ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า รีวิว Anker Powerport PD+2 นี้ จากประสบการณ์ตัวเองที่ใช้สินค้านี้มา 10 เดือน
ผมสั่ง Anker Powerport PD+2 นี้จาก Anker Thailand official ใน Shopee
ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยซื้อ พวก Powerbank ของ Anker ซึ่งก็ใช้ดีครับ
ถ้าเป็นคนที่ใช้ iPhone รุ่นใหม่ๆ ที่สามารถรองรับ Power Delivery ได้ถือว่า Anker รุ่นนี้ดีเลยครับ
เพราะนอกจากจะมีช่อง PD 1 ช่อง ยังมี Power IQ ซึ่งใช้กับมือถือที่รองรับ Fast Charge ได้ อย่าง Samsung
ทำให้เวลาไปเที่ยว เราไม่ต้องพก ที่ charge ไปสองอัน และยังได้การ Charge เร็วทั้งสองช่อง
ตอนแรกที่ตัดสินใจซื้อ Anker ก็เพราะ เราเห็นเหล่า Tech Youtuber ของโลกต่างๆแนะนำ
ต้องยอมรับว่าการตลาดของ Anker นั้นดีมากๆ ที่อาศัย Tech influencer ในการประชาสัมพันธ์
แรกๆสินค้าใช้ได้ดีปกติครับ ชารจ์ไว ทั้งสองช่อง
แต่เมื่อสองเดือนที่แล้วผมเริ่มเจอปัญหากับ ช่อง PD ของรุ่นนี้ คือ ชารจ์ค้างคืนไว้
แต่พอตอนเช้ามาดู บางทีไฟเข้าไม่เต็ม หรือ ไม่เข้าเลย เช่น ก่อนนอน แบต 10% แล้วตอนเช้า แบตขึ้นมา สัก 50%
หรือถ้าวันไหนโชคไม่ดีก็ไม่เข้าเลย ทำให้ตอนเช้า iphone ผมไม่มีแบต
ลืมบอกไปว่า ผมใช้กับ iphone 11
นอกจาก ได้ลองกับ iphone 11 แล้ว ช่อง PD ก็ไม่สามารถ ชารจ์ ipad pro ของผมได้เต็มเช่นกัน
ล่าสุด ผมซื้อ iphone SE 2020 แล้วลองชารจ์ดู ปรากฎว่าเป็นเหมือนกันที่ีช่อง PD
แต่ถ้าใช้สาย lightning ธรรมดากับช่อง power IQ ไม่มีปัญหา
แรกๆคิดว่า คงเป็นที่สาย แต่ผมได้ลองใช้ สาย PD อีกสองเส้น กับ Charger PD ของ ZMI และ ล่าสุด Apple 20w
ชารจ์ปกติ แสดงว่าไม่ได้เป็นที่สายแน่นอน
เลยตัดสินใจลองส่งเคลม เพราะ Anker Thailand บอกว่ารับประกัน 2 ปี....
ทางศูนย์ Anker ให้ผมส่งคืนไปเพื่อตรวจ
ปรากฎว่า ไม่เจอปัญหาแบบที่ผมเจอ จึงไม่เคลมให้แล้วส่งกลับมา
พอผมได้รับกลับ ก็ยังเจอปัญหาเช่นเดิม เลยแจ้งเรื่องไป
ตอนแรก เจ้าหน้าที่ Anker Thailand บอกให้ผมหาเครื่องอื่นแล้ว Test
แต่ทางผมลองกับเครื่องที่บ้าน 3 เครื่องแล้ว ยังให้ผมต้องหาอีกเครื่อง เพื่อ Test อันนี้ไม่โอเค
และ ได้ลอง Charge กับ Apple Charger 20w ตัวใหม่ กับสายที่ใช้ก็ปกติ
มันต้องเป็น ที่ ของ Anker แน่ๆ คือ test ทั้งสาย ทั้ง Charger ทั้งเต้า มีตัวแปลที่เปลี่ยนก็คือ หัวชารจ์
ซึ่งตลอดการสนทนาใน Line กับ Anker service Thailand ทำให้ผมรู้ได้ว่าการจะเคลม Warranty กับ Anker นั้นยากมากๆ
เจ้าหน้าที่ ที่บอกเป็นผู้จัดการ Service ก็คุยไม่ดี
และบอกให้ผมเอาเข้าไปที่ office Anker อีกครั้งเพื่อ test อีกรอบ ซึ่งบอกจะออกค่ารถให้
คือผมไม่ได้ต้องการค่ารถ (เหมือนดูถูกลูกค้า)
และผมไม่มีเวลาพอที่จะต้องมา fight กับ charger ราคา ~800 บาท
ตลอดการสนทนาทาง Line ดูแล้วไม่มีใจบริการ จะเอาชนะลูกค้าให้ได้ ยังให้ท้ายว่า
จะเอามา Test กับเครื่อง iphone 6 ยัน iphone 12 เลย
ขอโทษครับ ดูเจ้าหน้าจะมีเวลาว่าง Test
แต่ไม่ฟังเหตุผลและพยายามแก้ปัญหาของลูกค้าเลย อยากจะเอาชนะอย่างเดียว...
สำหรับเคสนี้ ปัญหาผมไม่ได้ถูกแก้
และผมคงไม่ใช้ Anker อีกแล้ว
เข้าใจว่า Product ดี แต่ผมอาจจะโชคไม่ดีที่ เจอ Defect และ Customer Service ที่แย่
เลยอยากจะมาแชร์ปัญหาที่เจอ กับ Anker และ Warranty ที่เป็น แค่ Sale point บนกล่อง
คิดว่าคงจะมีเจ้าหน้าที่ Anker เข้ามาอ่าน เพราะเค้าคงรอกระทู้นี้อยู่
ใครจะซื้อ Anker ก็คิดให้ดีๆครับ
ใช้ดีมันก็ดี
แต่ถ้าเจอปัญหา ต้องลองเสี่ยงเคลมดูครับ
[CR] รีวิวที่ ชารจ์มือถือ ยี่ห้อ Anker
ผมสั่ง Anker Powerport PD+2 นี้จาก Anker Thailand official ใน Shopee
ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยซื้อ พวก Powerbank ของ Anker ซึ่งก็ใช้ดีครับ
ถ้าเป็นคนที่ใช้ iPhone รุ่นใหม่ๆ ที่สามารถรองรับ Power Delivery ได้ถือว่า Anker รุ่นนี้ดีเลยครับ
เพราะนอกจากจะมีช่อง PD 1 ช่อง ยังมี Power IQ ซึ่งใช้กับมือถือที่รองรับ Fast Charge ได้ อย่าง Samsung
ทำให้เวลาไปเที่ยว เราไม่ต้องพก ที่ charge ไปสองอัน และยังได้การ Charge เร็วทั้งสองช่อง
ตอนแรกที่ตัดสินใจซื้อ Anker ก็เพราะ เราเห็นเหล่า Tech Youtuber ของโลกต่างๆแนะนำ
ต้องยอมรับว่าการตลาดของ Anker นั้นดีมากๆ ที่อาศัย Tech influencer ในการประชาสัมพันธ์
แรกๆสินค้าใช้ได้ดีปกติครับ ชารจ์ไว ทั้งสองช่อง
แต่เมื่อสองเดือนที่แล้วผมเริ่มเจอปัญหากับ ช่อง PD ของรุ่นนี้ คือ ชารจ์ค้างคืนไว้
แต่พอตอนเช้ามาดู บางทีไฟเข้าไม่เต็ม หรือ ไม่เข้าเลย เช่น ก่อนนอน แบต 10% แล้วตอนเช้า แบตขึ้นมา สัก 50%
หรือถ้าวันไหนโชคไม่ดีก็ไม่เข้าเลย ทำให้ตอนเช้า iphone ผมไม่มีแบต
ลืมบอกไปว่า ผมใช้กับ iphone 11
นอกจาก ได้ลองกับ iphone 11 แล้ว ช่อง PD ก็ไม่สามารถ ชารจ์ ipad pro ของผมได้เต็มเช่นกัน
ล่าสุด ผมซื้อ iphone SE 2020 แล้วลองชารจ์ดู ปรากฎว่าเป็นเหมือนกันที่ีช่อง PD
แต่ถ้าใช้สาย lightning ธรรมดากับช่อง power IQ ไม่มีปัญหา
แรกๆคิดว่า คงเป็นที่สาย แต่ผมได้ลองใช้ สาย PD อีกสองเส้น กับ Charger PD ของ ZMI และ ล่าสุด Apple 20w
ชารจ์ปกติ แสดงว่าไม่ได้เป็นที่สายแน่นอน
เลยตัดสินใจลองส่งเคลม เพราะ Anker Thailand บอกว่ารับประกัน 2 ปี....
ทางศูนย์ Anker ให้ผมส่งคืนไปเพื่อตรวจ
ปรากฎว่า ไม่เจอปัญหาแบบที่ผมเจอ จึงไม่เคลมให้แล้วส่งกลับมา
พอผมได้รับกลับ ก็ยังเจอปัญหาเช่นเดิม เลยแจ้งเรื่องไป
ตอนแรก เจ้าหน้าที่ Anker Thailand บอกให้ผมหาเครื่องอื่นแล้ว Test
แต่ทางผมลองกับเครื่องที่บ้าน 3 เครื่องแล้ว ยังให้ผมต้องหาอีกเครื่อง เพื่อ Test อันนี้ไม่โอเค
และ ได้ลอง Charge กับ Apple Charger 20w ตัวใหม่ กับสายที่ใช้ก็ปกติ
มันต้องเป็น ที่ ของ Anker แน่ๆ คือ test ทั้งสาย ทั้ง Charger ทั้งเต้า มีตัวแปลที่เปลี่ยนก็คือ หัวชารจ์
ซึ่งตลอดการสนทนาใน Line กับ Anker service Thailand ทำให้ผมรู้ได้ว่าการจะเคลม Warranty กับ Anker นั้นยากมากๆ
เจ้าหน้าที่ ที่บอกเป็นผู้จัดการ Service ก็คุยไม่ดี
และบอกให้ผมเอาเข้าไปที่ office Anker อีกครั้งเพื่อ test อีกรอบ ซึ่งบอกจะออกค่ารถให้
คือผมไม่ได้ต้องการค่ารถ (เหมือนดูถูกลูกค้า)
และผมไม่มีเวลาพอที่จะต้องมา fight กับ charger ราคา ~800 บาท
ตลอดการสนทนาทาง Line ดูแล้วไม่มีใจบริการ จะเอาชนะลูกค้าให้ได้ ยังให้ท้ายว่า
จะเอามา Test กับเครื่อง iphone 6 ยัน iphone 12 เลย
ขอโทษครับ ดูเจ้าหน้าจะมีเวลาว่าง Test
แต่ไม่ฟังเหตุผลและพยายามแก้ปัญหาของลูกค้าเลย อยากจะเอาชนะอย่างเดียว...
สำหรับเคสนี้ ปัญหาผมไม่ได้ถูกแก้
และผมคงไม่ใช้ Anker อีกแล้ว
เข้าใจว่า Product ดี แต่ผมอาจจะโชคไม่ดีที่ เจอ Defect และ Customer Service ที่แย่
เลยอยากจะมาแชร์ปัญหาที่เจอ กับ Anker และ Warranty ที่เป็น แค่ Sale point บนกล่อง
คิดว่าคงจะมีเจ้าหน้าที่ Anker เข้ามาอ่าน เพราะเค้าคงรอกระทู้นี้อยู่
ใครจะซื้อ Anker ก็คิดให้ดีๆครับ
ใช้ดีมันก็ดี
แต่ถ้าเจอปัญหา ต้องลองเสี่ยงเคลมดูครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้