พึ่งจบความสัมพันธ์ อกหัก เลยอยากปรึกษากับครอบครัวเผื่อจะดีขึ้น แต่พอเขารู้ว่าเรา18+กันแล้ว กับโดนด่าใช้คำพูดรุนแรงมาก

อายุ 23 ปีค่ะ เรียนจบ มีงานทำ ตั้งแต่เรียนจบมาไม่เคยขอตังค์ หรือสร้างความเดือดร้อนเป็นภาระให้พ่อแม่เลย เคยมีแฟนมาก่อนหน้านี้1คน เคยอยู่ด้วยกันช่วงเรียนใกล้จบจนเราทำงานได้1ปี ก็เลิกรากับคนนั้นไป กับแฟนคนแรกอาการหนักมาก แต่ก็ปรึกษาพ่อแม่เขาก็ให้กำลังใจเรา เข้าใจเราดี มันมีกำลังใจมากในการเดินหน้าต่อ จนมามีคนใหม่ เราพึ่งจบความสัมพันธ์ กับคนล่าสุดไป คบกันมา1ปี ก็เจ็บอยู่แต่ไม่หนักเท่าคนแรก เรื่องนี้คุยกับพ่อ(พ่อเลี้ยง เลี้ยงเรามาตั้งแต่อนุบาล) ก็เล่าเขาแหละว่าเป็นไง บอกว่าอกหัก ตอนแรกก็ปลอบใจ เราก็เริ่มดีขึ้น จนมาถามเรามีไรกันยัง เราก็ไม่ชอบโกหก แล้วเราก็เคยมีแฟนมาแล้ว เรียนจบ มีงานทำ เราก็คิดว่าคงไม่อะไรมาก ก็บอกไปว่ามีแล้ว กลายเป็นเกมพลิก เขาโมโห บอกว่าจะเอาเรื่องมั้ยมันขนาดนี้ เราก็บอกอายุเกินแล้ว แล้วมันเรื่องธรรมชาติ เขาบอกแบบนี้ก็ของฟรีดิ ไปให้เขาทำไม ตอนเอากันไม่มาปรึกษาก่อน ทีงี้มาปรึกษา ส่งเรียนสูงๆแต่ทำตัวต่ำๆ เราก็บอกเขา ต่ำ อะไรคือต่ำงั้นทุกคนก็ต่ำ ทุกคนเกิดมาจากอะไร การมีเพศสัมพันธ์คือต่ำหรอ เราก็ถามเขา เขาบอกเขาเอากันเพราะรักกัน ก็เลยบอกก็รักเหมือนกัน แต่เขาตอบมาว่า รักเขาแต่เขาไม่รัก เอาเขาแต่เขาไม่เอา คำที่เจ็บจนร้องไห้คือ ไปขายตัวซะ เราก็บอกเขาว่าพูดแรงไปมั้ย ที่มาคุยด้วยเพราะไว้ใจ เพราะคิดว่าเข้าใจที่สุด สถาบันครอบครัว ควรให้กำลังใจ คนเรามีถูกมีผิดมีพลาด ต้องเรียนรู้ ต่อไปจะโกหก จะไม่กล้าเล่าอะไรแล้วนะ เขาบอกถ้าเป็นแม่จะเอาขี้เถ้ายัดปากแต่เด็ก ไม่ได้ซีเรียสเรื่องได้ไม่ได้ แต่เราอกหักไงเขาไม่รัก ที่มาคุยด้วยเพราะเสียใจไง อยากได้กำลังใจ กลายเป็นบั่นทอน เสียใจกว่าเดิม หนักกว่าเก่าอีก แถมต่อไปจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเราในเรื่องนี้อีก

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ระวังพ่อเลี้ยงไว้หน่อยก็ดีครับ กันไว้ดีกว่าแก้ อย่าพยายามอยู่กันตามลำพัง ผมว่ามันแปลกๆ
ความคิดเห็นที่ 2
ถึงจะเป็นพ่อเลี้ยงแต่เลี้ยงคุณมาตั้งแต่อนุบาล ใจเขาก็รักคุณเหมือนลูกแหละ
ไม่แปลกหรอกที่เค้าจะโมโห เพราะไม่มีพ่อแม่ที่ไหนรู้สึกยินดี
ที่ลูกตัวเองได้กับผู้ชายที่ไหนไม่รู้ง่าย ๆ แล้วถ้าสุดท้ายผู้ชายก็เลิก เค้าก็ยิ่งเจ็บใจ

คนที่ฟังแล้วเฉย ๆ บอกว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ คือคนที่ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับชีวิตคุณ
เผลอ ๆ ตัวเองก็ทำอยู่จนเป็นเรื่องธรรมดา เลยไม่ซีเรียสอะไร
เราเขียนแบบนี้ เพื่อให้คุณเข้าใจ ว่าความเซ้นซิทีฟมันขึ้นอยู่กับว่าคุณสำคัญกับคนนั้นแค่ไหน
ฉะนั้น เรื่องแบบว่าไปได้กับใครมา จึงไม่ควรเล่าให้พ่อแม่พี่น้องฟัง เค้ารับกันไม่ได้หรอก

ส่วนเรื่องที่คุณบอกว่ามีงานทำแล้ว หาเองได้ไม่ต้องพึ่งใคร แต่คุณเพิ่ง 23 เอง ถ้ากับคนแรกก็เคยอยู่ด้วยกัน
กับคนที่สองคบไม่ทันไรก็ได้กัน ในสายตาคนเป็นพ่อแม่ยังไงก็ยังหวงและห่วงวันยังค่ำ ว่ามันจะมี 3 4 5 มั้ย
และอาจจะหลุดคำพูดไม่ดีออกมาได้ เราอยากให้ตุณอภัยให้เค้า แล้วหาทางปรับความเข้าใจกัน
บอกเค้าดี ๆ ว่าคุณเจ็บปวดกับคำพูดเค้าแค่ไหน และการด่าคุณแบบนี้มันก็ไม่ได้ช่วยอะไร
แต่อย่ามองเค้าในแง่ลบ และอย่าเอาความเป็นพ่อเลี้ยงมาเป็นเงื่อนไข เพราะใครก็ตามที่เลี้ยงเรามาจนโต
คนนั้นเทียบเท่ากับพ่อแท้ ๆ ของเราเลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่