เริ่ม ถุงมือเรื่องสั้น ประจำสัปดาห์ที่ 21 กลางเดือนพฤศจิกายนครับ ^^
เรื่องนี้ ถือได้ว่าเป็น
"ควันหลง" หลังจากจบเรื่อง เอเลี่ยน 2020 ซึ่งคุณ แจ็ค ในสวนถั่ว เป็นผู้เขียน และเฉลยไปแล้ว...
มันมีอะไรหนอ...มา
"ต่อยอด" จนทำให้เกิด "ภาค 2" ขึ้นมาเยี่ยงนี้ ???
และ ที่สำมะคัญ คือ "ใครเขียน ?"
ลองอ่าน และควานหาตัว จขถม. นี้กันครับ ^^

ฉันชื่อจูเลีย มันเป็นเรื่องบังเอิญ ในเช้าวันหนึ่ง ซึ่งเป็นวันเสาร์ ฉันกำลังวิ่งเล่นกับเจ้าแรมโบ้ (แรมโบ้คือสุนัขเพศผู้) ภายในสวนหลังบ้าน วันนี้ท้องฟ้าปลอดโปร่งมาก อากาศเย็นสบาย ลมเย็นๆ พัดเอากลิ่นดอกมะลิโชยมาแตะจมูก ฉันหลับตา แล้วสูดดมกลิ่นหอมจนชื่นใจ
แต่แล้วเสียงเห่าโฮ่ง! โฮ่ง! ของเจ้าแรมโบ้ฉุดฉันให้ลืมตาขึ้น สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไป อย่างฉับพลัน ท้องฟ้ามืดครึ้ม กลิ่นคาวคล้ายกลิ่นสาบสางโชยมาแทนกลิ่นหอมของดอกไม้ เจ้าแรมโบ้แหงนคอเห่าหอน และฉันมองตามมัน วินาทีนั้น ฉันแทบหยุดหายใจ
จานบินขนาดมหึมา บินอยู่เหนือหลังคาบ้านของฉัน ฉันอ้าปากค้างและทำท่าจะกรีดร้อง ทว่า แสงสีเขียวพลันสว่างจ้าขึ้นมาวูบหนึ่ง เวลาคล้ายหยุดหนึ่ง ร่างกายฉันหยุดเคลื่อนไหว....
และฉันรู้สึกตัวอีกที ก็ไม่พบจานบินลำนั้นแล้ว มันหายไป หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ฉันรีบวิ่งกลับเข้าบ้าน เปิดทีวีดูข่าวช่องต่างๆเผื่อจะมีสำนักข่าวไหนรายงานข่าวเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว ที่บุกมายังโลก แต่...ไม่มี ไม่มีใครพบจานบินลำนั้น
หัวใจฉันเต้นระรัว มือไม้สั่นไปหมด....เพราะจู่ๆม่านตาของฉันพลันเห็นภาพความหายนะของดาวโลก โดยมีผู้ทำลายคือ เผ่าพันธุ์จากนอกโลกที่มากับจานบินลำเมื่อกี้
ฉันต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว ต้องแจ้งข่าวบอกทุกคนบนโลก ฉันเข้าไปในเฟซบุ๊ก โพสต์เล่าเรื่องที่เห็นจานบิน และภาพในนิมิตที่มองเห็นหายนะของโลก อัดคลิปวิดีโอบอกเล่าสิ่งที่เจอลงยูทูป ฉันบอกทุกคนบนโลกว่าเจอกับอะไร...ทว่าสิ่งที่ได้กลับมาคือคอมเม้นต์ดูแคลนและไม่เชื่อ
Rose : She is crazy!!
Mike : Anyone who believes you is stupid.
เอกตะวัน : สงสัยเธอจะดูหนังมากไป
ส่วนเกิน : 555 ใครจะไปเชื่อเธอ มนุษย์ต่างดาวมีที่ไหนกัน
หวางเจ๋ : เธอควรไปพบจิตแพทย์ และกินยาบ้างนะ
민호 : 나는 믿지 않는 사람.
유진 : 그것을 증명할 증거를 찾으십시오.
Наталья : Псих
Александр : Я ей верю, я видел это так, как видите.
ฉันอ่านทุกคอมเม้นต์ และประหลาดใจเป็นอย่างมาก ที่ฉันสามารถเข้าใจทุกภาษาที่คนเหล่านั้นเขียนตอบกลับมา ฉันไม่ได้อ่านมันออกมา แต่ฉันกลับเข้าใจภายในจิตสำนึก
นายมินโฮบอกว่าไม่เชื่อในสิ่งที่ฉันบอก ส่วนยัยยูจินบอกให้ฉันไปหาหลักฐานมายืนยัน ยัยนาตาเลียมองว่าเป็นเรื่องตลก
และคนสุดท้าย อเล็กซานเดอร์ เขาเชื่อฉัน...เขาเชื่อในสิ่งที่ฉันพูด เพราะเขาเคยเห็นเหมือนที่ฉันเห็น โอ้..พระเจ้า!! เขาเชื่อฉัน ฉันเขียนอีเมล์ของฉันใต้คอมเม้นต์เขา เพื่อขอให้เขาติดต่อกลับมา บางทีฉันกับเขาต้องร่วมมือกัน เพื่อเปิดโปง สิ่งมีชีวิตจากนอกโลก ฉันได้แต่หวังว่าเขาจะติดต่อกลับมา
และอีกคนที่ฉันต้องบอก เขาต้องเชื่อฉันแน่ๆ ไมเคิลสามีผู้อ่อนโยน...ฉันเดินออกจากห้องนอน มุ่งหน้ามายังห้องครัว เขาอยู่ในห้องครัว กำลังทำอาหารเช้า...
ไมเคิลควรอยู่ในห้องครัวสิ...ก่อนที่ฉันจะพาแรมโบ้ออกไปเดินเล่น ฉันยังเห็นเขาอยู่ในห้องนี้กำลังหั่นผัก...แต่ตอนนี้เขาหายไปแล้ว ผ้ากันเปื้อนที่เขาสวมใส่ วางพาดอยู่บนโต๊ะ ผักที่หั่นไว้ยังอยู่บนเขียง
ไมเคิล!...ที่รัก! ฉันตะโกนเรียกหาเขา แต่ไร้การตอบกลับ ฉันรู้สึกสังหรณ์ใจพิกล ต้องเกิดอะไรขึ้นกับเขาแน่ๆ ฉันเดินมาคว้ามีดหั่นผัก
และเสียงเห่าของเจ้าแรมโบ้ทำฉันสะดุ้งและตื่นตัว ฉันรีบวิ่งตามเสียงแรมโบ้ มันยืนอยู่ตรงประตูหน้าบ้าน สายตามันจับจ้องมองไมเคิล ที่ยืนกลางสนามหญ้าหน้าบ้าน เขากำลังแหงนหน้ามองท้องฟ้า
ไมเคิลคุณเห็นเหมือนที่ฉันเห็นใช่ไหม...ฉันตะโกนถามเขา...
แต่ไม่สิ ฉันเปล่าตะโกน ฉันแทบจะไม่ได้ขยับปากพูดอะไรเลยด้วยซ้ำ มันเป็นเพียงแค่ความคิดภายในหัวของฉันเท่านั้นเอง แต่เขารับรู้ และได้ยินมัน ไมเคิลหันกลับมามองฉัน พยักหน้าแล้วยิ้มละมุน
ใช่จ้ะที่รัก...ผมเห็นพวกเขา...จานบินบนฟ้า มาสิที่รัก มารอต้อนรับพวกเขากัน.....
ไมเคิลพูดกับฉัน โดยไม่ได้ขยับปากเลยด้วยซ้ำ แต่ฉันกลับได้ยินทุกคำพูดของเขา
เกิดอะไรขึ้น กับเราสองคน
ฉันเดินมาหาเขา พร้อมคำถามมากมายที่หนักอึ้งอยู่ในหัว มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ ฉันสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างที่กำลังก่อตัวขึ้นภายในตัวฉัน มันวูบวาบ...เคลื่อนไหวไปมา ราวมีสิ่งมีชีวิตอีกชนิดหนึ่งซ่อนกายอยู่ในตัวฉัน
เราสื่อสารกันด้วยพลังจิต....
ทันทีที่ฉันเดินมายืนข้างไมเคิล เสียงพูดของเขาก็ดังขึ้น เป็นคำพูดที่ปากไม่ได้ขยับ เช่นเดียวกับฉันที่ตอบเขากลับไปด้วยคำพูดในพลังจิต
ได้ยังไงกัน....ทำไม ? ฉันเอ่ยถาม
รอดูพรรคพวกเราสิ.....ไมเคิลตอบกลับมา พร้อมหันมายิ้มให้ฉัน ยกมือขึ้นมาโอบไหล่ฉัน
จานบินลำใหญ่มหึมาปรากฏขึ้นเหนือหลังคาบ้านอีกครั้ง
"ไมเคิล!" คราวนี้ฉันเปล่งเสียงพูดออกมาด้วยความตกใจ
"ไม่ต้องตกใจไปที่รัก
เราก็เป็นพวกเดียวกับพวกเขา คุณจำไม่ได้หรือไง
เราสองคนถูกส่งมาที่ดาวโลก เพื่อศึกษาพฤติกรรมและเรียนรู้ รูปแบบการใช้ชีวิตของมนุษย์ เรียนรู้ที่จะเข้าใจมนุษย์และค่อยๆ ยึดครองโลก"
คำพูดของไมเคิลทำฉันตกใจ ผงะถอยห่างจากเขา ฉันมองลึกเข้าไปในดวงตาเขา ม่านตาไมเคิลขยายวูบไหว เส้นเลือดสีเขียวในดวงตา ค่อยๆ ชัดขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานดวงตาของเขาพลันแปรเปลี่ยนเป็นสีเขียว
"ไม่จริง คุณพูดอะไรของคุณ" ฉันเดินถอยห่างจากเขาอีกสองก้าว
ลำแสงสีขาวสว่างจ้า ส่องลงมายังสนามหญ้าหน้าบ้าน วัตถุกลมๆ บางอย่างลอยออกมาจากจานบิน และค่อยๆ ลอยตามลำแสงสีขาวลงมายังพื้นเบื้องล่าง
สิ่งมีชีวิตบางอย่างกำลังเดินออกมาจากลำแสงสีขาว พวกมันทั้งห้าตัว มีรูปร่างสูงโปร่ง แขนขายาว ศีรษะโต คางแหลมยาว ตัวสีขาว ดวงตาสีเขียว
ฉันเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น พวกเขามีจริงๆ สิ่งมีชีวิตจากนอกโลก
.....
มนุษย์ทดลองจูเลีย 1001 มีปฏิกิริยาเป็นปฏิปักษ์กับเผ่าพันธุ์ ด้วยการพยายามเปิดเผยการมีอยู่ของพวกเราให้มนุษย์โลกได้รับรู้ จำเป็นต้องนำกลับไปแก้ไข....
หนึ่งในพวกมันทั้งห้าพูดขึ้นด้วยพลังจิต...
และเจ้าแรมโบ้ก็วิ่งตรงไปหาพวกมัน แล้วเริ่มขู่และเห่าเสียงดังอย่างไม่พอใจ
จัดการมันซะ!!
"ไม่.....อย่าทำร้ายมันนะ" ฉันตะโกนก้องรีบวิ่งมาจับปลอกคอแรมโบ้ แล้วพยายามลากตัวมันกลับเข้าบ้าน แต่ทว่า...สิ่งมีชีวิตจากนอกโลก กลับใช้พลังจิต สะกดจิตให้มันหลับไป ร่างของเจ้าแรมโบ้ล้มลงนอนบนพื้นทันที
"จูเลีย 1001 มากับพวกเรา เธอจำเป็นต้องได้รับการแก้ไข" มันคนหนึ่งพูดขึ้น และฉันรู้ว่ามันไม่ได้จะแก้ไขอะไรในตัวฉัน แต่พวกมันจะกำจัดฉันทิ้งต่างหาก
"เดี๋ยวก่อน พวกคุณต้องให้โอกาสเธอคิดทบทวนใหม่ เธอกับผมใช้ชีวิตอยู่กับมนุษย์มานาน อยู่บนโลกใบนี้มานาน เธอเข้าใจมนุษย์ และเธอคิดว่าตัวเองเป็นมนุษย์จริงๆ เธออาจกำลังสับสน และหลงลืมตัวตนที่แท้จริงของตัวเองไป พวกคุณควรให้เธอได้แก้ไข"
ไมเคิล สามีที่อ่อนโยนของฉันพูดขึ้น มันควรทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นที่เขาพยายามปกป้องฉัน แต่ไม่เลย....ไม่ดีเลยสักหน่อย ฉันรู้สึกเหมือนเขาเป็นคนอื่น ไม่ใช่ไมเคิลที่ฉันรู้จักอีกต่อไป
ดวงตาเขียวเข้มที่เขาหันมามองฉัน มันว่างเปล่า ไร้ซึ่งความรัก
ความทรงจำบางอย่างผุดพรายขึ้นมาในหัวของฉัน.....ฉันนอนอยู่บนเตียงสีเขียว ในห้องทดลองที่ไหนสักที่ และพวกเขาพยายามเปลี่ยนร่างของฉันให้กลายเป็นมนุษย์ และทำสำเร็จ จากนั้นจึงส่งฉันมายังโลก เช่นเดียวกับมนุษย์ทดลองตัวอื่นๆ ที่กระจัดกระจายใช้ชีวิตอยู่ทั่วโลก
พวกมัน...ไม่สิ อาจรวมถึงฉันด้วย รู้มาเสมอว่า หากจะสู้รบกับพวกมนุษย์ซึ่งๆหน้า โอกาสชนะมีน้อย พวกมนุษย์มีความสามารถในการพัฒนาอาวุธ ยุโธปกรณ์ในการทำสงครามก้าวหน้าไปมาก การเลี่ยงเผชิญหน้ากับมนุษย์จึงเป็นสิ่งสมควรทำ
พวกเราสิ่งมีชิวิตจากนอกโลก จึงพยายามแทรกซึม มาอยู่ในโลกมนุษย์ รอเวลาเพื่อจู่โจม
"เราไม่จำเป็นต้องทำร้ายมนุษย์ เราสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับพวกเขาได้ พวกมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่พวกเราคิด พวกเขาเรียนรู้ที่จะรักกัน" ฉันบอกกับพวกมันทั้งห้า
"เราใช้ชีวิตกับพวกมนุษย์ได้ หากพวกเขาไม่กลัวเรา แต่พวกมนุษย์หวาดกลัวเรา และความหวาดกลัวทำให้พวกเขาหาทางกำจัดเราทิ้ง"
ไมเคิลหันมาพูดกับฉัน และพยายามเดินเข้ามาใกล้ฉัน แต่ฉันถอยหนี และพวกมันสองตัวเดินเข้ามาล็อคแขนฉัน แล้วลากตัวฉันให้มายืนอยู่ตรงกลางลำแสงสีขาว
ไม่...ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันยังไม่อยากตาย
ร่างของฉันค่อยๆ ถูกดูดลอยขึ้นมา และลอยหายเข้าไปในจานบิน
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เตียงสีเขียว....ร่างสีขาวของฉันนอนนิ่งอยู่บนเตียง ฉันกลับมาสู่ร่างเดิม ร่างที่แท้จริง...และฉันร้องไห้
"สวัสดีจูเลีย เธอกลายเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบมาก เธออ่อนโยน และอ่อนไหว ฉันไม่สามารถจำกัดเธอทิ้งได้ และฉันจะเปลี่ยนร่างใหม่ให้เธอ"
ทุ้มเสียงนุ่มอ่อนหวานพูดกับฉัน และฉันพยายามลืมตาขึ้นมามอง...และได้เห็นเขา ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาดี และสวมใส่แว่นตา
"คุณเป็นใคร"
"ผมชื่ออเล็กซานเดอร์ คนที่ไปคอมเม้นต์คลิปวิดีโอของคุณในยูทูปไง"
เขาขยิบตาให้ฉัน
ฉันหลับตาลงอย่างยอมรับชะตากรรม มีพวกเราแทรกซึมอยู่ทั่วโลกจริงๆ พวกเรากำลังวางแผนทำร้ายโลกที่แสนน่าอยู่ ความรู้สึกผิดก่อตัวขึ้นมาในใจฉัน ฉันควรพยายามปกป้องพวกมนุษย์ให้มากกว่านี้ ฉันได้แต่หวังว่า จะมีมนุษย์สักคนเชื่อในสิ่งที่ฉันบอก และเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งมีชีวิตจากนอกโลก
.....
ไม่ใช่คุณคนเดียวหรอกนะ ที่คิดจะปกป้องโลก ยังมีพวกเราอีกหลายคนคิดเหมือนกัน พวกเรารวมตัวกัน เพื่อติดต่อกับมนุษย์กลุ่มหนึ่งที่เชื่อว่าพวกเรามีจริง...และพวกเราพยายามสร้างสันติภาพ ระหว่างสองเผ่าพันธุ์ให้เกิดขึ้น....
อเล็กซานเดอร์ใช้พลังจิตพูดคุยกับฉัน...เขาเดินเข้ามาใกล้ฉัน แล้วฉีดอะไรบางอย่างที่แขนฉัน
....
แต่ใช่ว่ามนุษย์จะชอบสันติทุกคนหรอกนะ บางคนก็พยายามกำจัดพวกเราเหมือนกัน คุณควรระวังตัวไว้....
อเล็กซานเดอร์เดินมาแทงเข็มที่แขนฉันอีกข้าง
ฉันรู้สึกตัวร้อนและสั่นเทิ้ม ร่างของฉันค่อยๆเปลี่ยนไป แขนขาหดสั้นลง ใบหน้าเริ่มมีเค้าโครงแบบมนุษย์อีกครั้ง
....
ต่อไปนี้ คุณคือ นาตาซา และคุณคือภรรยาของผม เอาล่ะ คุณลุกขึ้นไหวไหม เราจะหาทางออกไปจากที่นี่กัน....
ฉันหันมายิ้มละไมให้อเล็กซานเดอร์ สามีคนที่สิบแปดของฉัน
(มีต่อ อีกนิดส์ นึงครับ) ^^
👽🌌👽 THE GLOVES 2020 ถุงมือเรื่องสั้น#85 Week#21, 16 - 20 พ.ย. / ALIEN 2025 - ถุงมือ E.T.2 👽🌌👽
เรื่องนี้ ถือได้ว่าเป็น "ควันหลง" หลังจากจบเรื่อง เอเลี่ยน 2020 ซึ่งคุณ แจ็ค ในสวนถั่ว เป็นผู้เขียน และเฉลยไปแล้ว...
มันมีอะไรหนอ...มา "ต่อยอด" จนทำให้เกิด "ภาค 2" ขึ้นมาเยี่ยงนี้ ???
และ ที่สำมะคัญ คือ "ใครเขียน ?"
ลองอ่าน และควานหาตัว จขถม. นี้กันครับ ^^
แต่แล้วเสียงเห่าโฮ่ง! โฮ่ง! ของเจ้าแรมโบ้ฉุดฉันให้ลืมตาขึ้น สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไป อย่างฉับพลัน ท้องฟ้ามืดครึ้ม กลิ่นคาวคล้ายกลิ่นสาบสางโชยมาแทนกลิ่นหอมของดอกไม้ เจ้าแรมโบ้แหงนคอเห่าหอน และฉันมองตามมัน วินาทีนั้น ฉันแทบหยุดหายใจ
จานบินขนาดมหึมา บินอยู่เหนือหลังคาบ้านของฉัน ฉันอ้าปากค้างและทำท่าจะกรีดร้อง ทว่า แสงสีเขียวพลันสว่างจ้าขึ้นมาวูบหนึ่ง เวลาคล้ายหยุดหนึ่ง ร่างกายฉันหยุดเคลื่อนไหว....
และฉันรู้สึกตัวอีกที ก็ไม่พบจานบินลำนั้นแล้ว มันหายไป หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ฉันรีบวิ่งกลับเข้าบ้าน เปิดทีวีดูข่าวช่องต่างๆเผื่อจะมีสำนักข่าวไหนรายงานข่าวเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว ที่บุกมายังโลก แต่...ไม่มี ไม่มีใครพบจานบินลำนั้น
หัวใจฉันเต้นระรัว มือไม้สั่นไปหมด....เพราะจู่ๆม่านตาของฉันพลันเห็นภาพความหายนะของดาวโลก โดยมีผู้ทำลายคือ เผ่าพันธุ์จากนอกโลกที่มากับจานบินลำเมื่อกี้
ฉันต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว ต้องแจ้งข่าวบอกทุกคนบนโลก ฉันเข้าไปในเฟซบุ๊ก โพสต์เล่าเรื่องที่เห็นจานบิน และภาพในนิมิตที่มองเห็นหายนะของโลก อัดคลิปวิดีโอบอกเล่าสิ่งที่เจอลงยูทูป ฉันบอกทุกคนบนโลกว่าเจอกับอะไร...ทว่าสิ่งที่ได้กลับมาคือคอมเม้นต์ดูแคลนและไม่เชื่อ
Rose : She is crazy!!
Mike : Anyone who believes you is stupid.
เอกตะวัน : สงสัยเธอจะดูหนังมากไป
ส่วนเกิน : 555 ใครจะไปเชื่อเธอ มนุษย์ต่างดาวมีที่ไหนกัน
หวางเจ๋ : เธอควรไปพบจิตแพทย์ และกินยาบ้างนะ
민호 : 나는 믿지 않는 사람.
유진 : 그것을 증명할 증거를 찾으십시오.
Наталья : Псих
Александр : Я ей верю, я видел это так, как видите.
ฉันอ่านทุกคอมเม้นต์ และประหลาดใจเป็นอย่างมาก ที่ฉันสามารถเข้าใจทุกภาษาที่คนเหล่านั้นเขียนตอบกลับมา ฉันไม่ได้อ่านมันออกมา แต่ฉันกลับเข้าใจภายในจิตสำนึก
นายมินโฮบอกว่าไม่เชื่อในสิ่งที่ฉันบอก ส่วนยัยยูจินบอกให้ฉันไปหาหลักฐานมายืนยัน ยัยนาตาเลียมองว่าเป็นเรื่องตลก
และคนสุดท้าย อเล็กซานเดอร์ เขาเชื่อฉัน...เขาเชื่อในสิ่งที่ฉันพูด เพราะเขาเคยเห็นเหมือนที่ฉันเห็น โอ้..พระเจ้า!! เขาเชื่อฉัน ฉันเขียนอีเมล์ของฉันใต้คอมเม้นต์เขา เพื่อขอให้เขาติดต่อกลับมา บางทีฉันกับเขาต้องร่วมมือกัน เพื่อเปิดโปง สิ่งมีชีวิตจากนอกโลก ฉันได้แต่หวังว่าเขาจะติดต่อกลับมา
และอีกคนที่ฉันต้องบอก เขาต้องเชื่อฉันแน่ๆ ไมเคิลสามีผู้อ่อนโยน...ฉันเดินออกจากห้องนอน มุ่งหน้ามายังห้องครัว เขาอยู่ในห้องครัว กำลังทำอาหารเช้า...
ไมเคิลควรอยู่ในห้องครัวสิ...ก่อนที่ฉันจะพาแรมโบ้ออกไปเดินเล่น ฉันยังเห็นเขาอยู่ในห้องนี้กำลังหั่นผัก...แต่ตอนนี้เขาหายไปแล้ว ผ้ากันเปื้อนที่เขาสวมใส่ วางพาดอยู่บนโต๊ะ ผักที่หั่นไว้ยังอยู่บนเขียง
ไมเคิล!...ที่รัก! ฉันตะโกนเรียกหาเขา แต่ไร้การตอบกลับ ฉันรู้สึกสังหรณ์ใจพิกล ต้องเกิดอะไรขึ้นกับเขาแน่ๆ ฉันเดินมาคว้ามีดหั่นผัก
และเสียงเห่าของเจ้าแรมโบ้ทำฉันสะดุ้งและตื่นตัว ฉันรีบวิ่งตามเสียงแรมโบ้ มันยืนอยู่ตรงประตูหน้าบ้าน สายตามันจับจ้องมองไมเคิล ที่ยืนกลางสนามหญ้าหน้าบ้าน เขากำลังแหงนหน้ามองท้องฟ้า
ไมเคิลคุณเห็นเหมือนที่ฉันเห็นใช่ไหม...ฉันตะโกนถามเขา...แต่ไม่สิ ฉันเปล่าตะโกน ฉันแทบจะไม่ได้ขยับปากพูดอะไรเลยด้วยซ้ำ มันเป็นเพียงแค่ความคิดภายในหัวของฉันเท่านั้นเอง แต่เขารับรู้ และได้ยินมัน ไมเคิลหันกลับมามองฉัน พยักหน้าแล้วยิ้มละมุน
ใช่จ้ะที่รัก...ผมเห็นพวกเขา...จานบินบนฟ้า มาสิที่รัก มารอต้อนรับพวกเขากัน.....
ไมเคิลพูดกับฉัน โดยไม่ได้ขยับปากเลยด้วยซ้ำ แต่ฉันกลับได้ยินทุกคำพูดของเขา
เกิดอะไรขึ้น กับเราสองคน
ฉันเดินมาหาเขา พร้อมคำถามมากมายที่หนักอึ้งอยู่ในหัว มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ ฉันสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างที่กำลังก่อตัวขึ้นภายในตัวฉัน มันวูบวาบ...เคลื่อนไหวไปมา ราวมีสิ่งมีชีวิตอีกชนิดหนึ่งซ่อนกายอยู่ในตัวฉัน
เราสื่อสารกันด้วยพลังจิต....
ทันทีที่ฉันเดินมายืนข้างไมเคิล เสียงพูดของเขาก็ดังขึ้น เป็นคำพูดที่ปากไม่ได้ขยับ เช่นเดียวกับฉันที่ตอบเขากลับไปด้วยคำพูดในพลังจิต
ได้ยังไงกัน....ทำไม ? ฉันเอ่ยถาม
รอดูพรรคพวกเราสิ.....ไมเคิลตอบกลับมา พร้อมหันมายิ้มให้ฉัน ยกมือขึ้นมาโอบไหล่ฉัน
จานบินลำใหญ่มหึมาปรากฏขึ้นเหนือหลังคาบ้านอีกครั้ง
"ไมเคิล!" คราวนี้ฉันเปล่งเสียงพูดออกมาด้วยความตกใจ
"ไม่ต้องตกใจไปที่รัก เราก็เป็นพวกเดียวกับพวกเขา คุณจำไม่ได้หรือไง เราสองคนถูกส่งมาที่ดาวโลก เพื่อศึกษาพฤติกรรมและเรียนรู้ รูปแบบการใช้ชีวิตของมนุษย์ เรียนรู้ที่จะเข้าใจมนุษย์และค่อยๆ ยึดครองโลก"
คำพูดของไมเคิลทำฉันตกใจ ผงะถอยห่างจากเขา ฉันมองลึกเข้าไปในดวงตาเขา ม่านตาไมเคิลขยายวูบไหว เส้นเลือดสีเขียวในดวงตา ค่อยๆ ชัดขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานดวงตาของเขาพลันแปรเปลี่ยนเป็นสีเขียว
"ไม่จริง คุณพูดอะไรของคุณ" ฉันเดินถอยห่างจากเขาอีกสองก้าว
ลำแสงสีขาวสว่างจ้า ส่องลงมายังสนามหญ้าหน้าบ้าน วัตถุกลมๆ บางอย่างลอยออกมาจากจานบิน และค่อยๆ ลอยตามลำแสงสีขาวลงมายังพื้นเบื้องล่าง
สิ่งมีชีวิตบางอย่างกำลังเดินออกมาจากลำแสงสีขาว พวกมันทั้งห้าตัว มีรูปร่างสูงโปร่ง แขนขายาว ศีรษะโต คางแหลมยาว ตัวสีขาว ดวงตาสีเขียว
ฉันเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น พวกเขามีจริงๆ สิ่งมีชีวิตจากนอกโลก
.....มนุษย์ทดลองจูเลีย 1001 มีปฏิกิริยาเป็นปฏิปักษ์กับเผ่าพันธุ์ ด้วยการพยายามเปิดเผยการมีอยู่ของพวกเราให้มนุษย์โลกได้รับรู้ จำเป็นต้องนำกลับไปแก้ไข....
หนึ่งในพวกมันทั้งห้าพูดขึ้นด้วยพลังจิต...
และเจ้าแรมโบ้ก็วิ่งตรงไปหาพวกมัน แล้วเริ่มขู่และเห่าเสียงดังอย่างไม่พอใจ
จัดการมันซะ!!
"ไม่.....อย่าทำร้ายมันนะ" ฉันตะโกนก้องรีบวิ่งมาจับปลอกคอแรมโบ้ แล้วพยายามลากตัวมันกลับเข้าบ้าน แต่ทว่า...สิ่งมีชีวิตจากนอกโลก กลับใช้พลังจิต สะกดจิตให้มันหลับไป ร่างของเจ้าแรมโบ้ล้มลงนอนบนพื้นทันที
"จูเลีย 1001 มากับพวกเรา เธอจำเป็นต้องได้รับการแก้ไข" มันคนหนึ่งพูดขึ้น และฉันรู้ว่ามันไม่ได้จะแก้ไขอะไรในตัวฉัน แต่พวกมันจะกำจัดฉันทิ้งต่างหาก
"เดี๋ยวก่อน พวกคุณต้องให้โอกาสเธอคิดทบทวนใหม่ เธอกับผมใช้ชีวิตอยู่กับมนุษย์มานาน อยู่บนโลกใบนี้มานาน เธอเข้าใจมนุษย์ และเธอคิดว่าตัวเองเป็นมนุษย์จริงๆ เธออาจกำลังสับสน และหลงลืมตัวตนที่แท้จริงของตัวเองไป พวกคุณควรให้เธอได้แก้ไข"
ไมเคิล สามีที่อ่อนโยนของฉันพูดขึ้น มันควรทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นที่เขาพยายามปกป้องฉัน แต่ไม่เลย....ไม่ดีเลยสักหน่อย ฉันรู้สึกเหมือนเขาเป็นคนอื่น ไม่ใช่ไมเคิลที่ฉันรู้จักอีกต่อไป ดวงตาเขียวเข้มที่เขาหันมามองฉัน มันว่างเปล่า ไร้ซึ่งความรัก
ความทรงจำบางอย่างผุดพรายขึ้นมาในหัวของฉัน.....ฉันนอนอยู่บนเตียงสีเขียว ในห้องทดลองที่ไหนสักที่ และพวกเขาพยายามเปลี่ยนร่างของฉันให้กลายเป็นมนุษย์ และทำสำเร็จ จากนั้นจึงส่งฉันมายังโลก เช่นเดียวกับมนุษย์ทดลองตัวอื่นๆ ที่กระจัดกระจายใช้ชีวิตอยู่ทั่วโลก
พวกมัน...ไม่สิ อาจรวมถึงฉันด้วย รู้มาเสมอว่า หากจะสู้รบกับพวกมนุษย์ซึ่งๆหน้า โอกาสชนะมีน้อย พวกมนุษย์มีความสามารถในการพัฒนาอาวุธ ยุโธปกรณ์ในการทำสงครามก้าวหน้าไปมาก การเลี่ยงเผชิญหน้ากับมนุษย์จึงเป็นสิ่งสมควรทำ
พวกเราสิ่งมีชิวิตจากนอกโลก จึงพยายามแทรกซึม มาอยู่ในโลกมนุษย์ รอเวลาเพื่อจู่โจม
"เราไม่จำเป็นต้องทำร้ายมนุษย์ เราสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับพวกเขาได้ พวกมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่พวกเราคิด พวกเขาเรียนรู้ที่จะรักกัน" ฉันบอกกับพวกมันทั้งห้า
"เราใช้ชีวิตกับพวกมนุษย์ได้ หากพวกเขาไม่กลัวเรา แต่พวกมนุษย์หวาดกลัวเรา และความหวาดกลัวทำให้พวกเขาหาทางกำจัดเราทิ้ง"
ไมเคิลหันมาพูดกับฉัน และพยายามเดินเข้ามาใกล้ฉัน แต่ฉันถอยหนี และพวกมันสองตัวเดินเข้ามาล็อคแขนฉัน แล้วลากตัวฉันให้มายืนอยู่ตรงกลางลำแสงสีขาว
ไม่...ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันยังไม่อยากตาย
ร่างของฉันค่อยๆ ถูกดูดลอยขึ้นมา และลอยหายเข้าไปในจานบิน
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เตียงสีเขียว....ร่างสีขาวของฉันนอนนิ่งอยู่บนเตียง ฉันกลับมาสู่ร่างเดิม ร่างที่แท้จริง...และฉันร้องไห้
"สวัสดีจูเลีย เธอกลายเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบมาก เธออ่อนโยน และอ่อนไหว ฉันไม่สามารถจำกัดเธอทิ้งได้ และฉันจะเปลี่ยนร่างใหม่ให้เธอ"
ทุ้มเสียงนุ่มอ่อนหวานพูดกับฉัน และฉันพยายามลืมตาขึ้นมามอง...และได้เห็นเขา ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาดี และสวมใส่แว่นตา
"คุณเป็นใคร"
"ผมชื่ออเล็กซานเดอร์ คนที่ไปคอมเม้นต์คลิปวิดีโอของคุณในยูทูปไง"
เขาขยิบตาให้ฉัน
ฉันหลับตาลงอย่างยอมรับชะตากรรม มีพวกเราแทรกซึมอยู่ทั่วโลกจริงๆ พวกเรากำลังวางแผนทำร้ายโลกที่แสนน่าอยู่ ความรู้สึกผิดก่อตัวขึ้นมาในใจฉัน ฉันควรพยายามปกป้องพวกมนุษย์ให้มากกว่านี้ ฉันได้แต่หวังว่า จะมีมนุษย์สักคนเชื่อในสิ่งที่ฉันบอก และเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งมีชีวิตจากนอกโลก
.....ไม่ใช่คุณคนเดียวหรอกนะ ที่คิดจะปกป้องโลก ยังมีพวกเราอีกหลายคนคิดเหมือนกัน พวกเรารวมตัวกัน เพื่อติดต่อกับมนุษย์กลุ่มหนึ่งที่เชื่อว่าพวกเรามีจริง...และพวกเราพยายามสร้างสันติภาพ ระหว่างสองเผ่าพันธุ์ให้เกิดขึ้น....
อเล็กซานเดอร์ใช้พลังจิตพูดคุยกับฉัน...เขาเดินเข้ามาใกล้ฉัน แล้วฉีดอะไรบางอย่างที่แขนฉัน
....แต่ใช่ว่ามนุษย์จะชอบสันติทุกคนหรอกนะ บางคนก็พยายามกำจัดพวกเราเหมือนกัน คุณควรระวังตัวไว้....
อเล็กซานเดอร์เดินมาแทงเข็มที่แขนฉันอีกข้าง
ฉันรู้สึกตัวร้อนและสั่นเทิ้ม ร่างของฉันค่อยๆเปลี่ยนไป แขนขาหดสั้นลง ใบหน้าเริ่มมีเค้าโครงแบบมนุษย์อีกครั้ง
....ต่อไปนี้ คุณคือ นาตาซา และคุณคือภรรยาของผม เอาล่ะ คุณลุกขึ้นไหวไหม เราจะหาทางออกไปจากที่นี่กัน....
ฉันหันมายิ้มละไมให้อเล็กซานเดอร์ สามีคนที่สิบแปดของฉัน
(มีต่อ อีกนิดส์ นึงครับ) ^^