เมื่อเราเรียนจบก็ย่อมอยากทำงานที่ตัวเองชอบหรืองานที่ต้องการ แต่ในโลกความจริงการหางานอาจไม่ง่ายแบบนั้น ยิ่งในปีที่มีวิกฤต COVID-19 ทำให้มีนักศึกษาจบใหม่และคนทำงานที่มีประสบการณ์การทำงานต้องมีการแข่งขันที่สูงขึ้น เมื่อต้องสู้กับคนที่มีประสบการณ์แล้ว เพื่อนๆ ที่เป็นนักศึกษาจบใหม่จะทำให้ HR เลือกเข้ามาสัมภาษณ์ได้อย่างไร อะไรที่จะทำให้ Resume ของเราโดดเด่น และคว้าตำแหน่งงานนั้นมา
JobThai Tips เลยได้รวบรวมกิจกรรมที่นักศึกษาควรทำในระหว่างเรียน ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการหางาน
และทำให้ Resume ของเรามีความโดดเด่นมากกว่าคนอื่นได้
ฝึกงานเพื่อซ้อมลงสนามจริง
การฝึกงานก็เหมือนการได้ทดลองทำงานจริง ทำให้เราได้รับประสบการณ์ที่หาไม่ได้ในห้องเรียน ส่วนใหญ่การฝึกงานก็จะตรงกับสายที่เราเรียนอยู่แล้ว
ซึ่งการฝึกงานก็จะได้ฝึกฝนตัวเอง ได้ต่อยอดสิ่งที่เรียนมา และถ้าเรามีผลงานที่โดดเด่น ก็มีโอกาสที่จะได้งานในบริษัทที่ไปฝึกงานตั้งแต่ยังเรียนไม่จบเลยด้วย
HR จะสนใจ่ว่าเราเป็นนักศึกษาจบใหม่ที่ได้ทดลองทำงานจริงมาก่อนแล้ว การปรับตัวอาจจะเร็วและง่ายกว่าคนที่ไม่เคยฝึกงานมาก่อน ยิ่งถ้าเราฝึกงานด้วยความสมัครใจไม่ได้เกี่ยวกับหลักสูตรการเรียน จะยิ่งแสดงให้เห็นว่าเราเป็นคนที่สนใจในงานนั้นจริง ๆ และเป็นคนที่ชอบแสวงหาความรู้ และมีความมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จ
ทำงาน Part-time เพิ่มประสบการณ์พร้อมหารายได้เสริม
การทำงาน Part-time นอกจากมีรายได้เสริมระหว่างเรียนแล้ว จะช่วยให้เราได้ประสบการณ์จากการทำงานจริง รวมถึง Resume ของเราจะโดดเด่นกว่าเพื่อนนักศึกษาจบใหม่ด้วย ซึ่งการทำงาน Part-time สามารถทำตอนไหนก็ได้ที่เรามีตารางว่าง ถ้าเราเป็นคนที่เรียนเก่งอาจจะไปเป็นครูสอนพิเศษ หรือถ้าชอบทำอาหาร ก็อาจจะไปทำงานในร้านอาหาร
การทำงานพิเศษจะทำให้ HR เห็นถึงความขยัน อดทน และมีความรับผิดชอบ เพราะการเรียนและทำงานควบคู่กันไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากจะต้องตั้งใจเรียนและอ่านหนังสือสอบแล้วยังใช้เวลาหลังเลิกเรียนหรือวันหยุดในการทำงานด้วยได้
ได้เพื่อนและประสบการณ์ใหม่ จากการทำกิจกรรมชมรม
นอกจากเรื่องเรียน ชีวิตในมหาวิทยาลัยยังมีกิจกรรมน่าสนใจมากมาย เช่น ชมรมต่าง ๆ ที่เราเลือกได้ตามความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นชมรมดนตรี ชมรมอาสาพัฒนา ชมรมถ่ายภาพ ชมรมกีฬาต่าง ๆ ชมรมประสานเสียง หรือชมรมการแสดง ซึ่งช่วยเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ พบเจอเพื่อนที่หลากหลาย บางครั้งก็อาจจะได้ฝึกบริหารจัดการโครงการต่าง ๆ ด้วย
HR มักสนใจเด็กกิจกรรม เพราะคนที่เรียนเก่งไม่ได้หมายความว่าจะทำงานเก่งเสมอไป ซึ่งความน่าสนใจของเด็กกิจกรรมนั้นมีความเป็นไปได้ที่จะปรับตัวเข้าสังคมได้ดี และบริหารเวลาได้ ยิ่งเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทักษะการสื่อสาร คนกลุ่มนี้จะได้เปรียบเป็นพิเศษ
เสริมทักษะด้วยการเข้าคอร์สอบรมสัมมนา
การเรียนรู้ทักษะเพิ่มเติมนอกห้องเรียนจะทำให้โดดเด่นกว่าคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นการลงเรียนคอร์สต่าง ๆ เช่น การใช้โปรแกรมการทำงานต่าง ๆ การเรียนภาษาต่างประเทศ หรือการเข้าสัมมนาในโครงการที่น่าสนใจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถ้ามีใบรับรอง หรือประกาศนียบัตรการเข้าร่วมด้วยก็จะยิ่งดีเพราะมันเป็นหลักฐานยืนยันว่าได้เข้าร่วมจริง โดยนักศึกษาควรเลือกเรียนในสิ่งที่คิดว่าจะต่อยอดในสายงานที่ต้องการจะทำในอนาคต
HR จะมองว่าเราเป็นคนชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ และมีความกระตือรือร้นที่จะพัฒนาตัวเอง ที่สำคัญถ้าใบรับรอง หรือประกาศนียบัตรที่ได้รับมา จำเป็นต้องใช้ในการทำงาน หรือการันตีความสามารถในเรื่องนั้น ๆ ได้ การตัดสินใจรับเราก็อาจจะง่ายขึ้นอีก
ประกวดแข่งขันชิงรางวัล เพื่อวัดความสามารถและพัฒนาตัวเอง
การเข้าร่วมประกวดแข่งขันถือเป็นการวัดความสามารถและพัฒนาตัวเอง ซึ่งการประกวดอาจเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เรียนหรือด้านที่สนใจก็ได้ เช่น ประกวดการทำแผนธุรกิจ ประกวดภาพถ่าย หรือประกวดออกแบบ ซึ่งถ้าชนะก็จะได้ประกาศนียบัตรมาเป็นเกียรติประวัติส่วนตัวประดับอยู่ใน Portfolio ด้วย แต่ถ้าแพ้อย่างน้อยก็จะรู้ว่าเรามีข้อเสียตรงไหน และจะต้องพัฒนาตัวเองอย่างไร แถมความรู้ความชำนาญที่ได้ก็จะติดตัวเราไปตลอดด้วย
ถ้าเราเคยลงประกวดแข่งขัน HR จะมองเห็นว่าเป็นคนที่มีความมุ่งมั่น ไฟแรง มีความพยายามที่จะพัฒนาตัวเอง และเวลาทำอะไรต้องทำให้ดีที่สุด เพราะธรรมชาติของคนที่ชอบประกวดแข่งขันนั้นก็ต้องมาจากพื้นฐานที่ต้องการเป็นที่หนึ่ง หรือชอบท้าทายความสามารถของตัวเอง ซึ่งจะต้องมีการเตรียมตัว ฝึกฝน มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเอง และใฝ่เรียนรู้มากเป็นพิเศษนั่นเอง
การเข้าร่วมกิจกรรมนอกห้องเรียน ได้ทั้งประสบการณ์และเพิ่มโอกาสได้งานก็จริงอยู่ แต่ถ้าบางคนทำกิจกรรมจนเสียการเรียน เสียเพื่อน เพราะไม่รู้จักแบ่งเวลา ก็ทำให้เสียหายได้เหมือนกัน ดังนั้นเราจึงต้องทำความเข้าใจกับตัวเองว่า ในฐานะนักศึกษาแล้ว การเรียนถือเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด และกิจกรรมถือเป็นองค์ประกอบอย่างหนึ่งที่ช่วยพัฒนา และเพิ่มศักยภาพให้เราได้
ทำกิจกรรมนอกห้องเรียนเพิ่มโอกาสให้นักศึกษาจบใหม่ได้งานทำ
JobThai Tips เลยได้รวบรวมกิจกรรมที่นักศึกษาควรทำในระหว่างเรียน ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการหางาน
และทำให้ Resume ของเรามีความโดดเด่นมากกว่าคนอื่นได้
ฝึกงานเพื่อซ้อมลงสนามจริง
การฝึกงานก็เหมือนการได้ทดลองทำงานจริง ทำให้เราได้รับประสบการณ์ที่หาไม่ได้ในห้องเรียน ส่วนใหญ่การฝึกงานก็จะตรงกับสายที่เราเรียนอยู่แล้ว
ซึ่งการฝึกงานก็จะได้ฝึกฝนตัวเอง ได้ต่อยอดสิ่งที่เรียนมา และถ้าเรามีผลงานที่โดดเด่น ก็มีโอกาสที่จะได้งานในบริษัทที่ไปฝึกงานตั้งแต่ยังเรียนไม่จบเลยด้วย
HR จะสนใจ่ว่าเราเป็นนักศึกษาจบใหม่ที่ได้ทดลองทำงานจริงมาก่อนแล้ว การปรับตัวอาจจะเร็วและง่ายกว่าคนที่ไม่เคยฝึกงานมาก่อน ยิ่งถ้าเราฝึกงานด้วยความสมัครใจไม่ได้เกี่ยวกับหลักสูตรการเรียน จะยิ่งแสดงให้เห็นว่าเราเป็นคนที่สนใจในงานนั้นจริง ๆ และเป็นคนที่ชอบแสวงหาความรู้ และมีความมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จ
ทำงาน Part-time เพิ่มประสบการณ์พร้อมหารายได้เสริม
การทำงาน Part-time นอกจากมีรายได้เสริมระหว่างเรียนแล้ว จะช่วยให้เราได้ประสบการณ์จากการทำงานจริง รวมถึง Resume ของเราจะโดดเด่นกว่าเพื่อนนักศึกษาจบใหม่ด้วย ซึ่งการทำงาน Part-time สามารถทำตอนไหนก็ได้ที่เรามีตารางว่าง ถ้าเราเป็นคนที่เรียนเก่งอาจจะไปเป็นครูสอนพิเศษ หรือถ้าชอบทำอาหาร ก็อาจจะไปทำงานในร้านอาหาร
การทำงานพิเศษจะทำให้ HR เห็นถึงความขยัน อดทน และมีความรับผิดชอบ เพราะการเรียนและทำงานควบคู่กันไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากจะต้องตั้งใจเรียนและอ่านหนังสือสอบแล้วยังใช้เวลาหลังเลิกเรียนหรือวันหยุดในการทำงานด้วยได้
ได้เพื่อนและประสบการณ์ใหม่ จากการทำกิจกรรมชมรม
นอกจากเรื่องเรียน ชีวิตในมหาวิทยาลัยยังมีกิจกรรมน่าสนใจมากมาย เช่น ชมรมต่าง ๆ ที่เราเลือกได้ตามความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นชมรมดนตรี ชมรมอาสาพัฒนา ชมรมถ่ายภาพ ชมรมกีฬาต่าง ๆ ชมรมประสานเสียง หรือชมรมการแสดง ซึ่งช่วยเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ พบเจอเพื่อนที่หลากหลาย บางครั้งก็อาจจะได้ฝึกบริหารจัดการโครงการต่าง ๆ ด้วย
HR มักสนใจเด็กกิจกรรม เพราะคนที่เรียนเก่งไม่ได้หมายความว่าจะทำงานเก่งเสมอไป ซึ่งความน่าสนใจของเด็กกิจกรรมนั้นมีความเป็นไปได้ที่จะปรับตัวเข้าสังคมได้ดี และบริหารเวลาได้ ยิ่งเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทักษะการสื่อสาร คนกลุ่มนี้จะได้เปรียบเป็นพิเศษ
เสริมทักษะด้วยการเข้าคอร์สอบรมสัมมนา
การเรียนรู้ทักษะเพิ่มเติมนอกห้องเรียนจะทำให้โดดเด่นกว่าคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นการลงเรียนคอร์สต่าง ๆ เช่น การใช้โปรแกรมการทำงานต่าง ๆ การเรียนภาษาต่างประเทศ หรือการเข้าสัมมนาในโครงการที่น่าสนใจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถ้ามีใบรับรอง หรือประกาศนียบัตรการเข้าร่วมด้วยก็จะยิ่งดีเพราะมันเป็นหลักฐานยืนยันว่าได้เข้าร่วมจริง โดยนักศึกษาควรเลือกเรียนในสิ่งที่คิดว่าจะต่อยอดในสายงานที่ต้องการจะทำในอนาคต
HR จะมองว่าเราเป็นคนชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ และมีความกระตือรือร้นที่จะพัฒนาตัวเอง ที่สำคัญถ้าใบรับรอง หรือประกาศนียบัตรที่ได้รับมา จำเป็นต้องใช้ในการทำงาน หรือการันตีความสามารถในเรื่องนั้น ๆ ได้ การตัดสินใจรับเราก็อาจจะง่ายขึ้นอีก
ประกวดแข่งขันชิงรางวัล เพื่อวัดความสามารถและพัฒนาตัวเอง
การเข้าร่วมประกวดแข่งขันถือเป็นการวัดความสามารถและพัฒนาตัวเอง ซึ่งการประกวดอาจเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เรียนหรือด้านที่สนใจก็ได้ เช่น ประกวดการทำแผนธุรกิจ ประกวดภาพถ่าย หรือประกวดออกแบบ ซึ่งถ้าชนะก็จะได้ประกาศนียบัตรมาเป็นเกียรติประวัติส่วนตัวประดับอยู่ใน Portfolio ด้วย แต่ถ้าแพ้อย่างน้อยก็จะรู้ว่าเรามีข้อเสียตรงไหน และจะต้องพัฒนาตัวเองอย่างไร แถมความรู้ความชำนาญที่ได้ก็จะติดตัวเราไปตลอดด้วย
ถ้าเราเคยลงประกวดแข่งขัน HR จะมองเห็นว่าเป็นคนที่มีความมุ่งมั่น ไฟแรง มีความพยายามที่จะพัฒนาตัวเอง และเวลาทำอะไรต้องทำให้ดีที่สุด เพราะธรรมชาติของคนที่ชอบประกวดแข่งขันนั้นก็ต้องมาจากพื้นฐานที่ต้องการเป็นที่หนึ่ง หรือชอบท้าทายความสามารถของตัวเอง ซึ่งจะต้องมีการเตรียมตัว ฝึกฝน มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเอง และใฝ่เรียนรู้มากเป็นพิเศษนั่นเอง
การเข้าร่วมกิจกรรมนอกห้องเรียน ได้ทั้งประสบการณ์และเพิ่มโอกาสได้งานก็จริงอยู่ แต่ถ้าบางคนทำกิจกรรมจนเสียการเรียน เสียเพื่อน เพราะไม่รู้จักแบ่งเวลา ก็ทำให้เสียหายได้เหมือนกัน ดังนั้นเราจึงต้องทำความเข้าใจกับตัวเองว่า ในฐานะนักศึกษาแล้ว การเรียนถือเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด และกิจกรรมถือเป็นองค์ประกอบอย่างหนึ่งที่ช่วยพัฒนา และเพิ่มศักยภาพให้เราได้