ร้านที่เข้าร่วม คนละครึ่งนี่ ถ้ารายได้ตลอดโครงการสูงจนน่าจะเข้าข่ายต้องเสียภาษี จะเกิดอะไรขึ้นไหมครับ

คือถ้าเดิมเป็นร้านทั่วไป บุคคลธรรมดา ไม่เคยยื่น ไม่เคยโดนตรวจสอบภาษี แต่พอรายได้ที่เข้ามาจากแอพ เฉลี่ยออกมาต่อเดือน คูณเป็นปีแล้วมันสูงจนเข้าข่ายขึ้นมา

- ถ้ามองในมุมเห็นใจในภาวะ ศก แบบนี้ ก็คง เน้น การหมุนเวียนของเงินเป็นหลัก ก็น่าจะปล่อยผ่านไป รอโอกาสในวันข้างหน้า ถือว่าเน้นการกระตุ้นทางการเงินเป็นหลักก่อน
- แต่ในอีกมุม นี่ก็เป็นสิ่งที่รัฐ และ มนุษย์เงินเดือน เสียภาษีเต็ม อยากเห็นมาตลอด คือดึงกลุ่มคนเหล่านี้มาเข้าระบบภาษี ด้วย เพื่อความแข็งแรงของประเทศในระยะยาว โดยยึดตามหลัก กม ภาษี ที่บังคับใช้อยู่แล้ว อันนี้ไม่ได้ผิดอะไร 

เพียงแต่สงสัยว่า หลักฐานการโอนเงินที่เกิดขึ้น มันเป็น FACT มาก ไม่มีสิทธิปฏิเสธใดๆเลย มันอยู่ที่ภาครัฐจะทำอย่างไรกับข้อมูลเหล่านั้นเท่านั้น และเรานั่งมองข้อมูลเหล่านั้นทิ้งไปเปล่าๆ หรือ จะดำเนินการอย่างไร

ปล.ผมไม่ได้อยู่ทั้งทางฝั่งซื้อ หรือ ขาย ของโครงการนี้ครับ มองดูและตั้งคำถามขึ้นมา 
ปล2.ไม่แน่ใจว่าทำไมไม่ให้ใช้สิทธิ์กับ บริการอย่าง ร้านตัดผม ร้านนวด ที่โดนปิดไปในช่วงโควิดครับ จริงๆผมคิดว่า น่าจะชดเชยให้คนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มแรกด้วยซ้ำ ในเมื่อเค้าโดนสั่งปิดไม่มีรายได้สักทางในช่วงนั้น  หรืออาจจะเป็นเหตุผลอย่างไรจากทางภาครัฐเกี่ยวกัยงานบริการ ท่านใดทราบรบกวนแจ้งทีครับ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
แนะนำให้ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ .. เริ่มทำบัญชี รายรับ รายจ่าย

     (1) ภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT   ซึ่งต้องเสียที่ 7% ของยอดรายได้รวม เป็นอัตราตายตัว
          ดังนั้น การที่จะเสีย VAT น้อย ๆ คุณต้องพยายามใช้เครดิตภาษีให้มากที่สุด ซึ่งเครดิตก็มาจากการซื้อเครื่องใช้ไม้สอย ถ้วยชามต่าง ๆ  ซึ่งเวลาซื้อคุณต้องขอใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบจากผู้ขาย  เพื่อให้ได้ภาษีซื้อ  นอกจากนี้วัตถุดิบบางอย่างซึ่งไม่ใช่ของสด  เช่น สิ่งปรุงรสต่าง ๆ หรือแม้แต่คุณซื้อรถตู้ คือ รถที่มีคนนั่งตั้งแต่เกิน 10 คนขึ้นไป หรือรถจักรยานยนต์ก็ตาม คุณก็สามารถใช้เครดิตภาษี VAT ได้ เมื่อได้รับใบกำกับภาษีแล้วจะต้องลงบัญชีภาษีซื้อเพื่อนำมาใช้เครดิตให้เต็ม ที่

       (2) ภาษีเงินได้นิติบุคคล  เนื่องจากบริษัทห้างร้านต้องทำบัญชีและยื่นงบดุล รวมทั้งบัญชีกำไรขาดทุนเพื่อยื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และกรมสรรพากร เป็นประจำทุกปี ปีไหนมีกำไรก็เสียภาษีเงินได้ซึ่งถ้าคุณจดทะเบียนบริษัทที่ทุนไม่เกิน 5 ล้านบาท ถือเป็น SME อัตราภาษีก็เป็นดังนี้


กำไร 1 ล้านบาทแรก                                
เสียภาษี 15%
กำไรเกิน 1 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 3 ล้านบาท   
เสียภาษี 25%
กำไรส่วนที่เกิน 3 ล้านบาท
เสียภาษี 30%

นอกจากนี้ กำไร 150,000 บาทแรกของ SME ได้รับยกเว้นภาษีด้วย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่