สวัสดีค่า แอลนะคะ :——) หลังจากที่ปีนี้แอลเพิ่งจะสัมภาษณ์ทุนเรียนภาษาจีนที่ไต้หวัน (HES) ไปเสร็จสรรพเรียบร้อย เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ รวมถึงขั้นตอนวิธีการสมัครต่าง ๆ ให้เพื่อน ๆ ที่สนใจสมัครทุนค่ะ แหะๆ ไปดูกันเล้ยยย
█ █ █ ♡ ทุน HES คือทุนอะไร
ทุน HES หรือชื่อเต็ม ๆ "Huayu Enrichment Scholarship" เป็นทุนสำหรับเรียนภาษาจีนระยะสั้นที่ไต้หวัน มีให้เลือกสมัครได้ตั้งแต่ 3, 6, 9, และ 12 เดือน โดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะสมัครกี่เดือน แต่เราอาจจะไม่ได้รับทุนตามจำนวนเดือนที่สมัครไปนะคะ ขึ้นอยู่กับผู้ให้ทุนว่าจะให้กี่เดือนค่ะ (อาจให้น้อยกว่าจำนวนที่ขอ) โดยผู้สมัครจะมีหรือไม่มีพื้นฐานภาษาจีนมาก่อนก็ได้
(สำหรับข้อมูลการสมัคร แอลขออ้างอิงจากข้อมูลทุนของปี 2563 นี้นะคะ)
► ช่วงเวลาที่เปิดรับสมัคร : 1 กุมภาพันธ์ – 31 มีนาคม
► จำนวนโควตาที่ให้นักเรียนไทยทั้งหมด : 132 เดือน (จำนวนคนที่ได้ไม่ได้ระบุแน่นอนค่ะ แต่ยอดรวมจำนวนเดือนที่ให้ทุน จะเท่ากับ 132 เดือน)
►จำนวนเงินที่ได้ : 25,000 NTD/เดือน โดยผู้ได้รับทุนต้องไปบริหารค่าใช้จ่ายเองค่ะ (ไม่ว่าจะเป็นค่าเทอม ค่ากินอยู่ ค่าหอ ค่าเครื่องบิน และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ) โดยเงินจะออกทุก ๆ วันที่ 5 ของเดือนค่ะ
█ █ █ ♡ ใครสามารถสมัครได้บ้าง
ผู้ที่จะสมัครได้ต้องถือสัญชาติไทย มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และจบการศึกษาระดับม.ปลาย ขึ้นไปเท่านั้นค่ะ นอกจากนี้ ผู้ที่มีวุฒิการศึกษา ม.6 หรือ ป.ตรี ต้องมีเกรดเฉลี่ย 3.00 ขึ้นไป ส่วนผู้ที่มีวุฒิ ป.โท หรือ ป.เอก ต้องมีเกรดเฉลี่ย 3.20 ขึ้นไป
█ █ █ ♡ ต้องใช้เอกสารอะไรบ้างในการสมัคร
1. ใบสมัครขอรับทุนที่กรอกเรียบร้อยแล้ว (สามารถโหลดได้ที่
https://www.taiwanembassy.org/th_en/index.html ค่ะ)
2. สำเนาหนังสือเดินทางและสำเนาทะเบียนบ้าน (ฉบับภาษาไทยได้ค่ะ)
3. สำเนาเอกสารรับรองการศึกษาขั้นสูงสุดและเอกสารแสดงผลการเรียน (ภาษาจีนหรือภาษาอังกฤษ)
4. เอกสารรับรองการสมัครเรียนภาษากับสถาบันภาษาของมหาวิทยาลัยในไต้หวัน
5. จดหมายแนะนำ 2 ฉบับ (จากอาจารย์, รศ. ,ศ. หรืออธิการบดีมหาวิทยาลัย)
6. ผลสอบ TOCFL *ไม่รับ HSK*
- ผู้ที่ต้องการสมัครทุนระยะเวลา 9-12 เดือน ต้องผ่าน TOCFL ระดับ 3 ขึ้นไป
- ผู้ที่ต้องการสมัครทุนระยะเวลา 3-6 เดือน ต้องผ่าน TOCFL ระดับ 2 หรือมีคะแนน TOEIC 550 ขึ้นไปค่ะ
________________________________
อยากสมัครแล้ว แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงดีใช่ไหมคะ งั้นลองไปอ่านขั้นตอนการสมัครอย่างละเอียดกันเลยยยย
1. สอบวัดระดับภาษาจีน (TOCFL)
อันดับแรก เราต้องคิดก่อนว่าเราอยากไปเรียนกี่เดือน สำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานภาษาจีน จะสามารถเลือกได้ว่าจะไป 3 หรือ 6 เดือนค่ะ โดยผู้สมัครต้องผ่าน TOCFL ระดับ 2 ขึ้นไป หรือยื่นคะแนน TOEIC 550 ขึ้นไป
แต่ถ้ามีพื้นฐานภาษาจีนอย่างแอล เลือกได้หมดเลยค่ะ ว่าจะไป 3 6 9 หรือ 12 เดือน และจะต้องผ่าน TOCFL ระดับ 3 ขึ้นไป แอลเลือก 9 เดือน ก็เลยสมัครสอบ TOCFL Band B ค่ะ (Band B จะประกอบด้วยระดับ 3 และระดับ 4) เพื่อน ๆ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสอบ TOCFL ได้จากกระทู้
[CR] รีวิวสอบวัดระดับภาษาจีน Tocfl (ไต้หวัน) ฉบับเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน ใครๆก็ทำได้ นี้เลยค่ะ จขกท. เขียนไว้เข้าใจง่ายมาก ๆ ค่ะ
2. สมัครเรียนกับสถาบันภาษาในไต้หวัน
เวลาเราจะสมัครเรียนภาษา เราต้องไปดูว่าในไต้หวันมีมหาวิทยาลัยไหนบ้าง ที่มีสถาบันภาษาที่รัฐบาลไต้หวันรับรองเปิดสอน (ไปเลือกดูจากลิ้งก์นี้ได้ค่ะ
https://ogme.edu.tw/Home/tw_school_list) พอเลือกได้แล้ว เราก็เข้าหน้าเว็บของมหาวิทยาลัยนั้นไปสมัครเลยค่ะ!!! อย่างของแอล แอลเลือกไว้ 2 ที่คือที่ National Cheng Kung University (NCKU) กับ National Tsing Hua University (NTHU) ก็ให้เพื่อน ๆ ไปดูที่หน้าเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยว่าต้องใช้เอกสารอะไรในการสมัครบ้าง (แต่ละมหาวิทยาลัยอาจจะใช้เอกสารไม่เหมือนกัน) โดยทั้งสองที่ที่แอลสมัครเป็นการกรอกข้อมูลบนหน้าเว็บไซต์ + ส่งเอกสารทางอีเมล์หมดเลยค่ะ
พอสมัครเรียนเรียบร้อยแล้ว ทางมหาวิทยาลัยจะออกเป็นเอกสารรับรองการสมัครเรียน ซึ่งต้องใช้ไปยื่นกับทางสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปค่ะ
3. สมัครขอทุนกับทางสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป
พอเราได้ผลคะแนน TOCFL และได้เอกสารรับรองการสมัครเรียนกับสถาบันภาษาเรียบร้อยแล้ว เราก็นำไปยื่นพร้อมกับเอกสารการสมัครอื่น ๆ ที่แอลกล่าวไว้แล้วข้างต้น โดยไปยื่นที่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ซึ่งตอนนี้ย้ายไปอยู่แถว ๆ แจ้งวัฒนะเรียบร้อยแล้ว (ไกลมาก T-T) หรือถ้าใครไม่สะดวกก็สามารถส่งไปทางไปรษณีย์แทนได้ค่ะ ก็เป็นอันจบการสมัครเรียบร้อย
เมื่อคณะกรรมการพิจารณาทุน ตรวจสอบเอกสารและคุณสมบัติเราเรียบร้อย ก็จะเรียกเรามาสัมภาษณ์ค่ะ โดยกรรมการจะแจ้งผลผ่านการโทร และอีเมล์ค่ะ เราจะต้องยืนยันสิทธิ์การสอบสัมภาษณ์โดยการตอบกลับไปทางอีเมล์ด้วยค่ะ
และในช่วงยุค COVID-19 แบบนี้ แอลก็ได้สัมภาษณ์แบบการวิดิโอคอล ผ่านโปรแกรม Skype แทนค่า แหะ ๆ โดยของแอลจะสัมภาษณ์เป็นภาษาจีนทั้งหมดค่ะ (เรียนเอกจีนมาค่ะ) โดยภาษาที่ใช้ในการสัมภาษณ์จะอิงจากคะแนนภาษาที่เรายื่นไปตอนสมัครนะคะ ถ้าใครยื่น TOEIC ก็จะสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษค่ะ ตอนแรกที่ผ่านเข้ารอบสัมภาษณ์กลัวมากค่ะ กลัวบรรยากาศตึงเครียดตอนสัมภาษณ์ แต่พอเวลาจริง มีกรรมการแค่คนเดียวเองค่ะ แถมใจดีมาก ๆ ด้วย
█ █ █ ♡ การสัมภาษณ์
แอลแนะนำเป็นอย่างยิ่งว่าให้ทุกคนอ่าน Study Plan ของตัวเองไปดี ๆ เพราะกรรมการจะถามจาก Study Plan เป็นหลักค่ะ สำหรับคำถามที่โดนสัมภาษณ์ก็จะประมาณนี้ค่ะ
- แนะนำตัวเอง แนะนำครอบครัว
- ถ้าสมมติได้ทุนน้อยกว่าจำนวนที่ขอมา ยังจะไปอยู่ไหม
- ทำไมถึงไม่ขอทุนระหว่างช่วงที่เรียนล่ะ (แอลเรียนจบ ป.ตรี แล้วถึงขอทุนค่ะ)
- เรียนเอกจีนหรอ ในห้องมีเพื่อนกี่คน มีเพื่อนไปแลกเปลี่ยนบ้างไหม
- เคยไปเรียนภาษาที่ประเทศจีนหรือไต้หวันบ้างไหม
แอลใช้เวลาสัมภาษณ์ไปประมาณ 7 นาทีค่ะ ไวมาก ๆ ค่ะ ไวจนงง ส่วนที่เตรียมไปเกี่ยวกับสถานการณ์ COVID-19 มาตรการป้องกันต่าง ๆ ของไต้หวัน ประวัติมหาวิทยาลัย ความแตกต่างระหว่างจีนตัวเต็มกับจีนตัวย่อ ไม่ได้พูดเลยค่ะ 5555555
________________________________
ทั้งหมดจะประมาณนี้ค่ะ ตอนนี้ผลเพิ่งประกาศออกมาสด ๆ ร้อน ๆ ได้ไป 3 เดือนค่ะ เย้!! แอลเลือกไปช่วงเดือนธันวาคมค่ะ แต่ก็เพิ่งจะโดนเลื่อนไป เนื่องจากไต้หวันยังไม่เปิดให้ทำวีซ่าสำหรับนักเรียนภาษา ตอนนี้ก็เลยว่างมาก ๆ มานั่งเขียนกระทู้ให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ค่ะ
เพื่อน ๆ ที่สนใจและมีความสงสัย สามารถดูและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียนต่อที่ไต้หวันได้ที่
Taiwan Education Center,Thailand (เพจของฝ่ายการศึกษา สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปโดยตรง) หรือสามารถเข้าไปสอบถามใน Group Facebook : TSAT : Thai Students Association in Taiwan ได้ค่า นอกจากนี้หลังไมค์มาถามแอลก็ได้นะคะ ยินดีตอบทุกข้อสงสัย (ถ้าตอบได้ค่ะ)
สุดท้ายนี้ขอบคุณกระทู้
แชร์ประสบการณ์ขอทุนเรียนภาษาจีนที่ไต้หวัน (HES) และกระทู้
แชร์ปสก.ขอทุน Huayu Enrichment Scholarship (HES) เรียนภาษาจีน ฟรี ที่ไต้หวันค่ะ
) มาที่นี้ด้วยค่ะ เราได้ความรู้เรื่องการสมัครขอทุนจากสองกระทู้นี้เยอะมาก ๆ เลยค่ะ T-T
ยังไงเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่สนใจสมัครก็อยากให้ลองสมัครดูนะคะ ต่อให้ได้ทุนหรือไม่ได้ทุน แอลว่าก็ได้ประสบการณ์ไม่มากก็น้อยค่ะ 😊
[Updated 2020] แชร์ประสบการณ์ขอทุนเรียนภาษาจีนที่ไต้หวัน (HES) ทุกขั้นตอน!
█ █ █ ♡ ทุน HES คือทุนอะไร
ทุน HES หรือชื่อเต็ม ๆ "Huayu Enrichment Scholarship" เป็นทุนสำหรับเรียนภาษาจีนระยะสั้นที่ไต้หวัน มีให้เลือกสมัครได้ตั้งแต่ 3, 6, 9, และ 12 เดือน โดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะสมัครกี่เดือน แต่เราอาจจะไม่ได้รับทุนตามจำนวนเดือนที่สมัครไปนะคะ ขึ้นอยู่กับผู้ให้ทุนว่าจะให้กี่เดือนค่ะ (อาจให้น้อยกว่าจำนวนที่ขอ) โดยผู้สมัครจะมีหรือไม่มีพื้นฐานภาษาจีนมาก่อนก็ได้
(สำหรับข้อมูลการสมัคร แอลขออ้างอิงจากข้อมูลทุนของปี 2563 นี้นะคะ)
► ช่วงเวลาที่เปิดรับสมัคร : 1 กุมภาพันธ์ – 31 มีนาคม
► จำนวนโควตาที่ให้นักเรียนไทยทั้งหมด : 132 เดือน (จำนวนคนที่ได้ไม่ได้ระบุแน่นอนค่ะ แต่ยอดรวมจำนวนเดือนที่ให้ทุน จะเท่ากับ 132 เดือน)
►จำนวนเงินที่ได้ : 25,000 NTD/เดือน โดยผู้ได้รับทุนต้องไปบริหารค่าใช้จ่ายเองค่ะ (ไม่ว่าจะเป็นค่าเทอม ค่ากินอยู่ ค่าหอ ค่าเครื่องบิน และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ) โดยเงินจะออกทุก ๆ วันที่ 5 ของเดือนค่ะ
█ █ █ ♡ ใครสามารถสมัครได้บ้าง
ผู้ที่จะสมัครได้ต้องถือสัญชาติไทย มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และจบการศึกษาระดับม.ปลาย ขึ้นไปเท่านั้นค่ะ นอกจากนี้ ผู้ที่มีวุฒิการศึกษา ม.6 หรือ ป.ตรี ต้องมีเกรดเฉลี่ย 3.00 ขึ้นไป ส่วนผู้ที่มีวุฒิ ป.โท หรือ ป.เอก ต้องมีเกรดเฉลี่ย 3.20 ขึ้นไป
█ █ █ ♡ ต้องใช้เอกสารอะไรบ้างในการสมัคร
1. ใบสมัครขอรับทุนที่กรอกเรียบร้อยแล้ว (สามารถโหลดได้ที่ https://www.taiwanembassy.org/th_en/index.html ค่ะ)
2. สำเนาหนังสือเดินทางและสำเนาทะเบียนบ้าน (ฉบับภาษาไทยได้ค่ะ)
3. สำเนาเอกสารรับรองการศึกษาขั้นสูงสุดและเอกสารแสดงผลการเรียน (ภาษาจีนหรือภาษาอังกฤษ)
4. เอกสารรับรองการสมัครเรียนภาษากับสถาบันภาษาของมหาวิทยาลัยในไต้หวัน
5. จดหมายแนะนำ 2 ฉบับ (จากอาจารย์, รศ. ,ศ. หรืออธิการบดีมหาวิทยาลัย)
6. ผลสอบ TOCFL *ไม่รับ HSK*
- ผู้ที่ต้องการสมัครทุนระยะเวลา 9-12 เดือน ต้องผ่าน TOCFL ระดับ 3 ขึ้นไป
- ผู้ที่ต้องการสมัครทุนระยะเวลา 3-6 เดือน ต้องผ่าน TOCFL ระดับ 2 หรือมีคะแนน TOEIC 550 ขึ้นไปค่ะ
________________________________
อยากสมัครแล้ว แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงดีใช่ไหมคะ งั้นลองไปอ่านขั้นตอนการสมัครอย่างละเอียดกันเลยยยย
1. สอบวัดระดับภาษาจีน (TOCFL)
อันดับแรก เราต้องคิดก่อนว่าเราอยากไปเรียนกี่เดือน สำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานภาษาจีน จะสามารถเลือกได้ว่าจะไป 3 หรือ 6 เดือนค่ะ โดยผู้สมัครต้องผ่าน TOCFL ระดับ 2 ขึ้นไป หรือยื่นคะแนน TOEIC 550 ขึ้นไป
แต่ถ้ามีพื้นฐานภาษาจีนอย่างแอล เลือกได้หมดเลยค่ะ ว่าจะไป 3 6 9 หรือ 12 เดือน และจะต้องผ่าน TOCFL ระดับ 3 ขึ้นไป แอลเลือก 9 เดือน ก็เลยสมัครสอบ TOCFL Band B ค่ะ (Band B จะประกอบด้วยระดับ 3 และระดับ 4) เพื่อน ๆ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสอบ TOCFL ได้จากกระทู้ [CR] รีวิวสอบวัดระดับภาษาจีน Tocfl (ไต้หวัน) ฉบับเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน ใครๆก็ทำได้ นี้เลยค่ะ จขกท. เขียนไว้เข้าใจง่ายมาก ๆ ค่ะ
2. สมัครเรียนกับสถาบันภาษาในไต้หวัน
เวลาเราจะสมัครเรียนภาษา เราต้องไปดูว่าในไต้หวันมีมหาวิทยาลัยไหนบ้าง ที่มีสถาบันภาษาที่รัฐบาลไต้หวันรับรองเปิดสอน (ไปเลือกดูจากลิ้งก์นี้ได้ค่ะ https://ogme.edu.tw/Home/tw_school_list) พอเลือกได้แล้ว เราก็เข้าหน้าเว็บของมหาวิทยาลัยนั้นไปสมัครเลยค่ะ!!! อย่างของแอล แอลเลือกไว้ 2 ที่คือที่ National Cheng Kung University (NCKU) กับ National Tsing Hua University (NTHU) ก็ให้เพื่อน ๆ ไปดูที่หน้าเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยว่าต้องใช้เอกสารอะไรในการสมัครบ้าง (แต่ละมหาวิทยาลัยอาจจะใช้เอกสารไม่เหมือนกัน) โดยทั้งสองที่ที่แอลสมัครเป็นการกรอกข้อมูลบนหน้าเว็บไซต์ + ส่งเอกสารทางอีเมล์หมดเลยค่ะ
พอสมัครเรียนเรียบร้อยแล้ว ทางมหาวิทยาลัยจะออกเป็นเอกสารรับรองการสมัครเรียน ซึ่งต้องใช้ไปยื่นกับทางสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปค่ะ
3. สมัครขอทุนกับทางสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป
พอเราได้ผลคะแนน TOCFL และได้เอกสารรับรองการสมัครเรียนกับสถาบันภาษาเรียบร้อยแล้ว เราก็นำไปยื่นพร้อมกับเอกสารการสมัครอื่น ๆ ที่แอลกล่าวไว้แล้วข้างต้น โดยไปยื่นที่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ซึ่งตอนนี้ย้ายไปอยู่แถว ๆ แจ้งวัฒนะเรียบร้อยแล้ว (ไกลมาก T-T) หรือถ้าใครไม่สะดวกก็สามารถส่งไปทางไปรษณีย์แทนได้ค่ะ ก็เป็นอันจบการสมัครเรียบร้อย
เมื่อคณะกรรมการพิจารณาทุน ตรวจสอบเอกสารและคุณสมบัติเราเรียบร้อย ก็จะเรียกเรามาสัมภาษณ์ค่ะ โดยกรรมการจะแจ้งผลผ่านการโทร และอีเมล์ค่ะ เราจะต้องยืนยันสิทธิ์การสอบสัมภาษณ์โดยการตอบกลับไปทางอีเมล์ด้วยค่ะ
และในช่วงยุค COVID-19 แบบนี้ แอลก็ได้สัมภาษณ์แบบการวิดิโอคอล ผ่านโปรแกรม Skype แทนค่า แหะ ๆ โดยของแอลจะสัมภาษณ์เป็นภาษาจีนทั้งหมดค่ะ (เรียนเอกจีนมาค่ะ) โดยภาษาที่ใช้ในการสัมภาษณ์จะอิงจากคะแนนภาษาที่เรายื่นไปตอนสมัครนะคะ ถ้าใครยื่น TOEIC ก็จะสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษค่ะ ตอนแรกที่ผ่านเข้ารอบสัมภาษณ์กลัวมากค่ะ กลัวบรรยากาศตึงเครียดตอนสัมภาษณ์ แต่พอเวลาจริง มีกรรมการแค่คนเดียวเองค่ะ แถมใจดีมาก ๆ ด้วย
█ █ █ ♡ การสัมภาษณ์
แอลแนะนำเป็นอย่างยิ่งว่าให้ทุกคนอ่าน Study Plan ของตัวเองไปดี ๆ เพราะกรรมการจะถามจาก Study Plan เป็นหลักค่ะ สำหรับคำถามที่โดนสัมภาษณ์ก็จะประมาณนี้ค่ะ
- แนะนำตัวเอง แนะนำครอบครัว
- ถ้าสมมติได้ทุนน้อยกว่าจำนวนที่ขอมา ยังจะไปอยู่ไหม
- ทำไมถึงไม่ขอทุนระหว่างช่วงที่เรียนล่ะ (แอลเรียนจบ ป.ตรี แล้วถึงขอทุนค่ะ)
- เรียนเอกจีนหรอ ในห้องมีเพื่อนกี่คน มีเพื่อนไปแลกเปลี่ยนบ้างไหม
- เคยไปเรียนภาษาที่ประเทศจีนหรือไต้หวันบ้างไหม
แอลใช้เวลาสัมภาษณ์ไปประมาณ 7 นาทีค่ะ ไวมาก ๆ ค่ะ ไวจนงง ส่วนที่เตรียมไปเกี่ยวกับสถานการณ์ COVID-19 มาตรการป้องกันต่าง ๆ ของไต้หวัน ประวัติมหาวิทยาลัย ความแตกต่างระหว่างจีนตัวเต็มกับจีนตัวย่อ ไม่ได้พูดเลยค่ะ 5555555
________________________________
ทั้งหมดจะประมาณนี้ค่ะ ตอนนี้ผลเพิ่งประกาศออกมาสด ๆ ร้อน ๆ ได้ไป 3 เดือนค่ะ เย้!! แอลเลือกไปช่วงเดือนธันวาคมค่ะ แต่ก็เพิ่งจะโดนเลื่อนไป เนื่องจากไต้หวันยังไม่เปิดให้ทำวีซ่าสำหรับนักเรียนภาษา ตอนนี้ก็เลยว่างมาก ๆ มานั่งเขียนกระทู้ให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ค่ะ
เพื่อน ๆ ที่สนใจและมีความสงสัย สามารถดูและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียนต่อที่ไต้หวันได้ที่ Taiwan Education Center,Thailand (เพจของฝ่ายการศึกษา สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปโดยตรง) หรือสามารถเข้าไปสอบถามใน Group Facebook : TSAT : Thai Students Association in Taiwan ได้ค่า นอกจากนี้หลังไมค์มาถามแอลก็ได้นะคะ ยินดีตอบทุกข้อสงสัย (ถ้าตอบได้ค่ะ)
สุดท้ายนี้ขอบคุณกระทู้ แชร์ประสบการณ์ขอทุนเรียนภาษาจีนที่ไต้หวัน (HES) และกระทู้ แชร์ปสก.ขอทุน Huayu Enrichment Scholarship (HES) เรียนภาษาจีน ฟรี ที่ไต้หวันค่ะ
ยังไงเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่สนใจสมัครก็อยากให้ลองสมัครดูนะคะ ต่อให้ได้ทุนหรือไม่ได้ทุน แอลว่าก็ได้ประสบการณ์ไม่มากก็น้อยค่ะ 😊