[CR] รีวิวที่พักระดับห้าดาวย่านพัทยา @Hilton Hotels Pattaya

เพื่อนๆเคยเป็นกันไหมคะ เวลาที่เราต้องมาใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพัง ไกลพ่อไกลแม่ เรามักจะรู้สึกเหงา รู้สึกเคว้งคว้าง ยิ่งถ้าต้องเจอกับปัญหามากมายด้วยแล้ว มันยิ่งทำให้เรารู้สึกเคว้งมากกว่าเดิมเพิ่มขึ้นเป็น10เท่า ไม่รู้จะหันไปพึ่งใคร การใช้ชีวิตในแต่ละวันของเราก็ค่อนข้างที่จะน่าเบื่อ เพราะกว่าจะผ่านไปได้ในแต่ละวันมันซึมมาก มันไม่แฮปปี้ ไม่อยากที่จะทำอะไรเลย เหมือนรอแค่ให้เวลาในแต่ละวันมันหมดไป หรือที่เรียกว่าหมดแพชชั่นในการทำสิ่งต่างๆนั่นเองค่ะ ซึ่งตอนนั้นเราคิดว่า เฮ้ย! เราจะเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว เราควรที่จะไปหาแพชชั่นให้ตัวเอง จึงคิดว่าการไปเที่ยวชมธรรมชาติ ได้พักผ่อน ได้พบปะผู้คน มันน่าจะช่วยให้เรามีชีวิตชีวาได้ดีที่สุด จึงเริ่มคิดแพลนที่จะไปเที่ยวคนเดียว แต่...แฟนไม่ให้ไปคนเดียวนี่สิปัญหา เขาจึงอาสาพาไป ซึ่งช่วงนั้นไม่ใช่วันหยุดยาว เราจึงเลือกสถานที่ที่ไม่ไกล โดยสถานที่ที่เราจะไปก็คือพัทยานั่นเองค่ะ

ขอออกตัวก่อนเลยนะคะว่าเราเขียนรีวิวเป็นครั้งแรก ผิดพลาดประการใดต้องขอโทษด้วยนะคะ 

และที่พักของเราก็คือที่ Hilton Hotels Pattaya นั่นเองค่ะ ซึ่งที่นี่ตั้งอยู่บนศูนย์การค้า เซ็นทรัลเฟสติวัลพัทยาบีช ห้างสรรพสินค้าติดชายหาด มีความสะดวกสบายมากๆ ทั้งในเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมถึงการเดินทางก็ยังสามารถเดินทางมาได้ง่ายมากแม้จะไม่มีรถยนต์ส่วนตัว

เมื่อเดินทางมาถึงโรงแรม ก็จะมีพนักงานมาขนกระเป๋าให้ และพาเราไปยังล็อบบี้เพื่อเช็คอิน สำหรับเวลาในการเช็คอินก็คือตั้งแต่บ่าย 2 โมงเป็นต้นไป
ซึ่งห้องที่เราจองมา จะเป็นห้อง Deluxe Room เมื่อเดินเข้าไป ถึงกับต้องร้อง ว้าว! เพราะห้องพักคือสวยมาก จัดเป็นสัดส่วนลงตัว และที่สำคัญวิวดีมาก ดีทั้งบรรยากาศและดีทั้งผู้ เนื่องจากที่พักที่นี่ค่อนข้างที่จะมีชาวต่างชาติเดินทางมาพักเป็นส่วนใหญ่ ไม่น่าจะต้องอธิบายอะไรมากมาย เพื่อนๆน่าจะนึกภาพออกกันใช่มั๊ยล่ะคะ และที่เราชอบมากที่สุดเลยก็คือ โซฟาภายในห้องนั่นเองค่ะ เพราะว่าน้องนุ่มมากและใหญ่พอที่จะให้เรานอนได้เลย ซึ่งไม่ว่าจะนั่งหรือนอนก็สบายมากๆ
ระหว่างวันเราก็จะลงไปเดินเล่นริมหาด เดินสำรวจโรงแรม ต้องบอกเลยนะคะว่าโรงแรมนี้มีมุมถ่ายรูปค่อนข้างเยอะเลยที่เดียว แต่เราไม่ค่อยได้ถ่ายรูปสักเท่าไหร่ เนื่องจากช่วงนั้นต้องการพักผ่อน เก็บบรรยากาศ และ enjoy eating มากกว่า ฮ่าๆ แล้วเราก็ได้มานั่งดื่มน้ำส้มชมวิวแบบชิลๆที่ ดริฟท์ล้อบบี้เลาจน์และบาร์ ซึ่งอยู่ที่ชั้น 16 ของโรงแรม นับว่าแป็นสถานที่ที่พลาดไม่ได้เลยสำหรับผู้ที่มาพักที่นี่ เพราะเป็นจุดที่ทำให้เราได้ชมวิวหลักล้านแบบพาโนรามา 180 องศา เลยก็ว่าได้ (ปล.สำหรับใครที่อยากจะนั่งจิบชา ชมวิวชิลๆ ก็ยังมี Set afternoon Tea ให้สั่งทานได้ด้วยนะคะ โดยจะมีเสิร์ฟในช่วงเวลา 13.00 – 18.00 น.) 
พอตกเย็นเราก็ลงมาทานบุฟเฟ่ต์ที่ห้องอาหาร Edge ที่ชั้น 14 ของโรงแรม ซึ่งห้องอาหารให้บรรยากาศดินเนอร์สุดหรูได้ดีมากๆ ตกแต่งโดยรอบด้วยกระจกใส เปิดให้เห็นวิวด้านนอก สามารถออกไปถ่ายรูปหรือทานอาหารโซน Outdoor ได้ ซึ่งช่วงที่เราไปเป็นช่วงหน้าฝน ลมค่อนข้างที่จะแรง
สำหรับบุฟเฟ่ต์อาหารเย็นนั้น เปิดให้บริการวันจันทร์ – วันพฤหัส และ วันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 18.00 – 22.30 น. ราคา 920 บาท/คน เฉพาะวันศุกร์จะมี Friday Seafood Dinner รวมบุฟเฟ่ต์อาหารทะเล ราคา 1,100 บาท/คน ซึ่งวันที่เราไปเป็นวันศุกร์พอดี ทำให้เราได้ทานบุฟเฟ่ต์แบบรวมอาหารทะเล ซึ่งไลน์บุฟเฟ่ต์ของที่นี่ค่อนข้างที่จะมีอาหารให้เลือกทานเยอะมาก ทั้งของคาวและของหวาน แต่รสชาติยังไม่ว้าวขนาดนั้น โดยส่วนตัวเราชอบของหวานมาก เพราะเขามีให้เลือกทานเยอะมากจริงๆ เราชิมเกือบทุกอย่างจนคิดว่า วันนั้นฉันต้องเป็นเบาหวานแน่ๆ ฮ่าๆ
พอดึกๆ เราก็ได้มาดื่มค็อกเทลดื่มด่ำบรรยากาศที่ Horizon Rooftop Bar & Restaurant ที่ชั้น 34 ของโรงแรม ที่ต้องขอบอกเลยนะคะว่าวิวที่ชั้น 16 ที่ว่าสวยแล้ว เมื่อได้ชมวิวที่ชั้น 34 แบบ 270 องศา ถึงกับต้องร้องว้าว! อีกครั้ง เพราะวิวอลังการ คือมันสวยมากจริงๆ บรรยากาศก็ดีมากๆเช่นเดียวกัน เป็นมุมมองที่สวยที่สุดท่ามกลางแสงสียามค่ำคืน ซึ่งที่นี่จะแบ่งเป็น 2 โซน คือ โซน Indoor และ Outdoor เปิดให้บริการตั้งแต่ 17.00 – 01.00 น. ของทุกวัน การได้มานั่งจิบค็อกเทลชิลๆ ดื่มด่ำบรรยากาศเพลินๆ นับเป็นค่ำคืนที่ดีที่สุดของเราจริงๆ
โดยรวมของตัวโรงแรมเราชอบมาก พนักงานให้การต้อนรับเป็นอย่างดี อาหารค่อนข้างโอเคเพราะมีให้เลือกทานหลากหลาย แต่ที่ประทับใจที่สุดคือเรื่องของวิวและบรรยากาศที่นับว่าคุ้มค่าจริงๆกับการเดินทางมาพักผ่อน ถ้ามีโอกาสได้มาเที่ยวในครั้งหน้า ก็คงจะเลือกพักที่นี้อีกแน่นอน

และแล้วก็หมดวันกับการเดินทางมาเที่ยว มาพักผ่อนในวันหยุดของเรา ซึ่งแม้จะเป็นเพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่มันก็ช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายไปได้มาก อย่างน้อยๆก็ช่วยให้เรามีแรงฮึดที่จะกลับไปใช้ชีวิตและรับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเองต่อไป
ขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านจนจบนะคะ แล้วพบกันใหม่กับงานรีวิวครั้งหน้า ขอบคุณค่ะ