พ่ออายุเกิน 60 แล้วครับ เท่าที่ทราบตอนนี้น่าจะรับจ้างขับรถส่งของอยู่ ไม่ได้มีรายได้ประจำที่มั่งคงขนาดนั้น แต่เค้ามาบอกว่าจะซื้อกระบะมาไว้ส่งของแบบจริงจัง ราคาประมาณแสนนึง แล้วใช้ชื่อผม

พ่อบอกว่าจะเป็นคนผ่อน ซึ่งผมเดาไว้ว่าพ่อน่าจะเป็นคนค้ำเอง ทีนี้ผมรู้สึกว่ามันมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง ตามที่ผมได้ไปอ่านเกี่ยวกับข้อกฎหมายมาคร่าวๆ และสรุปได้ว่า
1.ถ้าพ่อผมมีเหตุอะไรที่ทำให้ต้องขาดการชำระหนี้ ผมอาจจะต้องควักเงินตัวเองจ่ายช่วยเพื่อไม่ให้เครดิตตัวเองเสีย (ซึ่งผมไม่อยากรับความเสี่ยงตรงนี้ เพราะอาจจะทำให้แผนการเงินส่วนตัวของผมรวนไปด้วย และสร้างความยากลำบากให้ตัวเองในอนาคต)
2.ถ้าพ่อผมมีเหตุให้เสียชีวิตก่อนที่จะใช้หนี้หมด(ซึ่งเป็นคนค้ำ) หนี้จะตกอยู่กับทายาทก็คือผม(หรือพี่น้องผม) แล้วรับผิดชอบแค่มรดกที่ได้รับจากพ่อ แต่ลูกหนี้ก็ยังเป็นชื่อผมอยู่ดี

ก็เลยมีข้อสงสัยว่า
1.ถ้าพ่อผมเสียชีวิตในขณะที่มีหนี้ก้อนนี้อยู่ ผมที่เป็นทั้งทายาทและลูกหนี้ในคนเดียวกัน หลังจากเคลียส่วนต่างจากมรดกแล้ว ขั้นตอนหลังจากนี้จะเป็นยังไงต่อไปครับ (หนี้ที่โคฟเวอร์ไม่หมด  ใครเป็นคนรับผิดชอบต่อ รถจะถูกยึดกลับคืนไฟแนนซ์หรือเปล่า หรืออะไรยังไง)
2.ให้พ่อทำประกันชีวิตไว้เป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือเปล่าครับ (เอาแค่ให้โคฟเวอร์หนี้รถได้ก็พอ)

ถ้าผมเข้าใจผิดไปตรงไหน บอกได้เลยนะครับ

ปล.โดยส่วนตัวไม่อินและไม่เห็นด้วยกับคำว่า นี่พ่อแม่เรานะทำให้แกไปเถอะ หรืออะไรประมาณนี้ เพราะการที่เห็นว่าเป็นคนในครอบครัวแล้วหยวนๆกันโดยไม่จัดการความเสี่ยงให้ดี มันอาจเป็นการสร้างภาระให้คนอื่นได้ ผมยังไม่สามารถซื้อรถของตัวเองได้ด้วยซ้ำ แต่กลับต้องมาจ่ายให้คนอื่นแทนโดยที่ไม่รู้ว่ารถจะกลายเป็นของตัวเองหรือไม่ หรือจะมีเหตุที่ทำให้จ่ายไม่ไหว หรือผมจะมีชีวิตอยู่จ่ายหนี้ต่อหรือไม่ ผมอาจจะโดนรถชนวันนี้ก็ได้ คำถามคือแล้วหนี้จะตกอยู่กับใครล่ะ ก็คนที่เหลือในครอบครัวอยู่ดี ถ้าไม่บริหารความเสี่ยงให้ดีตั้งแต่แรก มันก็จะเป็นการใช้ชีวิตอย่างประมาทมากครับ

***

ขอบคุณทุกคอมเมนต์ที่เข้าใจและไม่เข้าใจนะครับ ใครไม่เคลียตรงไหน ลองอ่านในคอมเมนต์ย่อยๆดูครับ ผมอธิบายทุกอย่างหมดแล้ว