คือเราเป็นเกย์ เข้ามาเรียนในกรุงเทพ ก็ใช้ชีวิตปกติ จนเรียน ปี 3 เพื่อนเราชวนไปเที่ยวซาวน่าเกย์แถวรังสิต เราไปเจอพี่คนนึง เขาอายุ 42 ละ เขาก็มาเที่ยวซาวน่าเหมือนกัน เราคุยกันถูกคอ พี่เขามาจีบเรา แล้วเราสองคนก็มีอะไรกัน ครั้งแรกใส่ถุงยางครับ พอหลังจากนั้น เรากับพี่เขาก็ติดต่อกันมาเรื่อยๆ จนคบกันเป็นแฟน เราตัดสินใจย้ายไปอยู่ห้องเดียวกับพี่เขา แล้วก็มีอะไรกันอีก โดยพี่เขาไม่ใส่ถุง มาตลอดหลังจากเราอยู่ห้องเดียวกัน พอคบกันมาประมาณ 1 ปี กว่าๆ พี่เขาเริ่มป่วยบ่อย และจะต้องกินยาตรงเวลาทุกวัน แต่เราก็ไม่ได้สนใจ ช่วงที่คบกัน อยู่ด้วยกัน เราสองคนมีความสุขมากๆ พี่เขาพาไปเที่ยวทะเล พาไปกินข้าว อยากได้อะไร เขาก็ซื้อให้ทุกอย่าง จนเรารักพี่เขามาก จนผ่านมา 1ปีกว่าๆ ที่พี่เจาเริ่มป่วย จนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล หมอบอกว่าเป็นมะเร็ง กับติดเชื้อ hiv เราจึงรู้วันนั้น ว่าพี่เขารักษาโรค hiv มาได้ 5 ปีละ รักษารับยาที่โรงพยาบาลที่นั้นละ แตอนนั้นเราตกใจและกลัวมาก เพราะเรามีอะไรกับพี่เขาโดยไม่ป้องกันมาตลอด หมอก็แนะนำให้เราตรวจหาเชื้อ แต่ตอนนั้นเรายังไม่อยากตรวจ จนอาการแหนเราทรุดหนักจนเขาเสียชีวิต ช่วงที่เขาป่วยนอนโรงพยาบาล เราก็ดูแลเขาตลอด เช็คขี้ เทเยี่ยว เช็คตัวทุกอย่าง เพราะเรารักพี่เขามาก สุดท้ายเราก็ไปร่วมจัดงานศพช่วยแท่งพี่เขาทุกอย่าง จนเผาเสร็จพิธี แล้วเราก็ย้ายออกจากห้องพี่เขา เราเสียใจมากตอนนั้น ทั้งรักทั้งเกลียดพี่เขา อีกใจก็รักและคิดถึง อีกใจก็โกรธที่พี่เจามาแพร่เชื้อ hiv ให้เรา ทั้งที่ตัวพี่เขาก็ติดมานานละ และกินยารักษาอยู่ สุดท้ายเราตั้งคำถามกับตัวเอง ว่าคนรักกันเขาทำกันแบบนี้หรอ ตอนนี้เวลาผ่านมา 13 ปีละ เรายังไม่ตาย เราเจารักการรักษา กินยาต่อเนื่องมา จน cd4 เพิ่ม 600 กว่า
อยากถามเพื่อนๆว่า เรามีแฟนมา 2 คน ทั้ง2คนติดเชื้อ hiv แล้วมามีอะไรกับเราโดยตั้งใจไม่ใส่ถุง มันคือความรักไหม