ซีรีส์เรื่องนี้เหมาะกับคำว่า "ขายฝันแต่ไม่เกินจริง" มากๆๆๆๆ เราว่ามันอธิบายได้ดีมาก ในเรื่องนี้ไม่มีใครสมบูรณ์แบบทุกอย่าง ไม่มีใครเดินเป็นเส้นตรง ทุกคนมีมีมิติทั้งหมด
- บทดีและทุกอีพีมีอะไรพีคขึ้นเรื่อยๆ น่าดูตลอดๆไม่มีน่าเบื่อเลย 1 ชั่วโมง 20 นาทีที่ไม่ง่วงเลยสำหรับเรา ปรบมือให้นักเขียนบทพัคฮเยรยอนดังๆค่ะ(ปรบมาหลายปีแล้วแม่ คารวะ) ตอนนี้ก็มีปมคุณย่า ปมประธานแซนด์บ็อกซ์เพิ่ม เอ้ออ ตอนแรกเราแอบกลัวนะว่าอีกหลายอีพีแหน่ะ เข้าแซนด์บ็อกซ์ได้แล้วจะเล่าแต่ธุรกิจกับจดหมายหรอ สรุปไม่จ้าา นักเขียนพัคฮเยรยอนไว้ใจได้จริงๆค่ะ!!!
- ซีรีส์วางให้เรื่องนี้ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ขนาดถึงขั้นใส่ฉากพระเอก reflect ตัวเองตอนซอดัลมีกำลัง pitching อยู่ การที่โดซานมองดัลมีแล้วรู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะกับการเป็นประธานจริงๆอย่างที่จีพยองพูด สำหรับเรามันเป็นอะไรที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในซีรีส์เลย ไม่เคยเห็นซีรีส์เกาหลีสร้างพระเอกที่เป็นมนุษย์มากขนาดนี้ 5555555 มีการเรียนรู้เกิดขึ้นตลอด ไม่ว่าจะดัลมี โดซาน ชอลซาน นัมซาน ฮาซา ทุกคนยังใหม่ อยู่ในช่วงการเรียนรู้ ซีรีส์ทำให้เข้าใจว่าทุกอย่างมันคือการเรียนรู้ไปเรื่อยๆ
- ความสัมพันธ์ของตัวละคร จุดเด่นมากของเรื่องนี้ จีพยอง-คุณย่า ที่ปูมาตั้งแต่เด็กยันโต ทำเราร้องไห้ไปหลายฉากเลยค่ะ โดซาน-ชอลซาน-ซัมซาน ตอนแรกเราไม่ได้อินขนาดนั้นแต่อีพีล่าสุดคือทำดีอยู่นะ เข้าใจเลยว่าทำไมถึงไว้ใจ ทำไมถึงเป็นเพื่อนที่ไปด้วยกันได้ ดัลมี-พ่อ อันนี้ก็มีการพูดถึงอยู่ตลอดถึงพ่อจะเสียแล้ว แต่สัมผัสได้ว่าดัลมีรักและเคารพพ่อขนาดไหน ดัลมีเหมือนพ่อมากจริงๆ
- อธิบายธุรกิจให้เข้าใจ เหตุผลที่ซัมซานเท็คไม่ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่แค่เพราะโดซานและเพื่อนๆไม่มีโอกาส ไม่ใช่แค่เพราะจน ขนาดชนะโคด้า โอกาสวางอยู่ตรงหน้า ยังคว้าไว้ไม่ได้ ฉลาดแต่ไม่แพรวพราวในการทำธุรกิจ สิ่งที่ขาดคือ CEO ที่ดี ธุรกิจที่มีแต่คนฉลาด ไปไม่รอด การมีคนที่พูดอะไรย่อยง่ายฟังดูเข้าใจง่ายนั้นดีกว่าเสมอ ซอดัลมีไม่ได้ฉลาดเท่านักพัฒนาอย่างเหล่าซัมซาน ไม่ได้เข้าใจทุกตัวเลข ตัวอักษรทั้งหมด แต่สามารถพูดมันออกมาให้คนเข้าใจได้ เพราะประสบการณ์นอกโลก ทำงานพาร์ทไทม์มาแทบทั้งชีวิต พอมารวมกับนักพัฒนาแบบซัมซานก็โบ๊ะเช๊ะ ดีมากจริงๆ สุดท้ายแล้วสิ่งที่สำคัญของธุรกิจคือคุณต้องซื้อใจนักลงทุนให้ได้ นี่สินะการ Pitching สนุกมากๆค่ะ
- กิมมิคดีมากกกกกกก คำพวกนี้ถูกเอามาเป็นอะไรสำคัญแบบที่เราคาดไม่ถึง
Ex. Learning Machine = แต่พอจีพยองบอกปุ๊บก็รู้ปั๊บ เหมือนเป็น Learning Machine จริงๆ เราว่าหลังจากนี้คำนี้น่าจะถูกเอาขึ้นมาใช้อีกแน่ เพราะโดซานก็เหมือน Learning Machine ถ้าป้อนเรื่อยๆจะออกมาแม่นยำและออกมาดีแน่นอน
ทางเลือก = เรื่องนี้เกี่ยวกับการตัดสินใจเยอะมาก และตัวละครก็ให้ความสำคัญกับมันมาก ไม่ว่าจะพี่สาวที่ก็อยากมั่นใจว่าตัวเองตัดสินใจถูก ดัลมีที่อยากพิสูจน์ว่าพี่เลือกผิด โดซานตัดสินใจเลือกดัลมี ((และต่อไปคงเป็นดัลมีตัดสินใจเลือกระหว่างโดซานกับจีพยอง 55555555555)) การเป็น CEO ก็ต้องตัดสินใจเลือก ถ้าตัดสินใจไม่ได้ก็ไม่มีคุณสมบัติของการเป็นประธาน
- ใส่ Quotes มาแบบเนียนมาก มักจะมีคำพูดสวยๆให้ได้เอาไปคิดเสมอ แคปมาแล้วนี่สวยมากกก เราจำได้เยอะมากๆๆ ไม่ว่าจะคำพูดของคุณย่าที่บอกดัลมีว่าเธอคือดอกคอสมอสที่บานในฤดูใบไม้ร่วง ตอนนี้ยังเป็นฤดูใบไม้ผลิ อย่ารีบร้อนไปเลย , การแล่นเรือโดยไร้แผนที่ , อย่าเอาความคิดเห็นของคนอื่นมาเป็นความจริงของคุณ , มนุษย์ฉลาดที่สุดก็เพราะเรามีมือ , ถ้าโลกนี้สดใสเกินไปจะกลายเป็นทะเลทราย เราต้องมีหิมะมีฝนตก หญ้าจะได้โต , อะไรที่ธรรมดาสำหรับเราอาจจะพิเศษสำหรับคนอื่น , เราไม่ได้เสียใจกับสิ่งที่เลือกในทันที เราเสียใจหลังจากที่ผ่านไปแล้วต่างหาก
เราชอบตัวละครดัลมีมากเลย เป็นคนที่มีความคิดดีมาก พร้อมที่จะวิ่งตลอดเวลา อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ ทิ้งตัวลงคุกเข่าต่อหน้าซาฮาแต่ไม่ได้แปลว่าจะยอมสยบให้ ยังคงต่อรองเรื่องหุ้นได้แบบ 101010 ซีนนี้ปัง!
ปกติไม่ได้ซีเรียสกับ #ทีมโดซาน หรือ #ทีมจีพยอง มากขนาดนั้น แต่ขอหน่อยเถอะค่ะ 555555 เราไม่เห็นว่าดัลมีกับจีพยองจะผูกพันกันขนาดนั้นเลยอ่ะ จีพยองก็ไม่ได้ใส่ใจการเขียนจดหมายให้ดัลมี เหมือนเขียนเล่นๆไปวันๆเห็นอะไรจากหนังสือพิมพ์จากโทรทัศน์ก็เอามาเขียนในขณะที่สำหรับมีมันมีความหมายมากๆ ขอติด้วย แอบรำคาญนะที่นักเขียนชอบให้มีฉากสงสารจีพยองนั่นนี่ สำหรับเราคือมันพยายามเกินไป ไม่อินอ่ะ เหอเหอ แต่โดยรวมก็โอเคคคคค
ส่วนตัวเรายังคงชอบมากมากกก ผ่านมาแค่ 6 EP. แต่เรารู้สึกเอ็นจอยมากๆ รู้สึกผูกพันกับตัวละครไปแล้วอ่ะ
สุดท้ายนี้ ผู้ชายใส่ฮู้ดคนนั้นคือใครนะ!?! มีปมเพิ่มอีกแล้ว สนุกจังเราชอบ 555555 เดาว่าไม่ยงซานก็นักพัฒนาจากอินแจคอมปะนี แต่ดูจะเป็นยงซานแฮะ รู้สึกลางสังหรณ์มันใช่ ทุกคนคิดว่าใครคะ
EP.6 Start-Up ยังสนุกอยู่ไหม?!
- บทดีและทุกอีพีมีอะไรพีคขึ้นเรื่อยๆ น่าดูตลอดๆไม่มีน่าเบื่อเลย 1 ชั่วโมง 20 นาทีที่ไม่ง่วงเลยสำหรับเรา ปรบมือให้นักเขียนบทพัคฮเยรยอนดังๆค่ะ(ปรบมาหลายปีแล้วแม่ คารวะ) ตอนนี้ก็มีปมคุณย่า ปมประธานแซนด์บ็อกซ์เพิ่ม เอ้ออ ตอนแรกเราแอบกลัวนะว่าอีกหลายอีพีแหน่ะ เข้าแซนด์บ็อกซ์ได้แล้วจะเล่าแต่ธุรกิจกับจดหมายหรอ สรุปไม่จ้าา นักเขียนพัคฮเยรยอนไว้ใจได้จริงๆค่ะ!!!
- ซีรีส์วางให้เรื่องนี้ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ขนาดถึงขั้นใส่ฉากพระเอก reflect ตัวเองตอนซอดัลมีกำลัง pitching อยู่ การที่โดซานมองดัลมีแล้วรู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะกับการเป็นประธานจริงๆอย่างที่จีพยองพูด สำหรับเรามันเป็นอะไรที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในซีรีส์เลย ไม่เคยเห็นซีรีส์เกาหลีสร้างพระเอกที่เป็นมนุษย์มากขนาดนี้ 5555555 มีการเรียนรู้เกิดขึ้นตลอด ไม่ว่าจะดัลมี โดซาน ชอลซาน นัมซาน ฮาซา ทุกคนยังใหม่ อยู่ในช่วงการเรียนรู้ ซีรีส์ทำให้เข้าใจว่าทุกอย่างมันคือการเรียนรู้ไปเรื่อยๆ
- ความสัมพันธ์ของตัวละคร จุดเด่นมากของเรื่องนี้ จีพยอง-คุณย่า ที่ปูมาตั้งแต่เด็กยันโต ทำเราร้องไห้ไปหลายฉากเลยค่ะ โดซาน-ชอลซาน-ซัมซาน ตอนแรกเราไม่ได้อินขนาดนั้นแต่อีพีล่าสุดคือทำดีอยู่นะ เข้าใจเลยว่าทำไมถึงไว้ใจ ทำไมถึงเป็นเพื่อนที่ไปด้วยกันได้ ดัลมี-พ่อ อันนี้ก็มีการพูดถึงอยู่ตลอดถึงพ่อจะเสียแล้ว แต่สัมผัสได้ว่าดัลมีรักและเคารพพ่อขนาดไหน ดัลมีเหมือนพ่อมากจริงๆ
- อธิบายธุรกิจให้เข้าใจ เหตุผลที่ซัมซานเท็คไม่ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่แค่เพราะโดซานและเพื่อนๆไม่มีโอกาส ไม่ใช่แค่เพราะจน ขนาดชนะโคด้า โอกาสวางอยู่ตรงหน้า ยังคว้าไว้ไม่ได้ ฉลาดแต่ไม่แพรวพราวในการทำธุรกิจ สิ่งที่ขาดคือ CEO ที่ดี ธุรกิจที่มีแต่คนฉลาด ไปไม่รอด การมีคนที่พูดอะไรย่อยง่ายฟังดูเข้าใจง่ายนั้นดีกว่าเสมอ ซอดัลมีไม่ได้ฉลาดเท่านักพัฒนาอย่างเหล่าซัมซาน ไม่ได้เข้าใจทุกตัวเลข ตัวอักษรทั้งหมด แต่สามารถพูดมันออกมาให้คนเข้าใจได้ เพราะประสบการณ์นอกโลก ทำงานพาร์ทไทม์มาแทบทั้งชีวิต พอมารวมกับนักพัฒนาแบบซัมซานก็โบ๊ะเช๊ะ ดีมากจริงๆ สุดท้ายแล้วสิ่งที่สำคัญของธุรกิจคือคุณต้องซื้อใจนักลงทุนให้ได้ นี่สินะการ Pitching สนุกมากๆค่ะ
- กิมมิคดีมากกกกกกก คำพวกนี้ถูกเอามาเป็นอะไรสำคัญแบบที่เราคาดไม่ถึง
Ex. Learning Machine = แต่พอจีพยองบอกปุ๊บก็รู้ปั๊บ เหมือนเป็น Learning Machine จริงๆ เราว่าหลังจากนี้คำนี้น่าจะถูกเอาขึ้นมาใช้อีกแน่ เพราะโดซานก็เหมือน Learning Machine ถ้าป้อนเรื่อยๆจะออกมาแม่นยำและออกมาดีแน่นอน
ทางเลือก = เรื่องนี้เกี่ยวกับการตัดสินใจเยอะมาก และตัวละครก็ให้ความสำคัญกับมันมาก ไม่ว่าจะพี่สาวที่ก็อยากมั่นใจว่าตัวเองตัดสินใจถูก ดัลมีที่อยากพิสูจน์ว่าพี่เลือกผิด โดซานตัดสินใจเลือกดัลมี ((และต่อไปคงเป็นดัลมีตัดสินใจเลือกระหว่างโดซานกับจีพยอง 55555555555)) การเป็น CEO ก็ต้องตัดสินใจเลือก ถ้าตัดสินใจไม่ได้ก็ไม่มีคุณสมบัติของการเป็นประธาน
- ใส่ Quotes มาแบบเนียนมาก มักจะมีคำพูดสวยๆให้ได้เอาไปคิดเสมอ แคปมาแล้วนี่สวยมากกก เราจำได้เยอะมากๆๆ ไม่ว่าจะคำพูดของคุณย่าที่บอกดัลมีว่าเธอคือดอกคอสมอสที่บานในฤดูใบไม้ร่วง ตอนนี้ยังเป็นฤดูใบไม้ผลิ อย่ารีบร้อนไปเลย , การแล่นเรือโดยไร้แผนที่ , อย่าเอาความคิดเห็นของคนอื่นมาเป็นความจริงของคุณ , มนุษย์ฉลาดที่สุดก็เพราะเรามีมือ , ถ้าโลกนี้สดใสเกินไปจะกลายเป็นทะเลทราย เราต้องมีหิมะมีฝนตก หญ้าจะได้โต , อะไรที่ธรรมดาสำหรับเราอาจจะพิเศษสำหรับคนอื่น , เราไม่ได้เสียใจกับสิ่งที่เลือกในทันที เราเสียใจหลังจากที่ผ่านไปแล้วต่างหาก
เราชอบตัวละครดัลมีมากเลย เป็นคนที่มีความคิดดีมาก พร้อมที่จะวิ่งตลอดเวลา อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ ทิ้งตัวลงคุกเข่าต่อหน้าซาฮาแต่ไม่ได้แปลว่าจะยอมสยบให้ ยังคงต่อรองเรื่องหุ้นได้แบบ 101010 ซีนนี้ปัง!
ปกติไม่ได้ซีเรียสกับ #ทีมโดซาน หรือ #ทีมจีพยอง มากขนาดนั้น แต่ขอหน่อยเถอะค่ะ 555555 เราไม่เห็นว่าดัลมีกับจีพยองจะผูกพันกันขนาดนั้นเลยอ่ะ จีพยองก็ไม่ได้ใส่ใจการเขียนจดหมายให้ดัลมี เหมือนเขียนเล่นๆไปวันๆเห็นอะไรจากหนังสือพิมพ์จากโทรทัศน์ก็เอามาเขียนในขณะที่สำหรับมีมันมีความหมายมากๆ ขอติด้วย แอบรำคาญนะที่นักเขียนชอบให้มีฉากสงสารจีพยองนั่นนี่ สำหรับเราคือมันพยายามเกินไป ไม่อินอ่ะ เหอเหอ แต่โดยรวมก็โอเคคคคค
ส่วนตัวเรายังคงชอบมากมากกก ผ่านมาแค่ 6 EP. แต่เรารู้สึกเอ็นจอยมากๆ รู้สึกผูกพันกับตัวละครไปแล้วอ่ะ
สุดท้ายนี้ ผู้ชายใส่ฮู้ดคนนั้นคือใครนะ!?! มีปมเพิ่มอีกแล้ว สนุกจังเราชอบ 555555 เดาว่าไม่ยงซานก็นักพัฒนาจากอินแจคอมปะนี แต่ดูจะเป็นยงซานแฮะ รู้สึกลางสังหรณ์มันใช่ ทุกคนคิดว่าใครคะ