ฝันหวาน (Sweet dream) 5

กระทู้สนทนา


.

              “น้องนภาสิ้นเดือนถ้าเราได้คอมเราไปนั่งชิวกันมั้ย” อรวีผู้จัดการของเธอพูดขึ้น พร้อมเดินมาหยุดยืนอยู่ใกล้ ๆ เธอ ขณะที่เธอนั่งอยู่โต๊ะทำงาน

               “ไปวันนี้เลยได้มั้ยพี่ เพื่อนร่วมห้องไม่อยู่ จะชวนพี่เมธีไปด้วย ฮา” พรนภาตอบไปอย่างติดตลก พร้อมหัวเราะกับคำพูดของตน ไม่ได้คิดจะชวนไปจริงอย่างที่พูด

               “ว๊ายชั้นกรี๊ดเลย! ชวนใครนะ ชวนพี่เมธีเหรอ ฮา ไอ้นภาแกก็” อรวีหัวเราะมองค้อนเธอด้วยหางตาแบบติดตลก ไม่เชื่อหูตัวเอง

               “นภาพูดเล่น ไม่กล้าชวนพี่เค้าหรอก” พรนภาสองจิตสองใจ อยากชวนเมธีก็อยาก ไม่อยากชวนก็ด้วย หากเธอชวนเขาไปด้วยมันจะดูมากเกินไปและเสี่ยง ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่อยากเจอ แม้ใจอยากเจอมากเพียงใดก็ตาม

               นาฬิกาบอกเวลาเที่ยงตรง เป็นเวลาของเธอกับเขาต้องคุยกัน แค่คุย! แค่คุยจริง ๆ วันละสองสามประโยค เพียงเท่านี้มันกลับหล่อเลี้ยงหัวใจของเธอไปได้นานแสนนาน หล่อเลี้ยงหัวใจที่เจ็บมาจากคนที่เธอรักมากให้หายดี

               “น้องนภาทำอะไรคะ ยุ่งอยู่หรือเปล่า”

               ตรงเวลาเป๊ะ เมธีส่งข้อความทักทายในช่วงพักเที่ยง เธอเปิดอ่านด้วยหัวใจพองโต ทว่าวันไหนที่เขาหายไปหลายวัน โดยที่ไม่บอกกล่าว วันนั้นเป็นวันที่แสนทรมานมากที่สุด ทรมานที่แก้ไขทำอะไรไม่ได้ ไม่ถามไม่เซ้าซี้ ทำได้แค่รอเงียบ ๆ คนเดียวอยู่อย่างนั้น

               “ไม่ยุ่งเลยค่ะ พี่เมธีทานไรยัง” เธอรีบเปิดอ่านทันทีเพราะรออยู่แล้ว ให้เขารู้ไปเลยว่ารอ ส่งปุ๊บเปิดอ่านปั๊บในทันที ยกเว้นให้เป็นฝ่ายติดต่อไปเท่านั้นที่เธอจะไม่ทำ นอกจาก! นอกจากวันที่เธออยากจะเจอเขา

               แล้วก็เป็นภาพกับข้าวของเมธีส่งมาให้ดู แค่นี้ความสุขก็ท้วมท้นอยู่ในใจ ไม่รู้หรอกว่าเขาอยู่กับใคร เมธีไม่เคยรับรู้ว่าเธอมีความสุขขนาดไหนที่ได้คุยกับเขาทุกวัน เพียงวันละไม่กี่ประโยค

               เธอกับเขาไม่เคยโทรหากัน ไม่เคยโทรคุยกันเลยแม้แต่สายเดียว เพราะอยู่ในข้อตกลง เมธีรู้ทั้งรู้ว่าสถานะของเธอเป็นเช่นไร และเธอก็รู้ว่าเขาเป็นแบบไหน เป็นเรื่องที่ยากจะเข้าใจ เป็นเรื่องยากที่จะให้คนเห็นใจ มันเลว! มันเป็นเรื่องที่เลวร้ายเหลือเกินกับสิ่งที่เธอทำ คนอื่น ๆ ที่มองเข้ามาจะบอกแบบนี้เสมอ

               “น่าทานจังเลยค่ะพี่เมธี ทานเยอะ ๆ จะได้โตเร็ว ๆ ฮา” พรนภาส่งข้อความไปให้เขาอีกประโยค ทั้งที่คิดว่าจะพอแล้ว หลายประโยคแล้วสำหรับเที่ยงนี้

               “พี่น่ะโตแล้วค่ะ น้องนภาแหละต้องกินเยอะ ๆ จะได้โตเร็ว ๆ เจอกันล่าสุดผอมเชียว “ เมธีก็ยังตอบกลับมาเช่นเดิม รวดเร็วทันใจเหมือนเดิม พรนภายิ้ม ส่งสติ๊กเกอร์ให้กับเขา เป็นการจบการสนทนาในวันนี้

               พี่เมธีจะอยู่ในฝันของเธอ พี่เมธีจะอยู่ในจินตนาการของเธอเท่านั้น พรนภาเลื่อนอ่านข้อความที่คุยกันเพียงไม่กี่ประโยคเมื่อครู่ซ้ำไปซ้ำมา พร้อมยิ้มคนเดียวอยู่อย่างนั้น

               “พี่ออ” พรนภาเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าอันเรียวของผู้จัดการ “พี่ออว่านภาทำถูกมั้ย”

               “ทำถูกเรื่อง!” อรวีถามอย่างคนไม่เข้าใจ ก็เธอเล่นถามขึ้นมาดื้อ ๆ อย่างนั้น

               “ก็ทำถูกเรื่องพี่เมธีไง พี่ออว่านภาเลวมั้ย” ถามผู้จัดการไปอย่างนั้นเอง ทว่าความรู้สึกเธอคิดแบบนั้นจริง ๆ ก็แค่อยากรู้ว่าสิ่งที่เธอทำมันผิดมาก เลวมากหรือเปล่าในสายตาคนนอก

               เธอถือคติที่ว่าใครไม่ได้มาอยู่จุดนี้ก็ไม่มีวันเข้าใจ เธอคิดแบบนี้เสมอ ใครไม่เป็นเธอก็ไม่มีทางเข้าใจได้เช่นกัน ใครจะรู้ว่าเธอสุขและทุกข์มากแค่ไหน เธอถึงได้ทำตัวไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีแบบนี้ อยากลองเล่นกับไฟ แม้รู้ว่าไฟมันร้อนก็อยากเล่นกับมัน เพราะมันมีความสุขเหลือเกิน

               “พี่ก็ยังไม่เห็นเราทำอะไรหนินภา หรือเราทำมากกว่านั้น ที่พี่ไม่รู้” อรวีไม่ว่าเธอ รับฟังและให้คำปรึกษาเสมอ มีบ้างแอบร่วมมือกับเธอด้วย

               “นภาไม่เคยทำอะไรนอกเหนือจากที่พี่รู้เลย ทุกอย่างก็เป็นเท่าที่รู้พี่เห็น” จริง ๆ เธอไม่เคยทำอะไรนอกเหนือจากคุยกันทุกเที่ยง และไปเจอกันจบแค่นั้นจริง ๆ ไม่มีอะไรลึกซึ้งไปกว่านี้

               “เราไม่รู้ว่าคุณเมธีเป็นยังไง เรารู้เท่าที่เรารู้เค้ายังโสด หย่าแล้ว อาจจะมีเด็กบ้างก็ไม่เป็นไร ถ้ามองในมุมเค้าไม่ผิดนะ แต่ถ้ามองในมุมเรา เราผิดเต็ม ๆ นะนภา เพราะเรามีสามีแล้ว ขอโทษที่พี่เป็นคนพูดตรง เพราะพี่เห็นเราเป็นน้อง เราทำงานด้วยกันอยู่แค่นี้ แต่บาปมันบ่ขี้ช้างสูบยาหรอกน้อง!” แล้วอรวีก็ยิ้มให้เธอ รอยยิ้มที่จริงใจเธอรับรู้และสัมผัสได้ เธอถึงกล้าพูดเรื่องพี่เมธีให้ฟัง

               “นภาก็แค่คิด นภาก็แค่คุย นภามีความสุขที่ได้คุยกับพี่เมธี นภาแอบคิดนะพี่ออ ถ้าพี่เมธีเขาชัดเจนกับนภามากกว่านี้นภาอาจจะเลิกกับ...เอ่อ เพื่อนร่วมห้องก็ได้ ฮา” แล้วเธอก็หัวเราะตัวเองขึ้นมาดื้อ ๆ เช่นกัน

               “แล้วแฟนเราเค้าผิดอะไร” อรวีมองหน้าเธอ ถามแบบจริงจัง

               “นั่นสิพี่ออ แฟนนภาเขาผิดอะไร” พรนภาหลบสายตาผู้จัดการ ถอนหายใจ แฟนเธอเขาไม่ผิดหรอก เขาไม่ผิดอะไรแล้วใยเธอถึงพยายามปันใจให้คนอื่น

               แค่คิดน้ำตาก็จะไหล แต่บางที! อืมม์ ถ้าพี่โค๊กเป็นพี่โค๊กคนเดิมที่เธอเคยรู้จักคงจะดีกว่านี้ พี่เมธีก็คงไม่ได้เข้ามาในชีวิตของเธอ หัวใจก็จะไม่ได้สับสนแบบนี้ เธอก็จะไม่ลังเลสองจิตสองใจแบบนี้

               “พี่เข้าใจนภา แกกล้ามั้ยล่ะ! แกกล้าตัดสินใจเลิกกับแฟนแกแล้วมาคบกับคุณเมธีแบบเปิดเผยมั้ย แบบนี้มันไม่ผิดเว้ย แกเข้าใจที่พี่พูดใช่มั้ย”

               “ไม่กล้า! ก็เพราะไม่กล้าไงถึงเป็นอยู่แบบนี้ นภาไม่กล้าแยกทาง ถึงได้บอกไงว่าถ้าพี่โค๊กจะไป นภาจะไม่ห้ามไม่รั้งไว้เลยไง นภาอยากเป็นอิสระ ถ้าจะให้นภาเป็นคนเลิกนภาทำไม่ได้ นภาไม่กล้า”

               “ถ้าวันนึงโค๊กเค้าจับได้ล่ะ”

               “นภาก็ยอมรับทุกอย่าง ถ้าไม่ตายก่อนนะ “

               “ไอ้นภา! แกก็รู้ทั้งรู้นะ” พี่ออขมวดคิ้วเข้าหากัน เรียกชื่อเธอด้วยความเป็นห่วง

               “ก็พี่โค๊กเค้าเป็นแบบนี้ จะให้นภาทำยังไงเหรอ พี่ออนภาก็มีความรู้สึกนะ ถามว่าพี่โค๊กเค้าผิดอะไร ก็ไม่! เค้านอกใจนภาอีกมั้ย ก็ไม่! แต่เค้าเป็นแบบนี้อ่ะพี่ออ เป็นแบบ...” สุดท้ายน้ำตาของเธอก็ไหลออกมา เสียใจเสียความรู้สึก กับสิ่งที่พี่โค๊กเป็นในตอนนี้ เมื่อนึกถึง ความน้อยใจมันก็จุกขึ้นมาในอก

               “พี่ออแค่ไม่นอกใจมันไม่พอเว้ย นภาแทบจะไม่มีตัวตนเลย บางทีก็เหมือนมี เหมือนสำคัญ แต่สุดท้ายก็ไม่ นภาก็น้อยใจเป็นนะ” เธอยกมือเช็ดน้ำตาที่คลอออกให้หมด ปรับสีหน้าและอารมณ์ใหม่

               “พี่เข้าใจแกเว้ย ไม่เลวทรามอะไรหรอก ก็ในเมื่อความรักมันเล่นตลกกับเราก่อน เราก็ไม่จำเป็นต้องซื่อสัตย์มากก็ได้” อรวีปลอบใจเธอ

               “พี่ออไม่ต้องห่วงหรอก พี่เมธีจะอยู่แค่ในจินตนาการและในฝันของนภาเท่านั้นแหละ นภาจะไม่มีวันให้มันเป็นจริง นภาจะไม่มีวันทำอะไรเสียหายถึงพี่โค๊ก ตราบใดที่ยังอยู่ด้วยกัน”

               “แกอยู่เพื่อรอเวลาเลิกใช่มั้ย แกจะให้เขาเป็นฝ่ายเลิกก่อนใช่มั้ย พี่ดูทรงแล้วไม่ว่ะ เพราะไม่มีใครทนเขาได้เท่าแกแล้ว ฮา”

               อรวีพูดพร้อมหัวเราะ ทำลายบรรยากาศอันตรึงเครียด ทำเอาเธอหัวเราะด้วย เธอเองก็คิดเช่นนั้น พี่โค๊กคงไม่มีทางปล่อยเธอง่าย ๆ ทว่าทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับความอดทน เพราะความอดทนของคนเรามีขีดจำกัด

               ความฝันมันก็คือความฝัน ไม่มีวันได้เกิดขึ้นจริง ไม่ใช่เธอหมดรักในตัวพี่โค๊ก เธอยังรักเขา และรักเขามาก แค่พี่เมธีเข้ามาเติมเต็มในสิ่งที่พี่โค๊กทำขาดหายไปก็แค่นั้น

               ฝันดีแค่ไหนสุดท้ายก็ต้องตื่น ในโลกของความจริงมันเป็นไปไม่ได้ ก็ขอให้มันเกิดขึ้นในโลกของความฝันเถอะ ฝันกลางวัน ฝันที่ไม่มีวันได้เป็นจริง

               ลึก ๆ สุดใจ ความหวังเล็ก ๆ แทบริบหรี่ พรนภาก็ยังหวังว่ามันจะเกิดขึ้นจริง เมธีคนในฝันคนในจินตนาการของเธอ

จบบท...
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่