ตอนที่ 1 คามิโคจิ ชิวๆๆหนาวๆ 
อีกนานแค่ไหนนะที่เราจะได้ออกเดินทางไปเที่ยวกันเหมือนเดิม ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปลายปี โควิด 19 ทำมห้เราคิดถึงการเดินทาง และแน่นอนที่หนึ่งที่คนทั่วโลกจับจองเป็นเป้าหมายการเดินทางหลังโควิด 19 คงไม่พ้น จี้ปุ่งงงงงงงงงง เจแปนของเรานั่นเอง โดยเฉพาะคนไทย หากมีวัคซีนเมื่อไหร่บอกเลย ญี่ปุ่นแตกแน่ นั่งคิดถึงบรรยากาศการเดินทางทำให้นึกถึงทริปสุดท้ายก่อนจะได้อยู่บ้านยาวๆมาจนถึงทุกวันนี้คือ ทริปนาโกย่า เใื่อต้นเดือน พฤศจิกายน 2562 จัดแบบยาวๆ หลายวัน หลายเมือง วันนี้มีบรรยากาศช่วงสั้นๆของการเดินทาง และเป็นสถานที่ยอดฮิตติดอันดับกันเลยทีเดียวคือ คามิโคจิ และ ฮิดะ ฟุราคาวา จริงๆปล้วทริปนี้แอบได้ตั๋วเครื่องบิยราคาโคตรถูก คือไปกลับ ดอนเมือง นาโกย่า ด้วยราคา 6,292 บาท ตอนได้ราคานี้ยัง งงๆ อยู่เลยว่าได้มาได้อย่างไร คราวนี้เดินทาง 3 คน คือคุณแม่และน้องสาว ตั๋วรวม 3 คน ยอดจ่ายทั้งหมด 18,875 บาท พร้อมโหลดกระเป๋าแค่ 1 ใบ 20 กิโล สำหรับคุณแม่และน้องสาว ส่วนตัวผมบอกเลยว่า 8 วัน เป้ใบเดียวอยู่ 5555555 ตัดสินใจไปช่วงใบไม้เปลี่ยนสี อยากจะไปชมความสวยงามของใบไม้แดงของชูบุ ซึ่งถือว่าสวยงามไม่แพ้ที่ใดในญี่ปุ่น เราได้ตั๋วXJ 638
ออกจาก / 出発
กรุงเทพฯ - ดอนเมือง (DMK)
02:15
ศ. 01 พ.ย. 2019
ถึง / 到着
นาโกย่า – ชูบุ (NGO)
09:40
ศ. 01 พ.ย. 2019
ถือว่าได้เวลาที่ชอบเลย คือได้นอนบนเครื่อง ไปตื่นเช้าที่นาโกย่า พอดี 2 วันแรกเราใช้เวลาในการเที่ยวในเมืองนาโกย่า แต่รอบนี้เราจะไม่รีวิว 3 วันแรก แต่เราจะรีวิวช่วงกลางของทริปไปก่อน ช่วงวันที่ 3 ของการเดินทางเราเลือกวางโปรแกรม ไปปักหลักที่เมือง ทาคายาม่า 3 คืน เพื่อที่จะใช้เป็นที่มั่นในการเดินทางรอบๆ ซึ่งได้แก่ ทาคายาม่า คามิโคจิ ฮิดะฟุราคาวา และ ชิราคาวาโกะ เราเดินทางเข้ามาพักเกสเฮ้าท์ ซึ่งอยู่ในตัวเมืองทาคายาม่า ราคาไม่แพงเลย และยังเงียบ สงบ เหมาะแก่การเป็นที่พักอย่างมาก ชื่อว่า Cup of tea Takayama
https://cup-of-tea-takayama-gifu.hotelmix.co.th/
ขอเอารูปคุณสุดใจ มาใช้นิดนึงนะครับ อิอิ คุณแม่ผมเองครับ 5555 ที่พักไกลจากสถานีรถไฟฟ้าและสถานีรถบัสที่เราจะใช้เดินทางประมาณ 800 เมตร เราตกลงปรงใจว่าจะเดินทางไปด้วยรถบัส ก่อนที่จะเดินทางก่อน 1 วัน เราก็จะไปดูตารางการเดินรถบัสที่สถานีก่อน บอกได้เลยว่า สถานีนี้คนเยอะจริงๆ ต้องมาแต่เช้าหน่อย ถ้าอยากจะได้ที่นั่งสบายๆ เราออกเดินทางมาสายๆในวันที่สองแบบชิวๆ ไม่เร่งรีบ นั่งรถบัสออกจากสถานีรถบัสทาคายาม่า ไปลงที่ สถานีรถบัส ฮิรายุออนเซ็น เพื่อเปลี่ยนรถ ไปลงคามิโคจิ
ป้ายฮิรายุออนเซ็น พอถึงตรงนี้ก็ลงรถบัสเพื่อต่อรถไปยัง คามิโคจินะครับ อย่านั่งเพลินละครับ มันจะไปที่อื่น อันนี้บรรยากาศรอบๆในขณะนั้น ตรงข้ามกับสถาเล็กก็จะมี ศูนย์ข่าวสารด้านการท่องเที่ยวคอยบริการ และบริเวณนั้นก็ยังมีร้านค้า ห้องน้ำ ให้เราได้ซื้ออะไรกินเล็กๆน้อยระหว่างการรอรถบัสอีกด้วย ขนมญี่ปุ่นก็อร่อยทุกอย่างอะครับ 55555 กินสะทุกอย่าง
ฤดูที่เราไปนั้นบอกได้เลยว่าเป็นช่วงเวลาของ โรดทริปมากๆ ขณะนั่งอยู่บนรถบัสมีขบวนบิ๊กไบค์ญี่ปุ่นสวนอยู่ตลอดเวลา โอ้ยยยยย อยากจะเอาลูกชายที่บ้านมาวิ่งที่ญี่ปุ่นมาก เพราะบรรยากาศ 2 ข้างทางคือฟินไปตลอดชีวิตเลยหละ ตั้งใจไว้ว่าสักวันจะต้องมาขี่ทอเตอร์ไซค์เที่ยวญี่ปุ่นให้ได้ คงจะฟินนนนนนนนนน
หลังจากรอรถบัสอยู่พักนึงเราก็ได้ขึ้นรถบัสต่อไปลงสถานี คามิโคจิเลย ช่วงเวลาที่ผมมีความสุขมากๆก็คือ สองข้างทางนี่หละครับ มันสวยจนผมลืมเวลาไปเลย มันเป็นช่วงเวลาที่ได้เก็บเกี่ยวเอาบรรยากาศข้างทางที่ผสมปนเประหว่างธรรมชาติและวิธีชีวิตของชาวญี่ปุ่นตลอดสองข้างทาง หลัวจากชมอะไรเพลินก็ถึงแล้ววววววว คามิโคจิ
จากด้านนอกเป็นที่จอดรถบัส รถยนต์ เราก็เดินเข้าไปด้านในซึ่งแน่นอนว่า อากาศวันนี้ดีเหลือเกิน หนาวสะ ประมาณ 5 องศา บอกเลยว่า อื้อหือ เพราะไม่ได้เอาเสื้อโค้ทมา เพราะคิดว่ามันน่าจะยังไม่หนาว ที่ไหนได้ มือแข็งฮะ เราไปชมบรรยากาศ วิวร้ายล้านกัน สถานที่ที่ได้ชื่อว่า สวิสเซอแลนด์เอเชีย คือที่นี่นั่นเอง
ปิดท้ายด้วยภาพของคุณแม่และน้องสาว ส่วนตัวถามว่าชอบที่สุดไหนในทริปนี้ก็บอกเลยว่า ยังไม่ชอบที่สุด เพราะเป็นคนชอบสถานที่แบบเงียบๆ สบายๆ ซึ่งหลังจากนี้เราก็จะพากลับไปเดินเล่นในเมืองเล็กๆ ที่ห่างจาก ทาคายาม่าเพียง 7 นาที สามารถนั่งรถไฟไปได้แบบสะดวกสบายที่สุดๆ ใครชอบเดินเล่นชิวๆ รอบเมือง มีปลาคาหว่ายอยู่ในคลองเย็นๆ น้ำใสกว่าน้ำกินบ้ายเราก็ติดตามได้นะครับ ฝากติดตามด้วยครับ เหงาๆก็เขียนลงแก้เหงากันไป
คามิโคจิ Kamikochi และ ฮิดะ ฟุราคาวา Hida Furakawa
อีกนานแค่ไหนนะที่เราจะได้ออกเดินทางไปเที่ยวกันเหมือนเดิม ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปลายปี โควิด 19 ทำมห้เราคิดถึงการเดินทาง และแน่นอนที่หนึ่งที่คนทั่วโลกจับจองเป็นเป้าหมายการเดินทางหลังโควิด 19 คงไม่พ้น จี้ปุ่งงงงงงงงงง เจแปนของเรานั่นเอง โดยเฉพาะคนไทย หากมีวัคซีนเมื่อไหร่บอกเลย ญี่ปุ่นแตกแน่ นั่งคิดถึงบรรยากาศการเดินทางทำให้นึกถึงทริปสุดท้ายก่อนจะได้อยู่บ้านยาวๆมาจนถึงทุกวันนี้คือ ทริปนาโกย่า เใื่อต้นเดือน พฤศจิกายน 2562 จัดแบบยาวๆ หลายวัน หลายเมือง วันนี้มีบรรยากาศช่วงสั้นๆของการเดินทาง และเป็นสถานที่ยอดฮิตติดอันดับกันเลยทีเดียวคือ คามิโคจิ และ ฮิดะ ฟุราคาวา จริงๆปล้วทริปนี้แอบได้ตั๋วเครื่องบิยราคาโคตรถูก คือไปกลับ ดอนเมือง นาโกย่า ด้วยราคา 6,292 บาท ตอนได้ราคานี้ยัง งงๆ อยู่เลยว่าได้มาได้อย่างไร คราวนี้เดินทาง 3 คน คือคุณแม่และน้องสาว ตั๋วรวม 3 คน ยอดจ่ายทั้งหมด 18,875 บาท พร้อมโหลดกระเป๋าแค่ 1 ใบ 20 กิโล สำหรับคุณแม่และน้องสาว ส่วนตัวผมบอกเลยว่า 8 วัน เป้ใบเดียวอยู่ 5555555 ตัดสินใจไปช่วงใบไม้เปลี่ยนสี อยากจะไปชมความสวยงามของใบไม้แดงของชูบุ ซึ่งถือว่าสวยงามไม่แพ้ที่ใดในญี่ปุ่น เราได้ตั๋วXJ 638
ออกจาก / 出発
กรุงเทพฯ - ดอนเมือง (DMK)
02:15
ศ. 01 พ.ย. 2019
ถึง / 到着
นาโกย่า – ชูบุ (NGO)
09:40
ศ. 01 พ.ย. 2019
ถือว่าได้เวลาที่ชอบเลย คือได้นอนบนเครื่อง ไปตื่นเช้าที่นาโกย่า พอดี 2 วันแรกเราใช้เวลาในการเที่ยวในเมืองนาโกย่า แต่รอบนี้เราจะไม่รีวิว 3 วันแรก แต่เราจะรีวิวช่วงกลางของทริปไปก่อน ช่วงวันที่ 3 ของการเดินทางเราเลือกวางโปรแกรม ไปปักหลักที่เมือง ทาคายาม่า 3 คืน เพื่อที่จะใช้เป็นที่มั่นในการเดินทางรอบๆ ซึ่งได้แก่ ทาคายาม่า คามิโคจิ ฮิดะฟุราคาวา และ ชิราคาวาโกะ เราเดินทางเข้ามาพักเกสเฮ้าท์ ซึ่งอยู่ในตัวเมืองทาคายาม่า ราคาไม่แพงเลย และยังเงียบ สงบ เหมาะแก่การเป็นที่พักอย่างมาก ชื่อว่า Cup of tea Takayama https://cup-of-tea-takayama-gifu.hotelmix.co.th/
ขอเอารูปคุณสุดใจ มาใช้นิดนึงนะครับ อิอิ คุณแม่ผมเองครับ 5555 ที่พักไกลจากสถานีรถไฟฟ้าและสถานีรถบัสที่เราจะใช้เดินทางประมาณ 800 เมตร เราตกลงปรงใจว่าจะเดินทางไปด้วยรถบัส ก่อนที่จะเดินทางก่อน 1 วัน เราก็จะไปดูตารางการเดินรถบัสที่สถานีก่อน บอกได้เลยว่า สถานีนี้คนเยอะจริงๆ ต้องมาแต่เช้าหน่อย ถ้าอยากจะได้ที่นั่งสบายๆ เราออกเดินทางมาสายๆในวันที่สองแบบชิวๆ ไม่เร่งรีบ นั่งรถบัสออกจากสถานีรถบัสทาคายาม่า ไปลงที่ สถานีรถบัส ฮิรายุออนเซ็น เพื่อเปลี่ยนรถ ไปลงคามิโคจิ
ป้ายฮิรายุออนเซ็น พอถึงตรงนี้ก็ลงรถบัสเพื่อต่อรถไปยัง คามิโคจินะครับ อย่านั่งเพลินละครับ มันจะไปที่อื่น อันนี้บรรยากาศรอบๆในขณะนั้น ตรงข้ามกับสถาเล็กก็จะมี ศูนย์ข่าวสารด้านการท่องเที่ยวคอยบริการ และบริเวณนั้นก็ยังมีร้านค้า ห้องน้ำ ให้เราได้ซื้ออะไรกินเล็กๆน้อยระหว่างการรอรถบัสอีกด้วย ขนมญี่ปุ่นก็อร่อยทุกอย่างอะครับ 55555 กินสะทุกอย่าง
ฤดูที่เราไปนั้นบอกได้เลยว่าเป็นช่วงเวลาของ โรดทริปมากๆ ขณะนั่งอยู่บนรถบัสมีขบวนบิ๊กไบค์ญี่ปุ่นสวนอยู่ตลอดเวลา โอ้ยยยยย อยากจะเอาลูกชายที่บ้านมาวิ่งที่ญี่ปุ่นมาก เพราะบรรยากาศ 2 ข้างทางคือฟินไปตลอดชีวิตเลยหละ ตั้งใจไว้ว่าสักวันจะต้องมาขี่ทอเตอร์ไซค์เที่ยวญี่ปุ่นให้ได้ คงจะฟินนนนนนนนนน
หลังจากรอรถบัสอยู่พักนึงเราก็ได้ขึ้นรถบัสต่อไปลงสถานี คามิโคจิเลย ช่วงเวลาที่ผมมีความสุขมากๆก็คือ สองข้างทางนี่หละครับ มันสวยจนผมลืมเวลาไปเลย มันเป็นช่วงเวลาที่ได้เก็บเกี่ยวเอาบรรยากาศข้างทางที่ผสมปนเประหว่างธรรมชาติและวิธีชีวิตของชาวญี่ปุ่นตลอดสองข้างทาง หลัวจากชมอะไรเพลินก็ถึงแล้ววววววว คามิโคจิ
จากด้านนอกเป็นที่จอดรถบัส รถยนต์ เราก็เดินเข้าไปด้านในซึ่งแน่นอนว่า อากาศวันนี้ดีเหลือเกิน หนาวสะ ประมาณ 5 องศา บอกเลยว่า อื้อหือ เพราะไม่ได้เอาเสื้อโค้ทมา เพราะคิดว่ามันน่าจะยังไม่หนาว ที่ไหนได้ มือแข็งฮะ เราไปชมบรรยากาศ วิวร้ายล้านกัน สถานที่ที่ได้ชื่อว่า สวิสเซอแลนด์เอเชีย คือที่นี่นั่นเอง
ปิดท้ายด้วยภาพของคุณแม่และน้องสาว ส่วนตัวถามว่าชอบที่สุดไหนในทริปนี้ก็บอกเลยว่า ยังไม่ชอบที่สุด เพราะเป็นคนชอบสถานที่แบบเงียบๆ สบายๆ ซึ่งหลังจากนี้เราก็จะพากลับไปเดินเล่นในเมืองเล็กๆ ที่ห่างจาก ทาคายาม่าเพียง 7 นาที สามารถนั่งรถไฟไปได้แบบสะดวกสบายที่สุดๆ ใครชอบเดินเล่นชิวๆ รอบเมือง มีปลาคาหว่ายอยู่ในคลองเย็นๆ น้ำใสกว่าน้ำกินบ้ายเราก็ติดตามได้นะครับ ฝากติดตามด้วยครับ เหงาๆก็เขียนลงแก้เหงากันไป