ฝรั่งเป็นต้นกำเนิดของศาสตร์ด้านการจำลองสถานการณ์ การตั้งสมมติฐาน และวางแผนในอนาคต
หรือหนังสือ HOW TO ต่างๆที่เราอ่าน เป็นเพียงเรื่องเพ้อฝัน ที่เขียนมาขายเอาเงิน
ยกตัวอย่าง จีนเป็นประเทศที่คุมโควิดอยู่หมัดจนเหลือยอดติดเชื้อใกล้ศูนย์
แต่กระนั้น จีนก็ได้วางแผนฉุกเฉินไว้ล่วงหน้าไว้ถึงหกเดือน ว่าจะทำอย่างไร ถ้าเหตุการณ์ต่างๆที่คาดไว้เกิดขึ้นมา
วางแผนถึงขนาดที่ว่า ได้ทดลองวัคซีนเฟสสองจำนวนหนึ่งกับทหารในกองทัพ ซึ่งมั่นใจว่า แม้ไม่ผ่านเฟสสามแต่ผลจากเฟสสอง
ทำให้เชื่อมั่นได้ว่า วัคซีนมีความปลอดภัย และสั่งผลิตไว้สำรองจำนวนมาก เพื่อรองรับภาวะวิกฤติถ้าเกิดการติดเชื้อครั้งใหญ่ในฤดูหนาวที่จะมาถึง
จีนบอกว่า ถ้าเกิดการระบาดใหญ่อีกครั้ง จีนจะนำวัคซีนที่เตรียมไว้มาใช้ในทันที อัตราการเสียชีวิตจากผลข้างเคียงที่อาจมีในวัคซีน ไม่ถึง 0.01%
แต่อัตราการตายจากโควิดใกล้ 3% ถ้าจำเป็นต้องแลกแม้ไม่ผ่านเฟสสามก็คุ้มค่า
วันนี้เห็นประเทศอังกฤษ สเปน อิตาลี่ ประกาศล็อคดาวน์ทั้งประเทศ โดยไม่มีแผนอะไรเลย อเมริกาก็เหมือนกันติดเชื้อวันละแสนเป็นเรื่องธรรมดา
ตลอดสิบเดือนที่ผ่านมา ประสบการณ์ไม่ได้สอนอะไรประเทศเหล่านี้เลยเหรอ
ไม่เข้าใจว่า ประเทศที่เป็นต้นกำเนิดของวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ ต้นกำเนิดของการค้นพบต่างๆทั้งยา รังสี คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต ฯลฯ นักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบล 95% ก็เป็นคนของประเทศเหล่านี้ แต่พอประสบกับวิกฤติจริงๆ กลับทำอะไรไม่ได้เลย
ทำไมฝรั่งไม่รู้จักจำลองสถานการณ์ และคาดหมายเรื่องโควิดที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
หรือหนังสือ HOW TO ต่างๆที่เราอ่าน เป็นเพียงเรื่องเพ้อฝัน ที่เขียนมาขายเอาเงิน
ยกตัวอย่าง จีนเป็นประเทศที่คุมโควิดอยู่หมัดจนเหลือยอดติดเชื้อใกล้ศูนย์
แต่กระนั้น จีนก็ได้วางแผนฉุกเฉินไว้ล่วงหน้าไว้ถึงหกเดือน ว่าจะทำอย่างไร ถ้าเหตุการณ์ต่างๆที่คาดไว้เกิดขึ้นมา
วางแผนถึงขนาดที่ว่า ได้ทดลองวัคซีนเฟสสองจำนวนหนึ่งกับทหารในกองทัพ ซึ่งมั่นใจว่า แม้ไม่ผ่านเฟสสามแต่ผลจากเฟสสอง
ทำให้เชื่อมั่นได้ว่า วัคซีนมีความปลอดภัย และสั่งผลิตไว้สำรองจำนวนมาก เพื่อรองรับภาวะวิกฤติถ้าเกิดการติดเชื้อครั้งใหญ่ในฤดูหนาวที่จะมาถึง
จีนบอกว่า ถ้าเกิดการระบาดใหญ่อีกครั้ง จีนจะนำวัคซีนที่เตรียมไว้มาใช้ในทันที อัตราการเสียชีวิตจากผลข้างเคียงที่อาจมีในวัคซีน ไม่ถึง 0.01%
แต่อัตราการตายจากโควิดใกล้ 3% ถ้าจำเป็นต้องแลกแม้ไม่ผ่านเฟสสามก็คุ้มค่า
วันนี้เห็นประเทศอังกฤษ สเปน อิตาลี่ ประกาศล็อคดาวน์ทั้งประเทศ โดยไม่มีแผนอะไรเลย อเมริกาก็เหมือนกันติดเชื้อวันละแสนเป็นเรื่องธรรมดา
ตลอดสิบเดือนที่ผ่านมา ประสบการณ์ไม่ได้สอนอะไรประเทศเหล่านี้เลยเหรอ
ไม่เข้าใจว่า ประเทศที่เป็นต้นกำเนิดของวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ ต้นกำเนิดของการค้นพบต่างๆทั้งยา รังสี คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต ฯลฯ นักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบล 95% ก็เป็นคนของประเทศเหล่านี้ แต่พอประสบกับวิกฤติจริงๆ กลับทำอะไรไม่ได้เลย