หน้าแรก
คอมมูนิตี้
แท็ก
คลับ
เลือกห้อง
ดูเพิ่มเติม
รวมมิตร
ราชดำเนิน
การ์ตูน
หว้ากอ
พันทิป
ไร้สังกัด
ถนนนักเขียน
กรีนโซน
บางขุนพรหม
โต๊ะเครื่องแป้ง
ก้นครัว
มาบุญครอง
กล้อง
แกลเลอรี่
ไกลบ้าน
จตุจักร
เฉลิมกรุง
เฉลิมไทย
ชานเรือน
ชายคา
ซิลิคอนวัลเลย์
บลูแพลนเน็ต
ภูมิภาค
รัชดา
ศาลาประชาคม
ศาสนา
ศุภชลาศัย
สยามสแควร์
สวนลุมพินี
สินธร
สีลม
ห้องสมุด
หอศิลป์
บางรัก
พรหมชาติ
ดิโอลด์สยาม
กรุงโซล
แก็ดเจ็ต
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] รีวิว Orca Baker & Butcher ร้านอาหาร/คาเฟ่/มินิมาร์เก็ตวัตถุดิบนำเข้าระดับพรีเมี่ยม รวมไว้ในที่เดียว
กระทู้รีวิว
อาหารฝรั่ง
อาหารฟิวชั่น
อาหารไทย
อาหารจานเดียว
ร้านอาหาร
วันนี้มาทำธุระย่านบางซื่อเสร็จแล้วก็หาห้างแถวนี้แวะทานข้าวกับเพื่อนร่วมงานแล้วเดี๋ยวกลับไปประชุมที่บริษัทต่อในช่วงเย็นนั่นก็คือศูนย์การค้า Gateway บางซื่อ ส่วนตัวไม่เคยมาที่นี่ถือว่าใหญ่โตมีร้านอาหารให้เลือกทานค่อนข้างเยอะจนขึ้นมาถึงชั้น 4 ใกล้ๆกับ MK มีร้านนึงน่าสนใจเพราะงบค่าอาหารเมื่อออกงานนอกสถานที่ยังคงเหลืออยู่นั่นคือ Orca Baker & Butcher ส่วนตัวเคยสั่งอาหารร้านนี้มาทานที่บ้านตอนช่วงกักตัวอยู่บ้านจำได้ว่าพิซซ่าและพาสต้าอร่อยมากๆแต่ยังไม่เคยทานแบบเสิร์ฟใหม่ออกมาจากครัวสักที ถามเพื่อนๆว่าจะทานกันไหมสรุปก็คือลุยเลยเต็มที่เพราะงบอาหารมีเหลือเยอะเดี๋ยวค่อยออกค่าส่วนต่างกันคนละนิดหน่อย ปัจจุบันร้านนี้เปิดให้บริการ 2 สาขาได้แก่ 1. ลาซาลอเวนิว และ 2. Gateway บางซื่อ วิธีการเดินทางหากมาด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็จอดภายในห้างแต่ถ้ามาด้วยบริการขนส่งสาธารณะลงสถานีบางโพหรือเตาปูนแล้วเรียกรถมาที่ห้างอีกประมาณ 600 เมตรก็จะถึงอย่างสะดวกสบาย เดินขึ้นบันไดเริ่มต้นจากหน้าห้างขึ้นมาที่ชั้น 4 ติดกับบันไดเลื่อนขวามือก็จะพบกับป้ายไฟหน้าร้านมองเห็นได้โดดเด่นจากระยะไกล ปัจจุบันที่ร้านเขาจัดโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์ร่วมกับ Hungry Hub ราคาเริ่มต้นที่คนละ 990 บาท ทานได้ทั้งหมด 60 รายการแต่วันนี้มีเพื่อนที่ไม่คุ้มเรื่องการทานบุฟเฟ่ต์มาด้วยเลยตัดสินใจสั่งมาทานเป็นจานๆแทนครับ ส่วนมื้อนี้จะมีอะไรให้เราทานบ้างที่หน้าร้านเขามีเล่มเมนูขนาดใหญ่ให้เปิดอ่านก่อนเข้าไปในร้านกันครับผม
หน้าแรกเป็นเมนูเรียกน้ำย่อยราคาเริ่มต้นที่ 110 บาท สำหรับเมนูขนมปังหน้าไข่และชีส แพงสุดราคา 350 บาทคือเมนูตับห่านย่างเสิร์ฟพร้อมซอสส้ม หน้าต่อไปคือซุปสไตล์ฝรั่งมี 2 เมนูรายการละ 150 บาท สลัดผักสดเริ่มต้นที่ 180 บาท สำหรับสลัดซีซาร์ แพงสุดราคา 450 บาท สำหรับเมนูสลัดชีสบูร์ราต้าและมะเขือเทศ พาสต้าผัดร้อนๆเริ่มต้นที่ 195-590 บาท สเต็กเนื้อส่วนต่างๆราคาเริ่มต้นที่ 350-990 บาท พิซซ่าราคาเริ่มต้นถาดละ 250-450 บาท เมนูจานหลักราคาเริ่มต้นที่ 270 บาท สำหรับเมนูสเต็กหมูพอร์คชอป แพงสุดราคา 590 บาท สำหรับเมนูปลาหิมะย่างเสิร์ฟพร้อมซอสครีมกุ้ง เบอร์เกอร์มีให้เลือกทั้งไก่-ปลา-เนื้อราคาเริ่มต้นที่ 250-380 บาท เมนูอาหารไทยที่ร้านเน้นเนื้อวัวเอามาปรุงราคาเริ่มต้นที่ 135-220 บาท ของหวานราคาเริ่มต้นที่ 150-220 บาท นอกจากนี้ก็ยังมีกาแฟสด/ชา/น้ำอัดลม/อิตาเลียนโซดา/น้ำผลไม้ปั่นแบบร้านคาเฟ่ ราคาเริ่มต้นแก้วละ 40-110 บาท นอกนั้นคือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับมิกซ์เซอร์ทั้งหลาย โดยรวมแล้วถือว่าราคาไม่แพงเลยเพราะแต่ละจานเสิร์ฟมาใหญ่จัดเต็มมากๆ (จากประสบการณ์ที่เคยทานมาก่อน) แถมมีเมนูให้เลือกเยอะทั้งทานเล่นๆแบบคาเฟ่และจริงจังมานั่งได้หลายโอกาสดี แต่ความพิเศษของร้านนี้ไม่ได้จบแค่ในเล่มเมนูยังมีบริการอื่นๆเพิ่มเติมอีกเพียบเราเข้าไปด้านในกันครับผม
เมื่อเข้ามาในร้านสิ่งที่มองเห็นชัดเป็นอันดับแรกก่อนเลยก็คือครัวแบบเปิดโล่งสว่างสามารถมองเห็นครัวสะอาดสบายตาได้ตั้งแต่ด้านหน้า ถัดมาเป็นตู้แช่เนื้อสัตว์ขายแบบซุปเปอร์มาร์เก็ตมีให้เลือกทั้งเนื้อวัวส่วนต่างๆนำเข้าจากอเมริกา/นิวซีแลนด์/ออสเตรเลีย เนื้อแกะ/แฮมชนิดต่างๆและชีสเกือบทั่วโลกก็มีจำหน่ายทั้งแบบเป็นแพ็คและชั่งขีด โดยวัตถุดิบในร้านทั้งหมดที่นำมาจำหน่ายเป็นของ J Gourmet นอกจากนี้ยังมีเส้นพาสต้า-น้ำมันมะกอกน้ำเข้าขายหลากหลายยี่ห้อให้เลือกอยู่บนชั้น ไวน์และเครื่องดื่มบางส่วนที่โซนคาเฟ่ก็นำเข้าจากต่างประเทศอีกด้วย เหมือนเป็นร้านอาหารที่เป็นร้านขายของนำเข้าหายากไปด้วยในตัว ถือว่าเป็นแนวคิดในการทำร้านอาหารที่ดูแปลกใหม่ดีครับผม
มาถึงโซนที่นั่งล้อมรอบด้วยกระจกบรรยากาศภายในตกแต่งสไตล์ Loft ด้วยพื้น-กำแพงอิฐผสมปูนเปลือยตัดความหรูหราด้วยไม้สีอ่อน โต๊ะที่ใช้เป็นโครงเหล็กที่ดูเก่าแต่แข็งแรงที่สำคัญคือขยับยากเพราะหนักมากๆ เก้าอี้เลือกได้ตั้งแต่โครงเหล็กบุหนังสีเข้มหรือโซฟานิ่มๆสไตล์ย้อนยุคคุมโทนสีน้ำตาลเข้มใช้ไฟส่องสว่างสีเหลืองดูอบอุ่นน่านั่งนานๆ ตรงกลางร้านก็ยังคงมีตู้แช่วัตถุดิบทั้งผัก-เนื้อสัตว์และอาหารทะเลจำหน่ายให้กับลูกค้าอีกเช่นเคย ถ้าได้ทานเมนูไหนแล้วเกิดติดใจอยากซื้อวัตถุดิบนั้นๆกลับบ้านในตู้แช่นี้ก็มีให้เลือกครบถ้วน ถือว่าสะดวกสบายไปอีกแบบครับ
มัวแต่ไปเดินถ่ายรูปรอบร้านอาหารต่างๆทยอยมาเสิร์ฟที่โต๊ะอย่างรวดเร็วเริ่มจากเมนู "ตับห่านย่างเสิร์ฟพร้อมซอสส้ม" ราคา 350 บาท เป็นฟัวกราส์เต็มชิ้นหนาๆย่างด้านนอกสุกกรอบแต่เนื้อด้านในชุ่มฉ่ำรสชาติเข้มข้น ทานคู่กับซอสส้มน่าจะเป็นวาเลนเซียรสเปรี้ยวหวานหอมส้มถึงใจ ในจานมาพร้อมเนื้อส้ม/แป้งสีแดงกรอบ/หอมแดงดอง/บัลซามิก/ถั่วพีแคน/ขนมปังอบกรอบฉ่ำเนย ทานกับตับห่านช่วยเปลี่ยนรสชาติไปได้เรื่อยๆอย่างเพลิดเพลินคุ้มราคามากครับ จานต่อไปเป็นเมนูฟิวชั่นสุดแปลกคือ "ปลาหิมะย่างเสิร์ฟพร้อมซอสครีมกุ้ง" ราคา 590 บาท เป็นการนำปลาหิมะมาย่างด้วยมิโสะรสหวานแบบร้านญี่ปุ่นทานกับซอสครีมกุ้งรสชาติเข้มข้นแบบซุปกุ้งล๊อบสเตอร์ เพิ่มความสดชื่นด้วยผักคะน้าฮ่องกงลวกและข้าวเกรียบว่าวทอดกรุบกรอบแบบไทยๆ จานนี้ถือว่ามีการปรุงโดยใช้เทคนิคจากหลายสัญชาติแต่จุดที่อร่อยสุดก็คือปลาหิมะเนื้อสีขาวแน่นกระชับชิ้นใหญให้ปริมาณเยอะสมราคา เมื่อทานคู่กับส่วนประกอบต่างๆที่ทางร้านนำเสนอแล้วถึงมันจะแปลกแต่ก็ลงตัวและได้ความหลากหลายในรสชาติอย่างน่าสนใจครับ
เมนูต่อมาไม่หวือหวามากนักเพราะเป็นของน้องคนเล็กสุดในที่ทำงานก็สั่งมาเป็น "สปาเก็ตตี้เบคอนกระเทียม" ราคา 195 บาท สปาเก็ตตี้ลวกมาสุกกำลังดีแบบ Al Dente ผัดกับเบคอนทอดกรอบ/กระเทียมสด/พริกแห้งและใบกะเพราทอดปรุงรสด้วยเกลือ+พริกไทยเพิ่มความนัวด้วยพาเมซานชีสขูดได้ทั้งความเค็มเผ็ดและหอมมันลงตัวในทุกๆคำ มากับสาวๆเมนูที่ขาดไม่ได้ก็คือสลัดเลยสั่งมาเป็น "สลัดแซลมอน" ราคา 220 บาท รสชาติค่อนข้างแปลกเพราะส่วนผสมหลายๆอย่างทั้งผักร๊อกเกต/ผักเคล/แรดิช/กระหล่ำม่วงคลุกกับน้ำสลัดครีมที่รสชาติอ่อนๆผสมกับใบผักชีลาว/เลมอนสไลด์/แซลมอนรมควันและโรยด้วยแอลมอนด์อบกรอบ สิ่งที่ไม่คุ้นคือกลิ่นผักชีลาวในสลัดและความเปรี้ยวขมเปลือกนิดๆของเลมอน ส่วนตัวว่ารสชาติแปลกแต่น้องที่ไปด้วยบอกอร่อยมากจิ้มทานเรื่อยๆไม่หยุด
เมนูต่อมาเป็นจานที่แพงสุดและฟินห์ที่สุดสำหรับสายเนื้อนั่นคือ "สเต็กเนื้อกับตับห่านและซอสทรัฟเฟิล" ราคา 990 บาท เป็นสเต็กเนื้อวัวสไตล์ฝรั่งเศสที่ใช้ส่วนสันในไขมันน้อยแต่นุ่มรสชาติเข้มข้นย่างสุกแบบ Medium Rare ด้านนอกสีเข้มแต่เนื้อในอมชมพู รองด้วยมันบดเนื้อเนียนหอมกลิ่นนม+เนยท๊อบปิ้งด้วยฟัวกราส์ย่างราดซอสเปรี้ยวอมหวานหแมกลิ่นน้ำมันทรัฟเฟิลและหอมแดงดองกรุบกรอบ เนื้อวัวที่ใช้รสชาติเข้มข้น (ไม่แน่ในว่าออสเตรเลียหรือแองกัส) เข้ากันได้กับซอส/ฟัวกราส์และเครื่องต่างๆที่ใส่ลงไปได้เป็นอย่างดีถือว่าอร่อยแม้จะราคาสูงไปหน่อยแต่ถ้าคุณเป็นสายเนื้อตัวยงจานนี้ถือว่าสมราคาครับ เมนูต่อไปก็ยังคงเอาใจสายเนื้อตัวยงก็คือ "เบอร์เกอร์เนื้อวากิวสไตล์คลาสิค" ราคา 380 บาท เนื้อวากิวบดปั้นเป็นก้อนย่างสอดไส้ในขนมปังเบอร์เกอร์นาบบนกระทะกรุบกรอบแต่เนื้อในนุ่ม เพิ่มซอสมะเขือเทศผัดกับหอมใหญ่และผักกาดแก้วผสมมายองเนสให้ความหวานสดชื่นเสิร์ฟกับมันฝรั่งทอดและซอสมัสตาร์ตมาโย สลัดผัดสดคลุกกับบัสซามิกรสหวานอมเปรี้ยวได้โภชนาการเกือบครบทุกหมู่ในจานเดียวกัน
เมนูต่อมาราคาถูกให้ชีสมาหนาและแผ่นใหญ่เกินราคาอย่าง "พิซซ่าหน้าผักโขมและชีส" ราคา 250 บาท แป้งพิซซ่าขอบบางกรอบแต่ตรงกลางเคี้ยวเหนียวหนึบสไตล์อิตาลี ประโคมด้วยชีสลงไปเป็นชั้นหนาๆผสมกับผักโขมที่ผัดมากับไวท์ซอสผสมพาเมซานชีสสุดกลมกล่อม กัดตรงไหนก็เจอแต่ชีส+ผักโขมและแป้งบางกรุบกรอบเข้ากันได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อแถมให้มาถึง 8 ชิ้นขายในราคาแค่นี้คุ้มกว่าทานร้านพิซซ่าเจ้าตลาดอีกครับ จานสุดท้ายเป็นเมนูอาหารไทยรสเผ็ดแซ่บที่ทำจานเนื้อวัวอย่าง "ข้าวหน้าเนื้อคั่วกลิ้ง+ไข่ดาว" ราคา 135 บาท เนื้อวัวสับผัดกับพริกแกงใต้รสเผ็ดเค็มประโคมเครื่องสมุนไพรต่างๆลงไปทั้งพริกไทยสดกรุบกรอบไม่เผ็ดฉุน/พริกชี้ฟ้าแดงและใบมะกรูดทานคู่กันกับข้าวสวยหอมมะลิร้อนๆและไข่ดาวทอดไม่สุกให้ไข่แดงเคลือบข้าวและคั่วกลิ้งเพิ่มความนัวอร่อยสไตล์ไทยดีมากๆ
****** เกิน 10,000 ตัวอักษร ขอรีวิวต่อในช่อง Comment นะครับ ******
ชื่อสินค้า:
Orca Baker & Butcher สาขา Gateway บางซื่อ
คะแนน:
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
- จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
- ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
เปิดประสบการณ์กินอาหารเกาหลี ไก่ทอดกรอบ ๆ ชุ่มซอสสุด ๆ ไปเลย
สวัสดีค่ะพ่อแม่พี่น้องชาวห้องก้นครัว วันนี้ขอพาทุกคนแวะไปชิมอาหารเกาหลีกันบ้างนะคะ โดยร้านที่จะพาไปปักหมุดก็คือร้าน SeoulChon นั่นเอง คออาหารเกาหลีหลายคนน่าจะคุ้นชื่อร้านนี้กันดีอยู่แล้
Jennine
Chef's Table by Chef Big - Top chef Thailand กับร้านอยากทำแต่ไม่อยากกิน
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ เราไปทานของอร่อยมา วันนี้เลยอยากจะมาเล่าประสบการณ์การทานอาหารฝีมือเชฟบิ๊กซึ่งมีดีกรีระดับแชมป์จาก Top chef Thailand ค่ะ ร้านของเค้าจะอยู่บนชั้น 2 ของโรงพิมพ์ที่เจริญราษฎร์ค่ะ จากทางเข
จิ๊จ๊ะ เจได
รีวิว "Albricias" โรงแรมชาเทรียมเรซิเดนซ์สาทร บุฟเฟ่ต์อาหารสเปน Fine Dining เริ่มต้นแค่คนละ 2,190 บ.
อยากดินเนอร์สัมผัสประสบการณ์แบบ Fine Dining สุดหรูแต่กังวลว่างบประมาณจะบานปลายลองกดค้นหาร้านใหม่ที่แลดูน่าสนใจในแอปพลิเคชั่น Hungry Hub เรื่อยๆจนพบกับห้องอาหาร "Albricias" อ่านว่าอัลบริเซียส
Food Addicts
รีวิว "Terra Sathon" ร้านนั่งกิน-ดื่มสไตล์ญี่ปุ่นใจกลางสาทรเสิร์ฟนำเข้าวัตถุดิบจากเมืองฟุกุโอกะความอร่อยแห่งภูมิภาคคิวชู
เบื่อการจราจรใจกลางกรุงเทพมหานครยิ่งวันศุกร์ช่วงเวลาตอนที่เหล่ามนุษย์เงินเดือนเลิกงานพร้อมๆกันแบบนี้ต้องหาร้านนั่งแนวกินดื่มช่วยให้อารมณ์ดีอิ่มสบายท้องก่อนกลับบ้านโดยภัตตาคารแห่งนี้เราเคยแวะทานเมื่อวั
Food Addicts
[CR] ร้าน Lavana cafe’ & Bistro พิษณุโลก
วันนี้แวะมาพิษณุโลก ปกติจะแวะร้านครัวเจ๊โชค (อร่อยมาก แต่อยากกินร้านอื่นบ้าง ) ไม่รู้จะกินร้านไหนดี …โอเค google ช่วยคุณได้ 🤣 เห็นร้านนี้ได้รีวิว&nb
สมาชิกหมายเลข 8016770
ABC Restaurant
วันนี้ทาง kinlag ได้มาลองอาหารร้านใหม่คือ ABC Restaurant ซึ่งตั้งอยู่ที่ 9.53 Community mall อยู่ที่ซอยทองหล่อ9 สุขุมวิท53 ขึ้นมาที่ชั้นสามของทางโครงการ จะพบกับร้าน ABC Restaurant แห่งนี้ บรรยากาศ
สมาชิกหมายเลข 2108448
BufFeast Review : "Chu Grill Shabu" ร้านบุฟเฟ่ต์ 3 in 1 ปิ้งย่างชาบูและปลาดิบ ในย่านบรรทัดทอง @หน้าซอยจุฬา 12
ช่วงนี้อากาศทะลุปรอทจริงๆ ผมก็ดันนึกครึ้มอะไรไม่รู้ ไปเดินเล่นแถวบรรทัดทองในช่วงอากาศแบบนี้ ก็เลยแบกร่างอันโชกเหงื่อเข้าไปกินร้าน ชู กริลล์ ชาบู ร้านนี้เหมือนจะเป็นแ
TheHeatBufFeast
บุฟเฟ่ต์อาหารอีสาน คอหมูย่าง หมูยอ ไส้กรอกอีสาน ส.ขอนแก่น 399.-
ภาพรวม + บุฟเฟ่ต์อาหารอีสาน รสชาติกลมกล่อม ปลาร้าไม่ฉุน กินง่าย ระบุความเผ็ดได้ + วัตถุดิบคุณภาพดี สะอาด ร้านในเครือ ส.ขอนแก่น มีไส้กรอกอีสาน หมู
หมีเป็ด
บอสพาชิม : Juksunchae
Review ในวันนี้จะขอพาทุกท่านไปชิมอาหารเกาหลี ไฟน์ไดน์ กัน Juksunchae เป็นร้านอาหารเกาหลีเดียวในกรุงเทพที่ติด Michelin guide และหลังจากที่ได้ไปชิมผมว่าเหลือแค่กา
Isle of Jura
... ข้าวไก่กรอบ อาหารจานเดียวอร่อยๆ ทำง่ายแบบมีตัวช่วยค่ะ 🧡💛❤️
..วัตถุดิบและเครื่องปรุง - สะโพกไก่(เลาะเนื้อ หั่นเป็นชิ้น) - ผงเครื่องเทศพะโล้- สามเกลอ(รากผักชี กระเทียมและพริกไทยเม็ด) - ซอสหอยนางรม- ผงปรุงรส - แป้งสาลีอเนก
Ananya Amy_1994
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
อาหารฝรั่ง
อาหารฟิวชั่น
อาหารไทย
อาหารจานเดียว
ร้านอาหาร
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แบ่งปัน :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] รีวิว Orca Baker & Butcher ร้านอาหาร/คาเฟ่/มินิมาร์เก็ตวัตถุดิบนำเข้าระดับพรีเมี่ยม รวมไว้ในที่เดียว
หน้าแรกเป็นเมนูเรียกน้ำย่อยราคาเริ่มต้นที่ 110 บาท สำหรับเมนูขนมปังหน้าไข่และชีส แพงสุดราคา 350 บาทคือเมนูตับห่านย่างเสิร์ฟพร้อมซอสส้ม หน้าต่อไปคือซุปสไตล์ฝรั่งมี 2 เมนูรายการละ 150 บาท สลัดผักสดเริ่มต้นที่ 180 บาท สำหรับสลัดซีซาร์ แพงสุดราคา 450 บาท สำหรับเมนูสลัดชีสบูร์ราต้าและมะเขือเทศ พาสต้าผัดร้อนๆเริ่มต้นที่ 195-590 บาท สเต็กเนื้อส่วนต่างๆราคาเริ่มต้นที่ 350-990 บาท พิซซ่าราคาเริ่มต้นถาดละ 250-450 บาท เมนูจานหลักราคาเริ่มต้นที่ 270 บาท สำหรับเมนูสเต็กหมูพอร์คชอป แพงสุดราคา 590 บาท สำหรับเมนูปลาหิมะย่างเสิร์ฟพร้อมซอสครีมกุ้ง เบอร์เกอร์มีให้เลือกทั้งไก่-ปลา-เนื้อราคาเริ่มต้นที่ 250-380 บาท เมนูอาหารไทยที่ร้านเน้นเนื้อวัวเอามาปรุงราคาเริ่มต้นที่ 135-220 บาท ของหวานราคาเริ่มต้นที่ 150-220 บาท นอกจากนี้ก็ยังมีกาแฟสด/ชา/น้ำอัดลม/อิตาเลียนโซดา/น้ำผลไม้ปั่นแบบร้านคาเฟ่ ราคาเริ่มต้นแก้วละ 40-110 บาท นอกนั้นคือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับมิกซ์เซอร์ทั้งหลาย โดยรวมแล้วถือว่าราคาไม่แพงเลยเพราะแต่ละจานเสิร์ฟมาใหญ่จัดเต็มมากๆ (จากประสบการณ์ที่เคยทานมาก่อน) แถมมีเมนูให้เลือกเยอะทั้งทานเล่นๆแบบคาเฟ่และจริงจังมานั่งได้หลายโอกาสดี แต่ความพิเศษของร้านนี้ไม่ได้จบแค่ในเล่มเมนูยังมีบริการอื่นๆเพิ่มเติมอีกเพียบเราเข้าไปด้านในกันครับผม
เมื่อเข้ามาในร้านสิ่งที่มองเห็นชัดเป็นอันดับแรกก่อนเลยก็คือครัวแบบเปิดโล่งสว่างสามารถมองเห็นครัวสะอาดสบายตาได้ตั้งแต่ด้านหน้า ถัดมาเป็นตู้แช่เนื้อสัตว์ขายแบบซุปเปอร์มาร์เก็ตมีให้เลือกทั้งเนื้อวัวส่วนต่างๆนำเข้าจากอเมริกา/นิวซีแลนด์/ออสเตรเลีย เนื้อแกะ/แฮมชนิดต่างๆและชีสเกือบทั่วโลกก็มีจำหน่ายทั้งแบบเป็นแพ็คและชั่งขีด โดยวัตถุดิบในร้านทั้งหมดที่นำมาจำหน่ายเป็นของ J Gourmet นอกจากนี้ยังมีเส้นพาสต้า-น้ำมันมะกอกน้ำเข้าขายหลากหลายยี่ห้อให้เลือกอยู่บนชั้น ไวน์และเครื่องดื่มบางส่วนที่โซนคาเฟ่ก็นำเข้าจากต่างประเทศอีกด้วย เหมือนเป็นร้านอาหารที่เป็นร้านขายของนำเข้าหายากไปด้วยในตัว ถือว่าเป็นแนวคิดในการทำร้านอาหารที่ดูแปลกใหม่ดีครับผม
มาถึงโซนที่นั่งล้อมรอบด้วยกระจกบรรยากาศภายในตกแต่งสไตล์ Loft ด้วยพื้น-กำแพงอิฐผสมปูนเปลือยตัดความหรูหราด้วยไม้สีอ่อน โต๊ะที่ใช้เป็นโครงเหล็กที่ดูเก่าแต่แข็งแรงที่สำคัญคือขยับยากเพราะหนักมากๆ เก้าอี้เลือกได้ตั้งแต่โครงเหล็กบุหนังสีเข้มหรือโซฟานิ่มๆสไตล์ย้อนยุคคุมโทนสีน้ำตาลเข้มใช้ไฟส่องสว่างสีเหลืองดูอบอุ่นน่านั่งนานๆ ตรงกลางร้านก็ยังคงมีตู้แช่วัตถุดิบทั้งผัก-เนื้อสัตว์และอาหารทะเลจำหน่ายให้กับลูกค้าอีกเช่นเคย ถ้าได้ทานเมนูไหนแล้วเกิดติดใจอยากซื้อวัตถุดิบนั้นๆกลับบ้านในตู้แช่นี้ก็มีให้เลือกครบถ้วน ถือว่าสะดวกสบายไปอีกแบบครับ
มัวแต่ไปเดินถ่ายรูปรอบร้านอาหารต่างๆทยอยมาเสิร์ฟที่โต๊ะอย่างรวดเร็วเริ่มจากเมนู "ตับห่านย่างเสิร์ฟพร้อมซอสส้ม" ราคา 350 บาท เป็นฟัวกราส์เต็มชิ้นหนาๆย่างด้านนอกสุกกรอบแต่เนื้อด้านในชุ่มฉ่ำรสชาติเข้มข้น ทานคู่กับซอสส้มน่าจะเป็นวาเลนเซียรสเปรี้ยวหวานหอมส้มถึงใจ ในจานมาพร้อมเนื้อส้ม/แป้งสีแดงกรอบ/หอมแดงดอง/บัลซามิก/ถั่วพีแคน/ขนมปังอบกรอบฉ่ำเนย ทานกับตับห่านช่วยเปลี่ยนรสชาติไปได้เรื่อยๆอย่างเพลิดเพลินคุ้มราคามากครับ จานต่อไปเป็นเมนูฟิวชั่นสุดแปลกคือ "ปลาหิมะย่างเสิร์ฟพร้อมซอสครีมกุ้ง" ราคา 590 บาท เป็นการนำปลาหิมะมาย่างด้วยมิโสะรสหวานแบบร้านญี่ปุ่นทานกับซอสครีมกุ้งรสชาติเข้มข้นแบบซุปกุ้งล๊อบสเตอร์ เพิ่มความสดชื่นด้วยผักคะน้าฮ่องกงลวกและข้าวเกรียบว่าวทอดกรุบกรอบแบบไทยๆ จานนี้ถือว่ามีการปรุงโดยใช้เทคนิคจากหลายสัญชาติแต่จุดที่อร่อยสุดก็คือปลาหิมะเนื้อสีขาวแน่นกระชับชิ้นใหญให้ปริมาณเยอะสมราคา เมื่อทานคู่กับส่วนประกอบต่างๆที่ทางร้านนำเสนอแล้วถึงมันจะแปลกแต่ก็ลงตัวและได้ความหลากหลายในรสชาติอย่างน่าสนใจครับ
เมนูต่อมาไม่หวือหวามากนักเพราะเป็นของน้องคนเล็กสุดในที่ทำงานก็สั่งมาเป็น "สปาเก็ตตี้เบคอนกระเทียม" ราคา 195 บาท สปาเก็ตตี้ลวกมาสุกกำลังดีแบบ Al Dente ผัดกับเบคอนทอดกรอบ/กระเทียมสด/พริกแห้งและใบกะเพราทอดปรุงรสด้วยเกลือ+พริกไทยเพิ่มความนัวด้วยพาเมซานชีสขูดได้ทั้งความเค็มเผ็ดและหอมมันลงตัวในทุกๆคำ มากับสาวๆเมนูที่ขาดไม่ได้ก็คือสลัดเลยสั่งมาเป็น "สลัดแซลมอน" ราคา 220 บาท รสชาติค่อนข้างแปลกเพราะส่วนผสมหลายๆอย่างทั้งผักร๊อกเกต/ผักเคล/แรดิช/กระหล่ำม่วงคลุกกับน้ำสลัดครีมที่รสชาติอ่อนๆผสมกับใบผักชีลาว/เลมอนสไลด์/แซลมอนรมควันและโรยด้วยแอลมอนด์อบกรอบ สิ่งที่ไม่คุ้นคือกลิ่นผักชีลาวในสลัดและความเปรี้ยวขมเปลือกนิดๆของเลมอน ส่วนตัวว่ารสชาติแปลกแต่น้องที่ไปด้วยบอกอร่อยมากจิ้มทานเรื่อยๆไม่หยุด
เมนูต่อมาเป็นจานที่แพงสุดและฟินห์ที่สุดสำหรับสายเนื้อนั่นคือ "สเต็กเนื้อกับตับห่านและซอสทรัฟเฟิล" ราคา 990 บาท เป็นสเต็กเนื้อวัวสไตล์ฝรั่งเศสที่ใช้ส่วนสันในไขมันน้อยแต่นุ่มรสชาติเข้มข้นย่างสุกแบบ Medium Rare ด้านนอกสีเข้มแต่เนื้อในอมชมพู รองด้วยมันบดเนื้อเนียนหอมกลิ่นนม+เนยท๊อบปิ้งด้วยฟัวกราส์ย่างราดซอสเปรี้ยวอมหวานหแมกลิ่นน้ำมันทรัฟเฟิลและหอมแดงดองกรุบกรอบ เนื้อวัวที่ใช้รสชาติเข้มข้น (ไม่แน่ในว่าออสเตรเลียหรือแองกัส) เข้ากันได้กับซอส/ฟัวกราส์และเครื่องต่างๆที่ใส่ลงไปได้เป็นอย่างดีถือว่าอร่อยแม้จะราคาสูงไปหน่อยแต่ถ้าคุณเป็นสายเนื้อตัวยงจานนี้ถือว่าสมราคาครับ เมนูต่อไปก็ยังคงเอาใจสายเนื้อตัวยงก็คือ "เบอร์เกอร์เนื้อวากิวสไตล์คลาสิค" ราคา 380 บาท เนื้อวากิวบดปั้นเป็นก้อนย่างสอดไส้ในขนมปังเบอร์เกอร์นาบบนกระทะกรุบกรอบแต่เนื้อในนุ่ม เพิ่มซอสมะเขือเทศผัดกับหอมใหญ่และผักกาดแก้วผสมมายองเนสให้ความหวานสดชื่นเสิร์ฟกับมันฝรั่งทอดและซอสมัสตาร์ตมาโย สลัดผัดสดคลุกกับบัสซามิกรสหวานอมเปรี้ยวได้โภชนาการเกือบครบทุกหมู่ในจานเดียวกัน
เมนูต่อมาราคาถูกให้ชีสมาหนาและแผ่นใหญ่เกินราคาอย่าง "พิซซ่าหน้าผักโขมและชีส" ราคา 250 บาท แป้งพิซซ่าขอบบางกรอบแต่ตรงกลางเคี้ยวเหนียวหนึบสไตล์อิตาลี ประโคมด้วยชีสลงไปเป็นชั้นหนาๆผสมกับผักโขมที่ผัดมากับไวท์ซอสผสมพาเมซานชีสสุดกลมกล่อม กัดตรงไหนก็เจอแต่ชีส+ผักโขมและแป้งบางกรุบกรอบเข้ากันได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อแถมให้มาถึง 8 ชิ้นขายในราคาแค่นี้คุ้มกว่าทานร้านพิซซ่าเจ้าตลาดอีกครับ จานสุดท้ายเป็นเมนูอาหารไทยรสเผ็ดแซ่บที่ทำจานเนื้อวัวอย่าง "ข้าวหน้าเนื้อคั่วกลิ้ง+ไข่ดาว" ราคา 135 บาท เนื้อวัวสับผัดกับพริกแกงใต้รสเผ็ดเค็มประโคมเครื่องสมุนไพรต่างๆลงไปทั้งพริกไทยสดกรุบกรอบไม่เผ็ดฉุน/พริกชี้ฟ้าแดงและใบมะกรูดทานคู่กันกับข้าวสวยหอมมะลิร้อนๆและไข่ดาวทอดไม่สุกให้ไข่แดงเคลือบข้าวและคั่วกลิ้งเพิ่มความนัวอร่อยสไตล์ไทยดีมากๆ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น