[CR] รีวิวขี่รถเล็กเที่ยว เมืองคอง ที่ลับแลในเชียงดาว แบกเป้เที่ยวคนเดียวไปแบบฟินๆ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

วันนี้ผมมีสถานที่เที่ยวที่หนึ่งที่เริ่มจะเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวในช่วงนี้
มีชื่อเรียกว่า เมืองคอง เมืองคองนั้นตั้งอยูาในใจกลางของอำเภอเชียงดาว จังวัดเชียงใหม่ แน่นอนว่าอำเภอเชียงดาวนั้นมีชื่อเสียงอยู่พอตัว
แต่เมืองคองนั้นยังไม่โด่งดังเท่าดังนั้น คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่ค่อนข้างจะเป็นแบบพื้นเมืองดั้งเดิมโดยแน่แท้ 
หลังจากที่หาเช่ามอเตอร์ไซค์ได้แล้ว ผมเริ่มตั้งGPSจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปเมืองคองในเวลา7โมงเช้า ระยะทางที่ต้องขี่ไปประมาณ 80 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง ระยะทางในครึ่งแรกจนไปถึงอำเภอเชีบงดาวนั้นเป็นถนนทางราบ เมื่อเราขี่มาถึงถ้ำเชียงดาวแล้วเราจะเห็นป้ายเมืองคอง จากตรงนี้จะเป็นทางขึ้นเขาลงห้วยประมาณ 40 กิโลเมตร มีชื่อเรียกอีกชื่อว่าถนนลอยฟ้า ซึ่งผมไปในช่วงกลางเดือนตุลาคม ปี2563 ช่วงนั้นถนนหนทางยังมีการบำรุงและก่อสร้างอยู่เกือบประมาณ 20 กิโลเมตร ในช่วงแรกที่ขี่ขึ้นไปผมเริ่มจะสัมผัสได้ถึงอากาศที่เริ่มเย็นขึ้น แหงนมองขึ้นไปก็จะเห็นเขาเชียงดาวที่สูงใหญ่อลังการตั้งตระง่านอยู่เหนือหัวเรา จริงๆแล้วถ้าใครมีโอกาสได้เดินขึ้นไปเที่ยวดอยหลวงเชียงดาว มันก็จะเป็นอีกที่ๆผมอยากจะแนะนำให้ไปสักครั้งในชีวิตนะครับ เพราะเป็นดอยที่สูงเป็นอันดับ 3 รองลงมาจากดอยอินทนนท์และดอยผ้าห่มปก กลับมาที่การเดินทางเมืองคองดีกว่าครับ เมื่อผ่านไปสักพักเราจะเจอทางเข้าอุทยาน ตรงนี้เราจะต้องเสียค่าธรรมเนียมผ่านทาง ของผมเสียค่าเข้า 20 บาท ค่าผ่านรถมอเตอร์ไซค์อีก 20 บาท รวมเป็น 40 บาท เมื่อผ่านไปได้อีก 20 กิโลเมตร ถนนก็เริ่มที่มีการก่อสร้างและซ่อมแซมอยู่เป็นช่วงๆตลอดระยะทาง 20 กิโลเมตร ช่วงนี้ต้องขับขี่ด้วยความระวังเป็นพิเศษ อ้อผมลืมบอกนะครับว่าพอเลยช่วงถ้ำหลวงเชียงดาวมาแล้วมันจะไม่มีที่เติมน้ำมันรถแล้วนะครับ จะมีอีกทีก็เมืองคองเลย เพื่อนๆก็ควรจะเติมเสียให้เรียบร้อยสำหรับรถเล็กจะดีกว่ามาก ระหว่างทางที่ขี่ไป เนื่องด้วยตัวผมไม่ชอบหาข้อมูลหรือดูรูปอะไรก่อนที่จะไปสถานที่นั้นๆเลยไม่ทราบเลยว่าเมืองคองนั้นเป็นอย่างไร มีไฟฟ้าให้ใช้หรือไม่ ตอนนั้นน้ำมันผมเหลือเพียงครึ่งถัง ใจก็ตุ้มๆต่อมๆว่ามันจะไปถึงเมืองคองรึเปล่าน้า แถมตลอดทางที่ขับขี่ไปก็เริ่มคิดว่ามันจะมีไฟฟ้าให้ใช้ไหมน้อ เพราะผมไม่เห็นเสาไฟฟ้าตามข้างทางเลย ตอนนั้นึกเลยว่าตายแน่ละ แบตสำรองก็ไม่ได้เตรียมมาด้วย แต่พอผ่านสะพานมิตรภาพเมืองคอง ก็ต้องโล่งใจทันที สภาพบ้านเมืองของเค้านั้นค่อนข้างเจริญในระดับหนึ่งเลย มีน้ำมันมีไฟฟ้ามีสัญณาณมือถือ แต่ตัวผมใช้ดีแทคซึ่งมันไม่มีสัญญาณในบางส่วนของเมือง ต้องขี่รถมาที่เสาสัญญาณจึงจะเจอกับ 4G 
     

     
 เมืองคองนั้นตั้งอยู่ใจกลางสภาพเมืองที่มีภูเขาล้อมรอบ ตรงกลางเป็นที่ราบลุ่ม คนที่นั่นส่วนใหญ่จะปลูกข้าวเป็นส่วนใหญ่ มีแม่น้ำไหลผ่านกลาง เป็นแม่น้ำตื้นๆที่คนเขาชอบมาล่องแพชมวิวกัน เมืองคองนั้นมีทุกอย่างเพียงพอให้เราสำหรับการดำรงชีพ มีร้านข้าวมี้ร้านขายของชำ แต่ที่ผมยังไม่เห็นคือตลาดซึ่งไม่น่าจะมี ดังนั้นอาหารแห้งและเครื่องดื่มต่างๆนั้นสามารถหาได้อย่างง่ายดายและราคาก็ไม่ได้ต่างจากข้างนอกสักเท่าไหร่ เอาเป็นว่าสบายกระเป๋าตังค์ผมเลย 
ด้านหน้าของที่พัก
พี่อ้ายด่อง เจ้าของโฮมสเตย์

สภาพบรรยากาศห้องนอนและห้องน้ำ
ด้านหน้าห้องนอน ส่วนนั่งเล่น
พื้นที่ส่วกลางของที่นี่

        ผมมุ่งหน้าไปยังที่พักที่ได้จองเอาไว้ชื่อ อ้ายด่อง โฮมสเตย์ พอมาถึง พี่อ้ายด่อง(เจ้าของ) ก็ออกมารอรับผมถึงข้างหน้า ด้วยความผมไปในวันธรรมดาผมจึงเป็นลูกค้าคนเดียวของแกเลย ดีชะมัด ราคาค่าเสียหาที่ผมจ่ายไป 350 บาทสำหรับที่พัก บวกค่าอาหารเย็นและเช้าอีก 250 บาท รวมทั้งสิ้น 600 บาท แต่ถ้าใครจะกินหมูกระทะทางนั้นก็มีบริการเช่นกันนะครับ แต่ต้องบอกพี่แกก่อนนะ แกจะได้บอกชาวบ้านแถวนั้นให้เตรียมไว้ แกบอกเป็นการช่วยกระจายรายได้ให้กับในชุมชนแกถึงไม่จัดการเรื่องอาหารเอง ที่พักนี้อยู่ติดกับนาข้าวเลย ไม่มีแอร์แต่มีไฟฟ้าให้ใช้ ไม่มีไวไฟ ส่วนมือถือค่ายดีแทคก็โชคร้ายครับ ไม่มีสัญณาณอีกแล้วววว ใครที่ชอบแบบแนวชาวบ้านๆไม่หรูหรา ที่นี่คือที่ๆผมแนะนำเลย แต่ถ้าใครอยากได้ความหรูหราผมแนะนำให้ไปที่ บ้านนอกฮอกควาย แทนนะครับที่นั่นออกจะไฮโซไปเลยสำหรับตัวผม แต่ผมชอบอะไรแบบชาวบ้านๆมากกว่าเลยมาที่นี่ แถมเจ้าของเค้าสุดยอดเลยนะ ไปถึงก็ชวนผมออกไปขี่รถลุยป่า แถมยังเซ็ทอัพมอเตอร์ไซค์ของเค้าเองให้เราไปใช้อีกด้วย พอพักหายเหนื่อยเรียบร้อย พี่อ้ายด่องก็มาชวนผมไปน้ำตกถ้ำเอ๊าะ พี่แกขี่ไปคันนึงผมขี่ตามไปคนละคัน ระยะทาง 7กิโลเมตร แต่บอกเลยนะครับว่าเป็นระยะทางที่ทุลักทุเลมากๆๆๆๆๆ ดีที่เค้าเปลี่ยนยางเป็นยางวิบากมาให้เราขี่ไม่งั้นล้มหัวคว่ำไปหลายทีแน่ๆ
จุดชมวิว เด่นทีวี
 พอผ่านมา 6 กิโลเมตรก็จะมาถึงจุดชมวิวที่สวยงามมากๆ ชื่อเด่นทีวี ตั้งตามสมัยก่อนที่ชาวบ้านเอาทีวีขึ้นมาดูเขาทรายชกชิงแชมป์โลก เพราะตรงนี้มีสัญณาณชัดมาก แต่ด็อีกแหละที่ดีแทคต้องทำให้ผมผิดหวังอีกแล้ว จุดชมวิวนี้พี่อ้ายด่องบอกผมว่า พรุ่งนี้ให้ลองออกมาที่นี่ตอนรุ่งเช้าสิ สักตี5ครึ่ง มาถึงตรงนี้สักเกือบหกโมงเช้าจะมีทะเลหมอกที่สวยงามมากๆ เพราะตรงนี้เป็นจุดตั้งที่สูงบนขอบเขา มองลงไปตอนเย็นนั้นผมเห็นเมืองคองที่ผมพักอยู่ข้างล่างเลย ตอนนั้นเลยรู้เลยว่าเมืองคองตอนเช้าต้องเต็มไปด้วยสายหมอกแน่ๆ แต่ตอนนี้ปลายทางของเราคือน้ำตก ขี่เลยไปอีกเพียงนิดเดียวจะมีทางแยกขวาลงไปที่น้ำตก ทางลงผมบอกเลยว่าโหดมากกกกกกกกกกกก เล่นตะคริวเกือบกินขาไปเลย
 พอมาถึงก็ถึงกับงงเพราะมาเจอ สถานีไฟฟ้าพลังน้ำเมืองคองแทน ผมเลยถามพี่แกว่าที่นี่ไม่ใช่ที่ท่องเที่ยวนี่ครับ พี่อ้ายด่องตอบมาว่าใช่ครับ ไม่ค่อยมีคนมาหรอกครับต้องเป็นคนในพื้นที่จริงๆ พี่แกพาผมอ้อมด้ายหลัง เดินลงเขาอีกไม่ถึง 3 นาที ผมถึงกับตกใจกับสิ่งที่เห็น มันมีน้ำตกไหลแรงพอตัวขนาดไม่ใหญ่มากไหลเหมือนออกมาจากถ้ำ ผมนี่รีบวิ่งเข้าไปเล่นน้ำตกโดยไม่รีรออะไรเลย ชอบที่น้ำก็ตื้นแถมเข้าตกน้ำตกก็ง่ายมาก แนะนำให้มาเลยครับ
ไม่มีใครมาบังวิวถ่ายรูปแน่ๆ 555

น้ำตกถ้ำเอ๊าะ
           เล่นน้ำเสร็จพี่อ้ายด่องก็บอกว่าเดี๋ยวพอทานข้าวเสร็จตอนเย็นจะพาออกไปยิงหนู ผมก็นิ่งไปพักเพราะผมไม่ฆ่าสัตว์ เลยถามพี่แกไปว่าอันนี้คือยิงมากินใช่ไหมครับ เค้าบอกว่าใช่ผมเลยบอกแกไปว่าผมขอไปดูวิถีชาวบ้านหน่อยละกัน พอกลับมาถึงที่พักก็มีปิ่นโตอาหารมารอเรียบร้อย มีกับข้าวอยู่ 3-4 อย่าง เรียกได้ว่าอิ่มหมีพลีมันกันเลยทีเดียว

          ตกค่ำพี่แกบอกว่าคงไปยิงหนูไม่ได้แล้วนะเพราะเพื่อนแกมายืมปืนอัดลมไปเมื่อกี้ บอกตรงๆเลยตอนนั้นผมใจนึงก็โล่งอกใจนึงก็อยากเห็นวิถีชาวบ้าน ในเมื่อกิจกรรมยามค่ำมันไม่มีแล้ว ผมจึงใช้เวลาไปกับการการนั่งดื่มและอยู่กับธรรมชาติทั้งคืนคนเดียว ดีมากเลยนะครับที่นี่อากาศก็ดีแถมไม่มียุงอีกแปลกมากๆ คืนนั้นผมไม่ได้นอนให้ห้องเลยเพราะผมมานอนเปลตรงส่วนกลางแทน มันเพลินมากๆฝันดีอีกต่างหากๆ
         
            พอรุ่งเช้าเสียงปลุกดังขึ้นผมจึงรีบแต่งตัวขี่รถไปดูทะเลหมอก อย่างที่บอกตอนเมื่อวานเลยครับ ว่ามีแต่หมอกลงในเมืองคอง มองอะไรยากพอตัวเลยครับ แต่ก็ทำให้อดคิดไม่ได้เลยนะว่าถ้าได้อยู่ข้างบนแล้วมองลงมามันจะสวยแค่ไหน ผมขี่รถไปเป็นเวลา 40 กว่านาทีเพราะครั้งนี้ไม่มีคนนำทางเลยค่อยๆไป พอไปถึงก็เห็นทะเลหมอกที่สวยงามมาก แต่น่าเสียดายที่พระอาทิตย์ดันโดนเมฆก้อนใหญ่บดบังตลอดการขึ้นของมัน แต่ก็ยังสวยอยู่ดี มีคนมาดูทะเลหมอกรวมแล้ว 8-9 คน แนะนำให้หาอะไรมาดื่มชมทะเลหมอกนะครับ มันจะฟินมากๆ แต่ผมไปคนเเดียวเลยไม่มีไม่ได้เตรีมตัว ผมเห็นคนอื่นที่เค้ามาพักบ้านนอกฮอกควาย เค้าเหมารถมากัน ทางคนขับเค้ามีจัดเตรียมกาแฟมาบริการด้วยนะ ทางที่ดีใช้บริการเหมารถมาน่าจะดีที่สุด ปลอดภัยด้วย ผ่านไป1ชั่วโมงผมจึงกลับมาที่พัก ทานอาหารเช้าชมหมอกที่ลงมาบนนาข้าว ผมว่ามันสวยมากๆเลย ไม่แพ้ป่าปงเปียงเลย อาหารที่จัดมาก็มี ข้าวต้มทรงเครื่อง ไข่ต้ม1ฟอง อิ่มเลยทีเดียวเชียว
ทะเลหมอกยามเช้า ณ จุดชมวิวเด่นทีวี
บรรยากาศตอนเช้า
 
 แล้วก็จบการรีวิวของผมสำหรับเมืองคองแล้วนะครับ 
ภาพอาจจะไม่สวยนะครับ ใช้มือถือโง่ๆถ่ายเอง เน้นถ่ายวิดีโอเป็นส่วนใหญ่
ป.ล. ทริปนี้เป็นการใช้จ่ายโดยส่วนตัวทั้งสิ้น
 ผมทำวิดีโอไว้ถ้าใครอยากไปดูก็ตามลิงค์เลยนะครับ 
 ยังไงก็ฝากติดตามช่องยูทูปกับ


เพจในเฟสบ็คด้วยนะครับ เพราะผมจะทำวิดีโอลงเรื่อยๆ

ชื่อสินค้า:   เมืองคอง อ.เชียงดาว เชียงใหม่
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่