[SR] สัมผัสกลิ่นอายเหมืองเก่าภูเก็ต แบบเอ็กซ์คลูซีฟที่ The Slate Phuket

ใครหลงรักทะเลเชิญเซมาที่ภูเก็ตเลยคร้า วันนี้มี่ และนางแบบสุดสวย (นามิและตาล) จะพาไปชมโรงแรมสุดชิค ที่มีไอเดียในการออกแบบสไตล์จากเหมืองเก่าภูเก็ต “The Slate” ที่แบบว่ามีมุมถ่ายรูปให้เยอะมาก สายดาร์กๆ อาร์ทๆ ไม่ควรพลาดเลยแหละ 


โรงแรมกลับมาเปิดอีกครั้ง ตอนนี้น่าพักมากยิ่งช่วงนี้ ลด 40% คุ้มสุดๆ ตามมาดูกัน มุมถ่ายรูปเป็นล้าน (ภาษาใต้ คือ มีเยอะมากจริงๆ) ด้วยขนาดของโรงแรมที่ใหญ่มาก รับรอง แค่ใช้ชีวิตในโรงแรมก็เดินไม่หมดแล้วคะ

The Slate อยู่ที่หาดในยาง จังหวัดภูเก็ต ซึ่งใกล้สนามบินมาก ใครอยากพักผ่อนจนวินาทีสุดท้าย แล้วขึ้นเครื่องที่นี่ก็เป็นอีกทางเลือกนึงนะคะ โรงแรมที่นี่กว้างมากถึง 88 ไร่ (กว้างจริงๆ) บรรยากาศในโรงแรมเงียบสงบเหมาะแก่การมาพักผ่อน

เข้ามาเช็คอินกันก่อนเลย ลอบบี้ โดดเด่นด้วยเสาสีส้มที่ตกแต่งด้วยตะแกรงเหล็กและไข่มุกสีน้ำเงิน มีความโบราณสมัยก่อนรวมกับความครีเอทรีพ ดูมีดีมีสไตล์มาก ให้อารณ์เหมือนเดินเข้ามาในเหมืองแร่แล้วค้นพบอัญมณีที่มีค่า อะไรแบบนั่นเลยคะ

โรงแรมนี้ออกแบบโดย Bill Bensley สถาปนิกชื่อดังชาวอเมริกัน คอนเซ็ปต์ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวในประวัติศาสตร์ที่ยาวนานบวกกับการผสมผสานกับดีไซน์ร่วมสมัย

คีย์การ์ดดาร์กๆ คูลๆ ส่วนป้ายเล็กๆที่เห็น สามารถเอาไปแลกเป็น Welcome Drink ได้ ที่ห้องอาหาร Tongkah Tin Syndicate 

โรงแรมมีหลายตึกมาก เราพักที่ตึก M (เดินไปหาดได้ใกล้มากๆ)

เข้าห้องมาก็พุ่งไปดูวิวที่ระเบียงห้องก่อนเลย ห้องค่อนข้างกว้างมาก ถูกจัดเป็นสัดส่วน ห้องแต่งตัว ห้องอาบน้ำ ห้องนอน และระเบียง ที่คูลสุดก็ตรงที่มีโซฟาขนาดใหญ่ให้กลิ้งเล่น มีโต๊ะให้นั่งจิบกาแฟ มีอ่างอาบน้ำ สีดำขนาดใหญ่ อยู่ด้านนอกระเบียงให้ได้แช่น้ำ ใกล้ชิดธรรมชาติสุดๆ แถมอ่างใหญ่มาก ลงไปได้ถึงสองคนเลยทีเดียว

ห้องน้ำโครตมีดีไซน์อะ ผนังเป็นปูนเปลือย เป็นบล็อกๆ  มีอ่างล้างมือ 2 อ่างไม่ต้องแย่งกัน ที่ชอบสุดตรงที่สามารถเดินจากห้องน้ำตรงไปยังอ่างน้ำที่ระเบียงได้เลย ไม่ต้องผ่านห้องนอนให้พื้นเปียก (เค้าคิดมาดี)

ในส่วนของห้องนอน มีทั้งโต๊ะเขียนหนังสือ โซฟานั่งเล่นในห้องและนอกห้อง มองเห็นวิวต้นไม้ชัดมาก  เตียงถูกวางเอียงๆ ทำให้ห้องยิ่งดูกว้างขึ้น ด้านหลังแบ่งเป็นห้องแต่งตัว เก็บพวกรองเท้าและกระเป๋าเดินทางต่างๆ (ดูสวย เพราไม่เห็นความรกของกระเป๋าเดินทาง เพิ่มความรีเล็กซ์ ยิ่งขึ้น)

เตียงชอบมาก มีความใหญ่และนุ่มแบบดูดวิญญาณสุดๆนะ มี่ชอบผ้าปูและปลอกหมอนเค้า มีขอบๆ ถ่ายรูปออกมาแล้วเกร๋ดี 

ถัดมาหน่อยจะเป็นลานกว้างสำหรับจัดงานอีเวนท์ต่างๆ มีมุมถ่ายรูปเกร๋เยอะอยู่ 

แสงจะหมดแล้ว สระน้ำที่นี่มี4สระ สระนี้ชื่อ Snake Skin อารมณ์เหมือน อยู่บาหลีเลย 

"BLACK GINGER" ห้องอาหารไทยที่เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ มี่แนะนำว่าใครมาพักที่นี่ไม่ควรพลาดที่จะเข้ามาทานอาหารที่นี่ ด้วยดีไซน์ทรงไทยที่ดูสวย ดูแพงมาก ที่แปลกสุดก็คือ จะไปกินอาหารต้องนั่งโป๊ะไป โดยมีน้องๆพนักงานเป็นคนพาไปคะ

สวยทั้งกลางวันและกลางคืน ตอนกลางคืนเค้าจะเปิดไฟ ใช้แสงสีฟ้าเป็นหลัก 

โป๊ะที่เราบอกว่าต้องนั่งข้ามไป ดูแปลกไม่เหมือนใครดีคะ 

ชุดของพนักงานเสริฟ์ เท่มาก เป็นจุงกระเบนสีดำ เสื้อเป็นแบบไขว้ๆ

ด้านในแอร์เย็นฉ่ำ ข้างนอกหรูแล้วข้างในหรูกว่า ทุกอย่างใช้เป็นโทนสีดำ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ ผนังห้องอาหารและจานอาหาร เมนู
เราลองทานผัดไท ซอสเค้าอร่อยมากเลย
เปิดให้บริการ ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 18.30 - 22.30 น

ทานอาหารเสร็จ กลับไปที่ลอบบี้อีกครั้ง เพื่อไปถ่ายรูปตอนกลางคืน ห้องด้านบนเป็นห้องสำหรับสอนคลาสจัดดอกไม้ “Heliconia” ตอนแรกแอบสงสัยว่า ห้องอะไร พอเดินเข้าไปมีต้นไม้กับกระจกแอบอยู่ ห้องนี้ก็คืออีกจุดที่น่ามาถ่ายรูปมากๆดูชิคมาก

“Shades Gallery” ห้องจัดแสดงงานศิลปะภาพวาดต่างๆ อยู่ติดกันกับลอบบี้เลย ให้ภาพบรรยายไปเลยแล้วกัน ความสวยเต็มไม่หักเลย ใครมาพักก็ไม่ควรพลาดการมาถ่ายรูปตอนกลางคืนที่ลอบบี้นะค่ะ แสงไฟดีมาก ได้ครบทุกอารมณ์เลย

“Stock Room” เป็นเหมือนช็อป ขายของที่ตกแต่งอยู่ในห้อง ในโรงแรม ใครชื่นชอบสามารถซื้อกลับไปที่บ้านได้ อย่างที่จุดยากันยุง เตียง ของทุกอย่างที่อยู่ในห้อง ถ้าถูกใจสามารถติดต่อขอซื้อกลับบ้านได้นั่นเอง(อยากซื้อฟูกกับหมอนมาก ของเค้าดี) ผลิตภัณฑ์ของเค้าไม่ว่าจะเป็นสบู่ น้ำหอม หรือยากันยุ่ง “กลิ่นจำปา” หอมแบบไทย

Tongkah Tin Syndicate: ที่นี่ถ่ายรูปออกมาดูเท่ห์มากเลย  เป็นห้องอาหารแนวสปอร์ตๆ เอาจริงๆให้ความโลคอลบนความหรูหรา คือ มีโต๊ะสนุกเกอร์ โต๊ะพูลให้เล่น มีหน้าบาร์ให้นั่ง หลังบาร์ตกแต่งด้วยกำแพงสังกะสี แต่แต่งออกมาดูชิคและหรูมากเลย แวะมาดริ้งก่อนนอน ค็อกเทลและม็อกเทลดีมาก ต้องมาลอง 

** (เดียวมาเขียนต่อนะคะ)