iPhone 12 Mini ได้มาแล้วครับ!! ข้อดี/ข้อเสีย ความเห็นส่วนตัวผมนะ.....
สวัสดีพี่น้องที่กำลังตัดสินใจซื้อ iPhone 12 Mini และต้องการตามหาเหตุผลของการเสียตังค์หรือสร้างหนี้ให้กับตัวเอง ปีนี้ Apple งัด iPhone12 มาขายอยู่ 4 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ iPhone 12 Mini / iPhone 12 / iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max ซึ่งข้อแตกต่างระหว่าง4รุ่นนี้หลักๆก็จะเป็นในเรื่องขนาดของแบตเตอรี่ / กล้อง และ Ram นิดหน่อย และเหตุผลสั้นๆ 3 ข้อที่ผมตัดสินใจเลือกเป็น iPhone 12 Mini คือ 1. เป็นตัวที่ราคาถูกสุด 2.ขนาดกระทัดรัดแบบพอเพียง 3.ผมชอบกล้อง iPhone และที่สำคัญสเป็คของ iPhone 12 Mini ก็ไม่ได้แตกต่างจากiPhone 12ตัวอื่นที่แพงกว่ามากเท่าไหร่
* * หมายเหตุ!!!! เพื่อหลีกเลี่ยงดราม่า ต้องขอกราบเรียนท่านผู้อ่านก่อนว่า เจ้าของกระทู้มิได้มีความเชี่ยวชาญเรื่องสเป็คหรือเป็นนักวิชาการด้าน iPhone และไม่ใช่นักเขียน ดังนั้นข้อมูลต่างๆที่ท่านกำลังจะอ่านนี้ ล้วนแต่เป็นความเห็นส่วนตัว ซึ่งจะดูวกไปวนมาและนอกเรื่องซะส่วนใหญ่... ท่านใดที่ซีเรียสกับชีวิตและต้องการข้อมูลที่เป๊ะหรือละเอียดอย่างมีเนื้อหาสาระเพื่อเข้าถึงบางอ้อ กรุณาติดต่อที่ศูนย์บริการ Apple ใกล้บ้านท่าน.. ขอบพระคุณครับ
ก่อนจะพูดถึงข้อดีและข้อเสียของiPhone 12 Mini ขออนุญาตตอบคำถามยอดฮิตที่ทุกคนน่าจะสงสัยสามข้อ คือ 1.แบตเตอรี่หมดเร็วมั้ย กับ 2.จอเล็กไปมั้ย และที่สำคัญสุดคือ 64 GB พอมั้ย?
1.แบตเตอรี่ iPhone 12 Mini มีขนาด 2227 mAh ซึ่งถือว่ามีขนาดเล็ก ท่านใดที่อยู่ในแก๊งก้มหน้า หรือพวกติดโซเชียล หรือประเภทชอบถ่ายคลิป เล่นTikTok ดู YouTubeแบบทั้งวันทั้งคืน ขอแนะนําให้กลั้นหายใจและควักเงินซื้อตัว iPhone12 ProMaxไปเลย ซึ่งมีขนาดแบตเตอรี่อยู่ที่ 3687 mAh เพื่อไม่ให้เป็นการมานั่งเสียใจในภายหลัง
2.จอ iPhone 12 Mini มีขนาด 5.4 นิ้ว ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงสมัยนี้ถือว่ามีขนาดเล็ก ท่านใดที่สายตาไม่ดี หรือชอบจอใหญ่ๆ แป้นพิมพ์ใหญ่ๆ หรือใช้มือถือเป็น GPS เวลาขับรถ ขอแนะนําให้คำนวณงบประมาณส่วนตัวและวางแผนถอยตัว iPhone 12 หรือ iPhone 12 ProMax ไปเลย ท่านจะได้ไม่ต้องมานั่งเพ่งสายตากันให้ปวดหัวปวดกระบาล
3.64GB พอมั้ย?
คำถามนี้ให้ท่านจำไว้เลยว่าอย่าถามใครเด็ดขาด ให้ถามใจตัวเอง! เพราะแต่ละคนต่างมีร้อยเหตุผลในการใช้งาน ตัวIPhone 12 Mini มากับขนาดความจุ 64GB / 128GB และ 256 GB หากท่านเป็นคนที่ต้องถ่ายรูปก่อนกินข้าวทุกมื้อ เซลฟี่กับเพื่อนที่เจอกันทุกวันอยู่แล้ว หมาจะหลับแมวจะตื่นถ่ายหมด หรือพวกที่นั่งไม่ติดเก้าอี้เวลาไปงานวันเกิด งานแต่งงาน งานบุญต่างๆ เพราะมีหน้าที่เป็นอาสาสมัครถ่ายรูป หรือประเภทขอเก็บความทรงจำในชีวิตไว้ในมือถือของฉันเนี่ย ผมแนะนําให้มองไปที่ 128GB หรือ 256GB ไปเลย มิฉะนั้นท่านจะต้องพูดคำว่า (รู้งี้นะ) ไปอีกประมาณแปดสิบสี่ครั้งต่อปี ซึ่งไม่มีเพื่อนคนไหนอยากได้ยิน
**ส่วนตัวผมพอใจกับ iPhone 12 Mini (64GB) เพราะผมว่ามันถนัดมือดี และถึงแม้เครื่องจะเล็ก แต่จอ 5.4 นิ้วคิดว่ามันเป็นขนาดกำลังดี เพียงเราปรับ Font ให้ใหญ่ก็ใช้ได้สบายมาก ส่วนเรื่องแบตเตอรี่สำหรับการใช้งานของผมนะ อยู่ได้ทั้งวันอย่างหายห่วง ในเรื่องของขนาด iPhone 12Mini นี้ต้องขอบอกว่าผมเป็นคนชอบเดินทางแบบขึ้นเขาลงห้วย และชอบใส่กางเกงยีนส์แบบรัดรูป ผมไม่ต้องการพกเครื่องใหญ่แบบเหมือนมีอิฐบล๊อกอยู่ในกระเป๋ากางเกง ส่วนเรื่องความจุ 64GB สำหรับผมสบายมาก เพราะไม่ชอบสะสมรูปไว้ในโทรศัพท์เยอะๆ ยกเว้นว่าเป็นรูปที่สำคัญจริงๆ อีกอย่างสมัยนี้ไปไหนเพื่อนๆและญาติพี่น้องเค้าก็ถ่ายรูปกันเยอะอยู่แล้ว เดี๋ยวไปโหลดในไลน์กลุ่มหรือดูผ่านไอจีเอาก็ได้ ต้องการสนุกกับวินาทีนั้นๆมากกว่ามานั่งเป็นตากล้อง... และนั่นแหล่ะครับ iPhone 12 Mini (64GB) ขนาดและการใช้งานของแต่ละคนที่ต้องวิเคราะห์ให้ดีก่อนซื้อเลยทีเดียว
ข้อดีที่ผมชอบ 5 ข้อ(ความเห็นส่วนตัวนะ)
1.กล้องหน้าถ่ายได้ถึง 4K และระบบ Ultra Wide ซึ่งอันนี้ผมชอบ ผ่านเลยข้อนี้ ส่วนเรื่องคุณภาพกล้องอันนี้ไม่ต้องสาธยายให้เสียเวลา กล้องไอโฟนถ่ายดีและเสถียร ที่สำคัญคือถ่ายง่าย ไม่ต้องตั่งค่าเยอะเหมือน Android และที่ชอบมากคือNight Mode เพราะระบบถ่ายกลางคืนนี่สุดยอดมาก ถ้าไปงานวัดหรืองานกาชาดเนี่ย ตัวนี้ถ่ายมาจะดูสว่างไสวมีสีสันมากไม่ผิดหวังแน่นอน
2.ความถนัดในการจับการถือตัวนี้ผมชอบมาก มันลงตัวและพกพาง่าย มือเดียวใช้สบายๆ เหมาะมากเวลาโหนรถเมล์ รถไฟ รวมถึง BTS และ MRT เพราะเวลาเบรคแรงๆ คนที่ใช้โทรศัพท์เครื่องใหญ่ๆแบบต้องจับสองมืออาจจะลงไปกองกับพื้น
3.จอ Ceremic Shield ซึ่งเค้าว่ามันแข็งแกร่งมากๆ ลองไปเปิดดูตามYouTube ที่เค้าทดสอบหน้าจอได้ แต่ส่วนพี่ไทยเราคงไม่ต้องเป็นห่วงมาก ก็รู้กันอยู่ ติดฟิล์มใส่เคสภายใน15นาทีแรกที่เห็นหน้าลูก
4.แบตเตอรี่! ถึงแม้มันจะมีขนาดแค่ 2227 mAh ก็ตาม ผมรู้สึกว่ามันใช้งานได้อึดพอสมควรและรู้สึกว่าชาร์จแบตเร็วดี ถามว่าอยู่ได้ทั้งวันมั้ย? ผมขอตอบแบบนี้ดีกว่า ความรู้สึกเหมือนมีแบตเตอรี่ขนาดประมาณ 2500-2700 mAh มากกว่า.. ผมขอตอบแค่นี้นะ เพราะผมไม่รู้ว่าคำว่าทั้งวันของแต่ละท่านที่อ่านอยู่นี้นิ่มนวลหรือหฤโหดขนาดไหน
5. มี U1 Chip ที่ช่วยให้การระบุตำแหน่งของ GPS มีความชัดเจนและแม่นยำมากขึ้น อันนี้แจ๋วมาก
ข้อเสียและเรื่องที่ขอบ่น 4 ข้อ (ความเห็นส่วนตัวนะ)
1.Ram 4 GB ราคาขนาดนี้ให้ Ram 4 GB (Ramเยอะก็เหมือนเขียงหมูที่ใหญ่ มีพื้นที่ให้ทำอย่างอื่นได้อีก หั่นผัก ตอกกระเทียมได้ในเวลาเดียวกัน) ส่วนใหญ่ตอนนี้ Ramโทรศัพท์จีนราคาไม่เกินหมื่นเค้าก็ให้ 6 ถึง 8 GB แล้ว
2.Display Refresh Rate 60Hz อะไรของมันว้ะเนี่ย
(โทรศัพท์จีนราคา8พันยังเร็วกว่ามั้ย ประมวลผลหน้าจอแค่60Hz) คือเวลาปาดจอขึ้นลงเร็วๆมันช้าครับ แต่เอาละไม่มากและไม่ถึงกับรู้สึกได้
3.หัวชาร์จไม่แถม!! สายเปย์ท่านใดที่จะซื้อ iPhone 12 ให้ใครเป็นของขวัญ.. ก็อย่าลืมท่อสังขารไปเดินหาหัวชาร์จใส่กล่องให้เค้าด้วย (Apple แถลงว่าไม่แถมเพื่อสิ่งแวดล้อม) แต่มันขายแยกนะถ้าจะเอา WTF!
4.สแกนลายนิ้วมือไม่ได้ คงไม่ต้องอธิบายเยอะนะ ทั้งหน้ากากเอยอะไรเอย…
( ส่วนสเป็คต่างๆที่ผมทั้งตื่นเต้นและเฉยๆก็มีดังนี้ )
*รองรับสัญญาณ 5Gได้ ซึ่งขอบอกเลยว่ากว่าจะเสถียรและครอบคลุมทั่วทั้งแผ่นดินสยามเนี่ย 555 โชคดีพี่น้อง
*รองรับได้ถึง W-iFi 6 ซึ่งถ้าบ้านใครยังไม่มี RouterสำหรับWi-Fi 6 คุณก็เสียตังค์อีก.. เห่ออ
*จอภาพ Super Retina XDR.. เค้าว่าชัดกว่าและดี ก็..ตามนั้นแหละ ชัดเจน.. ราคาแบบนี้ไม่ชัดขายใครอะ
*ชิบ Apple A14 Bionic ซึ่งใหม่สุดและเค้าว่าเร็วสุดสำหรับ Apple ในเวลานี้ แต่ถ้าถามผมนะ เอาจริงๆก็ไม่ได้รู้สึกต่างกันเท่าไหร่กับชิบ A13 Bionic
*กันน้ำ 6 เมตรได้ 30นาที -IP68- อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ และบ้านเรามีทั้งสงกรานต์ ไหนจะชุมนุมประท้วงและรถฉีดน้ำพี่ตำรวจอีก กันน้ำได้อุ่นใจที่สุด ก็.. ว่ากันไป
*MagSafe ชาจน์แบบแม่เหล็กแปะหลังเครื่อง.. ซึ่งอาจจะเหมาะหรือไม่เหมาะก็แล้วแต่ความถนัด ส่วนผมเน้นสายชาร์จยาวๆธรรมดาถนัดกว่าและพกพาง่าย
---- ข้อแนะนําส่วนตัว ----
*คนที่ใช้ iPhone 8 ถึง 11 หรือ iPhone SE 2020 หากลังเลใจว่าจะเปลี่ยนดีมั้ย แนะนําว่าไม่ต้องไปเปลี่ยน เก็บตังค์ไว้ก่อนดีกว่า ใช้เครื่องเดิมไป เพราะ iPhone 12 มันไม่ได้ดีกว่าจนคุณร้องจ๊ากก!!!อย่างแน่นอน ยกเว้นตอนจ่ายตังค์... แนะนําว่ารอ iPhone13 ก็ได้ ส่วนเรื่องกล้องเอาจริงๆนะ ภาพถ่ายถ้าอยู่ที่สว่าง คุณภาพพอๆกัน ต่อให้เชิญวิญญาณSteve Job ลงมาเข้าทรงก็ดูไม่ออกว่าภาพไหนถ่ายจากรุ่นอะไร และ App แต่งภาพก็เยอะจะไปกลัวอะไร
*สีไรสวย?? เลือกไปเหอะ อย่าปรึกษาเพื่อน เพราะเพื่อนจะตอบว่าสีขาวสวย ดำก็ดูดี หรือไม่ก็แดง...สรุปคือมันสวยทุกสี คนซื้อสีดำก็ชมคนซื้อสีแดง คนสีแดงก็มองคนถือสีขาว มันคือปัญหาโลกแตก... ที่ผมเลือกสีแดงเพราะเค้าแบ่งกำไรไปทำบุญด้วย ก็..ตามนั้น โมทนาสาธุ!!
*เคสไหนดี?... แนะนําว่าหลับตาซื้อไปเลย..เพราะอีกสองอาทิตย์ไปเดินตลาดนัดเจอเคสสวยๆก็ซื้ออีก สรุปไม่เกิน 6 เดือนมีเคสไม่ต่ำกว่า 3 อัน
จบ..
ใครสงสัยอะไรยินดีตอบทุกท่านทุกคำถาม ทางอินสตาแกรมนะครับ Inbox กันเข้ามาได้หรือจะแอ๊ดเป็นเพื่อนกันเข้ามาก็สุดแท้แต่จะต้องการ
ขอมูลตกหล่นผิดพลาดประการใดรบกวนเพื่อนๆผู้เชี่ยวชาญแนะนําแทนผมด้วยละกัน
ขอให้ทุกท่านโชคดีสวัสดีครับ
iPhone 12 Mini ได้มาแล้วครับ!! ข้อดี/ข้อเสีย ความเห็นส่วนตัวผมนะ.....
สวัสดีพี่น้องที่กำลังตัดสินใจซื้อ iPhone 12 Mini และต้องการตามหาเหตุผลของการเสียตังค์หรือสร้างหนี้ให้กับตัวเอง ปีนี้ Apple งัด iPhone12 มาขายอยู่ 4 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ iPhone 12 Mini / iPhone 12 / iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max ซึ่งข้อแตกต่างระหว่าง4รุ่นนี้หลักๆก็จะเป็นในเรื่องขนาดของแบตเตอรี่ / กล้อง และ Ram นิดหน่อย และเหตุผลสั้นๆ 3 ข้อที่ผมตัดสินใจเลือกเป็น iPhone 12 Mini คือ 1. เป็นตัวที่ราคาถูกสุด 2.ขนาดกระทัดรัดแบบพอเพียง 3.ผมชอบกล้อง iPhone และที่สำคัญสเป็คของ iPhone 12 Mini ก็ไม่ได้แตกต่างจากiPhone 12ตัวอื่นที่แพงกว่ามากเท่าไหร่
* * หมายเหตุ!!!! เพื่อหลีกเลี่ยงดราม่า ต้องขอกราบเรียนท่านผู้อ่านก่อนว่า เจ้าของกระทู้มิได้มีความเชี่ยวชาญเรื่องสเป็คหรือเป็นนักวิชาการด้าน iPhone และไม่ใช่นักเขียน ดังนั้นข้อมูลต่างๆที่ท่านกำลังจะอ่านนี้ ล้วนแต่เป็นความเห็นส่วนตัว ซึ่งจะดูวกไปวนมาและนอกเรื่องซะส่วนใหญ่... ท่านใดที่ซีเรียสกับชีวิตและต้องการข้อมูลที่เป๊ะหรือละเอียดอย่างมีเนื้อหาสาระเพื่อเข้าถึงบางอ้อ กรุณาติดต่อที่ศูนย์บริการ Apple ใกล้บ้านท่าน.. ขอบพระคุณครับ
ก่อนจะพูดถึงข้อดีและข้อเสียของiPhone 12 Mini ขออนุญาตตอบคำถามยอดฮิตที่ทุกคนน่าจะสงสัยสามข้อ คือ 1.แบตเตอรี่หมดเร็วมั้ย กับ 2.จอเล็กไปมั้ย และที่สำคัญสุดคือ 64 GB พอมั้ย?
1.แบตเตอรี่ iPhone 12 Mini มีขนาด 2227 mAh ซึ่งถือว่ามีขนาดเล็ก ท่านใดที่อยู่ในแก๊งก้มหน้า หรือพวกติดโซเชียล หรือประเภทชอบถ่ายคลิป เล่นTikTok ดู YouTubeแบบทั้งวันทั้งคืน ขอแนะนําให้กลั้นหายใจและควักเงินซื้อตัว iPhone12 ProMaxไปเลย ซึ่งมีขนาดแบตเตอรี่อยู่ที่ 3687 mAh เพื่อไม่ให้เป็นการมานั่งเสียใจในภายหลัง
2.จอ iPhone 12 Mini มีขนาด 5.4 นิ้ว ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงสมัยนี้ถือว่ามีขนาดเล็ก ท่านใดที่สายตาไม่ดี หรือชอบจอใหญ่ๆ แป้นพิมพ์ใหญ่ๆ หรือใช้มือถือเป็น GPS เวลาขับรถ ขอแนะนําให้คำนวณงบประมาณส่วนตัวและวางแผนถอยตัว iPhone 12 หรือ iPhone 12 ProMax ไปเลย ท่านจะได้ไม่ต้องมานั่งเพ่งสายตากันให้ปวดหัวปวดกระบาล
3.64GB พอมั้ย?
คำถามนี้ให้ท่านจำไว้เลยว่าอย่าถามใครเด็ดขาด ให้ถามใจตัวเอง! เพราะแต่ละคนต่างมีร้อยเหตุผลในการใช้งาน ตัวIPhone 12 Mini มากับขนาดความจุ 64GB / 128GB และ 256 GB หากท่านเป็นคนที่ต้องถ่ายรูปก่อนกินข้าวทุกมื้อ เซลฟี่กับเพื่อนที่เจอกันทุกวันอยู่แล้ว หมาจะหลับแมวจะตื่นถ่ายหมด หรือพวกที่นั่งไม่ติดเก้าอี้เวลาไปงานวันเกิด งานแต่งงาน งานบุญต่างๆ เพราะมีหน้าที่เป็นอาสาสมัครถ่ายรูป หรือประเภทขอเก็บความทรงจำในชีวิตไว้ในมือถือของฉันเนี่ย ผมแนะนําให้มองไปที่ 128GB หรือ 256GB ไปเลย มิฉะนั้นท่านจะต้องพูดคำว่า (รู้งี้นะ) ไปอีกประมาณแปดสิบสี่ครั้งต่อปี ซึ่งไม่มีเพื่อนคนไหนอยากได้ยิน
**ส่วนตัวผมพอใจกับ iPhone 12 Mini (64GB) เพราะผมว่ามันถนัดมือดี และถึงแม้เครื่องจะเล็ก แต่จอ 5.4 นิ้วคิดว่ามันเป็นขนาดกำลังดี เพียงเราปรับ Font ให้ใหญ่ก็ใช้ได้สบายมาก ส่วนเรื่องแบตเตอรี่สำหรับการใช้งานของผมนะ อยู่ได้ทั้งวันอย่างหายห่วง ในเรื่องของขนาด iPhone 12Mini นี้ต้องขอบอกว่าผมเป็นคนชอบเดินทางแบบขึ้นเขาลงห้วย และชอบใส่กางเกงยีนส์แบบรัดรูป ผมไม่ต้องการพกเครื่องใหญ่แบบเหมือนมีอิฐบล๊อกอยู่ในกระเป๋ากางเกง ส่วนเรื่องความจุ 64GB สำหรับผมสบายมาก เพราะไม่ชอบสะสมรูปไว้ในโทรศัพท์เยอะๆ ยกเว้นว่าเป็นรูปที่สำคัญจริงๆ อีกอย่างสมัยนี้ไปไหนเพื่อนๆและญาติพี่น้องเค้าก็ถ่ายรูปกันเยอะอยู่แล้ว เดี๋ยวไปโหลดในไลน์กลุ่มหรือดูผ่านไอจีเอาก็ได้ ต้องการสนุกกับวินาทีนั้นๆมากกว่ามานั่งเป็นตากล้อง... และนั่นแหล่ะครับ iPhone 12 Mini (64GB) ขนาดและการใช้งานของแต่ละคนที่ต้องวิเคราะห์ให้ดีก่อนซื้อเลยทีเดียว
ข้อดีที่ผมชอบ 5 ข้อ(ความเห็นส่วนตัวนะ)
1.กล้องหน้าถ่ายได้ถึง 4K และระบบ Ultra Wide ซึ่งอันนี้ผมชอบ ผ่านเลยข้อนี้ ส่วนเรื่องคุณภาพกล้องอันนี้ไม่ต้องสาธยายให้เสียเวลา กล้องไอโฟนถ่ายดีและเสถียร ที่สำคัญคือถ่ายง่าย ไม่ต้องตั่งค่าเยอะเหมือน Android และที่ชอบมากคือNight Mode เพราะระบบถ่ายกลางคืนนี่สุดยอดมาก ถ้าไปงานวัดหรืองานกาชาดเนี่ย ตัวนี้ถ่ายมาจะดูสว่างไสวมีสีสันมากไม่ผิดหวังแน่นอน
2.ความถนัดในการจับการถือตัวนี้ผมชอบมาก มันลงตัวและพกพาง่าย มือเดียวใช้สบายๆ เหมาะมากเวลาโหนรถเมล์ รถไฟ รวมถึง BTS และ MRT เพราะเวลาเบรคแรงๆ คนที่ใช้โทรศัพท์เครื่องใหญ่ๆแบบต้องจับสองมืออาจจะลงไปกองกับพื้น
3.จอ Ceremic Shield ซึ่งเค้าว่ามันแข็งแกร่งมากๆ ลองไปเปิดดูตามYouTube ที่เค้าทดสอบหน้าจอได้ แต่ส่วนพี่ไทยเราคงไม่ต้องเป็นห่วงมาก ก็รู้กันอยู่ ติดฟิล์มใส่เคสภายใน15นาทีแรกที่เห็นหน้าลูก
4.แบตเตอรี่! ถึงแม้มันจะมีขนาดแค่ 2227 mAh ก็ตาม ผมรู้สึกว่ามันใช้งานได้อึดพอสมควรและรู้สึกว่าชาร์จแบตเร็วดี ถามว่าอยู่ได้ทั้งวันมั้ย? ผมขอตอบแบบนี้ดีกว่า ความรู้สึกเหมือนมีแบตเตอรี่ขนาดประมาณ 2500-2700 mAh มากกว่า.. ผมขอตอบแค่นี้นะ เพราะผมไม่รู้ว่าคำว่าทั้งวันของแต่ละท่านที่อ่านอยู่นี้นิ่มนวลหรือหฤโหดขนาดไหน
5. มี U1 Chip ที่ช่วยให้การระบุตำแหน่งของ GPS มีความชัดเจนและแม่นยำมากขึ้น อันนี้แจ๋วมาก
ข้อเสียและเรื่องที่ขอบ่น 4 ข้อ (ความเห็นส่วนตัวนะ)
1.Ram 4 GB ราคาขนาดนี้ให้ Ram 4 GB (Ramเยอะก็เหมือนเขียงหมูที่ใหญ่ มีพื้นที่ให้ทำอย่างอื่นได้อีก หั่นผัก ตอกกระเทียมได้ในเวลาเดียวกัน) ส่วนใหญ่ตอนนี้ Ramโทรศัพท์จีนราคาไม่เกินหมื่นเค้าก็ให้ 6 ถึง 8 GB แล้ว
2.Display Refresh Rate 60Hz อะไรของมันว้ะเนี่ย
(โทรศัพท์จีนราคา8พันยังเร็วกว่ามั้ย ประมวลผลหน้าจอแค่60Hz) คือเวลาปาดจอขึ้นลงเร็วๆมันช้าครับ แต่เอาละไม่มากและไม่ถึงกับรู้สึกได้
3.หัวชาร์จไม่แถม!! สายเปย์ท่านใดที่จะซื้อ iPhone 12 ให้ใครเป็นของขวัญ.. ก็อย่าลืมท่อสังขารไปเดินหาหัวชาร์จใส่กล่องให้เค้าด้วย (Apple แถลงว่าไม่แถมเพื่อสิ่งแวดล้อม) แต่มันขายแยกนะถ้าจะเอา WTF!
4.สแกนลายนิ้วมือไม่ได้ คงไม่ต้องอธิบายเยอะนะ ทั้งหน้ากากเอยอะไรเอย…
( ส่วนสเป็คต่างๆที่ผมทั้งตื่นเต้นและเฉยๆก็มีดังนี้ )
*รองรับสัญญาณ 5Gได้ ซึ่งขอบอกเลยว่ากว่าจะเสถียรและครอบคลุมทั่วทั้งแผ่นดินสยามเนี่ย 555 โชคดีพี่น้อง
*รองรับได้ถึง W-iFi 6 ซึ่งถ้าบ้านใครยังไม่มี RouterสำหรับWi-Fi 6 คุณก็เสียตังค์อีก.. เห่ออ
*จอภาพ Super Retina XDR.. เค้าว่าชัดกว่าและดี ก็..ตามนั้นแหละ ชัดเจน.. ราคาแบบนี้ไม่ชัดขายใครอะ
*ชิบ Apple A14 Bionic ซึ่งใหม่สุดและเค้าว่าเร็วสุดสำหรับ Apple ในเวลานี้ แต่ถ้าถามผมนะ เอาจริงๆก็ไม่ได้รู้สึกต่างกันเท่าไหร่กับชิบ A13 Bionic
*กันน้ำ 6 เมตรได้ 30นาที -IP68- อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ และบ้านเรามีทั้งสงกรานต์ ไหนจะชุมนุมประท้วงและรถฉีดน้ำพี่ตำรวจอีก กันน้ำได้อุ่นใจที่สุด ก็.. ว่ากันไป
*MagSafe ชาจน์แบบแม่เหล็กแปะหลังเครื่อง.. ซึ่งอาจจะเหมาะหรือไม่เหมาะก็แล้วแต่ความถนัด ส่วนผมเน้นสายชาร์จยาวๆธรรมดาถนัดกว่าและพกพาง่าย
---- ข้อแนะนําส่วนตัว ----
*คนที่ใช้ iPhone 8 ถึง 11 หรือ iPhone SE 2020 หากลังเลใจว่าจะเปลี่ยนดีมั้ย แนะนําว่าไม่ต้องไปเปลี่ยน เก็บตังค์ไว้ก่อนดีกว่า ใช้เครื่องเดิมไป เพราะ iPhone 12 มันไม่ได้ดีกว่าจนคุณร้องจ๊ากก!!!อย่างแน่นอน ยกเว้นตอนจ่ายตังค์... แนะนําว่ารอ iPhone13 ก็ได้ ส่วนเรื่องกล้องเอาจริงๆนะ ภาพถ่ายถ้าอยู่ที่สว่าง คุณภาพพอๆกัน ต่อให้เชิญวิญญาณSteve Job ลงมาเข้าทรงก็ดูไม่ออกว่าภาพไหนถ่ายจากรุ่นอะไร และ App แต่งภาพก็เยอะจะไปกลัวอะไร
*สีไรสวย?? เลือกไปเหอะ อย่าปรึกษาเพื่อน เพราะเพื่อนจะตอบว่าสีขาวสวย ดำก็ดูดี หรือไม่ก็แดง...สรุปคือมันสวยทุกสี คนซื้อสีดำก็ชมคนซื้อสีแดง คนสีแดงก็มองคนถือสีขาว มันคือปัญหาโลกแตก... ที่ผมเลือกสีแดงเพราะเค้าแบ่งกำไรไปทำบุญด้วย ก็..ตามนั้น โมทนาสาธุ!!
*เคสไหนดี?... แนะนําว่าหลับตาซื้อไปเลย..เพราะอีกสองอาทิตย์ไปเดินตลาดนัดเจอเคสสวยๆก็ซื้ออีก สรุปไม่เกิน 6 เดือนมีเคสไม่ต่ำกว่า 3 อัน
จบ..
ใครสงสัยอะไรยินดีตอบทุกท่านทุกคำถาม ทางอินสตาแกรมนะครับ Inbox กันเข้ามาได้หรือจะแอ๊ดเป็นเพื่อนกันเข้ามาก็สุดแท้แต่จะต้องการ
ขอมูลตกหล่นผิดพลาดประการใดรบกวนเพื่อนๆผู้เชี่ยวชาญแนะนําแทนผมด้วยละกัน
ขอให้ทุกท่านโชคดีสวัสดีครับ