ฉันจากเด็กยากจนคนนึง ดั้นด้นเรียน กศน.ตั้งแต่ประถมจนจบ ม.6 และก้อทำงานก่อสร้างและทำงานโรงงานไปด้วย จนมาเรียนต่อ ปวช ปวส และจบ ป.ตรีได้ ตอนอายุ 27-28 ฉันเรียนจบสายโยธา จาก มหาลัยรัฐแห่งหนึ่ง หลังจากจบก้อได้ทำงานอยู่ในบริษัทที่ซึ่งว่าดีมากๆแห่งหนึ่งใน กทม. ฉันใช้เวลาอยู่กับบริษัทนี้โดยที่ไม่เคยเปลี่ยนงานเลยเป็นระยะเวลา สิบกว่าปี แต่สุดท้ายฉันต้องลาออกจากงานที่ฉันรัก และมีหนี้สินติดตัวกลับบ้าน เพราะถูกกดดันและท้อแท้กับหัวหน้างานคนใหม่ ฉันกลับมาอยู่บ้านโดยยึดถือว่าจะไม่ทำงานสายนี้อีกแล้ว เงินทุนในชีวิตก้อนสุดท้าย ทำให้ฉันหันมาค้าขาย ฉันขายของตามตลาดนัดแรกๆก้อขายดี หลังๆขาดทุนย่อยยับ จนต้องหาทำเลใหม่ ฉันเลยเริ่มขายตามงานวัด งานประจำปี จากขายน้ำขายปลาหมึก ขายยำ ฉันขายทุกอย่างที่ได้เงิน ท้อและเหนื่อย แต่สนุก ซึ่งไม่เหมือนตอนทำงาน เครียดแต่ไม่เหนื่อยเงินเดือนก้อ 4-5 หมื่น แต่ขายของกำไรหลักร้อยหลักพันต่อวันแค่นั้น ฉันวิ่งตามงานวัดเกือบทุกที่ ทั้งสระบุรี สุพรรณ อ่างทอง ไปหมด แต่งานที่ว่าดีก้อเริ่มมีอุปสรรค ทุนเริ่มหดหาย ฉันเลยเปลี่ยนมาทำป้อนนมและอาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งคกำลังจะเริ่มได้ดี กำไรวันล่ะ 2-3 พัน เมื่อหักค่าเช่าที่ค่ากินอยู่ออก แล้วก้อเหมือนอุปสรรคมาขวางทาง เกิดโรคระบาดโควิด19 รัฐบาลสั่งปิดงานวัดงานประจำปีทุกอย่าง ฉันเหมือนดิ่งลงเหวอีกครั้ง รายได้ไม่มีจุนเจือครอบครัว รถที่ต้องวิ่งงานถูกยึด ไม่มีเงินส่งค่าบ้าน ทุกอย่างเกิดขึ้นพร้อมๆกัน ท้อแท้ เหมือนตายทั้งเป็น นอนไม่หลับ บางคืนนอนร้องไห้คนเดียว เคยท้อขนาดอยากจะผูกคอตายตั้งหลายหน แต่สงสารลูก สงสารสามี สงสารพ่อแม่ สงสารหลานๆ ฉันซึ่งเคยเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของครอบครัว ตอนนี้ตกต่ำเงินทอง รถ ไม่มี วันๆนั่งอยู่แต่ในบ้าน อยู่ไปแบบปล่อยผ่านไปวันๆจะเริ่มต้นใหม่ก้อท้อแท้ ฉันไม่รู้จะทำยังงัย จะเริ่มอะไรก่อนดี ฉันเหมือนนกปีกหัก บินไม่ขึ้น ฉันอยากรู้ว่าคนที่เจอแบบฉันเขามีวิธีรับมือกับมันยังงัย เขาผ่านมันมาได้ยังงัย เขาใช้ชีวิตยังงัย เขาทำยังงัยถึงผ่านจุดๆนี้ไปได้
ทำไมมันช่างยากเย็นเหลือเกินสำหรับฉัน...... ฮันอยากได้คำตอบ
ใครมีชีวิตที่ล้มเหลวเหมือนกับฉันบ้าง คุณทำยังงัย บอกฉันที
ทำไมมันช่างยากเย็นเหลือเกินสำหรับฉัน...... ฮันอยากได้คำตอบ