เพิ่งได้ดู my mister ...แล้วชอบมาก อยากเขียนถึง

กระทู้สนทนา
"ลุง เลี้ยงข้าวหน่อย"ร้องไห้ my mister )
***สปอยเนื้อเรื่องนะครับ
ปกติเจอหนังเจอละครที่ชอบก็อาจจะเขียนอะไรบ้างนิดๆหน่อยๆแต่เรื่องนี้พอเขียนแล้วยาว มันมีอะไรให้พูดถึงเยอะ
ธีมของละครเรื่องนี้คือความสัมพันธ์ระหว่างคน ถูกสร้างขึ้นมาจนโดดเด่น ความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาเกิดขึ้นมาจากตัวละครที่ไม่ธรรมดา ตัวละครที่ไม่ธรรมดาที่สุดในเรื่องนี้คืออีจีอัน หรือนางเอกของเรื่องนั่นเอง แม้เรื่องราวทั้งหลายจะเกิดขึ้นโดยมีตัวละครลุงพัคเป็นศูนย์กลาง แต่ตัวละครที่เป็นหัวใจ เป็นหน้าตาของละครเรื่องนี้อยู่ที่อีจีอัน ถ้าจะพูดเรื่องความสัมพันธ์ก็ต้องพูดเรื่องตัวละครควบคู่ไปด้วย
- อีจีอันกับลุงพัค
            อีจีอัน สาวน้อยสามหมื่นปี...เธอเป็นฆาตกร เป็นอาชญากร มีหนี้ก้อนโต เธอมีเพื่อนคนนึง มีย่าใบ้อัมพาตคนนึง การศึกษาต่ำ แต่หัวไว ฉลาดเป็นกรด 
            ลุงพัค ...เป็นวิศวกร มีครอบครัวอบอุ่น ทั้งแม่และพี่น้อง มีเมีย มีลูก การศึกษาดี หน้าที่การงานดี แต่ซื่อๆเงียบๆ 
            ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มจากรูปแบบของพรานที่วางกับดักล่าเหยื่อ แต่โชคร้ายที่เหยื่อไม่ติดกับ ฉากที่เหยื่อไม่ติดกับนี้เป็นฉากเล็กๆที่ผมว่าคนเขียนบทฉลาดมาก อีจีอันที่เราเห็นก่อนหน้านี้ว่าร้ายกาจและอำมหิต เธอวางยาลุงพัคด้วยการถ่ายรูปตอนจูบไปแบล็คเมล์ แต่ปรากฏว่าชีพลาดเพราะดันเขย่งขาซะ ...มันทำให้คนดูรู้ว่าอีจีอันก็เป็นคน ไม่ได้เก่งกาจเป็นอีธานฮันท์ภาคผู้หญิง ชีมีมุมที่ไร้เดียงสา และกลายเป็นความผิดพลาดที่น่ารักด้วย ทำให้เราเอ็นดูชีแม้ชีจะทำหน้าตุ่ยๆทั้งเรื่อง ... หลังจากจุดนี้ละครพาเราไปอีก genre หนึ่ง กลายเป็นหนังสายลับที่ว่าด้วยการดักฟัง ...หนังแนวดักฟังนี่มีหลายเรื่อง ที่ดูๆมานี่สนุกทุกเรื่องรวมทั้งเรื่องนี้ การดักฟังนี้พาเราไปสู่อีกธีมหนึ่งของละคร...เรื่องของความลับที่เราไม่อยากให้คนอื่นรู้...(คุณมีมั้ย) ลุงพัคมี อีจีอันก็มี “ขอแค่คนไม่รู้ ก็ไม่เป็นไร” ลุงพัคพูดทั้งๆที่เรื่องบางเรื่องมันบัดซบเลวร้ายแต่ลุงพัคก็เลือกจะแก้ปัญหาด้วยการเก็บมันไว้กับตัวเอง  “กลัวว่าเมื่อไหร่คนจะรู้นะ บางทีอยากฉายขึ้นจอกลางสี่แยกไปเลยดีกว่า” อีจีอันบอก การมีความลับที่ต้องปิดบังกลายเป็นจุดร่วมหนึ่งของทั้งสอง เพียงแต่อีจีอันที่อยู่ในฐานะคนฟัง รู้ความลับทุกอย่างของลุงพัคโดยที่ลุงพัคไม่รู้ตัวเลย นี่คือแต้มต่อของอีจีอัน แต่กลับเป็นแต้มต่อที่ทำให้อีจีอันเสียสถานะนายพรานไปเพราะเธอพบว่าลุงพัคเป็นคนดีแบบที่เธอไม่เคยเจอในชีวิต ทำให้เธอใจอ่อน เกมยังพลิกไปกว่านั้นเมื่อเหยื่อกลายเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือ  ลุงพัคให้ความเมตตากับอีจีอัน ยื่นมือมาดึงเธอขึ้นจากชีวิตเส็งเคร็ง “มีคนเคยช่วยฉันนะ...1ครั้ง 2ครั้ง 3ครั้ง 4ครั้ง หลังจากนั้นก็หายหน้าไป” อีจีอันบอกหลังจากลุงพัคเลี้ยงข้าวเธอเป็นครั้งที่ 5 ( แต่จริงๆอีจีอันเป็นคนขอแกมบังคับให้ลุงเลี้ยงข้าวเธอไม่ใช่เรอะ แถมยังกินแบบตายอดตายอยากอีก...นางเอกฉัน เฮ้อ ) ... ยังมีช็อตที่ลุงบุกเดี่ยวไปเคลียร์เจ้าหนี้ให้แถมด้วยไดอะล็อกเด็ด...เป็นฉันฉันก็ฆ่าวะ ซึ่งซื้อใจอีจีอันได้หมดหลอดเลย     ความสัมพันธ์ยังพัฒนาต่อเนื่อง อีจีอัน จากนายพรานกลายเป็นผู้ถูกช่วยเหลือ และเมื่อลุงพัคโดนปัญหามะรุมมะตุ้มทั้งเรื่องงานเรื่องส่วนตัวแต่ละเรื่องชวนให้กระโดดน้ำตายทั้งนั้น อีจีอันกลับกลายเป็นวีรบุรุษลุยเดี่ยวเสียสละปกป้องลุงพัค พาร์ทนี้ละครสนุกมาก ชิงไหวชิงพริบกันน่าดู แต่วีรกรรมของอีจีอันนั้นลุงพัคไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย เพราะเขายังอยู่ในฐานะคนโดนดักฟัง 
            จนเมื่อสถานการณ์วุ่นวายจบไม่ลง อีจีอันต้องหนีหัวซุกหัวซุนแล้วโดนรถชน...(ตอนดูถึงฉากนี้ผมกำหมัดเลย ละครดีมาตลอดอย่าบอกนะว่านางเอกโดนรถชนตาย จะเขวี้ยงจอทิ้ง) ถึงตอนนี้คนดูรู้หมดแล้วว่าชีวิตอีจีอันเจออะไรมาบ้าง เราจึงไม่แปลกใจว่าทำไมเมื่อมีคนถามอายุ ชีถึงตอบว่าสามหมื่นปี เรามีแต่ความสงสารและเห็นใจเธอ
            เมื่อลุงพัครู้ความจริงว่าโดนเด็กแกงมาตลอด ความสัมพันธ์พลิกไปอีกครั้ง ลุงพัคช่วยอีจีอันกลับมาบนเส้นทางที่ถูกต้อง เมื่อทุกอย่างคลี่คลายทั้งสองก็จากกัน...จากกันในรูปแบบที่ว่าเมื่อเราเจอกันอีกเราจะยังสามารถทักทายด้วยความยินดีต่อกัน
            อีจีอันรับบทโดยไอยู ไอด้อลสาวตัวเล็ก ภาพลักษณ์ของไอยูในเรื่องนี้ไม่มีเซ็กส์แอพพีล  ทำให้สายจิ้นผิดหวังไปตามกันเพราะเรานึกภาพลุงพัคจูบปากกับอีจีอันในเชิงชู้สาวไม่ออก(แม้ว่าอีจีอันจะบอกอย่างชัดเจนว่าชอบลุง)  เพราะที่สุดแล้วความสัมพันธ์ของพระนางคู่นี้เป็นเรื่องของความสัมพันธ์ของมนุษย์ต่อมนุษย์ที่สวยงามและมีคุณค่า  

-อีจีอันกับกวังอิล 
            ความสัมพันธ์ของคู่นี้เหมือนเพชรน้ำงาม  เม็ดเล็กๆแต่เปล่งประกายแวววาวจับตา ในละครมีเนื้อที่ให้ความสัมพันธ์ของคู่นี้ไม่มากนัก แต่โผล่มาทีชวนดูชวนชื่นชม เพราะมันไม่ธรรมดาเลย อีจีอันเป็นลูกหนี้ กวังอิลเป็นเจ้าหนี้จอมโหด โผล่มาครั้งแรกนี่น่ากลัวเหมือนปีศาจ แต่ต่อๆไปเราค่อยรู้ว่าอีจีอันไปฆ่าพ่อกวังอิล ยังไม่พอเรายังรู้ต่อมาว่าก่อนหน้านั้นทั้งสองเป็นเพื่อนกัน ...พอลองกลับไปดูใหม่อีกรอบ มันก็สัมผัสได้ว่าตัวละครคู่นี้เวลาอยู่ในฉากด้วยกัน ปฏิสัมพันธ์มันไม่ธรรมดาจริงๆ มันเป็นการทวงหนี้ที่มีความผูกพันอยู่ด้วย กวังอิลนั้นผูกพันถึงขั้นไม่อยากให้อีจีอันปลดหนี้ได้ บทเล่นไปถึงขนาดที่ว่าวันไหว้ผีพ่อของกวังอิล เขาเอาของไหว้มาแบ่งอีจีอัน (คงคล้ายๆเช็งเม้งอะ) ผมว่าบทกวังอิลเป็นบทที่แปลกมาก เจ้าหนี้ที่อาศัยการทวงหนี้เป็นการเยี่ยมเยียนเพื่อนและทวงบัญชีแค้นไปในตัว ...เวร แค่ฟังก็มึนแล้ว  ไม่รู้เพราะอย่างนี้รึเปล่าผมรู้สึกว่าจางกียองถ่ายทอดความเป็นกวังอิลได้ดีมาก เพราะหน้าตาเขาแปลกๆพอๆกับบท
              จริงๆคนที่แอบฟังลุงพักก็มีหลายคน แต่คนที่ได้เอกสิทธิ์แอบฟังอีจีอันมีเพียงคนเดียวคือกวังอิลตอนที่เขาขโมยฮาร์ดดิสก์มาได้...เมื่อก่อนเขาไม่ได้เป็นแบบนี้  เราสองคนต่างก็เจ็บปวดกับเรื่องในอดีต...นี่คือประโยคที่อีจีอันเม้าเรื่องเพื่อนของเธอให้ลุงพัคฟัง และมันก็ทำให้กวังอิลอุทานว่า ยัยบ้านี่ (คงจะเขินๆ)และนำไปสู่บทสรุปความสัมพันธ์ของคู่นี้...ความรักแข็งแรงกว่าความแค้น
 
-อีจีอันกับโดจุนยอง
            โดจุนยองเป็นคนฉลาด ทะเยอทะยานแต่ขี้ขลาด ทัศนคติในการเลือกผู้หญิงของเขาถือว่าน่าฟังมาก...การคบผู้หญิงที่แต่งงานแล้วน่ะปลอดภัยที่สุด เพราะอีกฝ่ายเอาไปเล่าให้ใครฟังไม่ได้...ความสัมพันธ์ของโดจุนยองกับอีจีอันก็สนุกมาก ทั้งคู่คือคนจ้างงานกับคนรับงาน แต่เวลาเจอกันเราจะรู้สึกถึงบรรยากาศที่ตึงเครียด เหมือนต่างคนต่างซ่อนมีดกันไว้ ทั้งเตรียมป้องกันและเตรียมเชือดกัน อยู่ที่ใครจะพลาด ฉากที่สองคนนี้เจอกันมีไม่กี่ฉากแต่สนุกทุกฉาก ยิ่งฉากเปิดตัวตอนอีจีอันจิ๊กมือถือของโดจุนยอง ผมว่าเป็นการดีไซน์ซีนที่เจ๋งมากๆ 
 
-อีจีอันกับพี่ใหญ่
             พี่ใหญ่เป็นตัวละครที่เล่าเรื่องฝั่งครอบครัวของลุงพัค เป็นผู้ชายที่ล้มเหลวในอาชีพการงาน รับผิดชอบตัวเองไม่ได้ วันๆเพ้อเรื่องนู้นเรื่องนี้ เรื่องนึงที่เพ้อมาตลอดตั้งแต่ต้นเรื่องคือกลัวไม่มีใครมางานศพแม่  พี่ใหญ่คิดว่าการมีแขกมางานศพเยอะๆถือเป็นเกียรติ...จริงๆพี่ใหญ่กับอีจีอันแทบจะไม่ได้เจอกันเลย จนกระทั่งมาถึงตอนจบ เราจึงรู้ว่าคนเขียนบทวางหมากของคู่นี้ไว้ตั้งแต่ต้น เมื่อพี่ใหญ่ทุบกระปุกจัดงานศพให้ย่าอีจีอัน เป็นความเสียสละที่มีให้คนแปลกหน้า  เป็นการให้ที่ไม่หวังการได้คืน เป็นการให้โดยไม่มีการร้องขอ เป็นการให้จากหัวใจแท้ๆ ให้ไปแล้วใจอิ่มเอมจนเพ้อว่าอยากกอดตัวเอง ...เดี๋ยวพรุ่งนี้แกก็เป็นขอทาน เพื่อนแซว (ช็อตนี้ผมขำนานมาก)...  การลงทุนปูคาแรกเตอร์พี่ใหญ่มาตั้งแต่ต้นเรื่องลากมาตบตอนจบ ผลที่ได้ถือว่าคุ้ม นี่คือความสัมพันธ์ที่สวยงามที่สุดของตัวละครในเรื่อง
 
-อีจีอันกับหลวงพี่
            ในเรื่องสองคนนี้ไม่ได้เจอกันเลย  แต่มันก็มีความน่าสนใจตรงที่หลวงพี่คือคนที่สละทุกอย่างเพราะต้องการที่จะ “ไม่มี” ขณะที่อีจีอันอยู่ในสภาพ “ไม่มี”อะไรซักอย่างเหมือนกัน แต่แตกต่างกันตรงที่มาที่ไป ถ้าสองคนนี้เจอกันจะคุยอะไรกันนะ 
            
            นอกจากนี้แล้ว ละครเรื่องนี้ยังมีความสัมพันธ์ของตัวละครที่สวยๆซึ้งๆดีๆอีก แต่ที่ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นร้องว้าวก็คือความสัมพันธ์ที่ยกมานี้  
            มีตัวละครบทไม่สำคัญสองตัวที่ผมชอบมากคือบทแม่ บทแม่ทำให้ละครเรื่องนี้มีโทนละครฟีลกู๊ด ฉากไหนมีแม่ฉากนั้นดูอบอุ่น  กับตัวละครที่เป็นลูกน้องโดจุนยอง เป็นลูกน้องแบบโง่ๆทำอะไรไม่ได้เรื่อง แอ๊กติ้งดูเป็นการ์ตูนๆ มันผ่อนบรรยากาศส่วนในออฟฟิศได้มาก ไม่ตึงเครียดเกินไป  
            แต่ทุกตัวละครมีจุดร่วมกันอย่างหนึ่งคือ “การใช้ชีวิต” ตัวละครหลายตัวพูดเรื่องชาติที่แล้ว ชาตินี้ ชาติต่อไป ลึกลงไปกว่านั้น ตัวละครต้องการ “การใช้ชีวิตที่มีความสุข” ความหลากหลายของตัวละครเรื่องนี้ได้แสดงให้เห็นว่าไม่ว่าจะเป็นใคร อยู่สภาพไหน ก็สามารถใช้ชีวิตที่มีความสุขได้ ไม่ว่าจะเป็นหลวงพี่ที่เจอมารผจญ,เจ้าของบาร์ที่ตัดอดีตไม่ได้,ผู้กำกับหนังแป้ก,ผู้ชายวัย50ที่ยังเกาะแม่กิน,ก๊วนเถ้าแก่ตกอับ,นางเอกหนังแสดงห่วย,ผู้หญิงที่เผลอใจทำเรื่องผิดศีลธรรม,เจ้าหนี้ขาโหดขี้เหงา,วิศวกรที่ชีวิตครอบครัวล้มเหลวและพนักงานชั่วคราวจอมแสบ...เพียงแต่บางครั้ง เขาและเราก็ต้องการกำลังใจในการสู้ชีวิตต่อไป ...ไฟ้ติ้งครับ    
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่