.
“ชมพู หนูต้องไม่ยอมให้ป่ะป๊ากลับโอเคมั้ยคะ ยังไงก็ไม่ยอมเด็ดขาด โอเคมั้ยลูก เราจะกลับบ้านไปนอนกับแม่กัน”
อรรถพลยกมือขึ้นทำโอเคกับลูกสาว เด็กหญิงตัวน้อยพยักหน้าตกลง และทานขนมต่ออย่างคนอารมณ์ดี โยกตัวเองไปด้วย ฮัมเพลงในลำคอเบา ๆ บ้างก็ถามนู่นถามนี้ตามประสาที่เห็นอะไรข้างทางก็ตาม ที่เกิดความสงสัย อรรถพลตอบคำถามลูกสาวได้หมดโดยไม่เคยเบื่อ ทรงผมของเธอถักเปียเรียบร้อยสวยงามจากฝีมือคุณย่า สวมชุดกระโปรงเอลซ่าสีชมพูตัวโปรด ดูแล้วน่ารักตามวัย
เธอนั่งเบาะข้างคนขับกับผู้เป็นพ่อ วันนี้เธอกำลังเดินทางไปหาผู้เป็นแม่ ท่าทางของเธอตื่นเต้นดีใจเอามาก ๆ อรรถพลมองลูกสาวแล้วยิ้มให้กับความสุขของคนเป็นลูก ลูกสาวของเขาเกิดจากความรัก ความตั้งใจ ไม่ใช่ความใคร่หรืออะไรก็ตามแต่
ทั้งสองคนพ่อลูกขับรถมาจอดรอหน้าที่ทำงานของอรพิน ไม่นานก็เห็นผู้หญิงร่างผอมบางเดินออกมาจากตึก เป็นอรพินนั่นเอง เธอเปลี่ยนที่ทำงานใหม่แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไปนาน แม้เธอจะกลายเป็นคุณแม่ลูกหนึ่งไปแล้ว ทว่าความสวยของเธอกลับไม่เคยเปลี่ยนแปลง และความรักของเขาที่มีต่อเธอด้วย
“คุณแม่” เด็กหญิงเรียกผู้เป็นแม่เมื่อมองเห็น พร้อมรีบวิ่งเข้าไปสวมกอด มีอรรถพลเดินตามหลังมาด้วย อรพินมองเห็นลูกสาวนึกแปลกใจอยู่ในที ที่วันนี้มารับถึงที่ทำงาน เมื่อมองเห็นพ่อของลูกก็หายแปลกใจอัตโนมัติ พร้อมย่อตัวรับลูกสาวสุดที่รักด้วย
“คือชมพูงอแงอยากมาหาแม่น่ะ พี่เคลียร์งานเสร็จพี่ก็เลยพามาเลย” อรรถพลรีบอธิบายเมื่อเจอสายตาคู่นั้นของเธอมองมา แบบไม่ค่อยสบอารมณ์นัก ครึ่งหนึ่งลูกสาวอยากมา อีกครึ่งเขาเองที่อยากมา
“อ้าวน้องชมพู สวัสดีค่ะ” เพื่อนในที่ทำงานของอรพินเดินมาเจอเข้าพอดี จึงหยุดทักทายตามมารยาท เพราะก็เคยเจอกับลูกสาวของเธอมาแล้ว ด้วยรูปร่างหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู รวมทั้งอยู่ในวัยช่างพูดช่างถาม ครั้งที่เธอพามาที่ทำงานด้วย ทุกคนต่างรักใครเอ็นดูเด็กหญิงกันทั้งนั้น
“ชมพูหนูสวัสดีป้าหนิงยังคะ” อรพินอุ้มลูกสาวยืนคุยกับเพื่อนรุ่นพี่
“วัสดีค่ะป้าหนิง” เด็กน้อยทำตามคำสั่งของผู้เป็นแม่อย่างว่าง่าย ยกมือไหว้สวัสดีขณะที่ตนถูกอุ้มอยู่บนแขนของแม่ สองคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีเพราะเคยเจอกันมาแล้ว
“สวัสดีค่ะ น่ารักจังเลย” บุคคลที่ถูกเรียกว่าป้าหนิงยกมือขึ้นมาบีบแก้มชมพูเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู “คุณพ่อเหรอรพิน สวัสดีค่ะ! พี่รู้แล้วชมพูมันเหมือนใคร เหมือนคุณพ่อนี่เอง” หนิงยิ้มให้อรรถพลก่อนที่จะหันมาเอาคำตอบ เธอเพียงยิ้มให้เฉย ๆ ไม่ได้ตอบอะไร แต่มันเป็นยิ้มที่ยอมรับว่าเขาคือพ่อของลูกเธอ “พี่ขอตัวนะรพิน แล้วเจอกันจ้ะ” และเพื่อนร่วมงานของเธอก็เดินจากไป
“ขึ้นรถเถอะพี่ไปส่งกลับคอนโดเอง” อรรถพลไม่เพียงพูดเฉย ๆ เดินมาเปิดประตูรถให้เธอด้วย
“ขอบคุณค่ะ” อรพินเดินอุ้มลูกสาวมาขึ้นรถของเขาอย่างว่าง่าย พรุ่งนี้เป็นวันหยุด ความจริงเธอกะจะไปรับลูกสาวมานอนด้วยอยู่แล้ว ทว่าอรรถพลพามาส่งเสียก่อน ก็ดีเหมือนกันเธอจะได้ไม่ต้องเดินทางกลับไปกลับมา เดือนหน้าชมพูก็เปิดเทอมแล้ว อดทนใจดีสู้เสืออีกหน่อยก็จะไม่ได้พบเจอกับอรรถพลแล้ว
“เราแวะเดินเล่นกันก่อนดีมั้ย พรุ่งนี้ก็ไม่ได้ไปไหนหนิ แวะพาชมพูเดินเล่นซื้อของดีกว่า” อรรถพลพูดเองเออเอง และก็เลี้ยวรถเข้าห้างสรรพสินค้า โดยที่รพินยังไม่ได้ตกลงสักคำ ทว่าเธอก็ไม่ได้ต่อว่าอะไรเขา ยอมทำตามแต่โดยดี ทุกอย่างตั้งอยู่บนความสุขของลูกทั้งนั้น
“ป่ะป๊าชมพูอยากเล่นบ้านบอลอ่ะ” เด็กน้อยพูดน้ำเสียงและท่าทางตื่นเต้นในอ้อมอกคนเป็นพ่อ อรรถพลทำหน้าที่อุ้มลูกสาวเดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้าเอง “พี่อาร์เจมาด้วยมั้ยอ่ะ”
“ไม่มาครับ” ตอบคำถามพร้อมหอมแก้มลูกสาวหนึ่งที อรพินแอบมองอยู่ห่าง ๆ เงียบ ๆ แอบยิ้มให้กับภาพสองพ่อลูกนิดหน่อย โดยอรรถพลไม่ทันรู้ตัว ลูกสาวของเธออยู่ในวัยกำลังพูดกำลังจา เห็นอะไรก็ตั้งคำถามไปหมด อรรถพลก็ตอบคำถามโดยไม่เบื่อเช่นกัน
ทุกคนเดินเข้าไปในห้าง เธอเดินตามหลังไปแบบจำยอม อรรถพลอมยิ้มที่ชนะเธอได้ เขาไม่ได้ต้องการเอาชนะแบบแข่งขันหรือสาแก่ใจ แค่ต้องการเก็บเกี่ยวความสุขก่อนที่ลูกสาวจะเปิดเทอมต่างหาก
ภายในห้างสรรพสินค้าตอนนี้วุ่นวายไปกับผู้คนมาใช้บริการหลังเลิกงาน เขาปล่อยลูกสาวให้เดินเองพร้อมจูงมือไปด้วย มีอรพินเดินอยู่ข้าง ๆ อยู่ไม่ห่าง “ชมพูหิวข้าวมั้ยคะ” เธอถามลูกสาวเกรงว่าจะหิว
“พี่ว่าพาลูกไปทานเอ็มเคตรงนู้นดีกว่า ชมพูทานข้าวก่อนค่อยไปเล่นบ้านบอลโอเคมั้ยคะ” เขาย่อตัวคุยกับลูกสาวก่อนจะเดินไปร้านที่ว่า ภาพสามคนพ่อแม่ลูกนั่งทานอาหารด้วยกัน เป็นช่วงเวลาที่อรรถพลโหยหามานาน วันนี้มันเกิดขึ้นจริง แต่ทว่ามันเกิดขึ้นแค่หลอก ๆ ถ้าไม่มีลูกสาวตัวน้อยอยู่ด้วย มีหรืออรพินจะยอมทำขนาดนี้
“พี่อรรถอย่าคิดไปไกลนะคะ รพินแค่ทำเพื่อชมพูเท่านั้น เมื่อไหร่ชมพูกลับบ้านสวน เราสองคนจะไม่เจอกันอีก” แววตาสีหน้าของเธอเรียบเฉย อรรถพลมองเข้าไปในแววตานั้นมีแค่ความว่างเปล่า ที่เขาเองเมื่อสัมผัสแววตาคู่นี้ทีไรหนาวเยือกเย็นไปถึงขั้วหัวใจ และเสียใจ เจ็บปวดเสมอ
“ครับ พี่ทราบดี พี่เข้าใจ แต่ต่อหน้าลูกรพินไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้ได้มั้ย “
“ค่ะ” สุดท้ายเธอก็เผยยิ้มออกมา ผู้คนที่อยู่ในร้านหากรู้ว่าทั้งสองไม่ได้รักกัน คงไม่มีใครเชื่อ
“ชมพูวันนี้นอนกับคุณแม่นะคะ ให้ป่ะป๊ากลับบ้านคนเดียวเนอะ” เธอชวนลูกสาวคุย คณะนี้เด็กหญิงกำลังสนุกเพลิดเพลินไปกับการทานอาหารบนโต๊ะตรงหน้า ดูแล้วเธอสดใสกว่าทุกวันเมื่อได้อยู่กับพ่อแม่ เธอและเขาต่างดูออก ทุกทีที่อยู่กับใครคนใดคนหนึ่ง เด็กน้อยไม่ร่าเริงขนาดนี้
“คิดถึงคุณตามั้ยเนี่ยชมพู กลับบ้านหาตาวิบูลมั้ย ป่านนี้ยายวันร้องไห้ แง ๆ หาชมพูแล้ว” อรพินทำท่าทางตลก ล้อเลียนผู้เป็นแม่เลี้ยงกับลูกสาว ทว่าคนฟังอย่างอรรถพลรู้สึกใจหายขึ้นมาดื้อ ๆ ไม่อยากให้ถึงวันนั้น ไม่อยากให้มันมาถึงเลย เพราะมันหมายความว่า จะถึงวันที่เขาจะไม่ได้เจอหน้าเธออีก จะไม่มีแบบนี้อีก คุณยายที่อรพินอ้างถึงคือแม่เลี้ยงของเธอเอง ซึ่งก็รักและหลงในตัวลูกสาวของเขามาก เขาทราบดี
“คิดถึง” เด็กหญิงตอบ พร้อมพยักหน้าเป็นคำตอบให้ผู้เป็นแม่ ยิ่งทำให้พ่ออย่างเขาใจหาย กลัวว่าลูกจะร้องกลับภายในเร็ววันนี้
“ยังกลับตอนนี้ไม่ได้ค่ะ อยู่เล่นกับป่ะป๊ากับคุณย่า กับอาอรก่อน” เขาพูดขึ้นเกรงว่าอรพินจะเออออไปกับลูกสาว และพากลับจริง ถ้าเป็นอย่างนั้นเท่ากับว่าจบความสัมพันธ์แบบหลอก ๆ เหมือนวันนี้ไป ซึ่งเขาไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น
“ทำไมจะกลับไม่ได้คะ ก็ลูกรพินอยากกลับ ชมพูจะกลับไปหาคุณตามั้ยลูก กลับพรุ่งนี้เลยมั้ยเดี๋ยวคุณแม่ไปส่ง” อรพินไม่ได้ต้องการจะให้ลูกสาวกลับจริง ๆ แค่แกล้งพูดให้อรรถพลอารมณ์เสียก็เท่านั้น ความจริงเธอก็ต้องการให้ลูกสาวได้ใช้เวลาอยู่กับคนเป็นพ่อ อย่างน้อยก็ช่วงปิดเทอม อีกอย่างเธอก็ได้อยู่ใกล้ ๆ ด้วยเช่นกัน
“ชมพูก็ลูกพี่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นพี่จะให้ลูกอยู่กับพี่ก่อน เปิดเทอมพี่ไปส่งเอง” สายตาของอรรถพลบอกถึงความมุ่งมั่นที่จะให้ลูกสาวอยู่กับตนให้ได้ อรพินกลั้นหัวเราะเอาไว้ที่แกล้งเขาได้สำเร็จ
“ก็แล้วแต่พี่อรรถ อ่ะชมพูทานนี่ลูก” เธอทำเป็นไม่สนใจเขา หันมาให้ความสนใจลูกสาวแทน ไม่ทันได้เห็นอรรถพลแสยะยิ้มออกมา นึกเหรอว่าเขาจะยอมง่าย ๆ อย่างน้อยก็ช่วยยื้อเวลาให้เขาได้อยู่ใกล้ ๆ เธอไปอีกนาน
เมื่อเล่นจนพอใจเด็กหญิงตัวน้อยแล้ว ทั้งสองคนก็พาลูกสาวกลับ วันนี้ชมพูต้องอยู่กับเธอ เนื่องจากพรุ่งนี้เป็นวันหยุด ทุก ๆ วันหยุดอรพินจะไปรับลูกสาวมานอนด้วยเสมอ
“ชมพู ชมพูต้องห้ามให้ป่ะป๊ากลับเข้าใจมั้ยคะ เดี๋ยวป่ะป๊าพามาเล่นบ้านบอลอีก คราวนี้ชวนพี่อาร์เจมาด้วยเลย” ระหว่างรออรพินทำธุระส่วนตัว อรรถพลแอบตกลงกับลูกสาว เขาตั้งใจใช้ลูกสาวเป็นเครื่องมือในรอบนี้ เด็กหญิงพยักหน้าเป็นคำตอบ ก่อนที่ทุกคนจะเดินทางกลับ
“ถึงแล้วครับ” อรรถพลพูดออกมาลอย ๆ ขณะที่เขาเลี้ยวรถเข้ามาจอดที่หน้าตึกคอนโดของอรพิน ภายในใจก็ลุ้นว่าลูกสาวจะทำตามที่คุยกันไว้หรือเปล่า อรพินเก็บข้าวของเช็คความเรียบร้อยก่อนจะลงจากรถ
“ป่ะป๊าลงมาสิ” เด็กหญิงกวักมือเรียกผู้เป็นพ่อด้วยความไร้เดียงสา อรพินมองด้วยความลำบากใจ ลูกสาวของเธอชอบเป็นแบบนี้เสมอ “คุณแม่ป่ะป๊าไม่ลงกับเราเหรอคะ” เด็กหญิงหันไปถามผู้เป็นแม่
“ไม่ค่ะ ป่ะป๊าต้องกลับไปหาคุณย่า” อรพินแก้ตัวพูดอะไรก็ได้เพื่อให้ลูกสาวเข้าใจง่าย ๆ “ชมพูอย่างอแงกับแม่นะ แม่ตีจริง ๆ ด้วย ป่ะป๊าเค้าไม่ว่างนอนกับเราไงลูก”
“ป่ะป๊าว่างค่ะ”
“พี่อรรถ!” อรพินถลึงตาให้อรรถพลด้วยความไม่พอใจที่โดนแกล้ง ทำไมเธอจะไม่รู้จุดประสงค์ ที่เขาทำ
“ให้คุณด้ามาอยู่กับเราไม่ได้เหรอคะ ป่ะป๊าจะได้ไม่ต้องกลับไปหาคุณด้าอีก”
อรพินถอนหายใจ สัปดาห์นี้เธอต้องการจะอยู่กับลูกสาวเหมือนกัน เด็กน้อยไม่พูดเฉยเดินไปเกาะแขนคนเป็นพ่อไว้แน่น ที่ขอบตามีน้ำใส ๆ เกาะอยู่ เด็กหญิงร้องไห้งอแงอยากได้ดั่งใจตัวเอง ส่วนอรรถพลเงียบคอยดูเหตุการณ์ว่าจะไปในทิศทางไหน ถ้ามันจะบานปลายเขาก็ไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้น
“ถ้างั้นชมพูกลับกับป่ะป๊าไปเลย แล้วพรุ่งนี้ก็ไม่ได้ไปเที่ยวกับแม่ จะเอายังไง”
“ไม่เอาอ่า” เด็กหญิงเริ่มงอแงร้องไห้เสียงดัง ผู้คนที่อยู่ระแวกนั้นก็เริ่มหันมามอง
“รพินพี่ว่า...”
“ไม่ค่ะพี่อรรถ รพินจะไม่ยอมพี่อรรถอีกแล้ว” อรพินพูดแทรก ไม่ยอมให้อรรถพลพูดจนจบ เธอรู้ว่าเขาจะพูดอะไรออกมา “ชมพูหยุดร้อง ถ้าพูดไม่รู้เรื่องงั้นแม่ตีจริง ๆ นะ” อรพินเงื้อมมือจะตีลูกสาวจริง ๆ ดั่งที่พูด แต่อรรถพลไม่ยอม เขาคว้าลูกสาวอุ้มกอดไว้
“รพินไหนเราตกลงกันไว้แล้วไง ไหนรพินบอกทำเพื่อลูกได้ทุกอย่าง เพื่อความสุขของลูก ให้พี่อยู่ที่นี่กับลูกเถอะนะ ถ้ารพินไม่อยากกลับไปบ้านพี่ นะครับ ลูกกลับไปเราก็ไม่ต้องเจอกันแล้ว แค่ช่วงนี้เท่านั้น”
โซ่รัก บทที่ 13
.
“ชมพู หนูต้องไม่ยอมให้ป่ะป๊ากลับโอเคมั้ยคะ ยังไงก็ไม่ยอมเด็ดขาด โอเคมั้ยลูก เราจะกลับบ้านไปนอนกับแม่กัน”
อรรถพลยกมือขึ้นทำโอเคกับลูกสาว เด็กหญิงตัวน้อยพยักหน้าตกลง และทานขนมต่ออย่างคนอารมณ์ดี โยกตัวเองไปด้วย ฮัมเพลงในลำคอเบา ๆ บ้างก็ถามนู่นถามนี้ตามประสาที่เห็นอะไรข้างทางก็ตาม ที่เกิดความสงสัย อรรถพลตอบคำถามลูกสาวได้หมดโดยไม่เคยเบื่อ ทรงผมของเธอถักเปียเรียบร้อยสวยงามจากฝีมือคุณย่า สวมชุดกระโปรงเอลซ่าสีชมพูตัวโปรด ดูแล้วน่ารักตามวัย
เธอนั่งเบาะข้างคนขับกับผู้เป็นพ่อ วันนี้เธอกำลังเดินทางไปหาผู้เป็นแม่ ท่าทางของเธอตื่นเต้นดีใจเอามาก ๆ อรรถพลมองลูกสาวแล้วยิ้มให้กับความสุขของคนเป็นลูก ลูกสาวของเขาเกิดจากความรัก ความตั้งใจ ไม่ใช่ความใคร่หรืออะไรก็ตามแต่
ทั้งสองคนพ่อลูกขับรถมาจอดรอหน้าที่ทำงานของอรพิน ไม่นานก็เห็นผู้หญิงร่างผอมบางเดินออกมาจากตึก เป็นอรพินนั่นเอง เธอเปลี่ยนที่ทำงานใหม่แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไปนาน แม้เธอจะกลายเป็นคุณแม่ลูกหนึ่งไปแล้ว ทว่าความสวยของเธอกลับไม่เคยเปลี่ยนแปลง และความรักของเขาที่มีต่อเธอด้วย
“คุณแม่” เด็กหญิงเรียกผู้เป็นแม่เมื่อมองเห็น พร้อมรีบวิ่งเข้าไปสวมกอด มีอรรถพลเดินตามหลังมาด้วย อรพินมองเห็นลูกสาวนึกแปลกใจอยู่ในที ที่วันนี้มารับถึงที่ทำงาน เมื่อมองเห็นพ่อของลูกก็หายแปลกใจอัตโนมัติ พร้อมย่อตัวรับลูกสาวสุดที่รักด้วย
“คือชมพูงอแงอยากมาหาแม่น่ะ พี่เคลียร์งานเสร็จพี่ก็เลยพามาเลย” อรรถพลรีบอธิบายเมื่อเจอสายตาคู่นั้นของเธอมองมา แบบไม่ค่อยสบอารมณ์นัก ครึ่งหนึ่งลูกสาวอยากมา อีกครึ่งเขาเองที่อยากมา
“อ้าวน้องชมพู สวัสดีค่ะ” เพื่อนในที่ทำงานของอรพินเดินมาเจอเข้าพอดี จึงหยุดทักทายตามมารยาท เพราะก็เคยเจอกับลูกสาวของเธอมาแล้ว ด้วยรูปร่างหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู รวมทั้งอยู่ในวัยช่างพูดช่างถาม ครั้งที่เธอพามาที่ทำงานด้วย ทุกคนต่างรักใครเอ็นดูเด็กหญิงกันทั้งนั้น
“ชมพูหนูสวัสดีป้าหนิงยังคะ” อรพินอุ้มลูกสาวยืนคุยกับเพื่อนรุ่นพี่
“วัสดีค่ะป้าหนิง” เด็กน้อยทำตามคำสั่งของผู้เป็นแม่อย่างว่าง่าย ยกมือไหว้สวัสดีขณะที่ตนถูกอุ้มอยู่บนแขนของแม่ สองคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีเพราะเคยเจอกันมาแล้ว
“สวัสดีค่ะ น่ารักจังเลย” บุคคลที่ถูกเรียกว่าป้าหนิงยกมือขึ้นมาบีบแก้มชมพูเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู “คุณพ่อเหรอรพิน สวัสดีค่ะ! พี่รู้แล้วชมพูมันเหมือนใคร เหมือนคุณพ่อนี่เอง” หนิงยิ้มให้อรรถพลก่อนที่จะหันมาเอาคำตอบ เธอเพียงยิ้มให้เฉย ๆ ไม่ได้ตอบอะไร แต่มันเป็นยิ้มที่ยอมรับว่าเขาคือพ่อของลูกเธอ “พี่ขอตัวนะรพิน แล้วเจอกันจ้ะ” และเพื่อนร่วมงานของเธอก็เดินจากไป
“ขึ้นรถเถอะพี่ไปส่งกลับคอนโดเอง” อรรถพลไม่เพียงพูดเฉย ๆ เดินมาเปิดประตูรถให้เธอด้วย
“ขอบคุณค่ะ” อรพินเดินอุ้มลูกสาวมาขึ้นรถของเขาอย่างว่าง่าย พรุ่งนี้เป็นวันหยุด ความจริงเธอกะจะไปรับลูกสาวมานอนด้วยอยู่แล้ว ทว่าอรรถพลพามาส่งเสียก่อน ก็ดีเหมือนกันเธอจะได้ไม่ต้องเดินทางกลับไปกลับมา เดือนหน้าชมพูก็เปิดเทอมแล้ว อดทนใจดีสู้เสืออีกหน่อยก็จะไม่ได้พบเจอกับอรรถพลแล้ว
“เราแวะเดินเล่นกันก่อนดีมั้ย พรุ่งนี้ก็ไม่ได้ไปไหนหนิ แวะพาชมพูเดินเล่นซื้อของดีกว่า” อรรถพลพูดเองเออเอง และก็เลี้ยวรถเข้าห้างสรรพสินค้า โดยที่รพินยังไม่ได้ตกลงสักคำ ทว่าเธอก็ไม่ได้ต่อว่าอะไรเขา ยอมทำตามแต่โดยดี ทุกอย่างตั้งอยู่บนความสุขของลูกทั้งนั้น
“ป่ะป๊าชมพูอยากเล่นบ้านบอลอ่ะ” เด็กน้อยพูดน้ำเสียงและท่าทางตื่นเต้นในอ้อมอกคนเป็นพ่อ อรรถพลทำหน้าที่อุ้มลูกสาวเดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้าเอง “พี่อาร์เจมาด้วยมั้ยอ่ะ”
“ไม่มาครับ” ตอบคำถามพร้อมหอมแก้มลูกสาวหนึ่งที อรพินแอบมองอยู่ห่าง ๆ เงียบ ๆ แอบยิ้มให้กับภาพสองพ่อลูกนิดหน่อย โดยอรรถพลไม่ทันรู้ตัว ลูกสาวของเธออยู่ในวัยกำลังพูดกำลังจา เห็นอะไรก็ตั้งคำถามไปหมด อรรถพลก็ตอบคำถามโดยไม่เบื่อเช่นกัน
ทุกคนเดินเข้าไปในห้าง เธอเดินตามหลังไปแบบจำยอม อรรถพลอมยิ้มที่ชนะเธอได้ เขาไม่ได้ต้องการเอาชนะแบบแข่งขันหรือสาแก่ใจ แค่ต้องการเก็บเกี่ยวความสุขก่อนที่ลูกสาวจะเปิดเทอมต่างหาก
ภายในห้างสรรพสินค้าตอนนี้วุ่นวายไปกับผู้คนมาใช้บริการหลังเลิกงาน เขาปล่อยลูกสาวให้เดินเองพร้อมจูงมือไปด้วย มีอรพินเดินอยู่ข้าง ๆ อยู่ไม่ห่าง “ชมพูหิวข้าวมั้ยคะ” เธอถามลูกสาวเกรงว่าจะหิว
“พี่ว่าพาลูกไปทานเอ็มเคตรงนู้นดีกว่า ชมพูทานข้าวก่อนค่อยไปเล่นบ้านบอลโอเคมั้ยคะ” เขาย่อตัวคุยกับลูกสาวก่อนจะเดินไปร้านที่ว่า ภาพสามคนพ่อแม่ลูกนั่งทานอาหารด้วยกัน เป็นช่วงเวลาที่อรรถพลโหยหามานาน วันนี้มันเกิดขึ้นจริง แต่ทว่ามันเกิดขึ้นแค่หลอก ๆ ถ้าไม่มีลูกสาวตัวน้อยอยู่ด้วย มีหรืออรพินจะยอมทำขนาดนี้
“พี่อรรถอย่าคิดไปไกลนะคะ รพินแค่ทำเพื่อชมพูเท่านั้น เมื่อไหร่ชมพูกลับบ้านสวน เราสองคนจะไม่เจอกันอีก” แววตาสีหน้าของเธอเรียบเฉย อรรถพลมองเข้าไปในแววตานั้นมีแค่ความว่างเปล่า ที่เขาเองเมื่อสัมผัสแววตาคู่นี้ทีไรหนาวเยือกเย็นไปถึงขั้วหัวใจ และเสียใจ เจ็บปวดเสมอ
“ครับ พี่ทราบดี พี่เข้าใจ แต่ต่อหน้าลูกรพินไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้ได้มั้ย “
“ค่ะ” สุดท้ายเธอก็เผยยิ้มออกมา ผู้คนที่อยู่ในร้านหากรู้ว่าทั้งสองไม่ได้รักกัน คงไม่มีใครเชื่อ
“ชมพูวันนี้นอนกับคุณแม่นะคะ ให้ป่ะป๊ากลับบ้านคนเดียวเนอะ” เธอชวนลูกสาวคุย คณะนี้เด็กหญิงกำลังสนุกเพลิดเพลินไปกับการทานอาหารบนโต๊ะตรงหน้า ดูแล้วเธอสดใสกว่าทุกวันเมื่อได้อยู่กับพ่อแม่ เธอและเขาต่างดูออก ทุกทีที่อยู่กับใครคนใดคนหนึ่ง เด็กน้อยไม่ร่าเริงขนาดนี้
“คิดถึงคุณตามั้ยเนี่ยชมพู กลับบ้านหาตาวิบูลมั้ย ป่านนี้ยายวันร้องไห้ แง ๆ หาชมพูแล้ว” อรพินทำท่าทางตลก ล้อเลียนผู้เป็นแม่เลี้ยงกับลูกสาว ทว่าคนฟังอย่างอรรถพลรู้สึกใจหายขึ้นมาดื้อ ๆ ไม่อยากให้ถึงวันนั้น ไม่อยากให้มันมาถึงเลย เพราะมันหมายความว่า จะถึงวันที่เขาจะไม่ได้เจอหน้าเธออีก จะไม่มีแบบนี้อีก คุณยายที่อรพินอ้างถึงคือแม่เลี้ยงของเธอเอง ซึ่งก็รักและหลงในตัวลูกสาวของเขามาก เขาทราบดี
“คิดถึง” เด็กหญิงตอบ พร้อมพยักหน้าเป็นคำตอบให้ผู้เป็นแม่ ยิ่งทำให้พ่ออย่างเขาใจหาย กลัวว่าลูกจะร้องกลับภายในเร็ววันนี้
“ยังกลับตอนนี้ไม่ได้ค่ะ อยู่เล่นกับป่ะป๊ากับคุณย่า กับอาอรก่อน” เขาพูดขึ้นเกรงว่าอรพินจะเออออไปกับลูกสาว และพากลับจริง ถ้าเป็นอย่างนั้นเท่ากับว่าจบความสัมพันธ์แบบหลอก ๆ เหมือนวันนี้ไป ซึ่งเขาไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น
“ทำไมจะกลับไม่ได้คะ ก็ลูกรพินอยากกลับ ชมพูจะกลับไปหาคุณตามั้ยลูก กลับพรุ่งนี้เลยมั้ยเดี๋ยวคุณแม่ไปส่ง” อรพินไม่ได้ต้องการจะให้ลูกสาวกลับจริง ๆ แค่แกล้งพูดให้อรรถพลอารมณ์เสียก็เท่านั้น ความจริงเธอก็ต้องการให้ลูกสาวได้ใช้เวลาอยู่กับคนเป็นพ่อ อย่างน้อยก็ช่วงปิดเทอม อีกอย่างเธอก็ได้อยู่ใกล้ ๆ ด้วยเช่นกัน
“ชมพูก็ลูกพี่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นพี่จะให้ลูกอยู่กับพี่ก่อน เปิดเทอมพี่ไปส่งเอง” สายตาของอรรถพลบอกถึงความมุ่งมั่นที่จะให้ลูกสาวอยู่กับตนให้ได้ อรพินกลั้นหัวเราะเอาไว้ที่แกล้งเขาได้สำเร็จ
“ก็แล้วแต่พี่อรรถ อ่ะชมพูทานนี่ลูก” เธอทำเป็นไม่สนใจเขา หันมาให้ความสนใจลูกสาวแทน ไม่ทันได้เห็นอรรถพลแสยะยิ้มออกมา นึกเหรอว่าเขาจะยอมง่าย ๆ อย่างน้อยก็ช่วยยื้อเวลาให้เขาได้อยู่ใกล้ ๆ เธอไปอีกนาน
เมื่อเล่นจนพอใจเด็กหญิงตัวน้อยแล้ว ทั้งสองคนก็พาลูกสาวกลับ วันนี้ชมพูต้องอยู่กับเธอ เนื่องจากพรุ่งนี้เป็นวันหยุด ทุก ๆ วันหยุดอรพินจะไปรับลูกสาวมานอนด้วยเสมอ
“ชมพู ชมพูต้องห้ามให้ป่ะป๊ากลับเข้าใจมั้ยคะ เดี๋ยวป่ะป๊าพามาเล่นบ้านบอลอีก คราวนี้ชวนพี่อาร์เจมาด้วยเลย” ระหว่างรออรพินทำธุระส่วนตัว อรรถพลแอบตกลงกับลูกสาว เขาตั้งใจใช้ลูกสาวเป็นเครื่องมือในรอบนี้ เด็กหญิงพยักหน้าเป็นคำตอบ ก่อนที่ทุกคนจะเดินทางกลับ
“ถึงแล้วครับ” อรรถพลพูดออกมาลอย ๆ ขณะที่เขาเลี้ยวรถเข้ามาจอดที่หน้าตึกคอนโดของอรพิน ภายในใจก็ลุ้นว่าลูกสาวจะทำตามที่คุยกันไว้หรือเปล่า อรพินเก็บข้าวของเช็คความเรียบร้อยก่อนจะลงจากรถ
“ป่ะป๊าลงมาสิ” เด็กหญิงกวักมือเรียกผู้เป็นพ่อด้วยความไร้เดียงสา อรพินมองด้วยความลำบากใจ ลูกสาวของเธอชอบเป็นแบบนี้เสมอ “คุณแม่ป่ะป๊าไม่ลงกับเราเหรอคะ” เด็กหญิงหันไปถามผู้เป็นแม่
“ไม่ค่ะ ป่ะป๊าต้องกลับไปหาคุณย่า” อรพินแก้ตัวพูดอะไรก็ได้เพื่อให้ลูกสาวเข้าใจง่าย ๆ “ชมพูอย่างอแงกับแม่นะ แม่ตีจริง ๆ ด้วย ป่ะป๊าเค้าไม่ว่างนอนกับเราไงลูก”
“ป่ะป๊าว่างค่ะ”
“พี่อรรถ!” อรพินถลึงตาให้อรรถพลด้วยความไม่พอใจที่โดนแกล้ง ทำไมเธอจะไม่รู้จุดประสงค์ ที่เขาทำ
“ให้คุณด้ามาอยู่กับเราไม่ได้เหรอคะ ป่ะป๊าจะได้ไม่ต้องกลับไปหาคุณด้าอีก”
อรพินถอนหายใจ สัปดาห์นี้เธอต้องการจะอยู่กับลูกสาวเหมือนกัน เด็กน้อยไม่พูดเฉยเดินไปเกาะแขนคนเป็นพ่อไว้แน่น ที่ขอบตามีน้ำใส ๆ เกาะอยู่ เด็กหญิงร้องไห้งอแงอยากได้ดั่งใจตัวเอง ส่วนอรรถพลเงียบคอยดูเหตุการณ์ว่าจะไปในทิศทางไหน ถ้ามันจะบานปลายเขาก็ไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้น
“ถ้างั้นชมพูกลับกับป่ะป๊าไปเลย แล้วพรุ่งนี้ก็ไม่ได้ไปเที่ยวกับแม่ จะเอายังไง”
“ไม่เอาอ่า” เด็กหญิงเริ่มงอแงร้องไห้เสียงดัง ผู้คนที่อยู่ระแวกนั้นก็เริ่มหันมามอง
“รพินพี่ว่า...”
“ไม่ค่ะพี่อรรถ รพินจะไม่ยอมพี่อรรถอีกแล้ว” อรพินพูดแทรก ไม่ยอมให้อรรถพลพูดจนจบ เธอรู้ว่าเขาจะพูดอะไรออกมา “ชมพูหยุดร้อง ถ้าพูดไม่รู้เรื่องงั้นแม่ตีจริง ๆ นะ” อรพินเงื้อมมือจะตีลูกสาวจริง ๆ ดั่งที่พูด แต่อรรถพลไม่ยอม เขาคว้าลูกสาวอุ้มกอดไว้
“รพินไหนเราตกลงกันไว้แล้วไง ไหนรพินบอกทำเพื่อลูกได้ทุกอย่าง เพื่อความสุขของลูก ให้พี่อยู่ที่นี่กับลูกเถอะนะ ถ้ารพินไม่อยากกลับไปบ้านพี่ นะครับ ลูกกลับไปเราก็ไม่ต้องเจอกันแล้ว แค่ช่วงนี้เท่านั้น”