วันนี้ผมจะมารีวิวเครื่องฟอกอากาศจิ๋ว FUTURE N7 จากแบรนด์ไต้หวัน Future Lab ที่พึ่งได้มาตีตลาดไทยเมื่อเร็วๆนี้
มันจะดีตามที่เขาพูดกันหรือเปล่า??
ข้างล่างผมได้มีคำตอบให้เพื่อนๆชาวพันทิบได้รู้กันไปเลยจะได้ไม่ต้องเสียตังค์ซื้อของที่ไม่ดี 555+
เหตุผลของจขกท.ที่ซื้อเจ้าตัวนี้เพราะ *ส่วนตัวเป็นคนที่แพ้อากาศอย่างจริงจัง ถ้าผมอยู่ในที่ๆมีฝุ่นเป็นจำนวนมากร่างกายผมจะแสดงอาการแพ้ทีนทีเลยทำให้ซีเรียสกับปัญหาอากาศเป็นพิษมาก*
ภัยอันตรายไกล้ตัวที่หลายคนลืมไป 
หลายๆคนรู้กันอยู่ว่าปัญหาฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนหรืออีกชื่อ PM2.5 ไม่เคยหนีห่างเราไป ซึ่งแต่ละวันความรุนแรงของมันก็ต่างออกไปขึ้นอยู่กับการจราจรและสภาพอากาศในไทย แต่ที่หน้ากลัวที่สุดคือการที่เราไม่สามารถมองเห็น ได้กลิ่น และสัมผัสถึงฝุ่นเจ้าตัวนี้เลย มันยังเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งปอด โรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดในสมอง และโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ
ซึ่งเด็กๆ ผู้มีภูมิต้านทานต่ำ และคนที่อยู่ในที่อากาศไม่ถ่ายเทโดยเฉพาะพนักงานออฟฟิศ คนขับรถ หรือคนที่อยู่ในบ้านไกล้ริมถนน จะมีความเสี่ยงมากกว่าคนกลุ่มอื่น
วิธีรับมือ
ส่วนตัวผมซื้อเครื่องฟอกอากาศเสียวหมี่(Xiaomi) 2s ทั้งในออฟฟิศและในบ้านผมทั้งหมด4ตัว แบ่งกันใช้ที่ละสองตัว
*ตัวแรกอยู่ข้างๆตกทำงาน*
*ตัวที่สองตั้งอยู่บริเวณห้องทำงานใหญ่*
แต่เจอปัญหาใหม่!!!!
แรกๆผมก็พอใจกับคุณภาพอากาศที่ดีขึ้น แต่ผมได้พบว่าบริเวณ มุมห้อง มุมอับหรือห้องส่วนตัว สภาพอากาศไม่ได้ดีเหมือนบริเวณที่อยู่ไกล้เครื่องฟอกอากาศเพราะเครื่องฟอกอากาศทุกตัวที่ผมมีมีอยู่แต่ในที่กว้าง ซึ่งประสิทธิภาพของมันจะลดลงสำหรับพื้นที่ที่ห่างไกลและที่ที่ถูกกำแพงหรือผนังห้องกั้นเอาไว้ เช่น กำแพงเเละมุมอับในบ้านและออฟฟิศผม
*ปัญหานี้คล้ายๆกับปัญหาสัญญาณWIFI บ้านที่มีกำแพงเยอะ WIFIจะไม่เข้าถึงทุกห้องในบ้านทำให้ต้องซื้อเครื่องกระจายสัญญาณ*
เครดิตรูป
*จากในภาพสมมุติว่าเราได้วางเครื่องฟอกอากาศไว้ในห้องนั่งเล่น แล้วถ้าห้องนั้งเล่นเป็นแบบปิดที่มีประตูกั้นไว้อีกทีนึงเครื่องฟอกอากาศจะไม่ได้ช่วยฟอกอากาศของห้องอื่นเลย เว้นแต่เราจะเปิดประตูที่กั้นระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องอื่นๆออกถึงจะมีส่วนช่วยนิดนึง
แล้วถ้าเจ้าของบ้านต้องการขจัดฝุ่นทุกห้องเจ้าของบ้านต้องซื้อเครื่องฟอกตามจำนวนห้องไม่ก็ยกตัวที่อยู่ในห้องนั่งเล่นไปทุกห้องที่เขาไปเลยหรอ???

คิดยังไงก็ไม่เวิรค ตายก่อนพอดี
ซึ่งจขกท.ก็ได้พบกับปัญหานี้เหมือนกัน
จขกท.เลยซื้อเจ้าตัว
เครื่องฟอกอากาศ FUTURE N7 มาลองเพราะมันมีฟังก์ชันแก้ปัญหานี้อยู่
เครื่องฟอกอากาศ FUTURE N7
เครื่องฟอกอากาศจิ๋วที่ตอบปัญหาการฟอกอากาศในที่ๆเครื่องฟอกอากาศตัวใหญ่เข้าไม่ถึง
ฟังก์ชันเพิ่มเติม:
1. ด้วยรูปร่าง Building Block สามารถซื้อมาหลายตัวและต่อกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น!!!
2. ปล่อยอากาศสองขั้นตอน:ไอออนลบ 10 ล้านตัว + Micro-superoxide
*ใช้เวลาเพียง 180 วินาทีในการฆ่าเชื้อไรฝุ่น*
3. สามารถ
กำจัดกลิ่นตกค้างของอาหาร โรครา น้ำค้างและฝุ่นละออง
4.
ที่สำคับที่สุด *ไม่ต้องเปลี่ยนไส้กรองตลอดอายุการใช้งาน*
ขนาดเครื่อง: ความสูง 9.3เซ็น + ความกว้าง 6.8เซ็น *เล็กพอที่จะใส่ในที่วางแก้วบนรถและพกพาได้*

*เล็กกว่าIphone XS อีก!!!

*ถึงจะตัวเล็กกว่าเพื่อนแต่ประสิทธิภาพไม่ด้อยกว่าเลยนะครับ*
สเปค เครื่อง Future N7 (ประกัน 1 ปี)
- ตัวนึงสามารถใช้ได้กับพื้นที่ปิดประมาณ 3 ถึง 10 ตารางเมตร
เพราะถูกออกแบบมาเหมือน building block สามารถต่อกันได้เลื่อยๆตามสบายคุณเลย (เหมือน LEGO เลย)
- 1 ตัว ( 3 - 10 ตารางเมตร ) เหมาะสำหรับการใช้บนรถ และ โต๊ะทำงาน
- 2 ตัว ( 6 - 16 ตารางเมตร ) เหมาะสำหรับการใช้ในห้องส่วนตัว ห้องน้ำ
- 3 ตัว ( 9 - 24 ตารางเมตร ) เหมาะสำหรับการใช้ในห้องรับแขก ห้องครัว
*ส่วนตัวซื้อมาแค่ตัวเดียว ถ้าซื้อเพิ่มจะถ่ายให้ดูอีกที

*ตรงข้างบนจะมีหัวต่อเพื่อต่อกับตัว N7 อีกตัวได้

*ด้านล่างก็มีตัวต่อเหมือนกัน
- วิธีทำความสะอาด: เขาแนะนำให้ใช้ผ้าเปียกและแห้งเช็ดด้านนอกเวลา เพื่อรักษาประสิทธิภาพการดูดซับไอออนลบภายใน! หลังจากใช้งานไประยะหนึ่งสามารถพลิกเครื่องฟอกอากาศกลับหัวและตบเบา ๆ จะได้เอาฝุ่นออก *สะดวกมาก เหมาะสำหรับคนขี้เกียจและไม่มีเงินซื้อฟิลเตอร์แพงๆ*
- การใช้:
ในกล่องจะแถมสายชาร์จ Micro-USB ทรง L ให้กับทางบ้าน เวลาจะใช้ให้เสียบกับปลั๊กหรือไม่ก็ powerbank
*
รุ่นนี้ไม่มีเเบตต้องชาร์จตลอดเวลาในการใช้งาน*
เวลาจะเปิดให้กดปุ่มด้านบนตัวเครื่อง มีความเร็วสองระดับธรรมดาและเทอร์โบ (ส่วนบนรถ เวลาสตาร์ทรถมันจะเปิดให้เองเป็นระดับธรรมดา)
เวลาจะปิดให้กดจนกว่าตัวเครื่องจะมีแสงสีส้ม (โหมดสแตนบาย)

*สายชาร์จมาในทรงตัว L ไม่ต้องกลัวว่าจะหักหรือพังเร็วเหมือนสาย Iphone

*ในรูปเป็นโหมดสแตนบาย
โดยรวม
ผมคิดว่ามันตอบโจทย์ปัญหาที่ผมกล่าวไปทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น ปัญหาการพกพายากของเครื่องฟอกอากาศทั่วไป หรือไม่ก็ ปัญหาประสิทธิภาพของการฟอกอากาศในสถานที่ที่มีมุมอับและมีห้องเป็นจำนวนมาก แถมราคายังย่อมเยาว์มาก (ผมซื้อมาตอนมันมีโปรอยู่ 999บาท) สำหรับความคุ้มผมคิดว่าถ้าซื้อมาสามตัวในราคาตัวละ 999 รวม 3000บาท
1. ราคา
2. การพกพา/ขนาด
3. ไม่ต้องเสียเงินเปลี่ยนฟิลเตอร์
4. ฟังค์ชันต่อกันได้
ผมว่าคุ้มมาก แต่อาจจะต้องปรับปรุงในด้านการเพิ่มแบตไปในตัวไม่ก็การเพิ่มตัวเลือกขนาดไซส์ที่ต่อกับทุกรุ่นได้
*ทุกท่านที่สนใจไปเช็คดูได้ในร้านนี้เลยนะครับ
FUTURE N7
[CR] รีวิว FUTURE N7 เครื่องฟอกอากาศจิ๋วแบบพกพาที่เอามาต่อกันได้
มันจะดีตามที่เขาพูดกันหรือเปล่า??
ข้างล่างผมได้มีคำตอบให้เพื่อนๆชาวพันทิบได้รู้กันไปเลยจะได้ไม่ต้องเสียตังค์ซื้อของที่ไม่ดี 555+
เหตุผลของจขกท.ที่ซื้อเจ้าตัวนี้เพราะ *ส่วนตัวเป็นคนที่แพ้อากาศอย่างจริงจัง ถ้าผมอยู่ในที่ๆมีฝุ่นเป็นจำนวนมากร่างกายผมจะแสดงอาการแพ้ทีนทีเลยทำให้ซีเรียสกับปัญหาอากาศเป็นพิษมาก*
ภัยอันตรายไกล้ตัวที่หลายคนลืมไป
หลายๆคนรู้กันอยู่ว่าปัญหาฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนหรืออีกชื่อ PM2.5 ไม่เคยหนีห่างเราไป ซึ่งแต่ละวันความรุนแรงของมันก็ต่างออกไปขึ้นอยู่กับการจราจรและสภาพอากาศในไทย แต่ที่หน้ากลัวที่สุดคือการที่เราไม่สามารถมองเห็น ได้กลิ่น และสัมผัสถึงฝุ่นเจ้าตัวนี้เลย มันยังเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งปอด โรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดในสมอง และโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ
ซึ่งเด็กๆ ผู้มีภูมิต้านทานต่ำ และคนที่อยู่ในที่อากาศไม่ถ่ายเทโดยเฉพาะพนักงานออฟฟิศ คนขับรถ หรือคนที่อยู่ในบ้านไกล้ริมถนน จะมีความเสี่ยงมากกว่าคนกลุ่มอื่น
วิธีรับมือ
แต่เจอปัญหาใหม่!!!!
แรกๆผมก็พอใจกับคุณภาพอากาศที่ดีขึ้น แต่ผมได้พบว่าบริเวณ มุมห้อง มุมอับหรือห้องส่วนตัว สภาพอากาศไม่ได้ดีเหมือนบริเวณที่อยู่ไกล้เครื่องฟอกอากาศเพราะเครื่องฟอกอากาศทุกตัวที่ผมมีมีอยู่แต่ในที่กว้าง ซึ่งประสิทธิภาพของมันจะลดลงสำหรับพื้นที่ที่ห่างไกลและที่ที่ถูกกำแพงหรือผนังห้องกั้นเอาไว้ เช่น กำแพงเเละมุมอับในบ้านและออฟฟิศผม
*ปัญหานี้คล้ายๆกับปัญหาสัญญาณWIFI บ้านที่มีกำแพงเยอะ WIFIจะไม่เข้าถึงทุกห้องในบ้านทำให้ต้องซื้อเครื่องกระจายสัญญาณ*
เครดิตรูป
*จากในภาพสมมุติว่าเราได้วางเครื่องฟอกอากาศไว้ในห้องนั่งเล่น แล้วถ้าห้องนั้งเล่นเป็นแบบปิดที่มีประตูกั้นไว้อีกทีนึงเครื่องฟอกอากาศจะไม่ได้ช่วยฟอกอากาศของห้องอื่นเลย เว้นแต่เราจะเปิดประตูที่กั้นระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องอื่นๆออกถึงจะมีส่วนช่วยนิดนึง
แล้วถ้าเจ้าของบ้านต้องการขจัดฝุ่นทุกห้องเจ้าของบ้านต้องซื้อเครื่องฟอกตามจำนวนห้องไม่ก็ยกตัวที่อยู่ในห้องนั่งเล่นไปทุกห้องที่เขาไปเลยหรอ???
ซึ่งจขกท.ก็ได้พบกับปัญหานี้เหมือนกัน
จขกท.เลยซื้อเจ้าตัว เครื่องฟอกอากาศ FUTURE N7 มาลองเพราะมันมีฟังก์ชันแก้ปัญหานี้อยู่
เครื่องฟอกอากาศ FUTURE N7
เครื่องฟอกอากาศจิ๋วที่ตอบปัญหาการฟอกอากาศในที่ๆเครื่องฟอกอากาศตัวใหญ่เข้าไม่ถึง
ฟังก์ชันเพิ่มเติม:
1. ด้วยรูปร่าง Building Block สามารถซื้อมาหลายตัวและต่อกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น!!!
2. ปล่อยอากาศสองขั้นตอน:ไอออนลบ 10 ล้านตัว + Micro-superoxide
*ใช้เวลาเพียง 180 วินาทีในการฆ่าเชื้อไรฝุ่น*
3. สามารถกำจัดกลิ่นตกค้างของอาหาร โรครา น้ำค้างและฝุ่นละออง
4. ที่สำคับที่สุด *ไม่ต้องเปลี่ยนไส้กรองตลอดอายุการใช้งาน*
ขนาดเครื่อง: ความสูง 9.3เซ็น + ความกว้าง 6.8เซ็น *เล็กพอที่จะใส่ในที่วางแก้วบนรถและพกพาได้*
*เล็กกว่าIphone XS อีก!!!
*ถึงจะตัวเล็กกว่าเพื่อนแต่ประสิทธิภาพไม่ด้อยกว่าเลยนะครับ*
สเปค เครื่อง Future N7 (ประกัน 1 ปี)
- ตัวนึงสามารถใช้ได้กับพื้นที่ปิดประมาณ 3 ถึง 10 ตารางเมตร
เพราะถูกออกแบบมาเหมือน building block สามารถต่อกันได้เลื่อยๆตามสบายคุณเลย (เหมือน LEGO เลย)
- 1 ตัว ( 3 - 10 ตารางเมตร ) เหมาะสำหรับการใช้บนรถ และ โต๊ะทำงาน
- 2 ตัว ( 6 - 16 ตารางเมตร ) เหมาะสำหรับการใช้ในห้องส่วนตัว ห้องน้ำ
- 3 ตัว ( 9 - 24 ตารางเมตร ) เหมาะสำหรับการใช้ในห้องรับแขก ห้องครัว
*ส่วนตัวซื้อมาแค่ตัวเดียว ถ้าซื้อเพิ่มจะถ่ายให้ดูอีกที
*ตรงข้างบนจะมีหัวต่อเพื่อต่อกับตัว N7 อีกตัวได้
*ด้านล่างก็มีตัวต่อเหมือนกัน
- วิธีทำความสะอาด: เขาแนะนำให้ใช้ผ้าเปียกและแห้งเช็ดด้านนอกเวลา เพื่อรักษาประสิทธิภาพการดูดซับไอออนลบภายใน! หลังจากใช้งานไประยะหนึ่งสามารถพลิกเครื่องฟอกอากาศกลับหัวและตบเบา ๆ จะได้เอาฝุ่นออก *สะดวกมาก เหมาะสำหรับคนขี้เกียจและไม่มีเงินซื้อฟิลเตอร์แพงๆ*
- การใช้:
ในกล่องจะแถมสายชาร์จ Micro-USB ทรง L ให้กับทางบ้าน เวลาจะใช้ให้เสียบกับปลั๊กหรือไม่ก็ powerbank
*รุ่นนี้ไม่มีเเบตต้องชาร์จตลอดเวลาในการใช้งาน*
*สายชาร์จมาในทรงตัว L ไม่ต้องกลัวว่าจะหักหรือพังเร็วเหมือนสาย Iphone
*ในรูปเป็นโหมดสแตนบาย
โดยรวม
ผมคิดว่ามันตอบโจทย์ปัญหาที่ผมกล่าวไปทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น ปัญหาการพกพายากของเครื่องฟอกอากาศทั่วไป หรือไม่ก็ ปัญหาประสิทธิภาพของการฟอกอากาศในสถานที่ที่มีมุมอับและมีห้องเป็นจำนวนมาก แถมราคายังย่อมเยาว์มาก (ผมซื้อมาตอนมันมีโปรอยู่ 999บาท) สำหรับความคุ้มผมคิดว่าถ้าซื้อมาสามตัวในราคาตัวละ 999 รวม 3000บาท
1. ราคา
2. การพกพา/ขนาด
3. ไม่ต้องเสียเงินเปลี่ยนฟิลเตอร์
4. ฟังค์ชันต่อกันได้
ผมว่าคุ้มมาก แต่อาจจะต้องปรับปรุงในด้านการเพิ่มแบตไปในตัวไม่ก็การเพิ่มตัวเลือกขนาดไซส์ที่ต่อกับทุกรุ่นได้
*ทุกท่านที่สนใจไปเช็คดูได้ในร้านนี้เลยนะครับ FUTURE N7
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้