🏸👧🏻🕛THE GLOVES 2020 ถุงมือเรื่องสั้น#82 Week#20. 9-14 พ.ย. / คาดไว้แล้ว - ถุงมือ สักหลาด🕛👧🏻🏸

กระทู้คำถาม
อมยิ้ม44
ถุงมือเรื่องสั้น เรื่องที่ 4 เกี่ยวกับ กีฬา ครับ แหมวีคนี้ มีหลากหลายแนวทีเดียว ผู้อ่าน อ่านกันเพลินละครับ ^^

เรื่องของนักกีฬาเทนนิสผู้มีชื่อเสียง เขากำลังจะมีแมทช์สำคัญแมทช์หนึ่ง แต่ยังไม่ทันเริ่มแข่ง ก็มีเหตุการณ์คาดไม่ถึงสอดแทรกเข้ามา...

เหตุการณ์นั้นคืออะไร อย่างไร ? เขาจะชนะแมทช์นี้ได้หรือไม่ ???

ตามไปดูกันครับ ^^ อมยิ้ม36หัวใจ

อมยิ้ม31
.....คุณเคยใช้เวลาขับรถนานสุดโดยไม่พักเลยเป็นเวลาเท่าไหร่   ไม่รู้คำตอบสำหรับคนอื่น  แต่สำหรับเธอ การเดินทางเที่ยวนี้โหด หิน และเนิ่นนานเลวร้ายมากสุด เท่าที่เธอเคยเจอะเจอมาในชีวิต

     เธอไม่น่าหาเรื่องเลยจริง ๆ และโชคก็ดูจะไม่เข้าข้างเธอนัก  อุบัติเหตุบางอย่างด้านหน้า  ทำให้ต้องติดแหง็กอยู่บนถนนเส้นทางที่ไม่รู้จักนานร่วมสองชั่วโมง  ชะเง้อชะแง้ กวาดสายตาในระยะทอดไกลออกไป  รถราคับคั่งพากันจอดนิ่ง บ้างก็เคลื่อนตัวอย่างช้า ๆ เท่าที่ทำได้  มองดูนาฬิกาตรงหน้าปัดรถยนต์  เกือบสามทุ่มแล้ว จะทำยังไงดี  หญิงสาวไม่คิดเลยว่าการออกมาต่างจังหวัด จะทำให้เสียเวลาถึงขนาดนี้

     เรวดีเริ่มคิดถึงเรื่องที่พัก  เอื้อมมือหยิบมือถือมาเช็คแอพ ฯ จองห้องพักของโรงแรม  ก็ต้องถอนหายใจออกมา  ฤดูไฮซีซั่น  ที่ไหน ๆ ก็เต็มไปหมด 
 
     เหลือบมองรถคันหรูสีดำข้างหน้า ดูเหมือนเป็นเพื่อนร่วมเส้นทางกันมานานแล้วก็หนักใจ  เธอกับรถคันนั้น  ผลัดกันแซง  ผลัดกันตาม ตั้งแต่ออกจากร้านอาหารตอนเที่ยง  จุดมุ่งหมายแท้จริงเขาอยู่ไหนนะ  เรวดีแอบถามตัวเอง  แม้ว่านั่นอาจไม่ทำให้ได้คำตอบใดกลับมาก็ตาม

     ไม่มีเวลาให้เหม่อลอยมากนัก  เมื่อรถคันหน้าเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวเตรียมเข้าซอยด้านข้าง คาดว่ามันไม่น่าจะอยู่ในแผนการเดินทางมาก่อน

     ให้ตายเถอะ !

     นี่เขารู้ตัวแล้วใช่ไหม ?

     ถ้าคลาดกันตอนนี้  เธอไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานอีกแค่ไหนกว่าจะหาโอกาสดีเช่นนี้ได้อีก  ความกะทันหันบีบให้ต้องตัดสินใจหักเลี้ยวตามโดยไม่มีข้อแม้ ชะลอรถแล่นตามรถยนต์คันหน้าอย่างไม่ยอมให้คลาดสายตา

     รถหรูค่อย ๆ เคลื่อนตัวเข้าสู่ลานจอดรถของโรงแรมแห่งหนึ่ง   เรวดีมองเห็นที่ว่างไม่ไกลกันนัก จึงไม่รอช้าเคลื่อนรถเข้าไปจอด  แม้ว่าเครื่องยนต์ยังไม่ทันดับดี  เสียงเคาะหนักหน่วงด้วยกำปั้นใหญ่แข็งแรงตรงกระจกด้านข้างคนขับทำให้เธอถึงกับทำหน้าเหวอ  สะดุ้งอย่างคนไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจกับสถานการณ์คุกคามเช่นนี้  กระจกถูกกดให้เลื่อนลง  เรวดีแอบหวังว่าการยิ้มอาจช่วยให้เขามองเห็นความเป็นมิตรบนใบหน้าของเธอ

    " คุณตามผมมาทำไม " คำถามตรงประเด็น ไม่อ้อมค้อม สีหน้าร้ายกาจ  สมกับเป็นจอมราชาลูกเสิร์ฟสุดหนักหน่วงรุนแรงในเกมส์ลูกสักหลาดจริงๆ

    เรวดีอดไม่ได้ที่จะกระพริบตาปริบ ๆ  กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น
  
   “มีคนฝากนี่มาให้คุณค่ะ”  หญิงสาวเอื้อมมือไปด้านหลัง  หยิบซองเอกสารสีน้ำตาลส่งให้เขา  ชายหนุ่มรับมันไปด้วยความเคลือบแคลง  กระชากเสียงถามด้วยความไม่ไว้วางใจ

   “มันคืออะไร  และใครเป็นคนฝากมา”  เสียงห้าวเข้มเค้นถามความจริงนั้น ทำให้เรวดีใจไม่ดี

   “คือว่า..ฉันก็ไม่สามารถบอกคุณได้ค่ะ  มันเป็นความลับของลูกค้า”  เธอพยายามพูดให้ดูดีที่สุด ในสถานการณ์ยากลำบากแบบนี้

    เดชดนัยหรี่ตามองหญิงสาวด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจนัก ก่อนเปรยขึ้นมา

    “ความลับของลูกค้างั้นเหรอ  คุณคงรับงานประเภทสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้คนอื่นแบบนี้บ่อยสินะ”

     คำถามเชิงดูถูกจากนักกีฬาหนุ่ม ทำให้เรวดีหน้าเปลี่ยนสี  พยายามสงบสติอารมณ์  ตอบไปด้วยเสียงเรียบที่สุด

     “ถ้านั่น  หมายถึงรายได้  และไม่ขัดต่อสิทธิและเสรีภาพตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ  ฉันก็ไม่เกี่ยงค่ะ”

    “อืม ดูเห็นแก่เงินดีแท้” น้ำเสียงเยาะ อีกแววตาเย้ยหยัน พร้อมรอยยิ้มน้อย ๆ ทำให้เรวดีหน้าชา ไม่ทันจะทันตอบอะไรมากกว่านี้ ก็เห็นเขาเปิดซองนั้นออก  กวาดตาอ่านข้อความและรูปบางอย่างที่แนบมา ก่อนจะขยำและฉีกมันออกเป็นชิ้นๆ ด้วยแรงโทสะ แล้วหันมาพูดกับเธอ

    “คุณ ! ตามผมมานี่ ”  ไม่พูดเปล่า  ด้วยความรวดเร็วของเขา  เอื้อมมือเข้ามาในรถ  ฉกบิดกุญแจไปครอบครองในมืออย่างง่ายดาย  พลันกระชากประตูรถเปิด ออกแรงดึงข้อมือลากหญิงสาวออกมาจากรถแบบไร้ความปรานี

    “โอ๊ย ! เบาๆก็ได้  ฉันเจ็บนะ ! “  เรวดีอุทรณ์ต่อเรี่ยวแรงมหาศาลที่กำลังคุกคามเธออยู่ในตอนนี้

     อาจเป็นเพราะดึกแล้ว  บริเวณโดยรอบค่อนข้างเปลี่ยว  แม้จะมียามอยู่ที่ป้อม  แต่ก็ยังไกลจากจุดนี้มากอยู่  ข้อมือแข็งแกร่งแบบคนออกกำลังกายมาตลอดชีวิต ดุจคีมเหล็กพันธนาการ ไม่ให้เธอสามารถทำอะไรได้ดีกว่าก้าวเท้าเร็วๆ ตามเดชดนัยไปอย่างไม่มีข้อแม้
  
     ความเป็นคนตัวสูงของฝ่ายชาย แค่ก้าวเท้ายาว ๆ หน่อย  เรวดีหญิงสาวร่างเล็กบอบบางก็แทบจะลอยหวือถูกลากตามติดเขาไป ไม่นานนักก็ถึงบริเวณหน้าเคาน์เตอร์ของโรงแรม  พนักงานฟรอนท์ยกมือไหว้ทั้งคู่อย่างหน้าตื่น สายตามองสลับไปมายังคนทั้งสอง  แต่ก็ไม่พูดมากอะไร  รีบหยิบคีย์การ์ดส่งให้เดชดนัยด้วยความนอบน้อม  ก่อนที่เขาจะลากหญิงสาวและยัดตัวเธอเข้ามาในลิฟต์
  
    จังหวะนี้แหละ..เรวดีสะบัดตัวจากการเกาะกุม  ใช้ความเร็วกดกระแทกส้นรองเท้าส้นแหลม ปักลงหลังฝ่าเท้าของคนตัวใหญ่ จนอีกฝ่ายส่งเสียงร้องโอ๊ยอย่างไม่ทันตั้งตัว  ร่างเล็กบางเบียดถลันตัวเฉียดฉิวออกมาก่อนประตูลิฟต์จะปิด  แล้วรีบร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ

    “ช่วยด้วยค่ะ  ช่ว…!”

    แต่นั่นก็ไม่เร็วพอที่อีกฝ่ายจะตามมาทัน โอบเอวเธอจนแทบจะกลายเป็นอุ้มแล้วเหวี่ยงอย่างแรงกลับเข้าลิฟต์อีกครั้ง 
 
    “ รู้เอาไว้ด้วย...นี่เป็นโรงแรมของพ่อผม  ต่อให้คุณร้องให้ตายก็ไม่มีใครสนใจคุณหรอก ตราบใดที่เขาเห็นคุณมากับผม” เสียงห้าวเจือแรงโทสะดังก้องลิฟต์  ไม่นานนักลิฟต์ก็ขึ้นมาถึงชั้นสาม ไม่รอช้า  เขารวบข้อมือบางของเรวดีในอุ้งมือ  ลากออกจากลิฟต์จนเธอต้องสาวเท้าถี่ๆเพื่อเดินตามเขาให้ทัน

     ห้อง 3103 เธอทันได้มองแค่ปลายหางตา  ก่อนที่ประตูจะเปิดออกและเธอถูกเหวี่ยงอีกครั้งอย่างไม่ใยดีลงบนไปนั่งกองตรงผืนพรม

     ชั่วแวบนึง  คิดว่าเขาคงไม่เห็น  เรวดีแอบก้มหน้าลอบยิ้มให้กับความสำเร็จอันสวยงาม  ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป คนอย่างเธอก็พร้อมเตรียมใจรับมัน  เดชดนัยคงไม่รู้สินะ.. เธอลองคาดการณ์ดูล่วงหน้าถึงสถานการณ์สุดเลวร้าย ว่าอาจต้องเจอกับอะไรแบบนี้
  
    ท่าทางที่เขาก้าวเข้ามาประชิดตัวอย่างคุกคาม  ความใหญ่โต บึกบึนของร่างกาย ทำให้เธอเหมือนลูกหนูตกอยู่ในอุ้งมือราชสีห์ร้าย  เขาก้มลงถามด้วยเสียงกดต่ำ พยายามควบคุมโทสะอย่างเต็มที่

    “มันจ่ายคุณเท่าไหร่  ผมยินดีให้คุณมากกว่าสามเท่า   หรือคุณมีอะไรดีกว่านี้ก็ลองว่ามา”

    ข้อเสนอของเดชดนัยฟังดูดี  แต่น่าเสียดาย  หญิงสาวทำงานที่ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าจ้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว

       
    นึกย้อนกลับถึงช่วงก่อนหน้านี้ไม่นานนัก..

    เปล่าหรอก..คงไม่ใช่ตอนเธอกระแทกปลายส้มสูงแหลมคมลงบนหลังรองเท้านักกีฬาของเขา แม้ว่าในการแข่งขันฤดูกาลที่ผ่านมา ชายหนุ่มจะมีอาการบาดเจ็บตรงเท้า จนหลายต่อหลายครั้งเกือบเสียจังหวะพ่ายให้กับคู่แข่งในรอบชิงชนะเลิศ  แต่จุดมุ่งหมายแท้จริงคือการเอี้ยวตัวเพื่อรองรับร่างเธอ ขณะเสียหลักกำลังจะล้มต่อจากนั้นต่างหากล่ะ
       
    ในตอนนั้น ปฏิกริยาของเดชดนัยย่อตัวลงรับเธอก่อนจะถึงพื้น  เป็นไปอย่างอัตโนมัติสมกับเป็นนักกีฬาฝึกฝนร่างกายมาเป็นอย่างดี
       
    ช่วงจะล้มไม่ล้มแหล่นี่แหละ เป็นเวลาที่ดีที่สุด เรวดีใช้ความว่องไว เร็วและแรงพอ ทำให้มันดูคล้ายอุบัติเหตุ  ราวกับว่าเธอเสียหลัก หัวล้มฟาดเข่าเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ แน่นอนทุกอย่างผ่านไปอย่างแนบเนียน สมกับค่าจ้างหลายหลักที่โอนเข้าบัญชีเธอ

    แต่จะว่าไป  ข้อเสนอล่าสุดของเขาก็ฟังดูเข้าท่าไม่เลวทีเดียว หญิงสาวกระตุกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์  คงมีอะไรสนุกๆทำต่อจากนี้อีกสินะ

****************************
   ภายในห้องพักนักกีฬา  สีหน้าเคร่งเครียดของโค้ชและนักกีฬาภายในห้องพอจะบอกอะไรบางอย่างได้

   “พี่ว่าเดชถอนตัวจากแมตช์นี้ดีกว่า  เข่าบาดเจ็บเรื้อรังมานานควรจะพักมากกว่านะ  อีกอย่างสไตล์การตีของคู่แข่งวันนี้ มีจุดเด่นตรงการยื้อเกมส์  ถ้าสักสามเซตอาจจะพอไหว  แต่ถ้ายืดไปถึงห้า  นั่นอาจไม่คุ้ม อย่าลืมสิ ยังมีการแข่งวิมเบิลดันเป็นด่านสำคัญที่สุด”

    “อย่าห่วงเลยครับ เจ็บมากกว่านี้ผมก็เคยผ่านมา  ครั้งนี้เป็นโอกาสของผม จะได้แชมป์ในรายการนี้ติดต่อกันสามสมัย  ผมอยากลองดู”

    “นั่นอาจเสี่ยงเกินไปนะเดช” โค้ชเตือนด้วยความห่วงใย

    “เอาล่ะ  เอาเป็นว่าผมตัดสินใจแล้ว  และพร้อมจะรับผิดชอบกับผลลัพธ์” เดชดนัยสรุป  ก่อนเดินออกจากห้องไปด้วยความมุ่งมั่นพร้อมกระเป๋านักกีฬาและแร็กเก็ต  ทิ้งให้โค้ชยังนั่งครุ่นคิดอะไรอยู่สักระยะหนึ่ง  แล้วจึงเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบงัน  นั่นคือภาพสุดท้าย  ซึ่งถ้าหากมีกล้องแอบดักถ่าย ตามสืบเสาะความเคลื่อนไหวของนักกีฬาหนุ่มอยู่จริงล่ะก็  อาจจะบันทึกภาพเอาไว้ทันก็เป็นไปได้
     
    เดชดนัยยิ้มให้กับตัวเอง   หวังว่าแค่นี้คงเพียงพอ  อดย้อนคิดถึงเหตุการณ์ที่โรงแรมไม่ได้  เขาพอจะรู้ว่าใครส่งเธอคนนั้นมา แต่ข่าวลวงล่วงหน้า ซึ่งเขาและโค้ชร่วมมือกันปล่อยออกไป บวกแรงซุบซิบจากอีกหลายเวบไซต์ดัง รวมทั้งบทวิจารณ์เกี่ยวกับการเล่นของเขาในแง่ลบจากหนังสือพิมพ์กีฬา   ล้วนแต่ส่งผลดีอย่างไม่น่าเชื่อ!
   
    บาดเจ็บงั้นหรือ โธ่เอ๊ย!  มันก็แค่เกมส์เล็กๆน้อยๆ ก่อนการแข่งจริงเท่านั้นเอง

...............................

      และแล้วเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง  อัฒจันทร์รอบข้างมีผู้ชมแน่นขนัด ส่งเสียงปรบมือดังกระหึ่ม เดชดนัยไม่ลืมที่จะยิ้มและยกมือโบกทักทายทุกคนอย่างเป็นกันเอง  ที่บริเวณหนึ่งมีแสงแฟลชถ่ายรูปวิบวับหลายครั้ง คาดว่าในวันนี้ นักข่าวหลายสำนักคงมาจับจองพื้นที่เพื่อไม่ให้พลาดการแข่งขันนัดสำคัญ

    เมื่อนักกีฬาทั้งคู่เดินลงสู่สนาม จับมือกัน ก่อนแยกย้ายประจำที่ม้านั่งริมสนามคนละฝั่ง  สีหน้าของแมกซ์เวลล์คู่แข่งของเขาวันนี้มีความมั่นใจ  ลีลาเริ่มต้นเกมส์เสิร์ฟเป็นไปอย่างเร็วและแม่นยำ  ทำให้เริ่มออกนำไปก่อนอย่างสวยงาม  

    แต่แล้วในระหว่างเซตที่สองต่อมา  เหตุการณ์ที่ไม่คาดหมายก็เกิดขึ้น  เดชดนัยที่มีประวัติการหายใจขัดระหว่างแมทช์มาก่อน เริ่มออกอาการอีกครั้งในเซทนั้น  เสียงซุบซิบเริ่มดังขึ้นรอบสนาม  บางคนคุยถึงข่าวในแง่ลบของเดชดนัยที่อ่านเจอในหนังสือพิมพ์

    อาการผิดปกติของนักกีฬาหนุ่มไม่มีใครรู้สาเหตุที่แน่ชัดว่าเกิดจากอะไรกันแน่ บางทีอาจเกิดจากอะดรีนาลินหลั่งเร็วผิดปกติ  ทำให้เขาออกอาการแปลกๆ หายใจหนักๆ เหมือนกำลังจะขาดใจ   ตัวเย็น  และเริ่มเป็นตะคริวในบางส่วน  นั่นเป็นเหตุทำให้เขาตี UNFORCED ERROR พลาดไปเองในเซ็ทนี้อย่างน่าเสียดาย  

    ถ้าแม็กซ์เวลล์คาดไม่ผิด ตอนนี้ร่างกายของเดชดนัยคงเหนื่อยล้ามาก  จะเป็นผลดีกว่า หากเขาเล่นเกมส์เร็วและปิดเซ็ตที่สามได้สำเร็จ  การเสริฟอัพเพอร์สปิน และเล่นลูกเหนือศีรษะ เป็นจุดเด่นที่ถนัดถูกงัดมาใช้ จนยิ้มได้ด้วยคะแนนนำ 4 ต่อ 1 ในเซ็ตที่ 3 การแข่งขันใช้ระบบ 3 ใน 5 เซ็ตมาตรฐานสำหรับนักเทนนิสชาย สุดท้ายแมกซ์เวลล์สามารถคว้าชัยชนะมาได้ในที่สุด  หลังจบแมทซ์ เดชดนัย มีอาการไม่สู้ดี  เส้นเอ็นยึด ลุกไม่ได้ ต้องใช้เวลากดเส้นอยู่พักใหญ่จึงลุกขึ้นได้อีกครั้ง  

(มีต่ออีกนิดนึงครับ) ^^
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  แต่งเรื่องสั้น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่