อยากหายจากโรคไม่พอใจในรูปร่าง หน้าตาตัวเอง

สวัสดีค่ะ พอดีมีเรื่องทุกข์ใจที่เป็นมาซักพักใหญ่แล้ว ลองไปศึกษาหาข้อมูลดูปรากฎว่าตัวเองเป็นโรคทางจิตเวช โรคไม่พอใจในรูปร่างหน้าตา ตัวเองอ่ะค่ะ ด้วยความที่เมื่อก่อนเป็นคนที่ไม่ค่อยดูแลตัวเองเท่าไร ปล่อยเนื้อปล่อยตัวไปวันๆไม่ค่อยสนใจเรื่องความสวยความงามเป็นแบบนี้ในช่วงม.ต้น พอเริ่มเข้าเรียน ปวช.ความรู้สึกอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองมันเริ่มมาอ่ะค่ะ เลยดูแลผิวมากขึ้น ลดน้ำหนัก พยายามทำให้ตัวเองดูดีขึ้น แต่ผลที่ได้ออกมามันไม่เป็นดั่งใจหวังเลยอ่ะค่ะ เราลองมองย้อนกลับไปดูรูปเก่าๆกับตัวเองตอนนี้ เราก็คิดว่ามันเปลี่ยนแปลงมาเยอะแล้วนะคะ แต่ยังไงๆมันก็ยังไม่เคยพอใจซักทีเลยอ่ะค่ะ อาการมันเริ่มมาหนักๆขึ้น ก็ช่วงอายุ 18 เราลดน้ำหนักจาก 64 ลงมา 56 ก็ถือว่าเยอะแล้ว คนรอบข้างทัก เปิดเทอมไปเพื่อนก็ทักเยอะว่าผอมลงมาก เสื้อที่เคยรัดก็พอดีตัวจนเกือบหลวมแล้ว แต่พอมาถามกับตัวเองว่ามันพอดีที่เราต้องการรึยัง มันยังรู้สึกไม่ใช่อ่ะค่ะ และเรื่องความขาว เราพยายามบอกตัวเองมาตลอด ว่าคนผอมและขาวไม่ได้สวยไปซะทุกคน ทุกคนเป็นมนุษย์จะต้องมีจุดบกพร่องซักอย่าง คนเราเรียบเนียนไปซะทุกอย่างมันเป็นไปไม่ได้ แต่สุดท้ายแล้วเราก็ยังกลับมาจมปลักกับค่านิยมเดิมไปว่าต้องผอม ต้องขาว เราสลัดมันไม่หลุดซักที อาการที่เป็นหนักที่สุดก็คงเป็นการตบหน้าตัวเองหน้ากระจกละด่าตัวเองว่าทำไมขี้เหร่ยังงี้ คนรอบข้างเราไม่เคยมีใครมาพูดกับเราเลยนะคะว่าเราอ้วน ดำนะ สิวเห่อไปแล้วนะ ไม่เคยมีค่ะ แต่ทุกครั้งทีเราส่องกระจก จุดโฟกัสของเรามันจะอยู่กับจุดบกพร่องของเราทุกทีเลย ทั้งทีคนอื่นก็ไม่เคยทัก ไม่ได้มาสนใจกับจุดบกพร่องนั้น ทั้งนี้ทั้งนั้นเราด่าตัวเองมาตลอด ละการส่องกระจก เราส่องแทบทุกอย่างที่มันสะท้อนเห็นตัวเองได้ และไม่เคยสบายใจเลยเวลาส่อง แต่ก็ส่องทุกครั้งที่เจอ พยายามไม่มองเวลาเดินผ่าน เรื่องทรงผมอีก ช่วงปิดเทอมประมาณ 4 เดือน ผมก็ยาวขึ้นมาก ละใกล้จะเปิดเทอมต้องไปตัดผม ช่างตัดออกเยอะมาก เราตัดรองทรงต่ำ ความรู้สึกหลังตัดเสร็จเหมือนช่างตัดทรงนักเรียนให้เลยค่ะ เราไม่พอใจมาก กลับมาบ้านถึงขั้นร้องไห้ฟูมฟายเพราะเรื่องนี้เลย พอตั้งสติได้ เราก็ได้ตัดพ้อเกี่ยวกับทรงผมลงใน Facebook ต่างนาๆ เพื่อนก็มาแสดงความเป็นห่วง แต่พอเราถ่ายลงสตอรี่ เพื่อนเห็นก็มีแต่คนบอกว่าไม่เห็นหน้าเกลียดเลย แถมน่ารักขึ้นด้วย เราไม่เข้าใจเลยอ่ะค่ะ ว่าทำไมเราถึงต้องมองแค่จุดบกพร่องตัวเองด้วย เหมือนเรามองตัวเองกับคนรอบตัวมองเรามันต่างกันมาก พวกเค้าบอกไม่เป็นไรเลย แต่เราคิดว่าแบบมันเป็นหนักมากอะไรเบอร์นั้นเลย และตอนนี้อาการหนักสุดคือถ้าไม่ใส่แมสจะไม่ออกจากบ้าน อยู่นอกบ้านไม่เคยถอดแมสเลย ไม่กล้าให้ใครเห็นหน้า ไม่มีความมั่นใจหลงเหลืออยู่แล้ว ขาดความมั่นใจแบบขีดสุด มีเหตุการณ์นึงคือหิวน้ำมากกกกก แต่นั่งอยู่บนรถโรงเรียนอยู่ ไม่กล้าที่จะเปิดแมสเพื่อกินน้ำอ่ะ ต้องรอเป็น ชม.กว่าจะถึงบ้านละค่อยกินได้ คือตอนนี้เป็นทุกข์มากพยายามหลายครั้งที่จะไม่มองตัวเองแบบนั้นอีกแล้ว มันไม่เคยทำได้เลย เราเลยอยากขอความเห็นจากทุกคน และนี่ถือเป็นการระบายด้วย เราไประบายกับใครไม่เคยมีใครเข้าใจเลย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่