สวัสดีค่า ช่วงนี้รีวิวโรงแรมรัวๆ จัดไปเดือนละทริป เพราะมีโครงการเราเที่ยวด้วยกัน จากคนที่แทบไม่เคยไปภูเก็ตเลย ปีนี้จัดไปทริปที่ 2 แล้วค่ะ ซึ่งเราเน้นไปพักผ่อน ใช้ Facility โรงแรม ไม่ไปเที่ยวไหน ครั้งนี้จึงลองจองโรงแรมมาริออท ในยาง ซึ่งอยู่ห่างจากสนามบินเพียง 15 นาทีเท่านั้นค่ะ แน่นอนว่าห่างจากตัวเมืองภูเก็ต ท่าเรือและสถานที่เที่ยวดังๆมากอยู่ เข้าเมืองก็ขับรถตั้ง 1 ชม. แต่ใช่ว่าจะไม่มีร้านอาหาร คาเฟ่อะไรในโซนนั้นเลย ก็พอมีอยู่บ้างค่ะ

โปรโมชั่นที่เราจองไปเป็นโปรไทยเที่ยวไทย ครั้งที่เท่าไหร่จำไม่ได้แล้ว ราคาอยู่ที่ 2,999 ต่อคืน รวมอาหารเช้าและเครดิตค่าอาหารเครื่องดื่ม 1,000 บาทต่อคืนค่ะ เท่ากับเราจ่ายเองประมาณ 1,800 บาท ซึ่งเช็คๆดูห้องพัก รวมอาหารเช้า แบบไม่รวมเครดิตของโรงแรมนี้จะอยู่ที่ประมาณ 2 พันต้นๆในตลอดช่วงปี 2563 นี้ค่ะ โปรนี้จึงคุ้มมากๆ โรงแรมนี้เราสามารถเลือกจองเรทราคาไหนก็ได้บนเว็บไซต์ของโรงแรม และใช้สิทธิ์เราเที่ยวด้วยกันลด 40% ได้ทุกเรทราคาและทุกโปร ไม่มีหมกเม็ด อย่างที่หลายๆคนเจอประสบการณ์ไม่ดี โดยการจองอย่าลืมสมัครสมาชิก Bonvoy ฟรีทางเว็บไซต์ก่อนเพื่อได้ส่วนลดทันทีเลย 10% เมื่อจองแล้วโทรติดต่อโรงแรม แจ้งว่าใช้สิทธิ์เที่ยวด้วยกัน โรงแรมก็จะคีย์เข้าระบบให้ เด้งขึ้นมาในเป๋าตังค์ค่ะ
แอบดูราคาช่วง พย. นี้ยิ่งแค้นใจ จะถูกไปไหน 1,999 รวมเครดิต 500 ต่อวัน ก่อนลดเที่ยวด้วยกัน โหย แบบนี้มันน่าจัดไปสักอาทิตย์นึง

นอกจากราคาห้องพักจะถูกหลุดโลกแล้ว ไม่กี่อาทิตย์หลังจากที่เราจอง เราเห็นโรงแรมออกโปรใหม่สำหรับลูกค้าจองวันที่ 9 เดือน 9 เท่านั้น จะสามารถรับรถรับส่งจากสนามบินในราคาเที่ยวละ 99++ เราจึงติดต่อโรงแรมไปเพื่อขอโปรนี้ (อย่างหน้าด้านๆ 555) และโรงแรมก็ใจดีมากๆยอมให้เราได้ราคานี้ด้วยละ
สรุปต้นทุนค่าทริปนี้ของเรา 4 วัน 3 คืนจึงอยู่ที่เพียง 5,600 บาทสำหรับสองคน ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบินบางกอกแอร์ 2,800 บาท (ราคาก่อนเคลมคืนค่าตั๋ว) แต่ที่ดันราคาแพงช่วงนี้กลับเป็นตั๋วเครื่องบินค่ะ ไม่รู้ว่าคนเที่ยวเยอะจัดหรือไฟล์ทน้อยเกินไป
บริเวณ Lobby กว้างขวาง แต่เคาน์เตอร์เช็คอินจะอยู่ในห้องแอร์ทางขวามือ

ที่สำคัญวิวแบบนี้

วันที่เข้าพักห้องเต็มค่ะ ไม่งั้นคงได้อัพเกรดเบาๆ ห้องที่เราจองไปเป็น Type ถูกสุดเลย Deluxe Pool View อีก Type ที่อัพขึ้นไปจะตกแต่งสไตล์ไทยๆ ไม้สีเข้มๆ ส่วนตัวไม่ชอบเลยค่ะ เราชอบโทนสีห้องแบบนี้มากกว่า

ขนาดห้องประมาณ 46 ตร.ม.กว้างใหญ่สบายตามสไตล์ห้าดาว ส่วน Layout ก็เดิมๆค่ะ เตียงอยู่ตรงข้ามทีวีใหญ่ขนาด 48 นิ้ว ห้องน้ำเป็นกระจกใสแบบนี้แต่มีม่านชัก อันนี้เชือกชักอยู่ในห้องน้ำค่ะ บางทีอยู่นอกห้องน้ำก็มี 555 เตียงคงไม่ต้องโฆษณาว่านุ่มสบายหลับเป็นตายขนาดไหน แต่เราว่าหมอนเค้าเริ่มแฟบแล้ว บางทีต้องปั้นๆก่อน

ระเบียงน่านั่งมากๆ เก้าอี้คือนุ่ม กินข้าวตรงนี้ได้เลย มองเห็นสระว่ายน้ำชิวๆ
ชอบโคมไฟตรงกระจกและโทนหินอ่อนสีขาวดูสะอาดตาค่ะ Amenity ในห้องน้ำสามารถโทรขอเพิ่มได้ รวมถึงน้ำเปล่าค่ะ อันนี้คือดีมากๆ เราชอบสบู่ก้อนของ Thann จังเลย มันใหญ่ดี ใช้ได้จริง

แต่เสียใจด้วยไม่มีสายฉีดชำระ

Shower กับอ่างอาบนน้ำอยู่รวมกัน ผลิตภัณฑ์อาบน้ำของ Marriott ทุกที่จะเป็นของ THANN กลิ่นหอมไอโซ แต่เจอบ่อยๆก็เบื่อ

สิ่งเดียวที่ขอไม่ให้ ต้องเตรียมไปเองคือ Bubble bath!!

Bathrobe มีให้ตามปกติ แต่ Slipper ช่วงนี้ไม่วางให้ค่ะ โทรขอเพิ่มได้แต่เป็นแบบคุณภาพไม่ดีแบนๆ แต่เข้าใจแหล่ะ ช่วงนี้ราคามันถูก คงต้องลด Cost บ้าง รองเท้าแตะฟองน้ำก็สามารถขอได้นะคะ เลิศฝุดๆ

ชั้นวางของเพียบ เสื้อผ้าก็จัดเข้าไป

กาแฟอร่อย ไม่ขมไม่เปรี้ยว ส่วนตัวไม่ค่อยได้กินพวกชา กาแฟที่เค้าแจกในห้องพวกนี้เลย ไม่รู้จะอยากกินตอนไหน แต่เห็นกาแฟแบบนี้เลยลองชงเล่นๆดู

แก้วน้ำ 2 ขนาด ไม่มีแก้วไวน์ให้แฮะ

กาต้มน้ำร้อนและต้มกาแฟแสนไฮโซ ใช้ไม่เป็นต้องเปิด Google 55 สรุปคือเอาแกแฟเทใส่ไปเลยและใส่น้ำร้อน แล้วค่อยเอาไอ้ก้านนั้นกดผงกาแฟก่อนเทค่ะ

ตู้เย็นอันว่างเปล่า หลายๆโรงแรมช่วงนี้ทำแบบนี้ เดาว่าเพราะแม่บ้านลดจำนวนลง การเช็คสต็อคและเติมสต็อคจะยุ่งยากไป อยากกินก็โทรสั่งได้

พามาชมส่วนกลางกันบ้างค่ะ ทางเดินไปสระว่ายน้ำ ซึ่งจะอยู่ติดหาด อีกสิ่งที่ชอบมากคือขนาดของโรงแรมนี้ ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไปค่ะ ทำให้เดินไปไหนก็ไม่เหนื่อยมากเหมือนหลายๆโรงแรม ไม่ว่าจะเดินไปหาดหรือทานอาหารเช้าหรืออาหารเย็น เป็นระยะที่พอเหมาะ แต่ก็ไม่เล็กจนคับแคบอุดอู้

มองกลับไปคือตึกที่เราพัก

โซนหน้าหาดมีเก้าอี้นั่งเล่นได้ชิวๆ

มีห้องอาหารและบาร์อยู่ 2 ฝั่ง ชื่อ Big Fish สามารถจ่ายเราเที่ยวด้วยกันได้ ถ้าไปช่วงวันหยุดควรจะจองโต๊ะนะคะ ไม่งั้นไม่ได้กิน

ส่วนตัวชอบฝั่งนี้มากกว่า จะชิวๆแนวบาร์มากกว่า อีกฝั่งเป็นร้านอาหาร Happy Hour มีทุกวันเริ่ม 4 โมงค่ะ

ใครจะเบื่อคะวิวแบบนี้ นั่งไปเลยทั้งวัน ซึ่งสิ่งที่ประทับใจมากๆคือเมื่อเรานั่งลงปุ๊บ น้ำมาเสิร์ฟปั๊บทันที แม้เราจะไม่ได้สั่งอะไร ส่วนใหญ่เราก็มานั่งทำงานตรงนี้ตั้งแต่สายๆ เที่ยงค่อยสั่งอะไรกิน และจะบอกว่าน้ำเปล่าฟรีตลอดค่ะ อันนี้หายากนะ หลายๆโรงแรมระดับนี้ นอกจากไม่ฟรีแล้วยังขายแต่น้ำแร่ขวดละสามร้อยอีกด้วย!!

ข้าวไม่ต้อง เราเน้น Cocktail ก่อนเลย 555 เมนู Signature อย่างหนึ่งของที่นี่คือ Mai Tai รสชาติกลมกล่อมไม่เหมือนที่อื่น แต่ในรูปนี้คือ Campari นะ ไปสามวันนี่ลองไปเกือบ 10 แก้วได้มั้ง สรุปที่ชอบที่สุดจะเป็น Sparkling wine ผสมเหล้า จำชื่อไม่ได้ค่ะ ทางโรงแรมมีป็อบคอร์นเติมได้ไม่อั้นเสิร์ฟคู่กันด้วย

เดินลงมาที่หาดแล้วมองกลับไป จะเห็นว่าด้านหลังโรงแรมเป็นภูเขา ธรรมชาติโอบล้อมเข้าไปอี๊ก

ถ้ายังฟินไม่พอ เอชิงช้าคู่รักสุดโรแมนติกไปอีก ช่วงเช้าโรงแรมจัดโยคะริมหาดทุกวันค่ะ จอยได้ฟรี กิจกรรมมี 3 อย่างต่อวัน สนุกทุกอัน

หาดที่นี่เป็นหาดส่วนตัวค่ะ กว้างมากกกกกกกก ยังไม่มีโรงแรมอื่น (ยกเว้นที่กำลังก่อสร้างอยู่ฝั่งนึง แต่คงสร้างอีกนาน ยังเป็นแค่โครงสร้างอยู่) เย็นๆจะมีตัวลิ้นไรอะไรสักอย่าง ถ้าลงนั่งนอนเฉยๆริมหาดเมื่อไหร่กัดคันมาก ถ้าเดินเล่นคงไม่เป็นไร

ตกเย็นวันศุกร์ เสาร์ มีก่อกองไฟปิ้งมาร์ชเมลโล่ เด็กๆนี่กรี๊ดแน่นอน กิจกรรมเด็กก็มีตลอดทั้งวันเช่นกัน เป็นข้อดีของการพักโรงแรมระดับนี้ เราไม่ต้องไปเสียเงินออกไปอะไรก็ไม่รู้ ส่วนตัวไม่อินกับการไปถ่ายรูปในคาเฟ่ หรือไปร้านอาหารดังๆ เสี่ยงเอาจะอร่อยหรือไม่อร่อย

พลบค่ำแล้วก็สวยไปอีกแบบ ตอนเย็นก็มีจัดบุฟเฟ่นานาชาติและไทยด้วยค่ะที่ห้องอาหารด้านบน ราคาก็เบาๆมาก อย่างวันเสาร์ 650++ แต่ถ้าทาน A la carte ที่ห้องนี้ก็อร่อยทุกอย่างค่ะ แนะนำ Baby squid อะไรสักอย่าง อร่อยสดกรอบสุดๆ

มาดูอาหารเช้าอันแสนโด่งดังกันบ้าง ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องความหลากหลายและคุณภาพค่ะ มีมะพร้าวให้เป็นลูกๆ หวานมากด้วย อันนี้ Station ไข่

ขนมปังเบเกอรี่คืออร่อยทุกอย่าง

ข้าวต้มหรือโจ๊กก็มี

งงสุดคือข้าวซอย

ก๋วยเตี๋ยวก็มีนะคะ อิ่มยันบ่ายค่ะ เครดิตที่เราได้มาวันละพันนี่ ถ้าเราไม่ดริ้งหนักไปหน่อยนี่พอแน่นอน 555

Signature Menu คือ ไข่คนแกงปู ไม่ได้เข้ากันตรงไหนเล้ย 555

ไม่พอยังมีไข่เจียวแกงปูสั่งได้อีก นั่งกินไปได้เรื่อยๆ กาแฟเย็นขอ Take away ได้อีก อะไรมันจะคุ้มขนาดนี้ พนักงานที่นี่บริการสุดยอดกว่าที่ไหนๆแม้ในเครือเดียวกันค่ะ ถ้าคุณเอ่ยปากอยากได้อะไร เค้าจะพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะทำให้

ช่วงที่ไป ขนาดปลายเดือนตุลาแล้วก็ยังเจอฝนค่ะ ฟ้าครึ้มตลอดๆ ภาพเลยไม่ค่อยมีสีสดๆ หาดที่นี่ลาดมาก น้ำตื้นๆ แต่ถ้าลงไปลึกจะไม่ดีเป็นหินโสโครกคมๆค่ะ

ขอลาไปด้วยภาพลูกนกเขาน่ารักๆ สรุปว่าชอบทุกอย่างในโรงแรมนี้ยกเว้นไอ้ตัวที่มากัดเราตรงชายหาด 555 ยังคันไม่หาย แต่สิ่งที่ประทับใจที่สุดคือพนักงานและการบริการค่ะ ยืนหนึ่งในดวงใจเลยตอนนี้ อยากกลับไปอีกถ้ายังคงมีโปรคุ้มๆแบบนี้ออกมาเรื่อยๆ เพราะปกติเป็นราคาที่เราก็เอื้อมไม่ถึงหรอกนะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับคนที่อาจจะกำลังหาที่พักอยู่ค่ะ
[CR] พาเที่ยวด้วยกัน Phuket Marriott Resort and Spa, Nai Yang Beach ปลายฝนต้นหนาว
โปรโมชั่นที่เราจองไปเป็นโปรไทยเที่ยวไทย ครั้งที่เท่าไหร่จำไม่ได้แล้ว ราคาอยู่ที่ 2,999 ต่อคืน รวมอาหารเช้าและเครดิตค่าอาหารเครื่องดื่ม 1,000 บาทต่อคืนค่ะ เท่ากับเราจ่ายเองประมาณ 1,800 บาท ซึ่งเช็คๆดูห้องพัก รวมอาหารเช้า แบบไม่รวมเครดิตของโรงแรมนี้จะอยู่ที่ประมาณ 2 พันต้นๆในตลอดช่วงปี 2563 นี้ค่ะ โปรนี้จึงคุ้มมากๆ โรงแรมนี้เราสามารถเลือกจองเรทราคาไหนก็ได้บนเว็บไซต์ของโรงแรม และใช้สิทธิ์เราเที่ยวด้วยกันลด 40% ได้ทุกเรทราคาและทุกโปร ไม่มีหมกเม็ด อย่างที่หลายๆคนเจอประสบการณ์ไม่ดี โดยการจองอย่าลืมสมัครสมาชิก Bonvoy ฟรีทางเว็บไซต์ก่อนเพื่อได้ส่วนลดทันทีเลย 10% เมื่อจองแล้วโทรติดต่อโรงแรม แจ้งว่าใช้สิทธิ์เที่ยวด้วยกัน โรงแรมก็จะคีย์เข้าระบบให้ เด้งขึ้นมาในเป๋าตังค์ค่ะ
แอบดูราคาช่วง พย. นี้ยิ่งแค้นใจ จะถูกไปไหน 1,999 รวมเครดิต 500 ต่อวัน ก่อนลดเที่ยวด้วยกัน โหย แบบนี้มันน่าจัดไปสักอาทิตย์นึง
นอกจากราคาห้องพักจะถูกหลุดโลกแล้ว ไม่กี่อาทิตย์หลังจากที่เราจอง เราเห็นโรงแรมออกโปรใหม่สำหรับลูกค้าจองวันที่ 9 เดือน 9 เท่านั้น จะสามารถรับรถรับส่งจากสนามบินในราคาเที่ยวละ 99++ เราจึงติดต่อโรงแรมไปเพื่อขอโปรนี้ (อย่างหน้าด้านๆ 555) และโรงแรมก็ใจดีมากๆยอมให้เราได้ราคานี้ด้วยละ
สรุปต้นทุนค่าทริปนี้ของเรา 4 วัน 3 คืนจึงอยู่ที่เพียง 5,600 บาทสำหรับสองคน ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบินบางกอกแอร์ 2,800 บาท (ราคาก่อนเคลมคืนค่าตั๋ว) แต่ที่ดันราคาแพงช่วงนี้กลับเป็นตั๋วเครื่องบินค่ะ ไม่รู้ว่าคนเที่ยวเยอะจัดหรือไฟล์ทน้อยเกินไป
บริเวณ Lobby กว้างขวาง แต่เคาน์เตอร์เช็คอินจะอยู่ในห้องแอร์ทางขวามือ
ที่สำคัญวิวแบบนี้
วันที่เข้าพักห้องเต็มค่ะ ไม่งั้นคงได้อัพเกรดเบาๆ ห้องที่เราจองไปเป็น Type ถูกสุดเลย Deluxe Pool View อีก Type ที่อัพขึ้นไปจะตกแต่งสไตล์ไทยๆ ไม้สีเข้มๆ ส่วนตัวไม่ชอบเลยค่ะ เราชอบโทนสีห้องแบบนี้มากกว่า
ขนาดห้องประมาณ 46 ตร.ม.กว้างใหญ่สบายตามสไตล์ห้าดาว ส่วน Layout ก็เดิมๆค่ะ เตียงอยู่ตรงข้ามทีวีใหญ่ขนาด 48 นิ้ว ห้องน้ำเป็นกระจกใสแบบนี้แต่มีม่านชัก อันนี้เชือกชักอยู่ในห้องน้ำค่ะ บางทีอยู่นอกห้องน้ำก็มี 555 เตียงคงไม่ต้องโฆษณาว่านุ่มสบายหลับเป็นตายขนาดไหน แต่เราว่าหมอนเค้าเริ่มแฟบแล้ว บางทีต้องปั้นๆก่อน
ระเบียงน่านั่งมากๆ เก้าอี้คือนุ่ม กินข้าวตรงนี้ได้เลย มองเห็นสระว่ายน้ำชิวๆ
ชอบโคมไฟตรงกระจกและโทนหินอ่อนสีขาวดูสะอาดตาค่ะ Amenity ในห้องน้ำสามารถโทรขอเพิ่มได้ รวมถึงน้ำเปล่าค่ะ อันนี้คือดีมากๆ เราชอบสบู่ก้อนของ Thann จังเลย มันใหญ่ดี ใช้ได้จริง
แต่เสียใจด้วยไม่มีสายฉีดชำระ
Shower กับอ่างอาบนน้ำอยู่รวมกัน ผลิตภัณฑ์อาบน้ำของ Marriott ทุกที่จะเป็นของ THANN กลิ่นหอมไอโซ แต่เจอบ่อยๆก็เบื่อ
สิ่งเดียวที่ขอไม่ให้ ต้องเตรียมไปเองคือ Bubble bath!!
Bathrobe มีให้ตามปกติ แต่ Slipper ช่วงนี้ไม่วางให้ค่ะ โทรขอเพิ่มได้แต่เป็นแบบคุณภาพไม่ดีแบนๆ แต่เข้าใจแหล่ะ ช่วงนี้ราคามันถูก คงต้องลด Cost บ้าง รองเท้าแตะฟองน้ำก็สามารถขอได้นะคะ เลิศฝุดๆ
ชั้นวางของเพียบ เสื้อผ้าก็จัดเข้าไป
กาแฟอร่อย ไม่ขมไม่เปรี้ยว ส่วนตัวไม่ค่อยได้กินพวกชา กาแฟที่เค้าแจกในห้องพวกนี้เลย ไม่รู้จะอยากกินตอนไหน แต่เห็นกาแฟแบบนี้เลยลองชงเล่นๆดู
แก้วน้ำ 2 ขนาด ไม่มีแก้วไวน์ให้แฮะ
กาต้มน้ำร้อนและต้มกาแฟแสนไฮโซ ใช้ไม่เป็นต้องเปิด Google 55 สรุปคือเอาแกแฟเทใส่ไปเลยและใส่น้ำร้อน แล้วค่อยเอาไอ้ก้านนั้นกดผงกาแฟก่อนเทค่ะ
ตู้เย็นอันว่างเปล่า หลายๆโรงแรมช่วงนี้ทำแบบนี้ เดาว่าเพราะแม่บ้านลดจำนวนลง การเช็คสต็อคและเติมสต็อคจะยุ่งยากไป อยากกินก็โทรสั่งได้
พามาชมส่วนกลางกันบ้างค่ะ ทางเดินไปสระว่ายน้ำ ซึ่งจะอยู่ติดหาด อีกสิ่งที่ชอบมากคือขนาดของโรงแรมนี้ ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไปค่ะ ทำให้เดินไปไหนก็ไม่เหนื่อยมากเหมือนหลายๆโรงแรม ไม่ว่าจะเดินไปหาดหรือทานอาหารเช้าหรืออาหารเย็น เป็นระยะที่พอเหมาะ แต่ก็ไม่เล็กจนคับแคบอุดอู้
มองกลับไปคือตึกที่เราพัก
โซนหน้าหาดมีเก้าอี้นั่งเล่นได้ชิวๆ
มีห้องอาหารและบาร์อยู่ 2 ฝั่ง ชื่อ Big Fish สามารถจ่ายเราเที่ยวด้วยกันได้ ถ้าไปช่วงวันหยุดควรจะจองโต๊ะนะคะ ไม่งั้นไม่ได้กิน
ส่วนตัวชอบฝั่งนี้มากกว่า จะชิวๆแนวบาร์มากกว่า อีกฝั่งเป็นร้านอาหาร Happy Hour มีทุกวันเริ่ม 4 โมงค่ะ
ใครจะเบื่อคะวิวแบบนี้ นั่งไปเลยทั้งวัน ซึ่งสิ่งที่ประทับใจมากๆคือเมื่อเรานั่งลงปุ๊บ น้ำมาเสิร์ฟปั๊บทันที แม้เราจะไม่ได้สั่งอะไร ส่วนใหญ่เราก็มานั่งทำงานตรงนี้ตั้งแต่สายๆ เที่ยงค่อยสั่งอะไรกิน และจะบอกว่าน้ำเปล่าฟรีตลอดค่ะ อันนี้หายากนะ หลายๆโรงแรมระดับนี้ นอกจากไม่ฟรีแล้วยังขายแต่น้ำแร่ขวดละสามร้อยอีกด้วย!!
ข้าวไม่ต้อง เราเน้น Cocktail ก่อนเลย 555 เมนู Signature อย่างหนึ่งของที่นี่คือ Mai Tai รสชาติกลมกล่อมไม่เหมือนที่อื่น แต่ในรูปนี้คือ Campari นะ ไปสามวันนี่ลองไปเกือบ 10 แก้วได้มั้ง สรุปที่ชอบที่สุดจะเป็น Sparkling wine ผสมเหล้า จำชื่อไม่ได้ค่ะ ทางโรงแรมมีป็อบคอร์นเติมได้ไม่อั้นเสิร์ฟคู่กันด้วย
เดินลงมาที่หาดแล้วมองกลับไป จะเห็นว่าด้านหลังโรงแรมเป็นภูเขา ธรรมชาติโอบล้อมเข้าไปอี๊ก
ถ้ายังฟินไม่พอ เอชิงช้าคู่รักสุดโรแมนติกไปอีก ช่วงเช้าโรงแรมจัดโยคะริมหาดทุกวันค่ะ จอยได้ฟรี กิจกรรมมี 3 อย่างต่อวัน สนุกทุกอัน
หาดที่นี่เป็นหาดส่วนตัวค่ะ กว้างมากกกกกกกก ยังไม่มีโรงแรมอื่น (ยกเว้นที่กำลังก่อสร้างอยู่ฝั่งนึง แต่คงสร้างอีกนาน ยังเป็นแค่โครงสร้างอยู่) เย็นๆจะมีตัวลิ้นไรอะไรสักอย่าง ถ้าลงนั่งนอนเฉยๆริมหาดเมื่อไหร่กัดคันมาก ถ้าเดินเล่นคงไม่เป็นไร
ตกเย็นวันศุกร์ เสาร์ มีก่อกองไฟปิ้งมาร์ชเมลโล่ เด็กๆนี่กรี๊ดแน่นอน กิจกรรมเด็กก็มีตลอดทั้งวันเช่นกัน เป็นข้อดีของการพักโรงแรมระดับนี้ เราไม่ต้องไปเสียเงินออกไปอะไรก็ไม่รู้ ส่วนตัวไม่อินกับการไปถ่ายรูปในคาเฟ่ หรือไปร้านอาหารดังๆ เสี่ยงเอาจะอร่อยหรือไม่อร่อย
พลบค่ำแล้วก็สวยไปอีกแบบ ตอนเย็นก็มีจัดบุฟเฟ่นานาชาติและไทยด้วยค่ะที่ห้องอาหารด้านบน ราคาก็เบาๆมาก อย่างวันเสาร์ 650++ แต่ถ้าทาน A la carte ที่ห้องนี้ก็อร่อยทุกอย่างค่ะ แนะนำ Baby squid อะไรสักอย่าง อร่อยสดกรอบสุดๆ
มาดูอาหารเช้าอันแสนโด่งดังกันบ้าง ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องความหลากหลายและคุณภาพค่ะ มีมะพร้าวให้เป็นลูกๆ หวานมากด้วย อันนี้ Station ไข่
ขนมปังเบเกอรี่คืออร่อยทุกอย่าง
ข้าวต้มหรือโจ๊กก็มี
งงสุดคือข้าวซอย
ก๋วยเตี๋ยวก็มีนะคะ อิ่มยันบ่ายค่ะ เครดิตที่เราได้มาวันละพันนี่ ถ้าเราไม่ดริ้งหนักไปหน่อยนี่พอแน่นอน 555
Signature Menu คือ ไข่คนแกงปู ไม่ได้เข้ากันตรงไหนเล้ย 555
ไม่พอยังมีไข่เจียวแกงปูสั่งได้อีก นั่งกินไปได้เรื่อยๆ กาแฟเย็นขอ Take away ได้อีก อะไรมันจะคุ้มขนาดนี้ พนักงานที่นี่บริการสุดยอดกว่าที่ไหนๆแม้ในเครือเดียวกันค่ะ ถ้าคุณเอ่ยปากอยากได้อะไร เค้าจะพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะทำให้
ช่วงที่ไป ขนาดปลายเดือนตุลาแล้วก็ยังเจอฝนค่ะ ฟ้าครึ้มตลอดๆ ภาพเลยไม่ค่อยมีสีสดๆ หาดที่นี่ลาดมาก น้ำตื้นๆ แต่ถ้าลงไปลึกจะไม่ดีเป็นหินโสโครกคมๆค่ะ
ขอลาไปด้วยภาพลูกนกเขาน่ารักๆ สรุปว่าชอบทุกอย่างในโรงแรมนี้ยกเว้นไอ้ตัวที่มากัดเราตรงชายหาด 555 ยังคันไม่หาย แต่สิ่งที่ประทับใจที่สุดคือพนักงานและการบริการค่ะ ยืนหนึ่งในดวงใจเลยตอนนี้ อยากกลับไปอีกถ้ายังคงมีโปรคุ้มๆแบบนี้ออกมาเรื่อยๆ เพราะปกติเป็นราคาที่เราก็เอื้อมไม่ถึงหรอกนะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับคนที่อาจจะกำลังหาที่พักอยู่ค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้