คือผมเคยเป็นคนมองโลกในแง่ดี ร่าเริง สนุก เฮฮา เป็นมิตรกับทุกๆคน ค่อยเติมพลังงานบวกให้คนรอบๆข้าง สร้างรอยยิ้มให้ทุกๆคน ไม่เคยเอาเรื่องอะไรให้คนรอบๆข้างเครียด แต่มีช่วงหนึ่งตอนอายุ18มีปัญหาในหลายเรื่อง ครอบครัว ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเรียน แล้วตอนนั้นผมก็มีช่วงเวลาหนึ่งที่จีบผู้หญิงคนนึง แต่เรา2คนอยู่จุดที่ต่างกันมากๆ แต่ผมก็ทุ่มเททุกๆอย่าง ไม่ว่าปัญหาอะไร แค่ผมได้คุย ได้เจอเค้ามันก็ทำให้ผมรู้สึกว่าไม่รู้สึกเหนื่อยอะไร บวกกับเค้าคือคนที่ผมแอบชอบมาประมาณเกือบ5ปี แล้วพอวันนึงเราได้คุยกัน มันทำให้รู้สึกว่าดีมากๆ จากคนไม่มีอะไรเลย ไร้จุดหมาย ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ เค้าคือคนแรกของทุกๆอย่าง ผมพึ่งมีความสุข
เข้าใจถึงการมีแฟนครั้งตอนอายุ18ปี สอนให้ผมเข้าใจในหลายๆเรื่อง แต่พบก็ต้องมีจาก ด้วยความไร้เดียงสาของผม
ที่งี่เง่า ไม่เข้าใจความรักมากพอ ตอนแรกความรักของผม
แค่การได้เจอเค้า ได้เห็นเค้ายิ้ม มันก็มีความสุข แต่ช่วงหลังๆผมก็เรียกร้อง ต้องการเจอเค้ามากเกินไป และด้วยความต่างของเราที่มันคงต่างกันมากเกินไปและผมอ่อนเรื่องความรัก ทำให้คุยได้แค่ประมาณ6เดือน และเค้าก็มีปัญหาของเค้า ผมอาจจะทุ่มมากเกินไป หลังจากวันนั้นผมก็ไม่เคยลืมเค้า จากคนที่ไม่คิดอะไรกับอนาคตก็มีเค้า เข้ามาช่วยวางแผน วางอนาคต ที่ตอนนั้นมันมีเค้าอยู่ข้างๆ ตอนนี้มันก็ยังคงเป็นแบบนั้น ที่เล่ามาเนื่องจากหลังจากเราที่บอกว่าเหมือนจะเลิกกัน เค้ามีปัญหาของเค้าที่เค้าต้องการให้มันจบ
เค้าบอกกับผมว่าเค้าอยากห่างจากผม3เดือน คือวันที่ 3 พฤษภาคม เราจะกลับมาเจอกัน เราก็แยกกันไม่มีการติดต่อกัน3เดือน แต่ช่วงจังหวะที่เราคุยกันผมก็รู้ดีว่า นั้นคือคำบอกลา เค้าจะไม่มีวันกลับมา ช่วง3เดือนนั้น มันทำให้ผมทำอะไรไม่ได้เลย ผมต้องทำงาน part time ผมก็ทำได้ไม่เต็มที่ ไม่ว่าจะทำอะไรก็นึกถึงเค้า เอาแต่ร้องไหทุกๆวัน นอนไม่ตรงเวลา นอนน้อย ตื่นเช้า นอนตี2 ตื่นตี4ทุกๆวัน เป็นเวลา4เดือน นอนน้อยมาก ในเวลา1เดือนน้ำหนักผมลดไป10กิโล แต่ก็ไม่มีใครในครอบครัวรู้อะไร เนื่องจากไม่ชอบทำให้คนรอบๆข้าง ไม่สบายใจ ให้เห็นแค่รอยยิ้มก็พอ แต่เมื่อต้องกลับไปเรียน สิ่งที่คิดว่าลืม ก็กลับจำ ผมต้องหนีหน้าเค้าเพื่อจะลืม ผมกับเค้าต่างกัน สิ่งที่ผมเคยต้องการให้เค้า
คือรอยยิ้ม ความสุข หลังจากที่ไม่ได้คุยกัน ผมไม่เคยเห็นเค้ายิ้มให้ผมสักครั้ง ผมเลยรู้สึกว่า ไม่อยากให้เค้าต้องมาเป็นแบบนี้ ทุกครั้งที่เห็นเค้ายิ้มให้คนอื่น แต่ผมกลับทำให้เค้ายิ้มแบบนั้นไม่ได้มันเจ็บมาก ไม่อยากให้เค้าเอาชีวิตมาทิ้งกับคนไร้อนาคต แล้ววันนึง จากที่เราไม่ได้คุยกันมานานมาก เค้าก็ทักมาในเฟสว่าหนีหน้าทำไม ผมที่ทำทุกอย่างหนีหน้า คิดว่าทุกอย่างมันจะหายไปแล้ว จะลืมไปแล้ว ก็ตอบคำถามเพื่อทำร้ายจิตใจเค้า แล้ววันนั้นมันก็ทำให้ความรู้ที่เก็บมา มันระเบิดออก ผมร้องไห ผมช็อคกับสิ่งที่ทำไป แต่ก็คิดแล้วว่ามันดีแล้วที่ทำไป แต่มันก็เจ็บมาก มันคือจุดเปลี่ยนของชีวิตตั้งแต่วันนั้น ไม่ได้โทษเค้านะครับ สิ่งที่ทำไปคือผมทำตัวเองทั้งวัน หลังจากนั้น ผมก็มีอาการทุกๆอย่าง ของคนเป็นโรคซึมเศร้า ไม่ว่าจะทำแบบสอบถามจากที่ไหนผมก็ได้เกือบเต็มเสมอ เพื่อนคนรอบๆข้างก็สังเกต แล้วก็ทักเสมอว่าเครียดอะไร ผมเปลี่ยนจาก คนมองโลกในแง่บวก เป็นลบ
จากคนที่สร้างรอยยิ้มให้กับเพื่อนๆในกลับ มากลับเป็นคนที่เงียบ พึ่งพาอะไรไม่ได้เลย รู้สึกยิ้มไม่ได้ ทุกครั้งที่ยิ้มต้องปั้นหน้าให้ยิ้ม ไม่มีความสุขกับอะไรเลย จนวันนี้มันผ่านมาเกือบ3ปี ผมยังมีอาการ นอนไม่เป็นเวลา นอนน้อย หรือนอนมากเกินไปแต่นอนเยอะมากแค่ไหน ร่างกายก็เหมือนไร้พลัง
รู้สึกเบื่อกับทุกๆอย่าง ไม่อยากเจอใคร อยากอยู่คนเดียว ทำอะไรคนเดียว พอเรียนที่ใหม่ก็ เวลาทำงานกลุ่ม ผมก็เหมือนคนไร้ค่า รู้สึกทำคนเดียวดีกว่า ไม่อยากให้เพื่อนมาลำบากกับเรา อยู่กับใครไม่ได้นาน เนื่องจากเบื่อชีวิต ใน1สัปดาห์ ถ้ามีอะไรมาทำให้รู้สึกแย่ๆ ก็อยากตาย คิดแต่เรื่องว่าเราจะตายแบบไหนดี บางครั้งก็ อยู่เฉยๆก็เก็บตัว ไม่มีใครสามารถติดต่อได้ ไม่อยากติดต่อกับใคร ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ผมยัวไม่เคยไปปรึกษาหมอเลยครับ เนื่องจากไม่มีตัง ไม่รู้ว่าใช้เงินจำนวนเท่าไหร่ กลัวเสียประวัติ แล้วไม่รู้ว่าเป็นอะไร (ส่วนตัวเป็นเด็กที่เครียด เก็บกดมาตั้งแต่เด็ก)
แต่ก็สามารถควบคุมตัวเองได้เสมอ รู้ในสิ่งที่คิดแหละทำ
ผมกลัวผมเป็นโรคจิต โรคซึมเศร้า
ทุกๆครั้งก็ค่อยบอกกับตัวเองว่าแค่อาการขี้เกียจ
ทุกๆอย่างที่จะฆ่าตัวตาย ผมก็บอกตัวเองเสมอว่าเราต้องทรมานตัวเองให้ถึงที่สุดสิ แล้ววันนึงเราจะไม่รู้สึกอะไร เราจะเข้มแข็ง นานๆครั้งก็จะคุยกับคนที่ไว้ใจ แต่มันก็ไม่ได้ทำอะไรให้ดีมากขึ้น อยากทราบถามพูดรู้ครับ ว่าเป็นอะไร
แค่อกหัก แค่ขี้เกียจ หรือเป็นโรคซึมเศร้าครับ
ผมเป็นโรคซึมเศร้าหรือเปล่าครับ
เข้าใจถึงการมีแฟนครั้งตอนอายุ18ปี สอนให้ผมเข้าใจในหลายๆเรื่อง แต่พบก็ต้องมีจาก ด้วยความไร้เดียงสาของผม
ที่งี่เง่า ไม่เข้าใจความรักมากพอ ตอนแรกความรักของผม
แค่การได้เจอเค้า ได้เห็นเค้ายิ้ม มันก็มีความสุข แต่ช่วงหลังๆผมก็เรียกร้อง ต้องการเจอเค้ามากเกินไป และด้วยความต่างของเราที่มันคงต่างกันมากเกินไปและผมอ่อนเรื่องความรัก ทำให้คุยได้แค่ประมาณ6เดือน และเค้าก็มีปัญหาของเค้า ผมอาจจะทุ่มมากเกินไป หลังจากวันนั้นผมก็ไม่เคยลืมเค้า จากคนที่ไม่คิดอะไรกับอนาคตก็มีเค้า เข้ามาช่วยวางแผน วางอนาคต ที่ตอนนั้นมันมีเค้าอยู่ข้างๆ ตอนนี้มันก็ยังคงเป็นแบบนั้น ที่เล่ามาเนื่องจากหลังจากเราที่บอกว่าเหมือนจะเลิกกัน เค้ามีปัญหาของเค้าที่เค้าต้องการให้มันจบ
เค้าบอกกับผมว่าเค้าอยากห่างจากผม3เดือน คือวันที่ 3 พฤษภาคม เราจะกลับมาเจอกัน เราก็แยกกันไม่มีการติดต่อกัน3เดือน แต่ช่วงจังหวะที่เราคุยกันผมก็รู้ดีว่า นั้นคือคำบอกลา เค้าจะไม่มีวันกลับมา ช่วง3เดือนนั้น มันทำให้ผมทำอะไรไม่ได้เลย ผมต้องทำงาน part time ผมก็ทำได้ไม่เต็มที่ ไม่ว่าจะทำอะไรก็นึกถึงเค้า เอาแต่ร้องไหทุกๆวัน นอนไม่ตรงเวลา นอนน้อย ตื่นเช้า นอนตี2 ตื่นตี4ทุกๆวัน เป็นเวลา4เดือน นอนน้อยมาก ในเวลา1เดือนน้ำหนักผมลดไป10กิโล แต่ก็ไม่มีใครในครอบครัวรู้อะไร เนื่องจากไม่ชอบทำให้คนรอบๆข้าง ไม่สบายใจ ให้เห็นแค่รอยยิ้มก็พอ แต่เมื่อต้องกลับไปเรียน สิ่งที่คิดว่าลืม ก็กลับจำ ผมต้องหนีหน้าเค้าเพื่อจะลืม ผมกับเค้าต่างกัน สิ่งที่ผมเคยต้องการให้เค้า
คือรอยยิ้ม ความสุข หลังจากที่ไม่ได้คุยกัน ผมไม่เคยเห็นเค้ายิ้มให้ผมสักครั้ง ผมเลยรู้สึกว่า ไม่อยากให้เค้าต้องมาเป็นแบบนี้ ทุกครั้งที่เห็นเค้ายิ้มให้คนอื่น แต่ผมกลับทำให้เค้ายิ้มแบบนั้นไม่ได้มันเจ็บมาก ไม่อยากให้เค้าเอาชีวิตมาทิ้งกับคนไร้อนาคต แล้ววันนึง จากที่เราไม่ได้คุยกันมานานมาก เค้าก็ทักมาในเฟสว่าหนีหน้าทำไม ผมที่ทำทุกอย่างหนีหน้า คิดว่าทุกอย่างมันจะหายไปแล้ว จะลืมไปแล้ว ก็ตอบคำถามเพื่อทำร้ายจิตใจเค้า แล้ววันนั้นมันก็ทำให้ความรู้ที่เก็บมา มันระเบิดออก ผมร้องไห ผมช็อคกับสิ่งที่ทำไป แต่ก็คิดแล้วว่ามันดีแล้วที่ทำไป แต่มันก็เจ็บมาก มันคือจุดเปลี่ยนของชีวิตตั้งแต่วันนั้น ไม่ได้โทษเค้านะครับ สิ่งที่ทำไปคือผมทำตัวเองทั้งวัน หลังจากนั้น ผมก็มีอาการทุกๆอย่าง ของคนเป็นโรคซึมเศร้า ไม่ว่าจะทำแบบสอบถามจากที่ไหนผมก็ได้เกือบเต็มเสมอ เพื่อนคนรอบๆข้างก็สังเกต แล้วก็ทักเสมอว่าเครียดอะไร ผมเปลี่ยนจาก คนมองโลกในแง่บวก เป็นลบ
จากคนที่สร้างรอยยิ้มให้กับเพื่อนๆในกลับ มากลับเป็นคนที่เงียบ พึ่งพาอะไรไม่ได้เลย รู้สึกยิ้มไม่ได้ ทุกครั้งที่ยิ้มต้องปั้นหน้าให้ยิ้ม ไม่มีความสุขกับอะไรเลย จนวันนี้มันผ่านมาเกือบ3ปี ผมยังมีอาการ นอนไม่เป็นเวลา นอนน้อย หรือนอนมากเกินไปแต่นอนเยอะมากแค่ไหน ร่างกายก็เหมือนไร้พลัง
รู้สึกเบื่อกับทุกๆอย่าง ไม่อยากเจอใคร อยากอยู่คนเดียว ทำอะไรคนเดียว พอเรียนที่ใหม่ก็ เวลาทำงานกลุ่ม ผมก็เหมือนคนไร้ค่า รู้สึกทำคนเดียวดีกว่า ไม่อยากให้เพื่อนมาลำบากกับเรา อยู่กับใครไม่ได้นาน เนื่องจากเบื่อชีวิต ใน1สัปดาห์ ถ้ามีอะไรมาทำให้รู้สึกแย่ๆ ก็อยากตาย คิดแต่เรื่องว่าเราจะตายแบบไหนดี บางครั้งก็ อยู่เฉยๆก็เก็บตัว ไม่มีใครสามารถติดต่อได้ ไม่อยากติดต่อกับใคร ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ผมยัวไม่เคยไปปรึกษาหมอเลยครับ เนื่องจากไม่มีตัง ไม่รู้ว่าใช้เงินจำนวนเท่าไหร่ กลัวเสียประวัติ แล้วไม่รู้ว่าเป็นอะไร (ส่วนตัวเป็นเด็กที่เครียด เก็บกดมาตั้งแต่เด็ก)
แต่ก็สามารถควบคุมตัวเองได้เสมอ รู้ในสิ่งที่คิดแหละทำ
ผมกลัวผมเป็นโรคจิต โรคซึมเศร้า
ทุกๆครั้งก็ค่อยบอกกับตัวเองว่าแค่อาการขี้เกียจ
ทุกๆอย่างที่จะฆ่าตัวตาย ผมก็บอกตัวเองเสมอว่าเราต้องทรมานตัวเองให้ถึงที่สุดสิ แล้ววันนึงเราจะไม่รู้สึกอะไร เราจะเข้มแข็ง นานๆครั้งก็จะคุยกับคนที่ไว้ใจ แต่มันก็ไม่ได้ทำอะไรให้ดีมากขึ้น อยากทราบถามพูดรู้ครับ ว่าเป็นอะไร
แค่อกหัก แค่ขี้เกียจ หรือเป็นโรคซึมเศร้าครับ