่อยกว่าอาหารสำเร็จรูปมากมาย
ขณะกำลังง่วนอยู่กับผลไม้อาหารการกิน ความรู้สึกว่ามีใครบางคนกำลังวนเวียนอยู่รอบบริเวณก็เกิดขึ้นอีก ไม่น่าจะเป็นอาการประสาทหลอน เพราะมั่นใจตัวเองว่า ยังไม่ควรถึงช่วงเวลาแห่งความบ้า
เออ...ไม่เป็นไร ฉันจะหาทางตามตัวแกจนเจอ...ผมคำรามอย่างหมายมั่นปั้นมือ ถ้าไม่ตายเสียก่อน มีเวลาเหลือเฟือในการสำรวจดวงดาว ไม่เห็นจำเป็นต้องรีบร้อน ไม่ว่าจะเป็นอะไร ถ้าอยากติดต่อสื่อสาร ไม่ช้าก็เร็วคงหาทางสื่อสารมาเอง เป็นคนต้องไว้เชิงบ้าง เพราะผมเองก็ไม่ได้เดือดร้อน เวลาเริ่มบ่ายคล้อยลงมาก ผมจึงเดินกลับที่พัก ซึ่งคือยานแทนยานั่นเอง
ขณะมาถึงยาน ลองสำรวจพื้นดินบริเวณโดยรอบ ไม่พบสิ่งผิดปกติ จึงพอแน่ใจได้ว่า ไม่มีใครต้องการขโมยยานอวกาศบินหนี อากาศเริ่มเย็นลง ท้องฟ้ามืดดำ มีเพียงท้องฟ้าด้านทิศตะวันตกมีแสงเรื่อเรืองติดขอบฟ้าอยู่บ้าง มองไปสุดสายตาเห็นเพียงความมืดมากขึ้นทุกที ความรู้สึกว่าบางอย่างกำลังวนเวียนรอบนอกอาณาเขตส่วนตัวเกิดขึ้นอีก
“เฮ้...” ผมหันหน้าไปทิศทางที่เพิ่งเดินผ่านมา ตะโกนเสียงดัง “ ไม่ว่าแกเป็นใคร แน่จริงโผล่หน้ามาให้เห็นหน่อยสิ อย่ามาทำลับ ๆ ล้อๆ ไม่ชอบนะเฟ้ย”
แน่นอนว่า มีเพียงความเงียบสงบเป็นคำตอบ สายลมพัดแผ่วเบาแต่เย็นยะเยือก ผมจัดการปิดประตูยานป้องกันความหนาว เปิดไฟฟ้าในยานให้สว่าง ไม่กังวลเรื่องพลังงานไฟฟ้า เพราะโซลาร์เซลล์รุ่นใหม่เก็บกักพลังงานแสงแดดได้ดี เก็บสะสมในแบตเตอรี่ของยานมานาน ไฟฟ้าพร้อมเต็มที่ ใช้ได้อีกเป็นเดือน
“คุณไปไหนมา” เสียงทักของจอห์นทำให้ผมสะดุ้ง หนอย... เจ้าหมอนี่ทะลึ่งเปิดโปรแกรมตัวเองขึ้นมา ทั้งที่ยังไม่ได้สั่ง อีกหน่อยมันคงก่อกบฏยึดยาน
“ใครอนุญาตให้แกทำงานเอง” ผมต่อว่า ขณะเดินมานั่งเก้าอี้หน้าคอนโซลในห้องควบคุม หน้าจอปรากฏภาพไอคอนใบหน้ากลม ๆ ที่รู้จักกันมานาน แสดงปากยิ้มเล็กน้อยลอยวนไปมาหน้าจอ
“ผมถูกโปรแกรมให้ทำงานเองได้เมื่อจำเป็น” เสียงสังเคราะห์ดังผ่านลำโพงมุมห้องด้านบน
“มันจำเป็นแค่ไหนกัน” ผมไม่ปกปิดน้ำเสียงมีแววไม่พอใจ เพราะรู้ว่าเจ้าจอห์น มันสามารถรับรู้อารมณ์ผ่านเสียงได้
“ก็จำเป็นเท่าที่จำเป็น” ดูมันตอบกวนชะมัด
“ผ่าเถอะ ถ้าแกเป็นคน ฉันจะเตะแกให้พับไปเลย”
“เสียใจด้วยครับ ผมไม่ใช่คน” เสียงพูดราบเรียบ “ผมพยายามส่งข้อมูลไปยังโลก แต่ล้มเหลว ข้อมูลของดาวดวงนี้จะต้องทำให้ชาวโลกตื่นเต้นแน่นอน คุณควรจะส่งข้อมูลกลับโลกได้แล้ว”
“เรื่องนั้นฉันตัดสินใจเอง ต่อไปนี้แกไม่ต้องยุ่ง” ผมตัดบท จอห์นเงียบเสียงลง บางทีมันอาจกำลังวิเคราะห์ข้อมูลอยู่ก็เป็นได้ ว่าทำไมผมถึงไม่พยายามติดต่อกับโลกมนุษย์ หรือไม่ก็เพราะว่ามันไม่อยากพูดเรื่อยเปื่อย ท่าทางรู้มากขึ้นทุกวัน สงสัยต้องหาโปรแกรมผู้หญิงมาควบคุมจอห์นสักโปรแกรม แต่จะหาจากไหนล่ะ โปรแกรมผู้หญิงดุเข้มเอามาเป็นแฟนเจ้าจอห์น ดูสิว่าจะกล้าหือไหม คิดแล้วก็อดยิ้มไม่ได้
“เออนี่...จอห์น ฉันอยากให้แกตรวจจับสิ่งมีชีวิตรอบยานตลอดคืนนี้” ผมออกคำสั่งอย่างเพิ่งนึกได้ ยานเต็มไปด้วยอุปกรณ์เซ็นเซอร์วัดข้อมูลมากมาย ทั้งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า คลื่นเสียง อินฟราเรด สารพัด ไม่ยากที่จะใช้ประโยชน์
“ได้ครับ ผมสามารถสแกนหาข้อมูลในรัศมีหนึ่งกิโลเมตรจากยาน” จอห์นตอบรับทันที หมายถึงว่าไม่มีอะไรเป็นปัญหา คราวนี้ก็จะรู้กันเสียทีว่าจะมี อะไร หรือใคร มาเยี่ยมเยือนในยามราตรีอีกไหม
จะว่าไปจอห์นก็มีข้อดี ที่ไม่เป็นโปรแกรมผู้หญิง ซึ่งมักคิดมาก คิดเอง เออเอง เชื่อเองเรื่องมาก ผมอดคิดถึงแอนนาไม่ได้ตามเคย คงต้องใช้เวลาอีกสักพัก ในการควบคุมความคิดถึงเธอให้น้อยลง ดีใจว่าตัวเองทำถูกแล้วกับการเดินทางหนีจากโลกมนุษย์ สถานที่ซึ่งมีแต่ความทรงจำเชื่อมโยงถึงแอนนา ในฐานข้อมูลยานไม่มีข้อมูลของแอนนาติดมาด้วย คงจะทำให้ทำใจได้เร็วขึ้น
ผมไม่ได้นึกถึงเรื่องจบชีวิตของตัวเองสักเท่าไร ความกระตือรือร้นในการสำรวจดาวดวงใหม่มีความหมาย และท้าทายมากกว่า มาคิดดูอีกที ผมก็ไม่ต่างจากคนตายไปแล้วในสายตาของชาวโลก ถ้าไม่มีติดต่อกลับ พวกเขาจะลืมเลือนผมไปในที่สุด และคงไม่มีใครอยากมาสำรวจดาวมรณะ
การพยายามลืมใครสักคน ไม่ใช่เรื่องง่าย ผมเปิดเพลงฟังขับกล่อมอารมณ์ตัวเอง จะได้ไม่หมกหมุ่นครุ่นคิดถึงแอนนามากเกินไป เพลงบรรเลงจากการสังเคราะห์คลื่นเสียงส่งผลต่อสภาพจิตใจนึกฝันได้ตามความต้องการ ภาพวิวทิวทัศน์สวยงามปรากฏขึ้นในจินตนาการชัดเจน อันเป็นผลจากการที่สมองถูกกระตุ้นด้วยคลื่นเสียงความถี่พิเศษแบบเหมาะสม ทำให้จิตใจล่องลอยไปในโลกแห่งมายาฝัน
...............
ตำนานรัก ข้ามจักรวาล......บทที่ 2 (เฮเว่น)
https://pantip.com/topic/40330702/comment4-6
ท้ายบทที่แล้ว
มีรอยเท้าประหลาด ปรากฏวนเวียนรอบยานในรัศมีห้าสิบเมตร เพราะพื้นส่วนใหญ่ป็นหินแข็ง จึงสังเกตไม่ชัดเจน แต่ก็พอสรุปได้ว่า เมื่อคืนมีบางอย่างวนเวียนอยู่รอบยานอย่างที่รู้สึก
เอาละสิ
บนดาวดวงนี้มีสิ่งมีชีวิต
..........
ไม่ว่าจะเป็นอะไร ก็สร้างความตื่นเต้นได้มากสมควร แน่นอนว่าผมไม่ได้รู้สึกวิตกหวาดกลัวอะไรมากมาย เป็นความอยากรู้มากกว่า ว่าคืออะไรกันแน่ ผู้มาเยือนลึกลับยามราตรีต้องการอะไร
แสงสว่างเริ่มจากขอบฟ้าทิศตะวันออก ราวกับเป็นรุ่งอรุณอันสดชื่น นี่เป็นสิ่งที่ผมชอบมาก เวลาเช้าตรู่เย็นฉ่ำสบายที่แสนวิเศษ ทำให้อารมณ์ดีอย่างประหลาด
สำรวจบริเวณไหนก่อน ?...
รู้สึกว่าต้องทำทั้งที่ไม่มีความจำเป็น หรือดวงดาวแห่งนี้กำลังบงการ อดคิดเล่น ๆ ไม่ได้ คนเราบางทีก็เหมือนแมว อยากรู้อยากเห็น สำรวจไปทั่ว ทั้งที่ยังไม่รู้ถึงประโยชน์
ทิศตะวันตก...ผมตัดสินใจอย่างมีหลักการ เมื่อวานไปทิศตะวันออก วันนี้ลองไปทิศทางตรงกันข้ามดูบ้าง ผมทานอาหารเช้าอย่างง่าย ๆ รอจนสายจึงปิดโปรแกรมจอห์น ป้องกันการส่งข้อมูลอัตโนมัติ เพราะไม่อยากให้ข้อมูลดวงดาวรั่วไหล สวมชุดสำรวจให้เรียบร้อย เดินมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตก ด้านนี้ทิวเขาปรากฏอยู่ไม่ไกล น่าจะเดินไปถึงไม่ยาก
ผ่านโขดหินใหญ่น้อยระเกะระกะ ใช้เวลาครึ่งชั่วโมง ก็มาถึงเนินเขาเล็ก ๆ ถัดไปเป็นป่าค่อนข้างหนาทึบมากกว่าแนวด้านทิศตะวันออก ภูเขาอยู่เบื้องหน้า มีสายธารกว้างสิบกว่าเมตรไหลผ่านขวางทาง
มีแม่น้ำด้วย ให้มันได้อย่างนี้สิ...ผมร้องในใจอย่างคาดไม่ถึง วันก่อนเห็นแอ่งน้ำก็เหลือเชื่อแล้ว นี่แม่น้ำทั้งสาย! ไม่มากไปหน่อยแล้วหรืออย่างไร ระยะความกว้างของแม่น้ำไม่น่าต่ำกว่าสิบเมตรน่าจะเป็นปัญหา
แต่พอทดลองเดินลงน้ำไปสำรวจ พบว่ากระแสน้ำไหลเอื่อย ไม่รุนแรงน่ากลัว ความลึกมากที่สุดอยู่ในระดับเมตรนิด ๆ เท่านั้น สามารถเดินข้ามไปได้ อุณหภูมิน้ำเหมือนผ่านเครื่องทำน้ำอุ่น ให้ความรู้สึกอยากแช่ให้สบายตัว และนั่นคือสิ่งที่ผมทำ
สนุกละสิ มีแม่น้ำอุ่น ๆ ด้วย แต่ยังไม่มีสัตว์น้ำเสนอหน้ามาทักทาย
แช่น้ำรับรู้สัมผัสความอุ่นจนพอใจ จึงเดินข้ามแม่น้ำ ชุดสำรวจป้องกันน้ำได้ ไม่ก่อปัญหาเรื่องความเปียกชื้น ชายหาดริมธารเป็นพื้นทรายสลับแผ่นหินใหญ่น้อยสวยงาม ผมมองด้วยความรู้สึกสุขสงบ แม้จะรู้สึกว่าบรรยากาศหนาวเย็น รู้สึกประหลาดใจเมื่อสัมผัสถึงกระแสลมอุ่นผิดปกติพัดมาจากภูเขาสูง
แม่น้ำอุ่น กระแสลมอุ่น ยามรุ่งอรุณ เป็นความรู้สึกดี ๆ
ก็ไม่เลว..สำหรับที่นี่ คิดว่าพออาศัยอยู่ได้นาน เท่าที่ต้องการ
คิดถึงแอนนาอีกแล้ว ความคิดเจ้ากรรม ความพิสดารแห่งความคิดอย่างหนึ่งคือการควบคุมมันได้ยาก หรือไม่ได้เลย ไม่แน่...อาจมีเวลาว่างพอจะนั่งสมาธิลองดูก็ได้ ศึกษาศาสตร์โบราณดูบ้างคงไม่เสียหลาย ไม่ละ... คนอย่างผมนั่งสมาธิ ขัดอิมเมจ เงยหน้ามองท้องฟ้า ร้องเสียงดัง
“แอนนา เสียใจด้วยนะที่คุณไม่ได้มากับผม”
เปล่า...ผมไม่ได้รู้สึกเสียใจจริง ๆ การตะโกนให้ความรู้สึกเสมือนปลดปล่อยบางอย่าง ไม่อยากคิดถึงแอนนามากเกินไปก็เท่านั้น เธอจากไปกับชายอื่นแล้ว สายลมพัดมาจากภูเขา ทำให้เริ่มอยากเดินไปดูว่ากระแสลมอุ่นมาจากไหนกัน เดาว่าอาจพัดออกมาจากโพรงถ้ำที่กักเก็บความร้อนไว้ จึงให้รู้สึกถึงความอบอุ่นพัดผ่าน ถ้าจะให้แน่ใจต้องเดินไปตรวจดู อาจจะพบว่ากระแสลมพัดออกมาจากปากถ้ำ อาจมีแหล่งสร้างพลังงานความร้อนอะไรสักอย่างอยู่ด้านใน
มีถ้ำขนาดใหญ่ใต้หน้าผาสูงจริงด้วย ขณะกำลังยืนด้อม ๆ มอง ๆ หน้าทางเข้า หางตาก็มองเห็นอะไรบางอย่างเคลื่อนตัวอยู่ในแนวหินด้านข้าง ผมหันไปมองตามสัญชาตญาณ เร็วพอมองเห็นใครบางคน หลบวูบไปหลังโขดหินใหญ่
รูปร่างคล้ายมนุษย์! หัวใจเต้นแรงทันที แน่ใจว่าไม่ได้คิดไปเอง นี่อาจเป็นการค้นพบอย่างใหม่เอี่ยม ไม่ว่าจะเป็นใคร หรืออะไร สิ่งนั้นไม่ควรจะเป็นอันตราย เพราะคาดคะเนดูแล้ว ถ้าเจ้าสิ่งลึกลับต้องการเล่นงานผม คงทำได้หลายครั้งแล้วหลังจากลงมาเหยียบพื้นดวงดาว ความอยากรู้อยากเห็นมีมากกว่าความกลัว ผมเดินตรงไปยังบริเวณที่เงาประหลาดวูบหายไป
มีรอยเท้า
เป็นรอยเท้าของมนุษย์ชัด ๆ รอยเท้าใครบางคน ลักษณะไม่ได้สวมรองเท้า ก้าวย่ำบนพื้นทราย อ้อมไปด้านหลังโขดหินใหญ่ แล้วขึ้นไปบนพื้นหินแข็ง ผมได้แต่นึกเสียดาย เพราะไม่สามารถแกะรอยเท้าต่อไปได้
ดาวดวงนี้มีสิ่งมีชีวิต แถมยังอาจจะเป็นมนุษย์เสียด้วย ถ้าไม่ใช่มนุษย์ ก็ต้องเป็นตัวอะไรที่มีเท้าเหมือนมนุษย์
ไม่น่าเป็นไปได้ ถ้าจะเป็นพวกมนุษย์ต่างดาว มีรูปร่างเหมือนชาวโลก จะไม่บังเอิญมากไปหน่อยหรือ บอกไม่ถูกว่าตกใจหรือแปลกใจ อุตส่าห์วางแผนหนีชาวโลกมาดวงดาวที่ไม่มีใครอยากสำรวจ ยังจะมาพบมนุษย์เข้าให้อีก
ใจหนึ่งก็รู้สึกดีใจเล็ก ๆ บางทีอาจไม่เลวเสียเลยทีเดียว ถ้ามีใครสักคนเป็นเพื่อน ความรู้สึกสับสนปนเปกันไปหมด กวาดสายตามองไปรอบบริเวณ ตามแนวโขดหินก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ
ผมพยายามระงับสติอารมณ์ คิดตามหลักเหตุผล ถ้ามีมนุษย์ พวกเขาก็ควรจะต้องมีแหล่งพำนักอาศัย มีสิ่งก่อสร้าง เครื่องมือเครื่องใช้ ปรากฏให้เห็น ถ้าลองสำรวจไกลออกไปอีก ก็ควรพบแหล่งอารยธรรมสักแห่ง นอกจากว่าพวกเขาเป็นมนุษย์ถ้ำ ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำลึกไปตามแนวเขายาวเหยียด ความคิดดังกล่าวทำให้ผมเริ่มวางเป้าหมายการสำรวจทันที ง่ายที่สุดก็ควรเริ่มต้นตามถ้ำต่าง ๆ แต่หลังจากการลองดูตามถ้ำหลายแห่งแถวนั้น ไม่พบร่องรอยหลักฐานแห่งอารยธรรม ไม่มีสิ่งของเครื่องใช้ปรากฏให้เห็นแม้สักชิ้น
เวลาบ่ายคล้อย จึงยุติการค้นหา ความกระตือรือล้นเกี่ยวกับเพื่อนใหม่ลดลง ลองสำรวจดูในป่าบริเวณเชิงเขา พบว่าผลไม้หลายชนิดสามารถกินได้อย่างไม่เป็นพิษ อร่อยกว่าอาหารสำเร็จรูปมากมาย
ขณะกำลังง่วนอยู่กับผลไม้อาหารการกิน ความรู้สึกว่ามีใครบางคนกำลังวนเวียนอยู่รอบบริเวณก็เกิดขึ้นอีก ไม่น่าจะเป็นอาการประสาทหลอน เพราะมั่นใจตัวเองว่า ยังไม่ควรถึงช่วงเวลาแห่งความบ้า
เออ...ไม่เป็นไร ฉันจะหาทางตามตัวแกจนเจอ...ผมคำรามอย่างหมายมั่นปั้นมือ ถ้าไม่ตายเสียก่อน มีเวลาเหลือเฟือในการสำรวจดวงดาว ไม่เห็นจำเป็นต้องรีบร้อน ไม่ว่าจะเป็นอะไร ถ้าอยากติดต่อสื่อสาร ไม่ช้าก็เร็วคงหาทางสื่อสารมาเอง เป็นคนต้องไว้เชิงบ้าง เพราะผมเองก็ไม่ได้เดือดร้อน เวลาเริ่มบ่ายคล้อยลงมาก ผมจึงเดินกลับที่พัก ซึ่งคือยานแทนยานั่นเอง
ขณะมาถึงยาน ลองสำรวจพื้นดินบริเวณโดยรอบ ไม่พบสิ่งผิดปกติ จึงพอแน่ใจได้ว่า ไม่มีใครต้องการขโมยยานอวกาศบินหนี อากาศเริ่มเย็นลง ท้องฟ้ามืดดำ มีเพียงท้องฟ้าด้านทิศตะวันตกมีแสงเรื่อเรืองติดขอบฟ้าอยู่บ้าง มองไปสุดสายตาเห็นเพียงความมืดมากขึ้นทุกที ความรู้สึกว่าบางอย่างกำลังวนเวียนรอบนอกอาณาเขตส่วนตัวเกิดขึ้นอีก
“เฮ้...” ผมหันหน้าไปทิศทางที่เพิ่งเดินผ่านมา ตะโกนเสียงดัง “ ไม่ว่าแกเป็นใคร แน่จริงโผล่หน้ามาให้เห็นหน่อยสิ อย่ามาทำลับ ๆ ล้อๆ ไม่ชอบนะเฟ้ย”
แน่นอนว่า มีเพียงความเงียบสงบเป็นคำตอบ สายลมพัดแผ่วเบาแต่เย็นยะเยือก ผมจัดการปิดประตูยานป้องกันความหนาว เปิดไฟฟ้าในยานให้สว่าง ไม่กังวลเรื่องพลังงานไฟฟ้า เพราะโซลาร์เซลล์รุ่นใหม่เก็บกักพลังงานแสงแดดได้ดี เก็บสะสมในแบตเตอรี่ของยานมานาน ไฟฟ้าพร้อมเต็มที่ ใช้ได้อีกเป็นเดือน
“คุณไปไหนมา” เสียงทักของจอห์นทำให้ผมสะดุ้ง หนอย... เจ้าหมอนี่ทะลึ่งเปิดโปรแกรมตัวเองขึ้นมา ทั้งที่ยังไม่ได้สั่ง อีกหน่อยมันคงก่อกบฏยึดยาน
“ใครอนุญาตให้แกทำงานเอง” ผมต่อว่า ขณะเดินมานั่งเก้าอี้หน้าคอนโซลในห้องควบคุม หน้าจอปรากฏภาพไอคอนใบหน้ากลม ๆ ที่รู้จักกันมานาน แสดงปากยิ้มเล็กน้อยลอยวนไปมาหน้าจอ
“ผมถูกโปรแกรมให้ทำงานเองได้เมื่อจำเป็น” เสียงสังเคราะห์ดังผ่านลำโพงมุมห้องด้านบน
“มันจำเป็นแค่ไหนกัน” ผมไม่ปกปิดน้ำเสียงมีแววไม่พอใจ เพราะรู้ว่าเจ้าจอห์น มันสามารถรับรู้อารมณ์ผ่านเสียงได้
“ก็จำเป็นเท่าที่จำเป็น” ดูมันตอบกวนชะมัด
“ผ่าเถอะ ถ้าแกเป็นคน ฉันจะเตะแกให้พับไปเลย”
“เสียใจด้วยครับ ผมไม่ใช่คน” เสียงพูดราบเรียบ “ผมพยายามส่งข้อมูลไปยังโลก แต่ล้มเหลว ข้อมูลของดาวดวงนี้จะต้องทำให้ชาวโลกตื่นเต้นแน่นอน คุณควรจะส่งข้อมูลกลับโลกได้แล้ว”
“เรื่องนั้นฉันตัดสินใจเอง ต่อไปนี้แกไม่ต้องยุ่ง” ผมตัดบท จอห์นเงียบเสียงลง บางทีมันอาจกำลังวิเคราะห์ข้อมูลอยู่ก็เป็นได้ ว่าทำไมผมถึงไม่พยายามติดต่อกับโลกมนุษย์ หรือไม่ก็เพราะว่ามันไม่อยากพูดเรื่อยเปื่อย ท่าทางรู้มากขึ้นทุกวัน สงสัยต้องหาโปรแกรมผู้หญิงมาควบคุมจอห์นสักโปรแกรม แต่จะหาจากไหนล่ะ โปรแกรมผู้หญิงดุเข้มเอามาเป็นแฟนเจ้าจอห์น ดูสิว่าจะกล้าหือไหม คิดแล้วก็อดยิ้มไม่ได้
“เออนี่...จอห์น ฉันอยากให้แกตรวจจับสิ่งมีชีวิตรอบยานตลอดคืนนี้” ผมออกคำสั่งอย่างเพิ่งนึกได้ ยานเต็มไปด้วยอุปกรณ์เซ็นเซอร์วัดข้อมูลมากมาย ทั้งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า คลื่นเสียง อินฟราเรด สารพัด ไม่ยากที่จะใช้ประโยชน์
“ได้ครับ ผมสามารถสแกนหาข้อมูลในรัศมีหนึ่งกิโลเมตรจากยาน” จอห์นตอบรับทันที หมายถึงว่าไม่มีอะไรเป็นปัญหา คราวนี้ก็จะรู้กันเสียทีว่าจะมี อะไร หรือใคร มาเยี่ยมเยือนในยามราตรีอีกไหม
จะว่าไปจอห์นก็มีข้อดี ที่ไม่เป็นโปรแกรมผู้หญิง ซึ่งมักคิดมาก คิดเอง เออเอง เชื่อเองเรื่องมาก ผมอดคิดถึงแอนนาไม่ได้ตามเคย คงต้องใช้เวลาอีกสักพัก ในการควบคุมความคิดถึงเธอให้น้อยลง ดีใจว่าตัวเองทำถูกแล้วกับการเดินทางหนีจากโลกมนุษย์ สถานที่ซึ่งมีแต่ความทรงจำเชื่อมโยงถึงแอนนา ในฐานข้อมูลยานไม่มีข้อมูลของแอนนาติดมาด้วย คงจะทำให้ทำใจได้เร็วขึ้น
ผมไม่ได้นึกถึงเรื่องจบชีวิตของตัวเองสักเท่าไร ความกระตือรือร้นในการสำรวจดาวดวงใหม่มีความหมาย และท้าทายมากกว่า มาคิดดูอีกที ผมก็ไม่ต่างจากคนตายไปแล้วในสายตาของชาวโลก ถ้าไม่มีติดต่อกลับ พวกเขาจะลืมเลือนผมไปในที่สุด และคงไม่มีใครอยากมาสำรวจดาวมรณะ
การพยายามลืมใครสักคน ไม่ใช่เรื่องง่าย ผมเปิดเพลงฟังขับกล่อมอารมณ์ตัวเอง จะได้ไม่หมกหมุ่นครุ่นคิดถึงแอนนามากเกินไป เพลงบรรเลงจากการสังเคราะห์คลื่นเสียงส่งผลต่อสภาพจิตใจนึกฝันได้ตามความต้องการ ภาพวิวทิวทัศน์สวยงามปรากฏขึ้นในจินตนาการชัดเจน อันเป็นผลจากการที่สมองถูกกระตุ้นด้วยคลื่นเสียงความถี่พิเศษแบบเหมาะสม ทำให้จิตใจล่องลอยไปในโลกแห่งมายาฝัน
...............