ถ้าให้เลือกระหว่างเรียนสิ่งที่ชอบกับเรียนสิ่งที่มีงานทำ จะเลือกอะไร

นี่เป็นกระทู้แรกที่เขียนนะคะ หากผิดพลาดยังไงก็ขออภัย
หมายเหตุ สำหรับคนไม่อยากอ่านยาว อ่านแค่ [1] ก็ได้ค่ะ ส่วนถ้าอยากได้เนื้อเรื่องความเป็นมา ซึ่งอาจจะยาว ก็อ่าน[2]ด้วยก็ได้
[1]ตามหัวข้อเลยค่ะ คนที่อ่านแล้ว ทั้งทำงานแล้วหรือยังไม่ทำงานเป็นคุณ คุณจะตอบอะไร สำหรับเราแล้วนี่เป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนมากค่ะ เพราะเองก็ยังหนักใจอยู่เหมือนกัน
[2]เริ่มเรื่อง(ยาวนะ)คือตัวเราเนี่ยเรียนอยู่สายวิทย์-คณิต ม.5 แต่ว่ามีปัญหาค่อนข้างมากเลยค่ะ จริงๆเราอยากไปศิลป์ คำนวณ เพราะชอบวาดรูป  แต่เรานั้นโดนพ่อแม่บังคับมา การเรียนเลยค่อนข้างแย่สุดๆ และการเข้าสังคมของเรานี่เรียกว่าแทบไม่มีเลยก็ได้ เรียนมาปีครึ่งยังจำเพื่อนได้ไม่หมด ทะเลาะกันกับครอบครัวค่อนข้างบ่อย ซ้ำเรายังหยุดบ่อยอีกด้วย(ทำตัวเองมากค่ะ อันนี้ใครเรียนอยู่แนะนำอย่าทำนะคะ ถึงไปร.ร จะไม่มีความสุขแต่ดีกว่าไม่ไปค่ะเชื่อเรา) การเรียนของเราดรอปลงจากม.ต้นมากจาก 3.8-3.9(ไม่เคยต่ำกว่า 3.5)แต่พอมาม.ปลายเนี่ยมันเริ่มตกแบบฮวบๆเลยค่ะ 2.8 ไป 2.6 และล่าสุด เกรด 2 คือแบบตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่คิดได้ละก็เสียใจมาก ทำไมเราทิ้งตัวเองได้ขนาดนี้นะ บอกตรงๆมันยากมาก เรามีความคิดว่าอยู่ผิดที่ผิดทางตลอดเลย เข้ากับใครไม่ได้ เรียนก็ไม่ตั้งใจ ไม่ทำอะไร และไม่สนอะไรเลย เหมือนใช้ชีวิตไปวันๆไร้จุดหมาย ไม่เข้าใจตัวเองเลยค่ะว่าอยู่ไปเพื่ออะไร มีความคิดอยากตายทุกครั้งที่ทะเลาะกันกับพ่อแม่ จนตอนนี้เราไปนั่งคิดไปคิดมาเพราะเห็นเกรดตัวเองนี่หละ แบบเห้ย เราร่วงลงมาขนาดนี้เลยหรอวะ ไม่เคยผิดหวังในตัวเองขนาดนี้มาก่อน เราคิดไปถึงวันที่พ่อแม่บังคับให้มาสายนี้ เขาบอกเหตุผลเราแค่ว่า เรียนไปก่อนเรียนไปเป็นทุนเป็นความรู้ แต่พอมาเรียนจริงๆคือไม่มีความสุขเลยอ่ะ อ่ะจบเรื่องบ่นไปก่อน ทีนี้มาคิดว่าเออเนี่ยเหลือเวลาแค่ปีเศษเองอ่ะ เราจะเรียนอะไร เข้ามหาลัยไหน เรียนจบทำอะไร ส่วนตัวเรานั้นเป็นคนชอบอ่านนิยายและชอบเขียนค่ะ ชอบการตีบทความต่างๆการเล่าเรื่อง การพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องบางเรื่อง(ถึงตอนนี้ไม่ชอบเข้าสังคมก็เถอะ) และชอบในการวาดรูปการ์ตูนมากค่ะ เรามีความคิดอยากเป็นนักเขียนการ์ตูน แต่เนื่องด้วยความที่เรื่องนี้ยังไม่เปิดกว้างเท่าไหร่ มันเลยหางานค่อนค้างยาก และพ่อแม่(อีกแล้ว) เขาไ่ม่ค่อยแนะนำเท่าไหร่ แต่เขาชอบพูดประมาณว่าเราจะเรียนอะไรก็เรียนไปถ้าคิดว่ามีงานทำ ละบางทีก็มาบ่นๆเรื่องเรียนพยาบาล เรียนทนาย รับข้าราชกาล เป็นนายร้อย ตำรวจหญิงเอย ไรเอย ให้ฟัง ค่อนข้างเบื่อค่ะ  เราเนี่ยเคยคิดจะเข้าศิลปกรตอนก่อนจะจึ้นม.ปลายอยู่ แต่ตอนนั้นพ่อแม่เราเขาไม่มีเงินให้(คือบ้านเรานี่ค่อนข้างจนเลยค่ะ เงินคือพอกินไม่มีเก็บเลยค่ะ แค่ค่าข้าวกินทุกวันคือดีแล้ว) พอมาตอนนี้เราก็คิดได้ว่าฟังพ่อแม่ไปคงไม่ดีขึ้น เริ่มไม่ฟังพ่อแม่ตั้งแต่ยังคับสายการเรียนละ เราคิดได้ว่าคงจะเข้าคณะดิจิทัลอาร์ต แต่!!!! ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง นี่คือไม่เข้าใจมากงานศิลปะ อุปกรณ์แพงมาก แต่ทำไมคนไทยให้ค่าน้อยอย่างงี้ พอคิดถึงในอนาคตอีกคือพ่อแม่เราอ่ะ ยังไงต้องเลี้ยงแน่ๆ และแน่ๆเพราะเขาแก่แล้ว และเริ่มจะทำงานไม่ได้แล้ว เขาพูดให้เราฟังบ่อยเลยว่า แม่แก่ไปจะเลี้ยงแม่ไหมคะ เรานี่เครียดเลยอ่ะ คือถ้าเราหางานไม่ได้ เราลำบากอ่ะไม่มีปัญหา แต่พ่อแม่นี่สิ ไหนจะค่ากิน มี่อยู่ ค่ายา(พ่อเราเป็นมะเร็งค่ะบอกก่อน)  เลยคิดว่าจะรับราชการดีไหม แต่บอกเลยค่ะในใจคือแบบ ไม่! ไม่! ไม่! ไม่อยากทำเลย แต่ความจริงมันค้ำคออยู่ค่ะ ความจริงที่ว่าสิ่งที่เราชอบมันหางานได้ไม่แน่นอน ความจริงที่ว่าเราต้องเลี้ยงพ่อแม่ และกลัวจะไม่สามารถเรียนจบได้ นี่ยังไม่รู้เลยว่าจะได้เรียนมหาลัยไหม เงินหมื่นสำหรับเราคือหาได้ยากมาก  แต่เราก็ยังมีหวังที่จะได้เรียนในสิ่งที่เรานั้นชอบ เลยเป็นที่มาของคำถาม ระหว่างการเรียนในสิ่งที่ตนเองชอบ(ซึ่งโอกาสในการได้เรียนนั้นต่ำมาก แต่อยากเรียน) กับเรียนสิ่งที่น่าจะทำให้เรามีกินมีใช้ได้ เราควรเลือกอันไหน หลายคนอาจจะบอกว่า สิ่งที่ชอบ ที่รักอยู่แล้ว แต่สำหรับเราโลกไม่ได้ง่ายขนาดนั้น อนาคตสำหรับเรานี่หนทางน้อยมาก
สรุปปัญหา
1.ค่าใช้จ่าย ใครมีแนวทางในการทำอาชีพ เรียนไปทำงานไปเสนอมาหน่อยนะคะ
2.ภาระที่เราต้องแบกรับ
(จริงๆไม่อยากมองท่านเป็นภาระหรอก แต่คือเขาก็บอกกับเราแบบนี้ว่าเราหนะ ภาระของเขา และเขาก็หวังว่าภาระของเขาจะเลี้ยงเขาได้ในอนาคต ตรงนี้ขอขอโทษคนที่มีพ่อแม่ที่ดีเลยนะคะ ขอโทษที่ทำให้รู้สึกแย่ แต่ครอบครัวไม่ได้โอเคสำหรับทุกคน ถึงเราจะเกลียดพ่อแม่ จนอยากตายหายไปแต่ยังไงเขาก็เลี้ยงเรามาค่ะ)
ในทั้งนี้ ขอขอบคุณที่อ่านจบค่ะ และยังยืนยันคำถามเดิมว่าคิดยังไง
ปล.ก่อนจากเราอยากบอกคนที่กำลังจะขึ้นม.ปลายละผ่านมาอ่านนะคะ หากคุณ มีกำลังทรัพย์มากพอ
แล้วโดนพ่อแม่บังคับให้เรียนอย่างงู้น
อย่างงี้ เชื่อใจตัวเองเถอะค่ะ รู้ว่าตัวเองรักสิ่งไหนยังไงไปสิ่งนั้นค่ะ และถ้าหากคุณมีพ่อแม่ที่รับฟัง พร้อมสนับสนุนค่าใช้จ่ายและการเรียนของคุณ คุณเป็นคนที่โชคดีมาก เราอิจฉาคุณค่ะ ถึงอย่างงั้นไม่ว่า ณ ตอนนี้คุณจะมีความสุขหรือไม่มีความสุข เราก็ยังจะขอให้คุณมีความสุขกับชีวิตต่อไปเน้อ  ขอบคุณที่อ่านจนจบจ้า

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่