สวัสดีครับเพื่อนๆชาวพันทิปทุกท่าน วันนี้ผมมีประสบการณ์ที่ไม่ค่อยดีกับโรงพยาบาลเด็กชื่อดังแห่งหนึ่ง มาแชร์ให้เพื่อนได้อ่าน
เมื่อเมื่อต้นเดือนตุลาคม ลูกชายวัย 1 ขวบ ได้มีอาการป่วยจากการติดเชื้อในลำคอ มีไข้สูง จึงได้พาลูกชายเข้ารับการรักษาที่ "โรงพยาบาลชื่อดังย่านรามอินทรา ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ด้านการรักษาเด็ก" และคุณหมอให้นอนดูอาการที่โรงพยาบาล
วันแรก
ก็มีการรักษาพยาบาลตามปกติ มีการเช็ดตัว และ เจาะเส้นเลือดเพื่อให้น้ำเกลือและฉีดยา ซึ่งในการเจาะเส้นเลือดวันแรกทีมพยาบาลก็บอกว่า หาเส้นเลือดยากพอสมควรและลูกชายผมก็ค่อนข้างดิ้นแรง แต่ก็สามารถเจาะได้ในที่สุด . . . แต่ ด้วยความที่มันอยู่ที่หลังมือเด็ก ปรากฎว่าตอนกลางคืน สายน้ำเกลือหลุด จึงต้องรอเจาะใหม่เช้าวันรุ่งขึ้น
วันเกิดเหตุ
ตรงกับวันเกิดลูกชายผมครบ 1 ขวบพอดี และเนื่องจาก ผมและภรรยา จำเป็นต้องเข้าไปเคลียร์งาน ทำให้อยู่ดูลูกได้ถึงแค่ 8 โมงและจะกลับเข้ามาหาอีกทีตอนเที่ยง ผมได้ให้แม่ผม เป็นคนเฝ้าไข้ลูกชาย และเมื่อผมเข้ามาที่โรงพยาบาลในตอนเที่ยง ผมและภรรยาก็พบว่า เกิดเหตุการณ์ทีมพยาบาลเจาะเส้นเลือด ได้ลืมเอา "ถุงมือยาง" ที่เอามาใช้รัดไม่ให้เลือดไหลผ่าน ออกจากขาลูกชาย ปรากฎเป็นรอยดังภาพข้างล่าง (แม่ผมบอกว่า ของจริงแดงกว่านี้ สีโทรศัพท์ไม่ค่อยตรง)
จากการถามแม่ผม รวมถึงถามพยาบาล ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็สรุปได้รายละเอียดดังนี้ครับ
คือ วันนี้มีทีมพยาบาลเข้ามาเจาะเส้นเลือดให้ลูกชายผมใหม่เวลาประมาณ 10.40 น. ซึ่งผมไม่ทราบว่าทีมเดียวกับวันแรกมั๊ย แม่เล่าว่า เพราะ ลูกชายเราดิ้นประกอบกับเส้นเลือดหาค่อนข้างยาก จึงต้องมีพยาบาลมาช่วยกันจับเยอะ รวมถึงใช้แผ่นกระดานในการรัดตัวลูกชายผม อันนี้ทราบว่าเป็นขั้นตอนปกติเพื่อเซฟแขนขาเด็กไม่ให้โดนจับจนหัก ซึ่งทีมพยาบาลได้หาอยู่หลายจุก ทั้งข้อมืออีกข้าง ทั้งขา ทั้งข้อพับ จนสุดท้ายได้เจอที่ข้อพับแขน หลังจากเจาะเสร็จลูกชายก็ร้องไห้จนหลับไป ปรากฎว่า ประมาณเกือบเที่ยง ลูกชายผมตื่นมาร้องไห้ แม่ผมได้เอามือเลิกกางเกงซึ่งเป็นขายาว ขึ้นเพื่อจะดูแพมเพิสว่าฉี่เต็มหรือเปล่า จึงคลำไปพบกับ "ถุงมือยาง" ที่กล่าวไป จึงรีบกดเรียกพยาบาลเข้ามาเอาออก พบรอยบวมแดงขนาดพอสมควรที่ขาลูกชาย แต่ด้วยความที่แม่ผมตกใจมาก จึงถ่ายรูปตอนที่ยังรัดเอาไว้ไม่ทัน ซึ่งพยาบาลได้รีบเอาออกและทิ้งไปแล้ว
ประเด็นสำคัญของเหตุการณ์ในครั้งนี้ คือ
1. การใช้ "ถุงมือยาง" ในการรัดหาเส้นเลือดเพื่อเจาะสายน้ำเกลือ
2. รัดแล้วลืมเอาออก รวมเวลาประมาณชั่วโมงครึ่งผมไม่อยากจะคิดเลยว่า ถ้าเวลามันเกิดผ่านไปนานกว่านี้ เป็นสองชั่วโมง สามชั่วโมง ความเสี่ยงที่เนื้อเยื่อจะขาดเลือดไปเลี้ยงมันมีมากน้อยแค่ไหน แล้วผมก็ไม่รู้ว่าการเอาถุงมือยางมารัดน่องเอาไว้เป็นชั่วโมงแบบนี้ ลูกชายผมจะรู้สึกทรมานขนาดไหน จะสื่อสาร จะบอกก็ทำไม่ได้
3. นี่คือ "ความสะเพร่า" ที่เกิดขึ้นจากโรงพยาบาลที่ขึ้นชื่อเรื่องความเชี่ยวชาญในการดูแลรักษาเด็กเล็กเป็นพิเศษ และถึงแม้จะใช้อุปกรณ์ตามมาตรฐาน แล้วการรัดน่องขาเด็กอายุ 1 ขวบเอาไว้แบบนี้โดยลืมเอาออก มันก็ไม่ควรเกิดขึ้นอยู่ดี รวมถึงตลอดการรับการรักษานานกว่า 5 วัน ทางโรงพยาบาลไม่ได้พาพยาบาลคนนั้น เข้ามาขอโทษผมและภรรยาต่อหน้าอย่างเป็นทางการแม้แต่ครั้งเดียว
ผมจึงอยากจะแชร์ประสบการณ์ที่ได้เข้ารับการรักษาจากโรงพยาบาลแห่งนี้ เอาไว้ให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านในการดูแลลูกรักของท่านอย่างใกล้ชิด ถึงแม้ท่านจะเลือกใช้บริการจากโรงพยาบาลชื่อดังและเชี่ยวชาญขนาดไหนก็ตามครับ
การเยียวยา
หากท่านใดสงสัยเรื่องการเยียวยา ผมบอกได้เลยว่า ผมไม่ได้รับเอาไว้ เนื่องจาก หลังจากให้ผมรอการประชุมของผู้บริหารเป็นเวลานานกว่า 2 สัปดาห์ โดยไม่ยินยอมให้ผมเข้าเจรจา ผลที่ออกมามันช่างน้อยจนทุเรศและเป็นการดูถูกความเสี่ยงที่ลูกชายผมได้รับอย่างมาก รวมถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมด 47,000 บาท ประกันที่ผมมีก็ครอบคลุมทั้งหมด เท่ากับว่า เคสนี้ โรงพยาบาลแห่งนี้ ไม่ต้องเสียอะไรเลย รวมถึงยังได้เงินจากประกันของผมอีกด้วย
โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ มันอาจจะมองได้สองมุม ไม่มีใครผิดไม่มีใครถูก ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน
- เด็กปลอดภัยแล้ว ไม่ได้บาดเจ็บร้ายแรงหรือพิการหนิ จะเอาค่าเยียวยาอะไรอีก (นี่คงเป็นมุมมองผู้บริหาร : แล้วถ้าเป็นลูกหลานคุณล่ะ? )
- ความเสี่ยงที่เด็กได้รับ มันมากนะ ถ้าหากปล่อยเอาไว้นานกว่านี้ล่ะ หรือถ้าเวลาเท่าเดิมแต่รัดแน่นกว่านี้ล่ะ ถ้าลูกผมใช้งานขาไม่ได้จากการขาดเลือดไปเลี้ยงล่ะ มันจะไม่มีมูลค่าไหนมาทดแทนได้เลยนะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ปัจจุบัน ผมกับภรรยาตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้วว่าจะเลิกใช้บริการโรงพยาบาลแห่งนี้ในทุกการรักษา รวมถึงบอกต่อครอบครัวและคนใกล้ชิดอีกด้วย เนื่องจากนี่ไม่ใช่เหตุการณ์เลวร้ายครั้งแรกที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของผมที่โรงพยาบาลแห่งนี้ นี่ไม่ใช่เหตุกาณ์ที่รุนแรงและเลวร้ายที่สุด ที่ผมได้รับจากโรงพยาบาลแห่งนี้ ถึงแม้ผมจะให้เกียรติและชอบในความเก่งของคุณหมอแต่ละท่านที่ผมรับการรักษา แต่สิ่งที่ผมได้รับจากผู้บริหารของโรงพยาบาลแห่งนี้มันช่างไร้ซึ่งหัวใจเสียเหลือเกิน
ปล. คุณหมอเจ้าของไข้ ไม่เกี่ยวข้องใดๆกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ท่านเก่งและน่ารักมาก รักษาลูกผมจนหายดี รวมถึงเข้าใจครอบครัวผมทุกอย่าง ฉะนั้นผมจะไม่ขอเอ่ยชื่อของท่าน
โรงพยาบาลเด็กชื่อดังย่านรามอินทรา ลืมเอา "ถุงมือยาง" ที่ใช้รัดหาเส้นเลือด ออกจากเด็กอายุ 1 ขวบ !
เมื่อเมื่อต้นเดือนตุลาคม ลูกชายวัย 1 ขวบ ได้มีอาการป่วยจากการติดเชื้อในลำคอ มีไข้สูง จึงได้พาลูกชายเข้ารับการรักษาที่ "โรงพยาบาลชื่อดังย่านรามอินทรา ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ด้านการรักษาเด็ก" และคุณหมอให้นอนดูอาการที่โรงพยาบาล
วันแรก
ก็มีการรักษาพยาบาลตามปกติ มีการเช็ดตัว และ เจาะเส้นเลือดเพื่อให้น้ำเกลือและฉีดยา ซึ่งในการเจาะเส้นเลือดวันแรกทีมพยาบาลก็บอกว่า หาเส้นเลือดยากพอสมควรและลูกชายผมก็ค่อนข้างดิ้นแรง แต่ก็สามารถเจาะได้ในที่สุด . . . แต่ ด้วยความที่มันอยู่ที่หลังมือเด็ก ปรากฎว่าตอนกลางคืน สายน้ำเกลือหลุด จึงต้องรอเจาะใหม่เช้าวันรุ่งขึ้น
วันเกิดเหตุ
ตรงกับวันเกิดลูกชายผมครบ 1 ขวบพอดี และเนื่องจาก ผมและภรรยา จำเป็นต้องเข้าไปเคลียร์งาน ทำให้อยู่ดูลูกได้ถึงแค่ 8 โมงและจะกลับเข้ามาหาอีกทีตอนเที่ยง ผมได้ให้แม่ผม เป็นคนเฝ้าไข้ลูกชาย และเมื่อผมเข้ามาที่โรงพยาบาลในตอนเที่ยง ผมและภรรยาก็พบว่า เกิดเหตุการณ์ทีมพยาบาลเจาะเส้นเลือด ได้ลืมเอา "ถุงมือยาง" ที่เอามาใช้รัดไม่ให้เลือดไหลผ่าน ออกจากขาลูกชาย ปรากฎเป็นรอยดังภาพข้างล่าง (แม่ผมบอกว่า ของจริงแดงกว่านี้ สีโทรศัพท์ไม่ค่อยตรง)
จากการถามแม่ผม รวมถึงถามพยาบาล ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็สรุปได้รายละเอียดดังนี้ครับ
คือ วันนี้มีทีมพยาบาลเข้ามาเจาะเส้นเลือดให้ลูกชายผมใหม่เวลาประมาณ 10.40 น. ซึ่งผมไม่ทราบว่าทีมเดียวกับวันแรกมั๊ย แม่เล่าว่า เพราะ ลูกชายเราดิ้นประกอบกับเส้นเลือดหาค่อนข้างยาก จึงต้องมีพยาบาลมาช่วยกันจับเยอะ รวมถึงใช้แผ่นกระดานในการรัดตัวลูกชายผม อันนี้ทราบว่าเป็นขั้นตอนปกติเพื่อเซฟแขนขาเด็กไม่ให้โดนจับจนหัก ซึ่งทีมพยาบาลได้หาอยู่หลายจุก ทั้งข้อมืออีกข้าง ทั้งขา ทั้งข้อพับ จนสุดท้ายได้เจอที่ข้อพับแขน หลังจากเจาะเสร็จลูกชายก็ร้องไห้จนหลับไป ปรากฎว่า ประมาณเกือบเที่ยง ลูกชายผมตื่นมาร้องไห้ แม่ผมได้เอามือเลิกกางเกงซึ่งเป็นขายาว ขึ้นเพื่อจะดูแพมเพิสว่าฉี่เต็มหรือเปล่า จึงคลำไปพบกับ "ถุงมือยาง" ที่กล่าวไป จึงรีบกดเรียกพยาบาลเข้ามาเอาออก พบรอยบวมแดงขนาดพอสมควรที่ขาลูกชาย แต่ด้วยความที่แม่ผมตกใจมาก จึงถ่ายรูปตอนที่ยังรัดเอาไว้ไม่ทัน ซึ่งพยาบาลได้รีบเอาออกและทิ้งไปแล้ว
ประเด็นสำคัญของเหตุการณ์ในครั้งนี้ คือ
1. การใช้ "ถุงมือยาง" ในการรัดหาเส้นเลือดเพื่อเจาะสายน้ำเกลือ
2. รัดแล้วลืมเอาออก รวมเวลาประมาณชั่วโมงครึ่งผมไม่อยากจะคิดเลยว่า ถ้าเวลามันเกิดผ่านไปนานกว่านี้ เป็นสองชั่วโมง สามชั่วโมง ความเสี่ยงที่เนื้อเยื่อจะขาดเลือดไปเลี้ยงมันมีมากน้อยแค่ไหน แล้วผมก็ไม่รู้ว่าการเอาถุงมือยางมารัดน่องเอาไว้เป็นชั่วโมงแบบนี้ ลูกชายผมจะรู้สึกทรมานขนาดไหน จะสื่อสาร จะบอกก็ทำไม่ได้
3. นี่คือ "ความสะเพร่า" ที่เกิดขึ้นจากโรงพยาบาลที่ขึ้นชื่อเรื่องความเชี่ยวชาญในการดูแลรักษาเด็กเล็กเป็นพิเศษ และถึงแม้จะใช้อุปกรณ์ตามมาตรฐาน แล้วการรัดน่องขาเด็กอายุ 1 ขวบเอาไว้แบบนี้โดยลืมเอาออก มันก็ไม่ควรเกิดขึ้นอยู่ดี รวมถึงตลอดการรับการรักษานานกว่า 5 วัน ทางโรงพยาบาลไม่ได้พาพยาบาลคนนั้น เข้ามาขอโทษผมและภรรยาต่อหน้าอย่างเป็นทางการแม้แต่ครั้งเดียว
ผมจึงอยากจะแชร์ประสบการณ์ที่ได้เข้ารับการรักษาจากโรงพยาบาลแห่งนี้ เอาไว้ให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านในการดูแลลูกรักของท่านอย่างใกล้ชิด ถึงแม้ท่านจะเลือกใช้บริการจากโรงพยาบาลชื่อดังและเชี่ยวชาญขนาดไหนก็ตามครับ
การเยียวยา
หากท่านใดสงสัยเรื่องการเยียวยา ผมบอกได้เลยว่า ผมไม่ได้รับเอาไว้ เนื่องจาก หลังจากให้ผมรอการประชุมของผู้บริหารเป็นเวลานานกว่า 2 สัปดาห์ โดยไม่ยินยอมให้ผมเข้าเจรจา ผลที่ออกมามันช่างน้อยจนทุเรศและเป็นการดูถูกความเสี่ยงที่ลูกชายผมได้รับอย่างมาก รวมถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมด 47,000 บาท ประกันที่ผมมีก็ครอบคลุมทั้งหมด เท่ากับว่า เคสนี้ โรงพยาบาลแห่งนี้ ไม่ต้องเสียอะไรเลย รวมถึงยังได้เงินจากประกันของผมอีกด้วย
โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ มันอาจจะมองได้สองมุม ไม่มีใครผิดไม่มีใครถูก ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน
- เด็กปลอดภัยแล้ว ไม่ได้บาดเจ็บร้ายแรงหรือพิการหนิ จะเอาค่าเยียวยาอะไรอีก (นี่คงเป็นมุมมองผู้บริหาร : แล้วถ้าเป็นลูกหลานคุณล่ะ? )
- ความเสี่ยงที่เด็กได้รับ มันมากนะ ถ้าหากปล่อยเอาไว้นานกว่านี้ล่ะ หรือถ้าเวลาเท่าเดิมแต่รัดแน่นกว่านี้ล่ะ ถ้าลูกผมใช้งานขาไม่ได้จากการขาดเลือดไปเลี้ยงล่ะ มันจะไม่มีมูลค่าไหนมาทดแทนได้เลยนะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปล. คุณหมอเจ้าของไข้ ไม่เกี่ยวข้องใดๆกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ท่านเก่งและน่ารักมาก รักษาลูกผมจนหายดี รวมถึงเข้าใจครอบครัวผมทุกอย่าง ฉะนั้นผมจะไม่ขอเอ่ยชื่อของท่าน