จากกระทู้เดิม ที่รีวิวการตรวจของโรงพยาบาลประกันสังคม ว่าเป็นเส้นเอ็น เราไปตรวจที่โรงพยาบาลจุฬา พบว่าเป็นก้อนเนื้อ 7 ซม. (ใหญ่สุด) 
แล้วก็ยังมีตัวเล็ก ตัวน้อย อีก 5- 6 ก้อน น่ารักอะ เรามาเริ่มกระบวนการกันเลยค่า
       เมื่อหมอลงมติเห็นว่าควรผ่าตัด ลำดับต่อไปคือ หมดนัดตรวจความพร้อมของร่างกายเราก่อนผ่าตัด ได้แก่ ตรวจเลือด หัวใจ ปอด ปัสสาวะ 
หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ มาฟังผลตรวจร่างกาย ผลตรวจร่างกายเรา โอเคทุกอย่าง (มีบางคนไม่โอเคด้วยเช่นค่าเลือดต่ำ ก็ต้องกินยาปรับค่าเลือดก่อน) 
หลังจากนั้นหมอนัดวันผ่า ตามคิว ตอนนั้นนัดไปอีก 3 สัปดาห์ โดยก่อนถึงวันผ่า ทาง รพ. จะนัดเจออาจารย์หมอผู้เชี่ยวชาญ อีก 1 รอบ ซึ่งจะเจอหมอ
สูตินารี ระดับอาจารย์หมอ 5-6 ท่าน ขั้นตอนนี้หมอก็จะให้เราตรวจภายในอีกรอบ โดยอาจารย์หมอจะมายืนดูที่จอแล้ววินิจฉัยว่า ก้อนเนื้อมันประมาณไหน
ของเราอาจารย์หมอท่านนึงเดินเข้ามา เห็นจอไม่ถึง 3 วิ พูดเลยว่าก้อนเนื้อทับลำใส้ใหญ่นิ ท้องผูกใช่มั้ย เราบอกว่าใช่ค่ะ อาการเราคือท้องผูกหนักมาก
จากปกติเราจะถ่ายทุกวัน แต่หลังๆ คือ 4-5 วันถ่ายหนนึง แล้วถ่ายน้อยมาก ขนาดของอุจจาระ เล็กๆ เมื่อตรวจเรียบร้อย หมอก็ให้ดำเนินการเรื่องผ่าตัด
รับเอกสารแจ้งรายละเอียดเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด จองห้องพักฟื้น มีตั้งแต่ห้องเดี่ยว ห้องรวม หลายขนาด 
              ก่อนวันผ่าตัดหมอให้มานอนโรงพยาบาลก่อน 1 คืน โดยก่อนมา หมอจะให้ทานอาหารเป็นข้าวต้มปลา อาหารที่ย่อยง่าย ห้ามกินเนื้อสัตว์
ผักย่อยยาก และวันแรกที่นอน โรงพยาบาล คุณจะได้ทานแค่น้ำข้าวต้ม น้ำแกงจืด น้ำเก็กฮวย เท่านั้น ตกเย็น จะมีคุณหมอแต่ละท่าน เข้ามาถามอาการ
ต่างๆ พอตกค่ำ จะมีแแพทย์วิสัญญี มาคุยกับเราเพื่อประเมินอาการ และจะโดนพยาบาลสวนก้น และให้ดูว่าเราถ่ายจนกว่าจะเป็นน้ำใสๆ เราสวนไป 2 รอบ ปรากฎว่าไม่ใส พยาบาลบอกวันนี้พอก่อน และก่อนนอนคืนนี้พยาบาลให้อาบน้ำสระผม และไดร์ผม มีไดร์เป่าผมให้ด้วยนะ
             เช้าวันใหม่ โดนสวนก้นอีกครั้ง พยาบาลเอาสบู่เหมือนยาฆ่าเชื้ออาบน้ำ แล้วเอาชุดเตรียมผ่าตัดมาให้ใส่ ไปโกนขนตรงจุดสงวน 
เวลาผ่าตัดของเราคือ 10.30 น. ประมาณ 10 โมง มีเจ้าหน้าที่มาเข็นเราไปรอที่หน้าห้องผ่าตัด ถึงเวลา เข็นเข้าห้องผ่าตัดแล้ว
             เข้ามาในห้องอุปกรณ์ในห้องผ่าตัดดูตื่นตาตื่นใจมาก ดูทันสมัยเชียว เราโดนจับยกขึ้นเตียงผ่าตัด เอาผ้าคลุมแบ่งท่อนบนกับท่อนล่าง มีเปิดชุดคลุม ติดอุปกรณ์วัดชีพจร และอุปกรณ์ต่างๆหลังจากนั้นสู่กระบวนการบล็อคหลัง โดยจะให้เรานอนตะแคง งอเข่า แล้วหมอจะฉีดยาเข้าตรงกระดูกสันหลังด้านล่างๆ สักพักจะมีหมอเอาเข็มมาจิ้มๆ ที่ตัวเรา แล้วถามว่าเจ็บมั้ย ไปมา แล้วสักพัก หมอก็บอกว่า ลงมีดแล้วนะคะ ความรู้สึกตอนนั้นคือไม่รู้สึกอะไรเลย
จากนั้นหมอวิสัญญีคนดีคนเดิม ก็จะมาอยู่บนหัวเราแล้วบอกว่า จะเอาอะไรบอกนะคะ หมออยู่ตรงนี้ตลอด หมอก็ถามอาการเราว่าตอนนี้รู้สึกอย่างไร เราบอกคลื่นใส้ หมอบอกเดี๋ยวจะค่อยๆ ดีขึ้น พอเราโอเคทุกอย่าง หมอบอกว่าเดี๋ยวหมอจะให้ยาเพื่อให้หลับนะคะ สักพัก หลับยาวเลย ตื่นมาอีกทีคือ คนไข้ค่ะ เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ 
         เราถูกเข็นออกมาจากห้องผ่าตัด มารอดูอาการหน้าห้อง โดยหมอจะให้ขยับเท้า รอบแรกขยับไม่ได้ ผ่านไป 10 นาที หมอมาให้ขยับใหม่ พอขยับได้
เจ้าหน้าที่จะเข็นเราไปห้องพักฟื้น โดยเราจะโดนสวนท่อปัสสะวะ ให้เรานอนบนเตียงนิ่งๆ หลังผ่าตัดมีไข้สูงนิดหน่อย แต่อาการปวดแผลไม่มีเลย
         สายๆ ของวันถัดมา หมอจะมาถอดสายปัสสาวะ แล้วเวลาเข้าห้องน้ำให้ตวงปัสสะวะแล้วจดจำนวนและเวลา ว่าถ่ายกี่โมง ตกบ่าย คุณพยาบาลพาหัดเดินจ้าา ตอนลุกครั้งแรก เจ็บแผลมากกก แต่พอลุกได้แล้วก็โอเค พยาบาลบอกใหพยายามเดินบ่อยๆ ยิ่งตอนทานข้าวเสร็จให้เดิน ท้องจะได้ไม่อืดด
อาหารหลังผ่าตัดก็จะเป็นข้าวต้มใสๆ เลยจ้า นอนดูอาการอยู่ 2 คืน แล้วก็ได้กลับบ้านแล้ววว รวมนอนที่ รพ.4 คืน 5 วัน
          กลับมาบ้านก็ดูแลทานอาหารอ่อน จืด เดินออกกำลังกายหลังทานอาหาร 30 นาที ปกติ 3 สัปดาห์หลังผ่าตัดหมอจะนัดไป ตรวจร่างกาย แต่เรา
ติดช่วงโควิด  หมอเลยโทรมาหาสอบถามอาการแล้วแจ้งผลชิ้นเนื้อว่าปกติ เลยนัดอีกทีอีก 4 เดือน
          หลังผ่าตัดก็พักฟื้น ทานอาหารได้ปกติ ดูแลตามแพทย์แนะนำ ไม่มีอะไรน่าห่วง 

อยากแนะนำผู้หญิงทุกคนว่าเมื่ออายุ 25 ปีขึ้นไป มีโอกาสเป็นเนื้องอกได้ทุกท่าน ให้หมั่นตรวจภายในทุกปี ตามหมอแนะนำ ตอนไปนอนผ่าตัดเจอคุณป้าท่านนึง ท่านตรวจสุขภาพทุกปี ตรวจมะเร็งปากมดลูกทุกปี แต่ไม่ได้ ตรวจภายใน ปรากฎว่าท่านมีอาการปวดท้อง ผอมลง เลยไปพบแพทย์ ตรวจเจอก้อนเนื้อร้ายด้วย

         สรุปค่าใช้จ่ายหมดไป 20,000 กว่าบาท นอนห้องธรรมดา เพราะห้องพิเศษเต็ม มาได้เอาคืนสุดท้ายเลยไม่ย้าย