" สุพรรณบุรี ล่าของอร่อย " ชิลล์ๆ ทริปครึ่ง แบ็คแพ็คคนเดียว เที่ยวสบายๆ ไม่ต้องวางแผน ถามลูกเดียว

วันนี้มาเที่ยวสุพรรณบุรี แบบไม่ได้วางแผน ได้ถ่ายรูปมานิดหน่อยเลยอยากรีวิวไว้เผื่อเป็นแนวทางให้กับใครที่ มีเวลาว่าง 1 วันอยากมาเที่ยว ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมานานๆมีที่เที่ยวมีที่กินที่สำคัญไม่แพง

วิธีการของผมคือไม่วางแผนไปหาข้อมูลเอาข้างหน้าถามคนแถวนั้นแล้วก็ใช้ Google Map หาที่ตั้งหรือดูรีวิวบ้างนิดหน่อย

ผมขึ้นรถตู้จากรังสิต ตรงข้ามฟิวเจอร์ปาร์คเป็นศูนย์รถตู้ไปต่างจังหวัด ถามคนแถวนั้นว่า ไปสุพรรณบุรีขึ้นตรงไหนก็จะมีคนบอก เป็นรถตู้สาย 951 กรุงเทพฯ-อ่างทอง-วิเศษชัยชาญ-สุพรรณบุรี  ค่ารถตู้ 100 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง



ก็มาถึงสถานีขนส่ง จังหวัดสุพรรณบุรีแล้วเดินมาด้านหน้า จะเป็นป้ายรถสองแถว ผมก็ถามคนแถวนั้นว่ามีที่เที่ยวที่ไหนบ้าง เขาแนะนำให้ไปวัดป่าเลไลย์ แนะนำว่า ให้ขึ้นสองแถวสีเหลืองที่ป้ายด้านหน้าเขียนว่าวัดป่า ค่ารถ 10 บาท รอรถแป๊บนึงรถก็มาจอด ใช้เวลาวิ่งไปถึงวัดป่าประมาณครึ่งชั่วโมง ผ่านตัวเมืองสุพรรณบุรีแต่เรายังไม่แวะเดี๋ยวค่อยกลับมาแวะทีหลัง



มีป้ายให้อ่านว่าวัดป่าเลไลยก์นี้แต่เดิมเป็นวัดร้างในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้ปฏิสังขรณ์และสถาปนาขึ้นเป็นวัดใหม่ และมีการสร้างหลวงพ่อโตขึ้นพร้อมกัน ซึ่งเป็นพระประธานที่ชาวสุพรรณบุรีให้ความเคารพมากราบไหว้ขอพร ทำบุญ 20 บาท กับตู้บริจาคของวัด

เมื่อกี้ตอนที่นั่งรถสองแถวจะมาที่วัดป่าเลไลย์ถ้ามองทางด้านขวา จะเห็นพิพิธภัณฑ์มังกร มีรูปปั้นมังกรใหญ่มากเด่นเป็นสง่าก็เลยตั้งใจว่าจะไปที่นี่ต่อ เลยข้ามถนนที่สะพานลอยหน้าวัดป่าแล้วโบกรถสองแถวคันเดิมกลับไปเส้นทางเดิมที่เราผ่านมาพอถึงพิพิธภัณฑ์มังกรแล้วผมก็กดกริ่งเพื่อลง ระหว่างทางที่จะเดินเข้าไปข้างใน เห็นข้างหน้าไกลๆมีรถมอเตอร์ไซค์วิ่งออกมา มีหมาจรจัดไล่งับรถมอเตอร์ไซค์ผมเห็นแบบนั้นเลยไม่กล้าเดินเข้าไปต่อ เลยเดินกลับออกมาแล้วมาค้น Google Map

พบว่าไม่ไกลจากจุดนี้ มีวัดพระศรีรัตนมหาธาตุที่เป็นวัดสำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดสุพรรณบุรีและสามารถเดินไปได้ ห่างเพียงประมาณ 5 นาที เลยเดินมา ระหว่างทาง เห็นร้านข้าวแกงปักษ์ใต้ ที่มีลูกค้าอยู่นั่นร้านแสดงว่าร้านนี้ต้องเป็นที่นิยมของคนพื้นที่พอสมควร ตอนนี้ท้องก็ร้องพอดีก็เลยแวะสักหน่อย



ร้านนี้มีประกาศนียบัตรอยู่หลายใบ มิน่าถึงมีลูกค้าเยอะ ราคาก็ไม่แพงข้าวราดแกง 2 อย่าง 40 บาท เลยสั่งข้าวราดแกงเหลืองและผัดเปรี้ยวหวาน ให้เยอะมาก แถมมีผักเขียนให้หยิบได้ไม่อั้น

ที่ข้างๆร้านข้าวแกงปักษ์ใต้เป็นวัดร้างชื่อว่าวัดผึ้ง แต่ก็มีการบูรณะมีพระประธานที่สร้างใหม่อยู่ภายใน แต่ภายนอกทิ้งไว้ในสภาพแบบอย่างเดิม



 จากวัดผึ้ง เดินมาอีกประมาณ 50 เมตรจะเจอสามแยกเลี้ยวไปทางซ้าย ให้เดิน ไปทางนี้เดินไปอีกประมาณ 100 เมตรจะอยู่หน้าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เมืองสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ อ่านจาก ป้ายของกรมศิลปากรได้ความว่า จากบันทึก คาดการณ์ว่าวัดนี้จะสร้างในสมัยเจ้าสามพระยา และต่อมากลายเป็นวัดร้างเมื่อเสียกรุง ครั้งที่ 2 ต่อมาภายหลังจึงได้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์



ภายในวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ยังมีวิหารพระผงสุพรรณประดิษฐานพระผงสุพรรณ องค์ใหญ่



ทำบุญที่ตู้บริจาควัดพระศรีรัตนมหาธาตุในตู้ปฏิสังขรณ์วัด 20 บาท

หลังจากเที่ยวชมและทำบุญที่วัดแล้วเลยเดินชมด้านหน้าวัดพบว่า มีร้านก๋วยจั๊บดั้งเดิมของเมืองสุพรรณบุรี เลยลองเดินเข้ามา ร้านนี้ เป็นร้านที่ มีชื่อเสียงละ 1 ดูจากป้ายต่างๆในร้าน



เลยสั่งก๋วยจั๊บน้ำข้นมา 1 ชามราคา 30 บาท ให้เยอะมากๆ รสชาติดีมากๆไม่แพงเลย เครื่องก็เยอะ แต่ที่ประทับใจที่สุดคือเส้นที่เหนียวหนึบ  ถ้ามาเที่ยวชมที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุแห่งนี้ผมแนะนำร้านก๋วยจั๊บร้านนี้มากๆ ถึงความคุ้มค่าและรสชาติ ประทับใจที่สุดในทริปของวันนี้คือร้านนี้

แล้วเดินออกไปที่ถนนใหญ่ โบกรถสองแถว เพื่อกลับไปที่ตัวตลาดสุพรรณบุรี เป็นรถคันเดิมที่เราขึ้นมาจากบขส ไปยังวัดป่าเลไลย์ แต่ขากลับ รถสองแถวจะวิ่ง เป็นวงกลม ไปทางบขสอีกรอบหนึ่งก่อน แล้วจึงพกไปผ่านตลาด ตอนที่รถผ่านบขสเราไม่ต้องลง  พอรถมาถึงตัวตลาด สุพรรณบุรี ผมลง ใกล้ๆกับหอบรรหารแจ่มใส ซึ่งเห็นได้จากระยะไกล ก็เห็นว่าใกล้แล้ว เลยกดกริ่งเพื่อขอลง จ่ายค่ารถอีก 10 บาท



จากจุดที่ลงจากรถสองแถวเดินไปนิดเดียวก็ถึงหอบรรหารแจ่มใสข้างในเราจะต้องไปซื้อตั๋ว เพื่อขึ้นลิฟท์ไปชมด้านบน ตั๋วค่าเข้าชมราคาผู้ใหญ่ 30 บาทถือว่าไม่แพงเลยเพราะข้างในติดแอร์เย็นมากๆ สามารถเดินเที่ยวชมได้จนพอใจ สามารถเห็นวิวทิวทัศน์ 360 องศาของเมืองสุพรรณบุรี มีชั้นให้เข้าชมถึง 3 ชั้นชั้นสูงที่สุดก็คือชั้นที่ 4 สูง 72 เมตรประมาณตึก 25 ชั้น ชั้นที่ 3 สามารถเดินลงมาได้จากบันไดเวียน ชั้นนี้เป็นร้านของที่ระลึก การจะลงไปชั้นที่ 2 จะต้องกดลิฟท์ ชั้นที่ 2 ไม่มีอะไรเพราะเคยเป็นร้านอาหาร มีที่ให้นั่งชมวิว แต่ตอนนี้ ร้านอาหารเลิกกิจการไปแล้วเหลือแต่เก้าอี้ให้นั่งชมวิว

ลงมาจากหอคอยบรรหาร- แจ่มใสไปแล้ว เดินไปไม่ไกลทางที่จะไปตลาดทรัพย์สิน ผ่านร้านขนมหวานร้านหนึ่ง ชื่อร้านตั้งง่วนไถ่ บรรยากาศคลาสสิคแบบร้านตามต่างจังหวัดที่ไม่ได้ตกแต่งให้เป็นร้านสมัยใหม่ มีลูกค้านั่งกินอยู่เต็มร้าน ร้านนี้ขายไอศครีมทำเอง และของ แต่งหน้าต่างๆเช่นลอดช่องสิงคโปร์ มันหวาน เผือกหวาน แปะก้วย ข้าวโพด ทับทิมกรอบ สลิ่ม


เลยถามที่ร้านว่ามีเมนูอะไรแนะนำบ้างทางร้านแนะนำไอศครีมไข่แข็งก็เลยสั่งเมนูนี้ เลือกของท็อปปิ้ง 2 อย่าง คือเม็ดบัวกับแปะก้วยไอศกรีมรสชาติอร่อยมากๆจนต้องสั่งถ้วยที่ 2


ส่วนตัวชอบไอศกรีมชาเขียวไปที่ไหนถ้ามีเมนูนี้ก็จะต้องสั่งแอบเห็นว่าร้านนี้ก็มี เลยสั่งไอศครีมชาเขียว ท็อปปิ้งด้วย ลอดช่องสิงคโปร์แปะก้วย



 ค่าเสียหายที่ร้านนี้ทั้งหมด 65 บาท

 แล้วมาเดินเที่ยวตลาดต่อ ผ่านร้านบะหมี่น้ำ ชื่อว่าร้านสุพรรณโภชนา มีลูกค้าอยู่เต็มร้าน ส่วนตัวเป็นคนชอบบะหมี่ถ้าเห็นร้านไหนมีคนเยอะ แม้แต่อิ่มแล้วก็จะต้องแวะไปชิม ร้านนี้ไม่ผิดหวังเลย เส้นเหนียวนุ่มมากๆ ราคาชามละ 40 บาท



ตอนออกมาจากกรุงเทพฯแต่เช้ามาถึงที่สุพรรณบุรีสายๆ เที่ยวกินนั่นกินนี่ ตอนนี้ก็เป็นเวลาประมาณบ่ายแล้ว ถ้านั่งรถกลับตอนนี้ก็จะถึงที่บ้านตอนเย็นพอดียังไม่มืดและวันนี้ มีการถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีก ทางฟรีทีวี เลยต้องรีบกลับบ้านมาดู เลยกลับไปที่บขสสุพรรณบุรีด้วยรถสองแถว สายรอบเมืองค่ารถ 10 บาทและนั่งรถตู้กลับไปลงที่ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต 100 บาท

ทริปวันนี้ คุ้มค่า สนุกได้ทำบุญ อิ่มอร่อยมากๆตอนนี้อิ่มแปล้เลย รวมใช้เงินไป
- ค่ารถตู้ 100 บาท
- ค่ารถสองแถว 10 บาท
- ทำบุญที่วัดป่าเลไลย์ 20 บาท
- ค่ารถสองแถว 10 บาท
- ข้าวแกงปักษ์ใต้ 40 บาท
- ทำบุญที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ 20 บาท
- ค่าก๋วยจั๊บ 30 บาท
- ค่ารถสองแถว 10 บาท
- ค่าขึ้นชมหอบรรหาร- แจ่มใส 30 บาท
- ค่าไอศครีม 65 บาท
- บะหมี่ 40 บาท
- ค่ารถสองแถว 10 บาท
- ค่ารถตู้กลับ 100 บาท

รวมใช้เงินไป485บ

พาพันขอบคุณ

ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมกระทู้นี้ ขอบคุณครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่