ปี 63 การอดท่องเที่ยวต่างประเทศทำเอาเราหันมามองเมืองต่างๆในไทยที่ไม่เคยไป ได้มาลองเที่ยวดู
นครศรีธรรมราช เมืองที่ไม่เคยอยู่ในลิสต์ แต่เพราะความเครียดจากงาน จากความผันผวนต่างๆ การไปไหว้ไอ้ไข่แล้วได้เที่ยวด้วยน่าจะตอบโจทย์สุดๆ
อยู่ดีๆก็มีแพลน เราจองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก รถเช่าล่วงหน้า 2 อาทิตย์ก่อนเดินทาง ในช่วงวันหยุดยาวปลายเดือน กรกฎาคม 2563 ทำให้ราคาตั๋วแรงอยู่ ที่พักที่เราไฝ่ฝันจึงไม่มีทางได้ เราอยากพักที่พักเก๋ๆแถวสิชลแต่กระหน่ำโทรทุกที่พักที่เสิร์ช google ไล่ตามทางถนน คือแบบ เต็ม!!
เปลี่ยนใจ เลยไปพักทะเลขนอมดูก็ได้ จนได้ที่พักง่ายๆ ซึ่งก็ดีทริปนี้เราจะได้ใช้เงินแบบประหยัดแต่ไม่อึดอัดเซฟจนมากไป
แถมทุกที่พักที่จะจองก็เข้าโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน พอดี เลยคิดเลยว่าจะลองใช้โครงการรัฐแบบนี้ดูซักทีว่ามันเวิร์คมั้ย
อ่ะ เริ่มแพลน
วันแรกออกจากดอนเมือง 15.05 ไปถึงนครฯ 16.20  ไปถึงรับรถที่ตู้ Avis ที่จองไว้แล้ว แล้วขับเข้าเมืองทันที คืนนี้เรานอนในเมือง เพราะตั้งใจจะตื่นแต่เช้าไปไหว้ไอ้ไข่วันรุ่งขึ้นก่อนที่สายๆคนจะบินมาไหว้ไอ้ไข่กัน

คืนแรกเราพักที่ B2 นครศรีธรรมราช พรีเมียร์ ได้ราคามาประมาณ 500 บาท ที่พักก็พอใช้ได้ ห้องขนาดไม่อึดอัด อยู่ไม่ไกลจากร้านอาหารดังๆ เราเอาของเข้าที่พักแล้วก็เสิร์ชหาร้านอาหาร ตกลงกันได้ว่าจะกินอาหารใต้ แล้วเราก็เลยมาลองร้านนี้ ครัวนายหนัง
ร้านครัวนายหนัง อาหารใต้อร่อยมากกกก รสชาดดีเริ่ด ราคาไม่แรง แถมรับโครงการส่วนลดเราเที่ยวด้วยกันอีก ลดไปได้ 40% แต่ลดได้ไม่เกิน 600 บาท

ไปกัน 2 คน เลยสั่งอาหารได้ไม่มาก อาหารรสชาดแบบคนใต้แต่ไม่เผ็ดมาก แต่สื่อสารกับน้องๆยากนิดนึงเพราะบางทีก็ถามตอบกันคนละทาง 555 แต่นี่แหล่ะความน่ารักของการเดินทางมีความงงๆ บ้างมันก็ยิ่งดี
ตอนคิดเงิน เพราะใช้แอปฯ ครั้งแรก งง มากกกก คนคิดเงินก็งงไปพร้อมๆกับเรา โชคดีที่มีอีกโต๊ะนึงเค้าเคยใช้มาก่อนเลยแนะนำว่าเราต้องเอาเงินเข้าบัญชีเราด้วยถึงจะใช้ได้ แล้วหลังจากนั้นเราก็งมเรื่องการเอาเงินเข้าสักพัก ทีนี้คล่องแล้วจร้า ใช้ครั้งหน้าสบาย
ติดนิดนึงตรงที่เวลาเราใช้แอปฯ ร้านค้าค่อนข้างเซ็งกันอาจจะเป็นเพราะช่วงแรกๆด้วย ต่างคนต่างก็ทำไม่เป็น เวลาจ่านต้องไปจ่ายที่แคชเชียร์เอง ใช้เวลาเล็กน้อย ถ้าไม่ใช่ยอดเยอะจริงๆ เราใช้เงินส่วนตัวล้วนๆจะง่ายกว่า
อ่ะอิ่มแล้ว แต่ยังไม่จบเพราะยังไม่ดึก กระเพราะอาหารหวานยังว่าง เลยจะไปร้านโรตีบังบ่าว กันต่อ วนรถอยู่แถวหน้าร้านอยู่พักนึง ไม่มีที่จอด คนก็แน่น เลยลองไปอีกร้านนึง โรตีโกบัง 
ดีอ่ะ กินก่อนนอน  แน่นดีค่ะ 5555
ที่นครฯ เค้าจะมีร้านพวกนี้หลายร้าน จะขึ้นป้ายว่าร้านโรตี ซึ่งพอเข้าไป เฮ้ยยยยย ของคาว ของหวาน  น้ำหวานมีครบ ราชาดก็ดี ราคาไม่แพงเลย เปิดยันดึกดื่น ครึกครื้นมากๆ เราชอบนะ

ตื่นมาเช้าวันรุ่งขึ้น ก่อนเดินทางไปขอพรไอ้ไข่ เราหาอาหารเช้าเบาๆก่อน เลยมาร้านอาหารเช้าของชาวนครฯ ที่อยู่ใกล้ที่พัก โกปี้

เสน่ห์ของร้านนี้คือ ครึกครื้นตั้งแต่เช้า อาหารหลากหลาย ติ่มซำ โจ๊ก บักกุ๊ดเต๋ ชา กาแฟ ราคาไม่แรงด้วย ทำเอาวันนี้ฉดชื่นมากกก แถมใช้โครงการเราเที่ยวด้วยกันได้ด้วย

ออกเดินทางไปไหว้ไอ้ไข่ วัดเจดีย์ เราใช้เส้นทางไปทางสิชล 
ก่อนถึงทางเข้าวัด จะมีป้ายทางลัด เราเข้าเส้นทางนั้นเพราะ google ก็แนะนำให้ไป ระหว่างทางก่อนถึงวัดจะมีร้านขายประทัด ไก่ ชุดของไหว้ตลอดเส้นทาง เราก็แวะซื้อของไปถวายเหมือนกัน แต่ลืมถ่ายรูปมาค่ะ
ร้านค้าบอกว่าถ้าเราบนขอพรไออ้ไข่ แล้วได้ตามที่ขอขึ้นมา แต่ขึ้นมาแก้บนไม่ได้ให้ทางร้านทำให้ได้ เค้าจะส่งรูปและไลฟ์ให้ได้ด้วยนะ
พอมาถึงวัดเจดีย์ คนยังไม่เยอะมาก เราจอดรถในลานจอดรถในวัด เดินชิลๆเอาของไปถวายที่จุดถวายของไอ้ไข่ เราก็เอาของที่ซื้อมากองวางบนโต๊ะที่เค้าจัดให้ด้านในนี้
เสร็จแล้วไปไหว้พระ และไอ้ไข่ด้วยดอกไม้ธูปเทียนตรงด้านถัดไป ดอกไม้ธูปเทียนทองก็ใส่กล่องหยอดตามกำลังศรัทธา
 
หลังจากเสร็จตรงนี้ เราสามารถไปปิดทอง และขอพรไอ้ไข่ที่ศาลาด้านหลังไก่ตัวนี้ 

พอเสร็จตรงนี้ สามารถไปรับของที่เราถวายเอาไปวางไว้ตามจุดที่เจ้าหน้าที่บอกได้ค่ะ 
ก่อนออกจากวัด เดินออกมาจะมีเจดีย์อยู่ บางคนก็เอาไก่ที่มาถวายมาวางไว้ตรงนี้กัน
ถัดจากตรงนี้จะมีคนขายล็อดเตอรี่ที่คนมุงเยอะมากกกก ถัดจากตรงนี้ด้านหลังจะมีที่จุดประทัดจากคนที่เอามาถวายหรือแก้บน เราไม่ได้ถ่ายรูปมาด้วยสิ 
แต่แอบบอกว่าส่วนใหญ่เค้าจะเอาเลขจากด้านในกล่องประทัดมาซื้อเลขเด็ดกันค่ะ เช่นอันนี้
ระหว่างทาง เสิร์ชหาร้านขนมจีน แต่โดน google map หลอก แต่มันกลับพาเรามาเจอทางนี้ อุโมงค์ต้นยางขนอม
เพิ่งมาค้นดูที่หลังว่าที่นี่คือ อุโมงค์ต้นยาง ทางเข้าถ้ำเขาวังทอง 
ถ่ายรูปสักพัก ฝนปรอยๆตลอดเวลา เราขับรถเข้าไปเรื่อยๆ เพื่อหาร้านขนมจีนที่โดนกูเกิลลวงมา ขับเข้าไปเรื่อยๆ จนเจอร้านนี้
  
ดอยเล คอฟฟี่ ร้านนี้น่ารักจริงๆ ความน่ารักเพราะเจ้าของร้านน่ารัก จัดร้านเล็กๆ่ง่ายๆกลางป่าเขา อาหารเบาๆที่ราคาเบากระเป๋าสุดๆ ตั้งแต่ 25 บาทขึ้นไป  นั่งชิมอาหารไป เจ้าของร้านอัทธยาศัยดีก็มาคุยกับพวกเราไปพลางๆ จนรู้ว่าเค้าทำงานประจำในกรุงเทพจนตัดสินใจเพราะเบื่อตวามยุ่งเหยิงในเมืองใหญ่ กลับมาอยู่บ้านเกิดและสร้างครอบครัวเล็กๆ เปิดร้านอาหารและรับงานที่ทำได้จากที่บ้านประกอบเป็นอาชีพที่พวกเค้าภูมิใจกันที่นี่

กลางป่าเขาที่กูเกิลหลอกเรามา กลายเป็นความรู้สึกแสนดี คุ้มค่าแค่ช่วงเวลาหนึ่งที่พวกเราได้นั่งคุยกัน ได้นั่งมองวิว และสูดอากาศบริสุทธิ์ เจ้าของร้านแนะนำที่เที่ยวต่างๆ แต่ด้วยเวลาน้อยเราเลยตัดสินใจไปต่อที่ สวนตาสรรค์
สวนตาสรรค์ หรือสวนตาสวรรค์ คือสปาปลาตอดตามธรรมชาติ ตอนแรกเราไม่มั่นใจว่าจะดูสกปรก หรือแปลกๆรึเปล่า แต่ร้านดอยเลแนะนำเลยต้องลองไปเยือน
ความรู้สึกคือ ดีอ่ะ บรรยากาศดี ร่วมรื่น ค่าเข้า 50 บาท มีห้องน้ำสะอาดๆให้เข้าด้วย แถมเห็นเจ้าของไร่ทำความสะอาดตลอดเวลา
ปลามารุมตอดเท้า ยิ่งแช่นานยิ่งมารุมเป็นฝูง จั๊กจี๋เป็นที่สุด 5555
อ้อ ก่อนถึงที่นี่มีขนอมแกรนด์แคนย่อนให้ไปถ่ายรูปด้วยนะ แต่เราอาจจะเห็นมาเยอะเลยไม่ฟินเท่าไหร่ มาลองสปาปลาแบบนี้แหล่ะฮาดี
อ่ะ ไปต่อที่สะพานไม้อ่าวเตล็ด จริงๆแล้วเจ้าของร้านดอยเลแนะนำให้ไปดูโลมาสีชมพู แต่วันนี้ตื่นแต่เช้าแดดก็แรงๆคนเลยไม่คอยมี เลยว่าจะไปชมวิวแทน
สะพานไม้อ่าวเตล็ด เป็นสะพานไม้ที่ทอดยาวออกไปในทะเล วิวสวยมากกกก มีคุณป้ากับคนในชุมชนขายของริมทางก่อนถึงสะพาน ราคาของน่ารักๆ ไปช่วยพวกเขาอุดหนุนกันก็ดีนะคะ เราสั่งน้ำมะพร้าวชิม หวานฉ่ำชื่นใจจริงๆ
ขับรถออกมาเรื่อยๆ แดดเปรี้ยงๆ สลับฝนตกปรอยๆ เราตัดสินใจเข้าที่พัก และจะไปนั่งชิลๆ สวยๆ ร้านเก๋ๆ แถวหาดขนอม
มาถึงที่พักเก็บของ ออกมาได้สักพักฝนตกจร้า ทีนี้ตกหนักมากจนถึงขั้นจอดรถอยู่ในลานจอดร้านคาเฟ่หนึ่งแต่ลงจากรถไม่ได้ จนเราตัดสินใจว่าทริปนี้อะไรสวยๆ เก๋ๆ อาจจะไม่ค่อยธีมรอบนี้ พอฝนซาจึงตัดสินใจไปหาร้านอาหารนั่งกินซีฟู้ดกัน
ขับมาเรื่อยๆ ก็ได้ร้าน ร้านขนอมซีฟู้ด Khanom Seafood Restaurant ด้วยเรื่องบังเอิญที่ฝนตก ทุกคนที่นั่งอยู่ outdoor จึงหลบเข้าไปในร้าน และเมื่อเราไปถึงฝนหยุดพอดี วิวที่ชอบที่สุดของร้านจึงเป็นของเราจนได้ อิอิอิ
อาหารรสชาดท้องถิ่น ดีอ่ะ แถมได้นั่งชมวิวสวยๆ พอเริ่มค่ำ เราก็เลยตัดสินใจเข้าไปเดินเล่นร้านค้าในเมือง
ที่นี่คนค่อนข้างบางตา นักท่องเที่ยวก็มักอยู่แต่ในที่พัก หรือไม่ก็ร้านสวยๆริมหาด พวกเราในฐานะท่องเที่ยวธีมบ้านๆรอบนี้เลยขอไปเดินเล่นตลาดนัดนิดนึง แต่เดินได้สักพักก็รู้สึกว่าน่าจะไม่ใช่ทางซะแร่ะ กลับห้องไปดูทีวีเล่นมือถือต่อดีกว่า

ตื่นมาตอนเช้าเก็บของ คุณป้าเจ้าของที่พักแนะนำร้านติ่มซำชื่อดังของที่นี่ ต้องแวะสักหน่อย ตามประสาการเที่ยวแบบมั่วข้อมูล
ขนำติ่มซำ ร้านนี้คนแน่นมาก มีติ่มซำให้เลือกเยอะ แต่คนแน่นมาก เราเลยสั่งอาหารง่ายๆมากินแทน แล้วแพลนว่าจะไปกินคาเฟ่ชิคๆแถวสิชลกันต่อ
ขับรถไปตามถนนเลาะชายทะเลขนอม-สิชล ที่ๆเค้ารีวิวกันว่าถนนสวยและเป็นคลื่นสามเกลียวตลบ
เราไม่รู้ว่ามันอยู่ช่วงตลงไหน จนเห็นรถเริ่มติด คนลงไปถ่ายรูป ถนนเส้นเล็กๆเลยจอแจมากเชียว เราเลยได้แต่ถ่ายรูปจากในรถแทน
เที่ยววันหยุดยาวต้องทำใจ
เราขับต่อไปที่จุดมุ่งหมายคือ สิชลคาบาน่าจะพาคุณชายไปเล่นเซิร์ฟ
พอไปถึงทะเลสงบมาก เลยสั่งกาแฟแล้วไปต่อ (แต่วิวสวยไม่เบาน๊า)
รอบนี้คาเฟ่และอะไรเก๋ๆคงไม่ใช่ทางแล้ว เวลายังเหลือ ขับรถไปหมู่บ้านคีรีวงสูดอากาศดีๆ กินขนมจีนป้าเขีpว จิบกาแฟที่นั่นก็ได้