1. การเขียนเชิงวิชาการ มีลักษณะอย่างไร *
ก. เขียนเป็นระบบแบบแผน ใช้ภาษาที่เป็นทางการ
ข. เขียนตรงไปตรงมา มุ่งเสนอข้อคิดเห็นเป็นสำคัญ
ค. เขียนอย่างมีหลักการ ใช้ภาษาที่ถูกต้องประณีตสวยงาม
ง. เขียนแสดงความคิดเห็นเป็นระบบ ใช้ภาษาที่กระชับรัดกุม
2. ข้อมูลภาคสนามมีที่มาอย่างไร *
ก. ตำราที่มีผู้เขียนขึ้น
ข. เอกสารที่มีผู้รวบรวมไว้
ค. การสังเกต สัมภาษณ์ ทดลอง
ง. จารึก จดหมายเหตุที่ไปสืบค้นมา
3. วิธีการบันทึกข้อมูลเพื่อนำมาใช้ประกอบการเขียนรายงานเชิงวิชาการนิยมใช้วิธีใด
ก. จดบันทึกตามความเป็นจริง
ข. บันทึกเสียงการสนทนา
ค. บันทึกรูปภาพทั่วไป
ง. เขียนบันทึกรายวัน
4. การเรียบเรียงข้อมูลเพื่อนำเสนอเป็นรายงานที่ถูกต้อง ให้ปฏิบัติอย่างไร *
ก. เขียนสรุปข้อมูลที่ค้นคว้ามา
ข. นำข้อมูลที่จดบันทึกไว้มาตัดต่อให้สัมพันธ์กัน
ค. เรียบเรียงข้อมูลที่ค้นคว้ามาโดยใช้สำนวนผู้เขียนเอง
ง. เขียนแสดงความคิดเห็นโดยใช้ข้อมูลที่ค้นคว้ามาเป็นส่วนประกอบ
5. ดัชนีในรายงานเชิงวิชาการ เป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร *
ก. บัญชีคำ
ข. บอกลำดับเนื้อหา
ค. รายละเอียดในการลำดับเนื้อหา
ง. แสดงจุดประสงค์ในการเขียนรายงาน
6. การกำหนดว่าจะเขียนเรื่องอะไร เขียนแนวไหน และประเด็นใด จัดอยู่ในขั้นตอนใดของการเขียนรายงานเชิงวิชาการ *
ก. วางโครงเรื่อง
ข. เลือกหัวข้อรายงาน
ค. กำหนดจุดมุ่งหมาย
ง. ค้นคว้าและรวบรวมข้อมูล
7. ข้อใดให้ความหมายของรายงานเชิงวิชาการได้ถูกต้องมากที่สุด *
ก. การเสนอความรู้พร้อมกับความบันเทิง
ข. การเสนอความรู้และข้อคิดเห็นของตนเอง
ค. งานเขียนที่เกิดจากการนำข้อมูลหลากหลายประเภทมาเรียบเรียง
ง. งานเขียนที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อรายงานผลการศึกษาในหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง
8. รายงานเชิงวิชาการส่วนใดใช้ภาษาไม่เหมาะสม | 1) พริกเป็นสมุนไพรที่คนไทยทุกคนรู้จักดี 2) นักวิจัยพบว่าพริกมีสารแคปไซซินสูงสารนี้มีฤทธิ์ในการลดความเจ็บปวด / 3) และช่วยระบบการย่อยและการไหลเวียนของโลหิตป้องกันโรคหัวใจโรคมะเร็ง / 4) ตอนหลังนักวิจัยก็พบอีกว่าสารตัวนี้มีผลในเรื่องการเผาผลาญไขมันทำให้ช่วยลดน้ำหนักตัวได้ดี *
ก. ส่วนที่ 1
ข. ส่วนที่ 2
ค. ส่วนที่ 3
ง. ส่วนที่ 4
9. ข้อใดให้คำนิยามคำว่า“ บรรณานุกรม” ได้ถูกต้อง *
ก. การอ้างอิงข้อความที่ยกมาจากหนังสือหรือตำราต่างๆ
ข. การอธิบายคำศัพท์ซึ่งไม่ได้ใช้ในชีวิตประจําวันแต่ใช้ในรายงาน
ค. ส่วนที่แสดงหลักฐานหรือแหล่งที่มาของข้อมูลที่ใช้ประกอบการทำรายงาน
ง. เอกสารเสริมเพื่อให้รายงานมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นและผู้อ่านได้รับประโยชน์
10. ข้อใดใช้ภาษาเหมาะสมกับการเขียนรายงาน *
ก. แสนดินไหวที่มณฑลเสฉวนเป็นเรื่องธรรมดาๆของธรรมชาที่ไม่มีใครคาดถึง
ข. ผลพวงที่เราพูดเอาทรัพยากรธรรมชาติใต้ดินขึ้นมาใช้ท่าไรเปลือกโลกใต้ดินมีช่องว่างขึ้นมากมาย
ค. แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นจากน้ำมือคนมี 3 อย่างคือการทดลองระเบิดปรมาณใต้ดินการกักเก็บน้ำในเขื่อนและการระเบิดเหมืองแร่
ง. ในอนาคตแผ่นดินไหวจะเกิดมากขึ้นและรุนแรงมากขึ้นเพราะแผ่นดินไหวแต่ละครั้งมีผลกระทบต่อเปลือกโลก
11. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับการเขียนอ้างอิงในรูปแบบบรรณานุกรม *
ก. ผู้เขียนจะแยกประเภทของแหล่งข้อมูลในบรรณานุกรมหรือไม่
ข. การเรียงลำดับชื่อผู้แต่งให้เริ่มจากผู้แต่งที่เป็นชาวต่างประเทศก่อน
ค. สาระสำคัญที่ต้องระบุในบรรณานุกรม ได้แก่ ชื่อผู้แต่งและปีที่พิมพ์
ง. หากรายการบรรณานุกรมยาวเกิน 1 บรรทัดให้ขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่ต้องย่อหน้า
12. พฤติกรรมของบุคคลใดสามารถอนุมานได้ว่าเนื้อหาของรายงานจะมีประสิทธิภาพ *
ตัวเลืก. วัลภาเลือกศึกษาหัวข้อที่มีแหล่งข้อมูลน้อย
ข. วัลลีเลือกศึกษาหัวข้อที่น่าสนใจและประเมินว่าเป็นประโยชน์
ค. วัชรีเลือกศึกษาหัวข้อที่ไม่ถนัดเพื่อท้าทายความสามารถ
ง. วัลลภเลือกศึกษาหัวข้อที่เคยมีผู้ศึกษาไว้แล้วอย่างละเอียดเพื่อความสะดวก
13. ข้อใดไม่จำเป็นต้องระบุในการเขียนบรรณานุกรมทั้ง 2 รายการรศ. ดร. ปฐมพงษ์ตระกูลยังยืน. (2539) รูปแบบการนับถือศาสนาในประเทศไทย. พิมพ์ครั้งที่ ค. จำนวน 2500 เล่มกรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์อักษรเจริญทัศน์ *
ก. คำนำหน้าชื่อผู้แต่ง ครั้งที่พิมพ์
ข. คำนำหน้าชื่อผู้แต่ง ปีที่พิมพ์
ค. คำนำหน้าชื่อผู้แต่ง จำนวนเล่ม
ง. ครั้งที่พิมพ์ จํานวนเล่ม
14. รายงานเรื่อง“ ลำตัดลมหายใจสุดท้ายของเพลงพื้นบ้าน” ควรเรียงลำดับโครงเรื่องตามข้อใด ก. ความเป็นมาและลักษณะทั่วไปของลำตัด ข. แนวทางการอนุรักษ์เพลงลำตัด ค. สาเหตุการผันเปลี่ยนของวัฒนธรรมเพลงพื้นบ้าน ง. บทบาทของเพลงลำตัดต่อสังคมไทย *
ก. 3-4-1-2
ข. 4-3-2-1
ค. 1-4-3-2
ง. 3-1-2-4
15. บุคคลใดปฏิบัติตนได้เหมาะสมเมื่อสร้างสรรค์งานเขียนเชิงวิชาการ *
ก. สมภพยกคำพูดของนักวิชาการมากล่าวข้างโดยไม่ระบุแหล่งที่มา
ข. เมื่อเกิดข้อผิดพลาดในเนื้อหาของรายงานสมทรงกล่าวโทษข้อมูล
ค. สมถวิลเรียบเรียงเนื้อหาของรายงานจากการวิเคราะห์ตีความข้อมูลที่ค้นคว้า
ง. สมชายค้นคว้าข้อมูลวิชาการจำนวนมากเพื่อนำมาตัดต่อเป็นเนื้อหาของรายงาน
16. ส่วนประกอบของรายงานเชิงวิชาการ ส่วนใดมีความสำคัญน้อยที่สุด *
ก. ปกใน
ข. คำนำ
ค. สารบัญ
ง. ใบรองปก
17. เชิงอรรถเขียนอยู่ในส่วนใดของรายงาน *
ก. ส่วนท้าย
ข. ส่วนหน้า
ค. ภาคผนวก
ง. ส่วนเนื้อหา
18. ข้อใดเป็นขั้นตอนแรกของการเขียนรายงานเชิงวิชาการ *
ก. วางโครงเรื่อง
ข. เลือกหัวข้อรายงาน
ค. กำหนดจุดมุ่งหมาย
ง. ค้นคว้าและรวบรวมข้อมูล
19. งานเขียนข้อใด ไม่ใช่การเขียนเชิงวิชาการ *
ก. การเขียนบันทึก
ข. รายงานการวิจัย
ค. รายงานการทดลอง
ง. สารคดีเชิงวิชาการ
มีเเบบทดสอบมาให้ทำกันสนุกจร้า
ก. เขียนเป็นระบบแบบแผน ใช้ภาษาที่เป็นทางการ
ข. เขียนตรงไปตรงมา มุ่งเสนอข้อคิดเห็นเป็นสำคัญ
ค. เขียนอย่างมีหลักการ ใช้ภาษาที่ถูกต้องประณีตสวยงาม
ง. เขียนแสดงความคิดเห็นเป็นระบบ ใช้ภาษาที่กระชับรัดกุม
2. ข้อมูลภาคสนามมีที่มาอย่างไร *
ก. ตำราที่มีผู้เขียนขึ้น
ข. เอกสารที่มีผู้รวบรวมไว้
ค. การสังเกต สัมภาษณ์ ทดลอง
ง. จารึก จดหมายเหตุที่ไปสืบค้นมา
3. วิธีการบันทึกข้อมูลเพื่อนำมาใช้ประกอบการเขียนรายงานเชิงวิชาการนิยมใช้วิธีใด
ก. จดบันทึกตามความเป็นจริง
ข. บันทึกเสียงการสนทนา
ค. บันทึกรูปภาพทั่วไป
ง. เขียนบันทึกรายวัน
4. การเรียบเรียงข้อมูลเพื่อนำเสนอเป็นรายงานที่ถูกต้อง ให้ปฏิบัติอย่างไร *
ก. เขียนสรุปข้อมูลที่ค้นคว้ามา
ข. นำข้อมูลที่จดบันทึกไว้มาตัดต่อให้สัมพันธ์กัน
ค. เรียบเรียงข้อมูลที่ค้นคว้ามาโดยใช้สำนวนผู้เขียนเอง
ง. เขียนแสดงความคิดเห็นโดยใช้ข้อมูลที่ค้นคว้ามาเป็นส่วนประกอบ
5. ดัชนีในรายงานเชิงวิชาการ เป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร *
ก. บัญชีคำ
ข. บอกลำดับเนื้อหา
ค. รายละเอียดในการลำดับเนื้อหา
ง. แสดงจุดประสงค์ในการเขียนรายงาน
6. การกำหนดว่าจะเขียนเรื่องอะไร เขียนแนวไหน และประเด็นใด จัดอยู่ในขั้นตอนใดของการเขียนรายงานเชิงวิชาการ *
ก. วางโครงเรื่อง
ข. เลือกหัวข้อรายงาน
ค. กำหนดจุดมุ่งหมาย
ง. ค้นคว้าและรวบรวมข้อมูล
7. ข้อใดให้ความหมายของรายงานเชิงวิชาการได้ถูกต้องมากที่สุด *
ก. การเสนอความรู้พร้อมกับความบันเทิง
ข. การเสนอความรู้และข้อคิดเห็นของตนเอง
ค. งานเขียนที่เกิดจากการนำข้อมูลหลากหลายประเภทมาเรียบเรียง
ง. งานเขียนที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อรายงานผลการศึกษาในหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง
8. รายงานเชิงวิชาการส่วนใดใช้ภาษาไม่เหมาะสม | 1) พริกเป็นสมุนไพรที่คนไทยทุกคนรู้จักดี 2) นักวิจัยพบว่าพริกมีสารแคปไซซินสูงสารนี้มีฤทธิ์ในการลดความเจ็บปวด / 3) และช่วยระบบการย่อยและการไหลเวียนของโลหิตป้องกันโรคหัวใจโรคมะเร็ง / 4) ตอนหลังนักวิจัยก็พบอีกว่าสารตัวนี้มีผลในเรื่องการเผาผลาญไขมันทำให้ช่วยลดน้ำหนักตัวได้ดี *
ก. ส่วนที่ 1
ข. ส่วนที่ 2
ค. ส่วนที่ 3
ง. ส่วนที่ 4
9. ข้อใดให้คำนิยามคำว่า“ บรรณานุกรม” ได้ถูกต้อง *
ก. การอ้างอิงข้อความที่ยกมาจากหนังสือหรือตำราต่างๆ
ข. การอธิบายคำศัพท์ซึ่งไม่ได้ใช้ในชีวิตประจําวันแต่ใช้ในรายงาน
ค. ส่วนที่แสดงหลักฐานหรือแหล่งที่มาของข้อมูลที่ใช้ประกอบการทำรายงาน
ง. เอกสารเสริมเพื่อให้รายงานมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นและผู้อ่านได้รับประโยชน์
10. ข้อใดใช้ภาษาเหมาะสมกับการเขียนรายงาน *
ก. แสนดินไหวที่มณฑลเสฉวนเป็นเรื่องธรรมดาๆของธรรมชาที่ไม่มีใครคาดถึง
ข. ผลพวงที่เราพูดเอาทรัพยากรธรรมชาติใต้ดินขึ้นมาใช้ท่าไรเปลือกโลกใต้ดินมีช่องว่างขึ้นมากมาย
ค. แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นจากน้ำมือคนมี 3 อย่างคือการทดลองระเบิดปรมาณใต้ดินการกักเก็บน้ำในเขื่อนและการระเบิดเหมืองแร่
ง. ในอนาคตแผ่นดินไหวจะเกิดมากขึ้นและรุนแรงมากขึ้นเพราะแผ่นดินไหวแต่ละครั้งมีผลกระทบต่อเปลือกโลก
11. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับการเขียนอ้างอิงในรูปแบบบรรณานุกรม *
ก. ผู้เขียนจะแยกประเภทของแหล่งข้อมูลในบรรณานุกรมหรือไม่
ข. การเรียงลำดับชื่อผู้แต่งให้เริ่มจากผู้แต่งที่เป็นชาวต่างประเทศก่อน
ค. สาระสำคัญที่ต้องระบุในบรรณานุกรม ได้แก่ ชื่อผู้แต่งและปีที่พิมพ์
ง. หากรายการบรรณานุกรมยาวเกิน 1 บรรทัดให้ขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่ต้องย่อหน้า
12. พฤติกรรมของบุคคลใดสามารถอนุมานได้ว่าเนื้อหาของรายงานจะมีประสิทธิภาพ *
ตัวเลืก. วัลภาเลือกศึกษาหัวข้อที่มีแหล่งข้อมูลน้อย
ข. วัลลีเลือกศึกษาหัวข้อที่น่าสนใจและประเมินว่าเป็นประโยชน์
ค. วัชรีเลือกศึกษาหัวข้อที่ไม่ถนัดเพื่อท้าทายความสามารถ
ง. วัลลภเลือกศึกษาหัวข้อที่เคยมีผู้ศึกษาไว้แล้วอย่างละเอียดเพื่อความสะดวก
13. ข้อใดไม่จำเป็นต้องระบุในการเขียนบรรณานุกรมทั้ง 2 รายการรศ. ดร. ปฐมพงษ์ตระกูลยังยืน. (2539) รูปแบบการนับถือศาสนาในประเทศไทย. พิมพ์ครั้งที่ ค. จำนวน 2500 เล่มกรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์อักษรเจริญทัศน์ *
ก. คำนำหน้าชื่อผู้แต่ง ครั้งที่พิมพ์
ข. คำนำหน้าชื่อผู้แต่ง ปีที่พิมพ์
ค. คำนำหน้าชื่อผู้แต่ง จำนวนเล่ม
ง. ครั้งที่พิมพ์ จํานวนเล่ม
14. รายงานเรื่อง“ ลำตัดลมหายใจสุดท้ายของเพลงพื้นบ้าน” ควรเรียงลำดับโครงเรื่องตามข้อใด ก. ความเป็นมาและลักษณะทั่วไปของลำตัด ข. แนวทางการอนุรักษ์เพลงลำตัด ค. สาเหตุการผันเปลี่ยนของวัฒนธรรมเพลงพื้นบ้าน ง. บทบาทของเพลงลำตัดต่อสังคมไทย *
ก. 3-4-1-2
ข. 4-3-2-1
ค. 1-4-3-2
ง. 3-1-2-4
15. บุคคลใดปฏิบัติตนได้เหมาะสมเมื่อสร้างสรรค์งานเขียนเชิงวิชาการ *
ก. สมภพยกคำพูดของนักวิชาการมากล่าวข้างโดยไม่ระบุแหล่งที่มา
ข. เมื่อเกิดข้อผิดพลาดในเนื้อหาของรายงานสมทรงกล่าวโทษข้อมูล
ค. สมถวิลเรียบเรียงเนื้อหาของรายงานจากการวิเคราะห์ตีความข้อมูลที่ค้นคว้า
ง. สมชายค้นคว้าข้อมูลวิชาการจำนวนมากเพื่อนำมาตัดต่อเป็นเนื้อหาของรายงาน
16. ส่วนประกอบของรายงานเชิงวิชาการ ส่วนใดมีความสำคัญน้อยที่สุด *
ก. ปกใน
ข. คำนำ
ค. สารบัญ
ง. ใบรองปก
17. เชิงอรรถเขียนอยู่ในส่วนใดของรายงาน *
ก. ส่วนท้าย
ข. ส่วนหน้า
ค. ภาคผนวก
ง. ส่วนเนื้อหา
18. ข้อใดเป็นขั้นตอนแรกของการเขียนรายงานเชิงวิชาการ *
ก. วางโครงเรื่อง
ข. เลือกหัวข้อรายงาน
ค. กำหนดจุดมุ่งหมาย
ง. ค้นคว้าและรวบรวมข้อมูล
19. งานเขียนข้อใด ไม่ใช่การเขียนเชิงวิชาการ *
ก. การเขียนบันทึก
ข. รายงานการวิจัย
ค. รายงานการทดลอง
ง. สารคดีเชิงวิชาการ