Oneplus และ Samsung เองนั้นก็ถือว่าเป็นแบรนด์ที่คุ้นเคยกันดีสำหรับใครหลายๆคนที่ติดตามทางเพจเราหรือว่าจะเป็นคนที่เล่นมือถือหลายๆคนนั้นน่าจะรู้จัก Oneplus กันแน่นอนครับ ส่วนทางด้าน Samsung นั้นต้องบอกว่ามีความได้เปรียบมากกว่าถ้ามองกันในเรื่องของที่คนทั่วไปนั้นอาจจะรู้จักมากกว่า แต่ทั้ง 2 แบรนด์นี้ต้องบอกกันเลยว่าคุณภาพสินค้า การใช้งานรวมถึงเรือธงแต่ละรุ่นที่ออกมานั้นทำได้ดีสูสีกันอย่างมาก และครั้งนี้เองเราเลยขอเอามาเทียบกันระหว่างรุ่นล่าสุดที่มาพร้อมกับสเปกอะไรไม่ได้หนีกันมากนัก รวมถึงการใช้งานด้วยคือตัว Oneplus 8T 5G รุ่นล่าสุด เทียบกับ Samsung Galaxy S20 FE 5G รุ่นล่าสุดจากทาง Samsung ที่ใช้งาน Snapdragon 865 เหมือนกันทั้งคู่ จุดนี้ทำให้น่าสนใจมากขึ้นและเรื่องหน้าจอ 120Hz เหมือนกันงานออกแบบหน้าจอเจาะรูเหมือนกัน มีอะไรหลายๆอย่างในคู่นี้ที่น่าสนใจมากๆด้วยเช่นกันครับ ส่วนทางด้านราคาเปิดตัวก็หนีกันไม่มากนักครับทั้ง 2 รุ่นนี้
Samsung Galaxy S20 FE 5G นั้นเปิดตัวมาพร้อมกับการใช้งาน Snapdragon 865 เป็นครั้งแรกที่มาขายในไทยในสเปกแบบนี้เพราะทางค่ายนี้ปกติจะเน้นใช้งาน Exynos นั้นเอง แต่ก็เป็นรุ่นที่ทำออกมาเน้นราคาคุ้มค่า ลดสเปกวัสดุอะไร แต่ก็ใส่ในเรื่องของ CPU ตัวนี้เข้ามาแทนนั้นเองครับ ใช้งาน ส่วนทางด้าน Oneplus 8T 5G เองนั้นหลายๆคนคงจะทราบกันแล้วว่าใช้งาน Snapdragon มาตลอดในรุ่นนี้ใช้งาน Snapdragon 865 เช่นกันพร้อมกับ RAM 8GB STORAGE 128GB ในรุ่นที่นำมาเทียบ พร้อมกับ หน้าจอ Fluid AMOLED ขนาด 6.55 นิ้วใช้งาน 120Hz และ ความสว่าง 1,100 NITS พร้อมกับ Android 11 และ Oxygen OS รุ่นล่าสุด กล้องในรุ่นนี้ให้มาทั้งหมด 4 ตัวครับ กล้องหลัง 48MP (f/1.7) ที่ใช้เซนเซอร์ Sony IMX586, ขนาดพิกเซล 0.8μm, รองรับ OIS + EIS Hybrid stabilization + กล้อง ultra-wide 123 องศา 16MP (f/2.2) ใช้เซนเซอร์ Sony IMX481 + กล้องมาโคร 3ซม. 5MP + กล้องจับความลึก 2MP, ถ่ายวิดีโอ 4K ได้ที่ 60fps, ถ่าย slow motion 720p ได้ที่ 480fps, ถ่าย slow motion 1080p ได้ที่ 240fps และใช้งาน กล้องหน้า 16MP (f/2.45) ที่ใช้เซนเซอร์ Sony IMX471, รองรับ EIS พร้อมกับ ลำโพงคู่ Dolby Atmos และ แบตเตอรี่ 4,500 mAh ที่รองรับ Warp Charge 65W ถือว่าสเปกนั้นก็จัดเต็มไม่แพ้กัน และได้ชาร์จไว 65W
PRICE
- ONEPLUS 8T 5G เปิดราคามาที่ 24,990 บาท RAM 8GB STORAGE 128GB
- SAMSUNG GALAXY S20 FE 5G เปิดราคามาที่ 23,900 บาท RAM 8GB STORAGE 128 GB
DESIGN
งานออกแบบในทั้ง 2 รุ่นนี้ถือว่ามีความแตกต่างกันชัดเจนครับ ทั้งเรื่องของการวางกล้องรวมถึงวัสดุและทางด้านหน้าจอด้วยเช่นกัน ทางด้าน 1+8T5G นั้นเราจะเห็นการใช้งานหน้าจอแบบเจาะรูมุมซ้ายของตัวเครื่องพร้อมกับดีไซน์ที่มีความโค้งมนและในด้านหลังนั้นจะใช้งานวัสดุกระจกจริงๆแบบด้านเล่นแสงสีสวยงามพร้อมกล้องวางแบบ 2 แถวดีไซน์อะไรจะเน้นความโค้งมนต่างๆแต่ถ้ามองในตัว S20FE5G นั้นเราจะเห็นว่ามีความเหลี่ยมมากกว่า ทั้งรูปทรงและรายละเอียดต่างๆรวมถึงวัสดุฝาหลังของ S20FE5G นั้นจะเป็นวัสดุแบบพลาสติกทั้งหมดในฝาหลังทำแบบด้านครับ
หน้าจอนั้นมีความแตกต่างกันในเรื่องของงานออกแบบ ทางด้าน Samsung มาพร้อมกับหน้าจอ Super AMOLED Infinity-O ขนาด 6.5 นิ้ว (2400 × 1080 pixels) Full HD+, 407 PPI, รีเฟรชเรท 120Hz ใช้กระจก Gorilla Glass 3 และทาง 1+8T5G นั้นมาพร้อมกับ หน้าจอ Fluid AMOLED ขนาด 6.55 นิ้ว (1080 x 2400 พิกเซล) Full HD+, 402 ppi, อัตราส่วน 20:9, มีรีเฟรชเรท 120Hz, รองรับ HDR 10+, ความสว่าง 1100 nits, ใช้กระจก Gorilla Glass 5 ถือว่ามีความสูสีมากๆในเรื่องของ 120Hz FHD+ แต่ถ้ามองเรื่องงานออกแบบนั้นจะแตกต่างกันเล็กน้อย
ขอบหน้าจอส่วนบนนั้นเราจะเห็นว่าเป็นการใช้งานหน้าจอแบบเจาะรูกล้องทั้งคู่ แต่แตกต่างกันในเรื่องของการวางตำแหน่งครับ และความโค้งมนนั้นทางด้าน Oneplus เองนั้นจะมีมากกว่าด้วย ส่วนความบางไม่ได้หนีกันมากครับ กล้องหน้านั้นทาง Oneplus 8T 5G นั้นใช้งาน กล้องหน้า 16MP (f/2.45) ที่ใช้เซนเซอร์ Sony IMX471, รองรับ EIS ส่วนของทาง Samsung นั้นจะใช้งาน กล้องหน้ามุมกว้าง 80° 32MP (f/2.0) ถือว่าแตกต่างกัน
ขอบด้านล่างนั้นถ้ามองในแง่การออกแบบทาง Oneplus 8T 5G นั้นจะมีความหนาของขอบเครื่องมากกว่าเล็กน้อยครับ และตัวเครื่องมีความเหลี่ยมมากกว่า ส่วนปุ่มการควบคุมตัวเครื่องนั้นก็สามารถเปลี่ยนได้เหมือนกันทั้งคู่เลยครับ
ขอบเครื่องด้านบนนั้นเราจะเห็นว่ามีไมค์อัดเสียง และ ตัดเสียงใส่เข้ามาให้พร้อมกับดีไซน์ขอบเครื่องแบบปัดเงาด้วยกันทั้งคู่ครับ แต่ทางด้าน Samsung เองนั้นจะใส่ถาดซิมเข้ามาให้ในด้านบนนี้ แต่ของทาง Oneplus นั้นไม่ได้ใส่
ขอบเครื่องด้านขวาเราจะเห็นว่าตัวเครื่องนั้นมีการวางตำแหน่งปุ่มระยะใกล้เคียงกัน ส่วน Oneplus เองนั้นจะมีเอกลักษณ์การใส่ปุ่ม Alert Slider เข้ามาสำหรับการเปิด ปิดเสียงเรียกเข้า และปุ่ม Power แต่ของ Samsung นั้นจะเป็นปุ่ม เพิ่มลดเสียง และ ปุ่ม Power นั้นเอง ที่แตกต่างกันครับ
ขอบเครื่องด้านล่างนั้นจะเป็นลำโพงหลักของเครื่อง เป็นลำโพงคู่ทั้ง 2 รุ่นนะครับ อีกตัวนั้นจะเป็นตำแหน่งบนหน้าจอเหนือกล้องหน้า ส่วนพอร์ทด้านล่างนั้นจะเป็น USB-C เหมือนกันทั้งคู่ พร้อมรูไมค์ และ ทางด้าน Oneplus นั้นจะใส่ถาดซิมเข้ามา แต่ของ Samsung จะอยู่ขอบเครื่องด้านบนนั้นเอง
ด้านซ้ายนั้นทางด้าน Oneplus นั้นใส่เป็นปุ่ม เพิ่ม-ลด เสียงใส่เข้ามาให้ แต่ของ Samsung เองนั้นจะไว้ทางขวา ความหนาอะไรนั้นไม่ได้แตกต่างกันมาก ฝาหลังมีการโค้งรับมือได้ดี แต่วัสดุนั้น Samsung จะเป็นฝาหลังพลาสติก
ถาดซิมนั้นรองรับการใช้งาน Dual SIM ทั้งคู่ แต่ทางด้าน Samsung นั้นจะเป็นถาดซิมแบบ Hybrid ที่รองรับการเพิ่ม Micro SD ด้วยนั้นเองที่แตกต่างกัน และจะเห็นว่าทั้ง 2 รุ่นนี้มีการใส่ใช้งานยางกันน้ำ ซีลมาให้ใช้งานด้วย
ฝาหลังนั้นเป็นจุดที่แตกต่างกันที่สุดระหว่าง 2 รุ่นนี้เพราะว่าวัสดุนั้นทางด้าน Oneplus นั้นใช้วัสดุสีเงินด้านเล่นแสงสีสวยงามและเป็นกระจกด้านครับทำให้ความรู้สึกในการจับถือเทียบกันนั้นมีความแตกต่างกันชัดเจนความพรีเมี่ยมนั้น Oneplus 8T 5G ทำได้ดีกว่าพอสมควร ส่วนการวางกล้องมุมซ้ายเหมือนกันทั้งหมด และ ฝาหลัง S20FE นั้นจะเป็น พลาสติกครับ แอบไม่พรีเมี่ยมและไม่สวยเท่าของทาง Oneplus รวมถึงเวลาจับถือนั้นมีความแตกต่างกันมากๆ
สำหรับกล้องหลังนั้นเราจะเห็นว่าจำนวนกล้องแอบแตกต่างกันและการวางกล้องรวมถึงขนาดต่างๆนั้นมีความแตกต่างกันด้วย และทาง Oneplus 8T 5G มีการใส่เซนเซอร์ Flicker Sensor มาให้สำหรับป้องการ การกระพริบ ที่เห็นสีขาวๆตรงกล้องเหนือแฟลชนั้นเอง ส่วนกล้องนั้นมาพร้อมกับ กล้องหลัง 48MP (f/1.7) ที่ใช้เซนเซอร์ Sony IMX586, ขนาดพิกเซล 0.8μm, รองรับ OIS + EIS Hybrid stabilization + กล้อง ultra-wide 123 องศา 16MP (f/2.2) ใช้เซนเซอร์ Sony IMX481 + กล้องมาโคร 3ซม. 5MP + กล้องจับความลึก 2MP, และทางด้าน Samsung S20 FE 5G นั้นจะมาพร้อมกับ กล้องหลังมุมกว้าง 79˚12MP (f/1.8), รองรับ PDAF, OIS + กล้องเทเล 8MP (f/2.4), รองรับ PDAF, OIS, ซูมแบบ Optical ได้ 3X, ซูมแบบ Super Resolution 30x + กล้อง Ultra Wide 123° 12MP (f/2.2), LED Flash ถือว่าเน้นความแตกต่างกันชัดเจน S20FE จะได้เลนส์เทเลเข้ามา แต่ของ Oneplus นั้นจะเน้น มาโคร และ กล้อง จับระยะ ที่เสริมเข้ามาครับ
SPEC SAMSUNG GALAXY S20 FE
- หน้าจอ Super AMOLED Infinity-O ขนาด 6.5 นิ้ว (2400 × 1080 pixels) Full HD+, 407 PPI, รีเฟรชเรท 120Hz ใช้กระจก Gorilla Glass 3
- ชิปประมวลผล Snapdragon 865 7nm ที่ใช้การ์ดจอ Adreno 650
- RAM (LPDDR5) 6GB + หน่วยความจำ 128GB, RAM (LPDDR5) 8GB + หน่วยความจำ 128GB/256GB, ใส่ microSD เพิ่มได้ถึง 1TB
- Android 10 ที่ครอบด้วย OneUI
- ซิมเดียว หรือ Hybrid SIM
- กล้องหลังมุมกว้าง 79˚12MP (f/1.8), รองรับ PDAF, OIS + กล้องเทเล 8MP (f/2.4), รองรับ PDAF, OIS, ซูมแบบ Optical ได้ 3X, ซูมแบบ Super Resolution 30x + กล้อง Ultra Wide 123° 12MP (f/2.2), LED Flash
- กล้องหน้ามุมกว้าง 80° 32MP (f/2.0)
- กันน้ำและฝุ่นมาตรฐาน IP68
- ใช้พอร์ทหูฟัง USB Type-C,
- ลำโพง Stereo ที่ปรับแต่งโดย AKG,
- รองรับ Dolby Atmos
- เซนเซอร์สแกนนิ้วแบบ Optical
- ขนาดตัวเครื่อง: 74.5 x 159.8 x 8.4มม.
- น้ำหนัก: 190กรัม
- รองรับเครือข่าย 5G SA/NSA Sub6, Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 6 802.11ax, Bluetooth 5, GPS with GLONASS, NFC, MST
- แบตเตอรี่ ความจุ 4,500mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 25W, ชาร์จเร็วแบบไร้สาย WPC Qi,
- รองรับฟีเจอร์ PowerShare แบบไร้สาย
SPEC ONEPLUS 8T 5G
- หน้าจอ Fluid AMOLED ขนาด 6.55 นิ้ว (1080 x 2400 พิกเซล) Full HD+, 402 ppi, อัตราส่วน 20:9, มีรีเฟรชเรท 120Hz, รองรับ HDR 10+, ความสว่าง 1100 nits, ใช้กระจก Gorilla Glass 5
- ชิปประมวลผล Snapdragon 865 7nm ที่ใช้การ์ดจอ Adreno 650
- RAM LPDDR4X 8GB + storage (UFS 3.1) 128GB / RAM LPDDR4X 12GB + storage (UFS 3.1) 256GB
- Android 11 ที่ครอบด้วย OxygenOS 11
- ซิมคู่ (nano + nano)
- กล้องหลัง 48MP (f/1.7) ที่ใช้เซนเซอร์ Sony IMX586, ขนาดพิกเซล 0.8μm, รองรับ OIS + EIS Hybrid stabilization + กล้อง ultra-wide 123 องศา 16MP (f/2.2) ใช้เซนเซอร์ Sony IMX481 + กล้องมาโคร 3ซม. 5MP + กล้องจับความลึก 2MP, ถ่ายวิดิโอ 4K ได้ที่ 60fps, ถ่าย slow motion 720p ได้ที่ 480fps, ถ่าย slow motion 1080p ได้ที่ 240fps
- กล้องหน้า 16MP (f/2.45) ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX471, รองรับ EIS
- เซนเซอร์สแกนนิ้วใต้หน้าจอ
- ขนาดตัวเครื่อง: 160.7×74.1×8.4mm; น้ำหนัก: 188 กรัม
- ใช้พอร์ท USB Type-C, ลำโพง Stereo คู่, Dolby Atmos
- รองรับเครือข่าย 5G SA/NSA, Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 6 802.11 ax 2X2 MIMO, Bluetooth 5.1, GPS (L1+L5 Dual Band) + GLONASS
- แบตเตอรี่ 4,500mAh ที่รองรับ Warp Charge 65W
[SR] เปรียบเทียบ ! ONEPLUS 8T 5G vs SAMSUNG S20 FE 5G ตัวไหนเด่น น่าโดนกว่ากัน !
Oneplus และ Samsung เองนั้นก็ถือว่าเป็นแบรนด์ที่คุ้นเคยกันดีสำหรับใครหลายๆคนที่ติดตามทางเพจเราหรือว่าจะเป็นคนที่เล่นมือถือหลายๆคนนั้นน่าจะรู้จัก Oneplus กันแน่นอนครับ ส่วนทางด้าน Samsung นั้นต้องบอกว่ามีความได้เปรียบมากกว่าถ้ามองกันในเรื่องของที่คนทั่วไปนั้นอาจจะรู้จักมากกว่า แต่ทั้ง 2 แบรนด์นี้ต้องบอกกันเลยว่าคุณภาพสินค้า การใช้งานรวมถึงเรือธงแต่ละรุ่นที่ออกมานั้นทำได้ดีสูสีกันอย่างมาก และครั้งนี้เองเราเลยขอเอามาเทียบกันระหว่างรุ่นล่าสุดที่มาพร้อมกับสเปกอะไรไม่ได้หนีกันมากนัก รวมถึงการใช้งานด้วยคือตัว Oneplus 8T 5G รุ่นล่าสุด เทียบกับ Samsung Galaxy S20 FE 5G รุ่นล่าสุดจากทาง Samsung ที่ใช้งาน Snapdragon 865 เหมือนกันทั้งคู่ จุดนี้ทำให้น่าสนใจมากขึ้นและเรื่องหน้าจอ 120Hz เหมือนกันงานออกแบบหน้าจอเจาะรูเหมือนกัน มีอะไรหลายๆอย่างในคู่นี้ที่น่าสนใจมากๆด้วยเช่นกันครับ ส่วนทางด้านราคาเปิดตัวก็หนีกันไม่มากนักครับทั้ง 2 รุ่นนี้
Samsung Galaxy S20 FE 5G นั้นเปิดตัวมาพร้อมกับการใช้งาน Snapdragon 865 เป็นครั้งแรกที่มาขายในไทยในสเปกแบบนี้เพราะทางค่ายนี้ปกติจะเน้นใช้งาน Exynos นั้นเอง แต่ก็เป็นรุ่นที่ทำออกมาเน้นราคาคุ้มค่า ลดสเปกวัสดุอะไร แต่ก็ใส่ในเรื่องของ CPU ตัวนี้เข้ามาแทนนั้นเองครับ ใช้งาน ส่วนทางด้าน Oneplus 8T 5G เองนั้นหลายๆคนคงจะทราบกันแล้วว่าใช้งาน Snapdragon มาตลอดในรุ่นนี้ใช้งาน Snapdragon 865 เช่นกันพร้อมกับ RAM 8GB STORAGE 128GB ในรุ่นที่นำมาเทียบ พร้อมกับ หน้าจอ Fluid AMOLED ขนาด 6.55 นิ้วใช้งาน 120Hz และ ความสว่าง 1,100 NITS พร้อมกับ Android 11 และ Oxygen OS รุ่นล่าสุด กล้องในรุ่นนี้ให้มาทั้งหมด 4 ตัวครับ กล้องหลัง 48MP (f/1.7) ที่ใช้เซนเซอร์ Sony IMX586, ขนาดพิกเซล 0.8μm, รองรับ OIS + EIS Hybrid stabilization + กล้อง ultra-wide 123 องศา 16MP (f/2.2) ใช้เซนเซอร์ Sony IMX481 + กล้องมาโคร 3ซม. 5MP + กล้องจับความลึก 2MP, ถ่ายวิดีโอ 4K ได้ที่ 60fps, ถ่าย slow motion 720p ได้ที่ 480fps, ถ่าย slow motion 1080p ได้ที่ 240fps และใช้งาน กล้องหน้า 16MP (f/2.45) ที่ใช้เซนเซอร์ Sony IMX471, รองรับ EIS พร้อมกับ ลำโพงคู่ Dolby Atmos และ แบตเตอรี่ 4,500 mAh ที่รองรับ Warp Charge 65W ถือว่าสเปกนั้นก็จัดเต็มไม่แพ้กัน และได้ชาร์จไว 65W
PRICE
- ONEPLUS 8T 5G เปิดราคามาที่ 24,990 บาท RAM 8GB STORAGE 128GB
- SAMSUNG GALAXY S20 FE 5G เปิดราคามาที่ 23,900 บาท RAM 8GB STORAGE 128 GB
DESIGN
งานออกแบบในทั้ง 2 รุ่นนี้ถือว่ามีความแตกต่างกันชัดเจนครับ ทั้งเรื่องของการวางกล้องรวมถึงวัสดุและทางด้านหน้าจอด้วยเช่นกัน ทางด้าน 1+8T5G นั้นเราจะเห็นการใช้งานหน้าจอแบบเจาะรูมุมซ้ายของตัวเครื่องพร้อมกับดีไซน์ที่มีความโค้งมนและในด้านหลังนั้นจะใช้งานวัสดุกระจกจริงๆแบบด้านเล่นแสงสีสวยงามพร้อมกล้องวางแบบ 2 แถวดีไซน์อะไรจะเน้นความโค้งมนต่างๆแต่ถ้ามองในตัว S20FE5G นั้นเราจะเห็นว่ามีความเหลี่ยมมากกว่า ทั้งรูปทรงและรายละเอียดต่างๆรวมถึงวัสดุฝาหลังของ S20FE5G นั้นจะเป็นวัสดุแบบพลาสติกทั้งหมดในฝาหลังทำแบบด้านครับ
หน้าจอนั้นมีความแตกต่างกันในเรื่องของงานออกแบบ ทางด้าน Samsung มาพร้อมกับหน้าจอ Super AMOLED Infinity-O ขนาด 6.5 นิ้ว (2400 × 1080 pixels) Full HD+, 407 PPI, รีเฟรชเรท 120Hz ใช้กระจก Gorilla Glass 3 และทาง 1+8T5G นั้นมาพร้อมกับ หน้าจอ Fluid AMOLED ขนาด 6.55 นิ้ว (1080 x 2400 พิกเซล) Full HD+, 402 ppi, อัตราส่วน 20:9, มีรีเฟรชเรท 120Hz, รองรับ HDR 10+, ความสว่าง 1100 nits, ใช้กระจก Gorilla Glass 5 ถือว่ามีความสูสีมากๆในเรื่องของ 120Hz FHD+ แต่ถ้ามองเรื่องงานออกแบบนั้นจะแตกต่างกันเล็กน้อย
ขอบหน้าจอส่วนบนนั้นเราจะเห็นว่าเป็นการใช้งานหน้าจอแบบเจาะรูกล้องทั้งคู่ แต่แตกต่างกันในเรื่องของการวางตำแหน่งครับ และความโค้งมนนั้นทางด้าน Oneplus เองนั้นจะมีมากกว่าด้วย ส่วนความบางไม่ได้หนีกันมากครับ กล้องหน้านั้นทาง Oneplus 8T 5G นั้นใช้งาน กล้องหน้า 16MP (f/2.45) ที่ใช้เซนเซอร์ Sony IMX471, รองรับ EIS ส่วนของทาง Samsung นั้นจะใช้งาน กล้องหน้ามุมกว้าง 80° 32MP (f/2.0) ถือว่าแตกต่างกัน
ขอบด้านล่างนั้นถ้ามองในแง่การออกแบบทาง Oneplus 8T 5G นั้นจะมีความหนาของขอบเครื่องมากกว่าเล็กน้อยครับ และตัวเครื่องมีความเหลี่ยมมากกว่า ส่วนปุ่มการควบคุมตัวเครื่องนั้นก็สามารถเปลี่ยนได้เหมือนกันทั้งคู่เลยครับ
ขอบเครื่องด้านบนนั้นเราจะเห็นว่ามีไมค์อัดเสียง และ ตัดเสียงใส่เข้ามาให้พร้อมกับดีไซน์ขอบเครื่องแบบปัดเงาด้วยกันทั้งคู่ครับ แต่ทางด้าน Samsung เองนั้นจะใส่ถาดซิมเข้ามาให้ในด้านบนนี้ แต่ของทาง Oneplus นั้นไม่ได้ใส่
ขอบเครื่องด้านขวาเราจะเห็นว่าตัวเครื่องนั้นมีการวางตำแหน่งปุ่มระยะใกล้เคียงกัน ส่วน Oneplus เองนั้นจะมีเอกลักษณ์การใส่ปุ่ม Alert Slider เข้ามาสำหรับการเปิด ปิดเสียงเรียกเข้า และปุ่ม Power แต่ของ Samsung นั้นจะเป็นปุ่ม เพิ่มลดเสียง และ ปุ่ม Power นั้นเอง ที่แตกต่างกันครับ
ขอบเครื่องด้านล่างนั้นจะเป็นลำโพงหลักของเครื่อง เป็นลำโพงคู่ทั้ง 2 รุ่นนะครับ อีกตัวนั้นจะเป็นตำแหน่งบนหน้าจอเหนือกล้องหน้า ส่วนพอร์ทด้านล่างนั้นจะเป็น USB-C เหมือนกันทั้งคู่ พร้อมรูไมค์ และ ทางด้าน Oneplus นั้นจะใส่ถาดซิมเข้ามา แต่ของ Samsung จะอยู่ขอบเครื่องด้านบนนั้นเอง
ด้านซ้ายนั้นทางด้าน Oneplus นั้นใส่เป็นปุ่ม เพิ่ม-ลด เสียงใส่เข้ามาให้ แต่ของ Samsung เองนั้นจะไว้ทางขวา ความหนาอะไรนั้นไม่ได้แตกต่างกันมาก ฝาหลังมีการโค้งรับมือได้ดี แต่วัสดุนั้น Samsung จะเป็นฝาหลังพลาสติก
ถาดซิมนั้นรองรับการใช้งาน Dual SIM ทั้งคู่ แต่ทางด้าน Samsung นั้นจะเป็นถาดซิมแบบ Hybrid ที่รองรับการเพิ่ม Micro SD ด้วยนั้นเองที่แตกต่างกัน และจะเห็นว่าทั้ง 2 รุ่นนี้มีการใส่ใช้งานยางกันน้ำ ซีลมาให้ใช้งานด้วย
ฝาหลังนั้นเป็นจุดที่แตกต่างกันที่สุดระหว่าง 2 รุ่นนี้เพราะว่าวัสดุนั้นทางด้าน Oneplus นั้นใช้วัสดุสีเงินด้านเล่นแสงสีสวยงามและเป็นกระจกด้านครับทำให้ความรู้สึกในการจับถือเทียบกันนั้นมีความแตกต่างกันชัดเจนความพรีเมี่ยมนั้น Oneplus 8T 5G ทำได้ดีกว่าพอสมควร ส่วนการวางกล้องมุมซ้ายเหมือนกันทั้งหมด และ ฝาหลัง S20FE นั้นจะเป็น พลาสติกครับ แอบไม่พรีเมี่ยมและไม่สวยเท่าของทาง Oneplus รวมถึงเวลาจับถือนั้นมีความแตกต่างกันมากๆ
สำหรับกล้องหลังนั้นเราจะเห็นว่าจำนวนกล้องแอบแตกต่างกันและการวางกล้องรวมถึงขนาดต่างๆนั้นมีความแตกต่างกันด้วย และทาง Oneplus 8T 5G มีการใส่เซนเซอร์ Flicker Sensor มาให้สำหรับป้องการ การกระพริบ ที่เห็นสีขาวๆตรงกล้องเหนือแฟลชนั้นเอง ส่วนกล้องนั้นมาพร้อมกับ กล้องหลัง 48MP (f/1.7) ที่ใช้เซนเซอร์ Sony IMX586, ขนาดพิกเซล 0.8μm, รองรับ OIS + EIS Hybrid stabilization + กล้อง ultra-wide 123 องศา 16MP (f/2.2) ใช้เซนเซอร์ Sony IMX481 + กล้องมาโคร 3ซม. 5MP + กล้องจับความลึก 2MP, และทางด้าน Samsung S20 FE 5G นั้นจะมาพร้อมกับ กล้องหลังมุมกว้าง 79˚12MP (f/1.8), รองรับ PDAF, OIS + กล้องเทเล 8MP (f/2.4), รองรับ PDAF, OIS, ซูมแบบ Optical ได้ 3X, ซูมแบบ Super Resolution 30x + กล้อง Ultra Wide 123° 12MP (f/2.2), LED Flash ถือว่าเน้นความแตกต่างกันชัดเจน S20FE จะได้เลนส์เทเลเข้ามา แต่ของ Oneplus นั้นจะเน้น มาโคร และ กล้อง จับระยะ ที่เสริมเข้ามาครับ
SPEC SAMSUNG GALAXY S20 FE
- หน้าจอ Super AMOLED Infinity-O ขนาด 6.5 นิ้ว (2400 × 1080 pixels) Full HD+, 407 PPI, รีเฟรชเรท 120Hz ใช้กระจก Gorilla Glass 3
- ชิปประมวลผล Snapdragon 865 7nm ที่ใช้การ์ดจอ Adreno 650
- RAM (LPDDR5) 6GB + หน่วยความจำ 128GB, RAM (LPDDR5) 8GB + หน่วยความจำ 128GB/256GB, ใส่ microSD เพิ่มได้ถึง 1TB
- Android 10 ที่ครอบด้วย OneUI
- ซิมเดียว หรือ Hybrid SIM
- กล้องหลังมุมกว้าง 79˚12MP (f/1.8), รองรับ PDAF, OIS + กล้องเทเล 8MP (f/2.4), รองรับ PDAF, OIS, ซูมแบบ Optical ได้ 3X, ซูมแบบ Super Resolution 30x + กล้อง Ultra Wide 123° 12MP (f/2.2), LED Flash
- กล้องหน้ามุมกว้าง 80° 32MP (f/2.0)
- กันน้ำและฝุ่นมาตรฐาน IP68
- ใช้พอร์ทหูฟัง USB Type-C,
- ลำโพง Stereo ที่ปรับแต่งโดย AKG,
- รองรับ Dolby Atmos
- เซนเซอร์สแกนนิ้วแบบ Optical
- ขนาดตัวเครื่อง: 74.5 x 159.8 x 8.4มม.
- น้ำหนัก: 190กรัม
- รองรับเครือข่าย 5G SA/NSA Sub6, Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 6 802.11ax, Bluetooth 5, GPS with GLONASS, NFC, MST
- แบตเตอรี่ ความจุ 4,500mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 25W, ชาร์จเร็วแบบไร้สาย WPC Qi,
- รองรับฟีเจอร์ PowerShare แบบไร้สาย
SPEC ONEPLUS 8T 5G
- หน้าจอ Fluid AMOLED ขนาด 6.55 นิ้ว (1080 x 2400 พิกเซล) Full HD+, 402 ppi, อัตราส่วน 20:9, มีรีเฟรชเรท 120Hz, รองรับ HDR 10+, ความสว่าง 1100 nits, ใช้กระจก Gorilla Glass 5
- ชิปประมวลผล Snapdragon 865 7nm ที่ใช้การ์ดจอ Adreno 650
- RAM LPDDR4X 8GB + storage (UFS 3.1) 128GB / RAM LPDDR4X 12GB + storage (UFS 3.1) 256GB
- Android 11 ที่ครอบด้วย OxygenOS 11
- ซิมคู่ (nano + nano)
- กล้องหลัง 48MP (f/1.7) ที่ใช้เซนเซอร์ Sony IMX586, ขนาดพิกเซล 0.8μm, รองรับ OIS + EIS Hybrid stabilization + กล้อง ultra-wide 123 องศา 16MP (f/2.2) ใช้เซนเซอร์ Sony IMX481 + กล้องมาโคร 3ซม. 5MP + กล้องจับความลึก 2MP, ถ่ายวิดิโอ 4K ได้ที่ 60fps, ถ่าย slow motion 720p ได้ที่ 480fps, ถ่าย slow motion 1080p ได้ที่ 240fps
- กล้องหน้า 16MP (f/2.45) ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX471, รองรับ EIS
- เซนเซอร์สแกนนิ้วใต้หน้าจอ
- ขนาดตัวเครื่อง: 160.7×74.1×8.4mm; น้ำหนัก: 188 กรัม
- ใช้พอร์ท USB Type-C, ลำโพง Stereo คู่, Dolby Atmos
- รองรับเครือข่าย 5G SA/NSA, Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 6 802.11 ax 2X2 MIMO, Bluetooth 5.1, GPS (L1+L5 Dual Band) + GLONASS
- แบตเตอรี่ 4,500mAh ที่รองรับ Warp Charge 65W
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้