หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] รีวิว Unagi Sanya ร้านข้าวหน้าปลาไหลสดย่างถ่านระดับพรีเมี่ยมด้วยซอสอายุ 10 ปี อยู่ในซอยสุขุมวิท 39 ~
กระทู้รีวิว
อาหารญี่ปุ่น
ปลาไหล
ร้านอาหาร
อาหาร
อาหารคาว
"ข้าวหน้าปลาไหลญี่ปุ่น" เป็นหนึ่งในเมนูยอดฮิตที่ใครเป็นแฟนอาหารญี่ปุ่นห้ามหลาด แต่ความพิถีพิถันของเมนูนี้มีให้เลือกทานหลายเกรด ตั้งแต่นำเนื้อปลาไหลย่างสำเร็จรูปละลายน้ำแข็งไปเข้าไมโครเวฟแล้ววางบนข้าวสวยญี่ปุ่นร้อนๆก็พร้อมทานได้ทันทีแบบหลายๆร้านในประเทศไทย หรือเกรดดีขึ้นมาหน่อยอาจจะเพิ่มทักษะในการย่างเพื่อให้ซอสเคลือบตัวปลาเข้มข้นและเนื้อปลาฟูนุ่มยิ่งขึ้น แต่เกรดสูงสุดของเมนูนี้ก็คือการย่างสดจากเนื้อสีขาวและเคลือบกับซอสที่ใช้เวลาต้มใหม่ใส่หัวเชื้อเก่าลงไปเรื่อยๆยิ่งใช้เวลานานมากๆยิ่งได้ความอร่อยสุดๆ บวกกับการใช้เตาถ่านที่คุณภาพสูงและฝีมือของเชฟก็มีส่วนทำให้ข้าวหน้าปลาไหลอร่อยขึ้นอย่างที่ของสำเร็จรูปทำไม่ได้ เกริ่นมานานมากๆเพราะวันนี้เราจะมาทานข้าวหน้าปลาไหลญี่ปุ่นย่างเกรดแล่สดที่ในประเทศไทยมีขายเพียงแค่ไม่กี่ร้าน โดยวันนี้ร้านที่เราเลือกก็คือ "Unagi Sanya" เหตุผลอันดับแรกที่เลือกร้านนี้คือราคาและความอยากลองให้รู้เพราะที่นี่เขาชอบมีโปรโมชั่นลดราคาบ่อยๆ และเชฟสัญญาแห่งร้าน"ซันญ่า"ก็เป็นคนเอ่ยปากชวนให้ผมมาลองทานดูครับ และแน่นอนว่าก่อนมาเราได้ส่องราคาของแต่ละเมนูในร้านมาเรียบร้อยแล้ว(เตรียมวงเงินในบัตรมาเยอะพอตัว)พร้อมพาสมาชิกในครอบครัวมาเปิดประสบการณ์ใหม่กับปลาไหลย่างสดๆครั้งแรกในชีวิตแล้วครับ วิธีการเดินทางก็มาง่ายๆร้านอยู่ภายในซอยสุขุมวิท 39 ถ้ามาด้วย BTS ก็ลงที่สถานีพร้อมพงษ์ทางออก 3 เดินเข้าซอยมาเล็กน้อยมองเห็นป้ายปลาไหลสีน้ำเงินได้อย่างชัดเจน ก่อนเข้าไปในร้านแวะมาดูเล่มเมนูหน้าร้านกันก่อนครับผู้อ่านท่านอื่นๆจะได้เตรียมการมา
เมนูที่ร้านนี้จานหลักแน่นอนว่าต้องเป็นข้าวหน้าปลาไหลแต่เปิดหน้าแรกมาเจอซาชิมิก่อนคืองงมาก ซาชิมิเริ่มที่ 450-1,450 บาท เทมปุระทอดกรอบราคาเริ่มที่ 180-280 บาท กับแกล้มสไตล์ญี่ปุ่นสำหรับนักนั่งดื่มเริ่มที่ 90-300 บาท ข้าวหน้าปลาไหลญี่ปุ่นย่างของที่ร้านนี้มีให้ทาน 2 แบบคือไซส์เล็กกับไซส์ใหญ่ราคาเริ่มต้นที่ 1,630 บาท แพงสุดราคา 2,130 บาท (ไซส์ S ปลาไหลขนาด 150 กรัม ไซส์ L ปลาไหลขนาด 230 กรัม) ถ้ารู้สึกว่าได้ทานเนื้อปลาไหลย่างไม่ค่อยสะใจ สามารถสั่งเป็นข้าวหน้าปลาไหลย่างพิเศษ 2 ชั้นให้ปริมาณ 1 ตัวครึ่ง (ใส่เนื้อปลาไหลย่างแทรกอยู่ในข้าวสวยญี่ปุ่นอีก 1 ชั้นก็รวมเป็น 2 ชั้น) ราคาเริ่มต้นที่ 2,340 บาท นอกจากนี้ยังมีเมนูที่ทำจากปลาไหลสด/ย่างหรือชิ้นส่วนอื่นๆของปลาไหลราคาเริ่มต้นที่ 200-1,800 บาท หน้าต่อมาเป็นอาหารชุดที่มีข้าวหน้าปลาไหลเป็นจานหลักราคาเริ่มต้นที่ชุดละ 1,380 บาท ใครไม่ทานปลาไหลก็มีชุดข้าวหน้าเทมปุระ 680 บาท สลัด-ซุป-ข้าวสวย-อุด้งราคาเริ่มต้มที่ 60-280 บาท ราคาโดยรวมของเมนูอื่นที่ไม่ใช่ข้าวหน้าปลาไหลถือว่าปกติส่วนเมนูหลักนั้นราคาถือว่าเอาเรื่องแต่ถ้าเทียบกับร้านอื่นในระดับเดียวกันถือว่าถูกกว่าเล็กน้อย ถ้าคิดว่าเป็นการซื้อประสบการณ์ก็ถือว่าราคานี้ผมรับได้ครับ ราคาที่เห็นในเล่มเมนูนี้ยังไม่รวม Vat. 7% และ Service Charge 10% แต่อย่าเพิ่งถอดใจว่าราคาแพงเพราะเขาชอบจัดโปรโมชั่นประกาศใน Facebook ของร้านบ่อยๆ ตอนนี้หิวแล้วเข้าไปด้านในกันครับ
บรรยากาศภายในร้านดูเรียบหรูสไตล์ญี่ปุ่นตามราคาของวัตถุดิบที่ขายในร้าน โดยชั้นแรกเป็นครัวที่สามารถมาดูได้ตลอดทุกขั้นตอนในการปรุงของที่ร้าน ที่นั่งถ้ามาคนเดียวก็มีหน้าบาร์หากมาเป็นครอบครัวมีโต๊ะรองรับได้ตั้งแต่ 4-10 คน ชั้น 2 มีห้องส่วนตัวสไตล์ญี่ปุ่นนั่งได้ห้องละ 6 คนสามารถดึงฉากกลางออกรวมกันเป็นห้องเดียวได้ โทนสีที่ร้านใช้เป็นสีครีมนวลตาตัดด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้รองด้วยเบาะนุ่มสีเข้ม ไฟก็ใช้สีเหลืองนวลตาผสมกับแสงที่ลอดมาจากหน้าต่างด้านซ้ายมือของร้าน (เพราะร้านอยู่ตรงหัวมุมก่อนออกซอย 39 พอดี) โดยรวมแล้วสะอาดปลอดโปร่งโล่งสบายดี เหมาะกับการพาคู่รักหรือญาติผู้ใหญ่ในครอบครัวมาทานข้าวด้วยกันในมื้อพิเศษแบบนี้มากเลยครับผม
นอกจากเล่มเมนูนอกร้านร้านภายในยังมีเพิ่มเติมอีกหลายรายการเช่นชุดโปรโมชั่นใช้ปลาไหลสดที่เลี้ยงประเทศไต้หวัน (สายพันธุ์เดียวกับญี่ปุ่นแต่ตัวเล็กเนื้อน้อยกว่า) มาผ่านกระบวนการย่างเสิร์ฟกับข้าวพร้อมกับแกล้ม-เบียร์เย็นๆ หรือถ้ามาทานที่ร้านนี้ทุกวันพุธชุด Unaju Premium Set ลด 20% ทั้งวัน ซูชิหน้าต่างๆเสิร์ฟเป็นคู่ราคาเริ่มต้นที่ 150 บาท นอกจากนี้ยังมีชุดอาหารกลางวันราคาถูก/เมนูพิเศษสำหรับคนไม่ทานปลาไหลและเครื่องดื่มเย็นอีกหลากหลายเมนู โดยรวมแล้วคนไม่ทานปลาไหลก็มาร้านนี้ได้เพราะมีเมนูให้เลือกเยอะทานกันได้ทั้งครอบครัวเลยจ้า
กลับมานั่งที่โต๊ะจาน-ตะเกียบถูกวางเอาไว้เตรียมพร้อม เครื่องปรุงบนโต๊ะก็มีพริกป่น 7 สีกับโชยุเอาไว้ทานกับซูชิ-ซาชิมิ ส่วนซอสราดปลาไหลถ้าหากชอบทานแบบฉ่ำๆก็สามารถบอกเชฟให้ราดมาจากในครัวได้เลย เครื่องดื่มที่ร้านนี้เขามีให้ดื่มฟรีเป็นชาเกนมัยฉะที่หอมละมุนข้าวคั่วอ่อนๆไม่ตีขึ้นจมูกบาดคอแบบหลายๆร้านที่เคยทาน ขอยกให้ชาร้านนี้อร่อยอันดับ 1 ในดวงใจ หากใครอยากดื่มชาเขียวก็มีแต่ต้องจ่ายเงินค่ารีฟีลเพิ่มอีก 60 บาท แนะนำว่าของฟรีดีกว่าเยอะมาพร้อมกับผ้าเย็นหอมๆเช็ดหน้าเช็ดมือให้สดชื่น สั่งอาหารให้เรียบร้อยแล้วเข้าไปส่องในครัวกันครับ
ถือว่าสดจริงไม่จกตาเพราะเชฟเขาเพิ่งแล่เสร็จเมื้อกี้แยกออกมาเป็นส่วนๆทั้งเนื้อท่อนใหญ่ขาวอวบ/ก้างที่กลางลำตัวและหัวติดกับตับและลำไส้ซึ่งวันนี้เราสั่งมาลองทุกส่วนเลย ก่อนอื่นเชฟเขาจะนำไปนึ่งก่อนย่างสไตล์คันโตเพื่อให้เนื้อปลานุ่มฟูพร้อมกับไล่ไขมันออกก่อนในขั้นตอนนี้และนำไปหั่น-เสียบไม้พร้อมลงย่างในเตาถ่านกันแล้วครับผม
วิธีการย่างปลาไหลของร้านนี้เขาจะนำปลาไหลนึ่งสุกเสียบไม้ลงย่างฝั่งหนังให้สุกกรอบก่อนจะตามด้วยฝั่งเนื้อให้น้ำมันส่วนเกินไหลออกจนเป็นโพรงด้านใน เสร็จแล้วนำไปจุ่มในซอสอายุ 10 ปีที่ทางร้านเคี่ยวใหม่แล้วเพิ่มหัวเชื้อเก่าลงไปเรื่อยๆจนชุ่มดีแล้วย่างต่อให้ซอสเคลือบตัวปลาด้านนอกหอมกลิ่นรมควันอ่อนๆ ก่อนจะชุบแล้วย่างอีกทีจนได้สีสันสวยงาม ตักข้าวสวยร้อนๆราดด้วยซอสย่างจนทั่วข้าวก่อนวางปลาไหลที่ย่างเสร็จแล้วลงไปและทาด้วยซอสอีกชั้น โดยทุกขั้นตอนมีการแบ่งหน้าที่อย่างชัดเจนคนย่างมีหน้าที่ดูและพัดมือไปเรื่อยๆไม่ให้คลาดสายตา อีกคนปรุงเมนูที่ได้จากปลาไหลก่อนเสิร์ฟลูกค้า ถ้าจำไม่ผิดร้านนี้เคยชื่อ Nakamura มาก่อนถึงแม้จะเปลี่ยนชื่อเป็น Sanya แล้วก็ยังคงใช้พ่อครัวกับซอสชุดเดิมจากร้านเก่ามั่นใจในความอร่อยได้เลยครับผม เสร็จแล้วไปทานที่โต๊ะกันเลยจ้า~
เมนูจานแรกคือ "Unaju (Matsu)"หรือข้าวหน้าปลาไหลย่างไซส์ใหญ่ราคา 2,030 บาท เสิร์ฟมาพร้อมผักดองและซุปใสสาหร่าย+ยูสุ+ตับปลาไหล ใส่ปลาไหลย่างมาให้ 1 ตัวเต็มแน่นกล่องจนต้องเกยกันเป็นชั้นๆ เริ่มชิมกันจากเนื้อปลาก่อนถ้าใครเคยทานปลาดุกย่างมาก่อนต้องบอกว่าสัมผัสเนื้อแน่นคล้ายๆกันแต่ปลาไหลมีกลิ่นไขมันเฉพาะที่ไม่เหมือนกันย่างมาหนังกรอบเคลือบซอสรสเค็มนำ-หวานอ่อนๆพอกลมกล่อมแต่สิ่งที่ทำให้มันพิเศษกว่าแบบสำเร็จพร้อมทานคือ "ความนุ่มฟูและฝีมือการย่างของเชฟ" ที่ทำให้ไขมันส่วนเกินออกกลายเป็นช่องว่างให้ซอสไหลเข้าไปที่เนื้อแทนอีกทั้งการที่ผ่านมาหลายปีในน้ำซอสจึงมีกลิ่นรมควันและไขมันของปลาไหลเข้มข้นกว่าในเนื้อปลาสด ทานคู่กับข้าวสวยญี่ปุ่นเมล็ดนุ่มราดซอสย่างแบบฉ่ำๆยิ่งอร่อยสมกับราคาที่จ่ายไปมากๆครับ เพราะจานนี้เราสามารถแบ่งทานกันได้ 2 คน (ด้วยขนาดกระเพาะของคนไทย) คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ทานเยอะก็สั่งชุดนี้ทานคนเดียวครับ จานต่อไปเป็นวัตถุดิบหายากที่ร้านอื่นไม่ค่อยมีเสิร์ฟคือ "Unagi Kimo Yaki" หรือตับปลาไหลย่างถ่านราคา 380 บาท เป็นตับ+ไส้อ่อนของปลาไหลย่างถ่านแล้วเคลือบด้วยซอสอายุ 10 ปี รสชาติมันละเอียดคล้ายตับห่านชิ้นเล็กๆแต่มีกลิ่นหอมไขมันปลาไหลติดกับส่วนไส้อ่อนเคี้ยวกรุบๆทานพร้อมกันได้ 2 สัมผัสไม่เหมือนใคร ถ้าอยากทานเมนูนี้ก็แนะนำให้โทรมาจองก่อนนะครับ เพราะปลาไหล 1 ตัวมีแค่ 1 ชิ้นจานนี้เสิร์ฟประมาณ 10 ตัวต้องจับจองกันหน่อยครับผม
****** เกิน 10,000 ตัวอักษร ขอรีวิวต่อในช่อง Comment นะครับ *****
ชื่อสินค้า:
Unagi Sanya ซอยสุขุมวิท 39
คะแนน:
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
- จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
- ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
SOLSOT 솔솥 ข้าวอบหม้อดินเกาหลี
SOLSOT 솔솥 ข้าวอบหม้อดินเกาหลี มาเปิดสาขาแรกที่ Central Worldเรียกได้ว่าคิว Hot มากๆค่ะใครอยากลองร้านสุดฮิตของเกาหลีก็มาได้เลยสารภาพว่าจริงๆไม่ชอบข้าวที่มันคลุกๆเปียกๆหรือข้าวต้มที่มันถูกปรุงรสข้
Beary-T
[CR] BufFeast Review : ภัตตาคารจีนที่มีบุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่น "เล่งหงษ์ ริวโฮ"@พระราม 2 ซอย 45
หยุดยาวล่าสุดนั่งเล่นคอมอยู่ดีๆ ก็มีโฆษณาขึ้นฟีดมาตกเฉย เป็นของร้าน "เล่งหงษ์ ริวโฮ" ร้านอาหารจีนที่เปิดบุฟเฟ่ต์แบบญี่ปุ่นด้วยแถว พระราม 2 ด้วยความที่อยู่ใกล้บ้านแฟน จึงบึ่งไปรับนางแล้วพาไปก
TheHeatBufFeast
บอสพาชิม : Lambassador ยอดยุทธ์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเนื้อแกะจากออสเตรเลีย
บอสพาชิม : Lambassador: ยอดยุทธ์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเนื้อแกะจากออสเตรเลีย ออสเตรเลียได้รับการยกย่องในฐานะผู้นำด้านผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นของเจ้าขอ
EatLikeTheBOSS
ร้านม่านเมือง สัมผัสรสชาติเหนือแท้ ๆ ที่คู่ควรกับคำว่า มิชลิน
ร้านม่านเมือง สัมผัสรสชาติเหนือแท้ ๆ ที่คู่ควรกับคำว่า มิชลิน . ถ้าคุณกำลังมองหาร้านอาหารเหนือต้นตำรับในกรุงเทพฯ ที่รสชาติเป็นเอกลักษณ์และหาทานยาก ร้าน ม่านเมือง คือคำตอบที่คุณต้องมาลองให้ได้ ร้านของเ
ร้อยแปดพันก้าว
กินข้าวเช้ากัน : ทำง่ายปรุงน้อยอร่อยจบ 😊
ได้เนื้อปลาส้มส่วนหางแล่แล้วติดหนังลดราคาเหลือร้อยแปดบาท มีกะหล่ำ มีแครอท มีต้นหอมสูงอายุ ไข่ดาวแบบทอดน้ำ ทำง่ายเกิน ย่างปลา ใส่ซอส สุกละเก็บเนื้อขึ้น กะทะเหลือซอสติดๆก็เอาผักผัดลงไป ใส่พริกไทย คั่ว
แก้วหนึ่งใบกับเบียร์สองขวด
บาร์บีคิวเตาถ่าน วันหยุดสุดสัปดาห์บ้านเรา
เมื่อวันหยุดยาว 3 วันที่ผ่านมา หากิจกรรมให้เด็กๆ มาร่วมด้วยช่วยทำและกิน ก็ทำแบบสะดวก โดยการซื้อซอสบาร์บีคิวสำเร็จรูปที่มีขายมากมายหลายยี่ห้อ เลือกตามความพอใจ ส่วนเนื้อสัตว์ ซื้อมาทั้ง เนื้อ หมู และ ไก
Babycham
ต้นตำรับข้าวหน้าปลาไหลร้านดังที่มีหลายสาขาทั่วญี่ปุ่น ปลาไหลสด ส่งตรงจากชิซึโอกะ
ต้นตำรับข้าวหน้าปลาไหลร้านดังที่มีหลายสาขาทั่วญี่ปุ่น UNAGI TOKU ปลาไหลสด ส่งตรงจากชิซึโอกะ พร้อมเสิร์ฟแบบร้อนๆ เคลือบซอสฉ่ำๆ เนื้อปลานุ่มละลายแบบที่ไม่เคยได้สัมผัส&
มิกิชวนกิน
ร้านอาหารอิตาเลียนเจ้าดัง ที่มีหลายสาขา ทั้งคนไทยและต่างชาติแวะมาทานเยอะมาก
Mozza by Cocotte ร้านอาหารอิตาเลียนเจ้าดัง ที่มีหลายสาขา ทั้งคนไทยและต่างชาติแวะมาทานเยอะมาก เราเลยแวะมาลองที่ไอคอนสยาม จัดเต็มหลายเมนู บรรยากาศก็ดี มี 2 ชั้น มองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย อยากนั่งโซน
มิกิชวนกิน
Taipei Kitchen ไทเป คิทเช่น สัมผัสรสชาติไต้หวันแท้ๆ กลางกรุงเทพฯ
ใครกำลังมองหาร้านอาหารไต้หวันต้นตำรับแท้ๆ ที่ใส่ใจทุกขั้นตอนการปรุง แนะนำ "Taipei Kitchen ไทเป คิทเช่น" ย่านลาดพร้าว ที่เพิ่งค้นพบไม่นานนี้ ร้านนี้ตั้งอยู่บนถนนสุคนธสวัสดิ์ หาไม่ยาก หากมาจาก
ร้อยแปดพันก้าว
🇹🇭 ไทยแลนด์มีร้านใหม่อีกแว้วว Solsot (โซลสท) ร้านข้าวอบที่ใครไปเกาหลีมาช่วงนี้ต้องรู้จัก เป็นหนึ่งในร้านที่ต้องไปกัน
🇹🇭 ไทยแลนด์มีร้านใหม่อีกแว้วว ‘Solsot (โซลสท)’ ร้านข้าวอบที่ใครไปเกาหลีมาช่วงนี้ต้องรู้จัก เป็นหนึ่งในร้านที่ต้องไป checkin กัน ✅ Gimmick อยู่ที่การกินหลายๆแบบ ได้มาปุ๊บจะเปิดกินเลย หรือจ
สมาชิกหมายเลข 1879481
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
อาหารญี่ปุ่น
ปลาไหล
ร้านอาหาร
อาหาร
อาหารคาว
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] รีวิว Unagi Sanya ร้านข้าวหน้าปลาไหลสดย่างถ่านระดับพรีเมี่ยมด้วยซอสอายุ 10 ปี อยู่ในซอยสุขุมวิท 39 ~
เมนูที่ร้านนี้จานหลักแน่นอนว่าต้องเป็นข้าวหน้าปลาไหลแต่เปิดหน้าแรกมาเจอซาชิมิก่อนคืองงมาก ซาชิมิเริ่มที่ 450-1,450 บาท เทมปุระทอดกรอบราคาเริ่มที่ 180-280 บาท กับแกล้มสไตล์ญี่ปุ่นสำหรับนักนั่งดื่มเริ่มที่ 90-300 บาท ข้าวหน้าปลาไหลญี่ปุ่นย่างของที่ร้านนี้มีให้ทาน 2 แบบคือไซส์เล็กกับไซส์ใหญ่ราคาเริ่มต้นที่ 1,630 บาท แพงสุดราคา 2,130 บาท (ไซส์ S ปลาไหลขนาด 150 กรัม ไซส์ L ปลาไหลขนาด 230 กรัม) ถ้ารู้สึกว่าได้ทานเนื้อปลาไหลย่างไม่ค่อยสะใจ สามารถสั่งเป็นข้าวหน้าปลาไหลย่างพิเศษ 2 ชั้นให้ปริมาณ 1 ตัวครึ่ง (ใส่เนื้อปลาไหลย่างแทรกอยู่ในข้าวสวยญี่ปุ่นอีก 1 ชั้นก็รวมเป็น 2 ชั้น) ราคาเริ่มต้นที่ 2,340 บาท นอกจากนี้ยังมีเมนูที่ทำจากปลาไหลสด/ย่างหรือชิ้นส่วนอื่นๆของปลาไหลราคาเริ่มต้นที่ 200-1,800 บาท หน้าต่อมาเป็นอาหารชุดที่มีข้าวหน้าปลาไหลเป็นจานหลักราคาเริ่มต้นที่ชุดละ 1,380 บาท ใครไม่ทานปลาไหลก็มีชุดข้าวหน้าเทมปุระ 680 บาท สลัด-ซุป-ข้าวสวย-อุด้งราคาเริ่มต้มที่ 60-280 บาท ราคาโดยรวมของเมนูอื่นที่ไม่ใช่ข้าวหน้าปลาไหลถือว่าปกติส่วนเมนูหลักนั้นราคาถือว่าเอาเรื่องแต่ถ้าเทียบกับร้านอื่นในระดับเดียวกันถือว่าถูกกว่าเล็กน้อย ถ้าคิดว่าเป็นการซื้อประสบการณ์ก็ถือว่าราคานี้ผมรับได้ครับ ราคาที่เห็นในเล่มเมนูนี้ยังไม่รวม Vat. 7% และ Service Charge 10% แต่อย่าเพิ่งถอดใจว่าราคาแพงเพราะเขาชอบจัดโปรโมชั่นประกาศใน Facebook ของร้านบ่อยๆ ตอนนี้หิวแล้วเข้าไปด้านในกันครับ
บรรยากาศภายในร้านดูเรียบหรูสไตล์ญี่ปุ่นตามราคาของวัตถุดิบที่ขายในร้าน โดยชั้นแรกเป็นครัวที่สามารถมาดูได้ตลอดทุกขั้นตอนในการปรุงของที่ร้าน ที่นั่งถ้ามาคนเดียวก็มีหน้าบาร์หากมาเป็นครอบครัวมีโต๊ะรองรับได้ตั้งแต่ 4-10 คน ชั้น 2 มีห้องส่วนตัวสไตล์ญี่ปุ่นนั่งได้ห้องละ 6 คนสามารถดึงฉากกลางออกรวมกันเป็นห้องเดียวได้ โทนสีที่ร้านใช้เป็นสีครีมนวลตาตัดด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้รองด้วยเบาะนุ่มสีเข้ม ไฟก็ใช้สีเหลืองนวลตาผสมกับแสงที่ลอดมาจากหน้าต่างด้านซ้ายมือของร้าน (เพราะร้านอยู่ตรงหัวมุมก่อนออกซอย 39 พอดี) โดยรวมแล้วสะอาดปลอดโปร่งโล่งสบายดี เหมาะกับการพาคู่รักหรือญาติผู้ใหญ่ในครอบครัวมาทานข้าวด้วยกันในมื้อพิเศษแบบนี้มากเลยครับผม
นอกจากเล่มเมนูนอกร้านร้านภายในยังมีเพิ่มเติมอีกหลายรายการเช่นชุดโปรโมชั่นใช้ปลาไหลสดที่เลี้ยงประเทศไต้หวัน (สายพันธุ์เดียวกับญี่ปุ่นแต่ตัวเล็กเนื้อน้อยกว่า) มาผ่านกระบวนการย่างเสิร์ฟกับข้าวพร้อมกับแกล้ม-เบียร์เย็นๆ หรือถ้ามาทานที่ร้านนี้ทุกวันพุธชุด Unaju Premium Set ลด 20% ทั้งวัน ซูชิหน้าต่างๆเสิร์ฟเป็นคู่ราคาเริ่มต้นที่ 150 บาท นอกจากนี้ยังมีชุดอาหารกลางวันราคาถูก/เมนูพิเศษสำหรับคนไม่ทานปลาไหลและเครื่องดื่มเย็นอีกหลากหลายเมนู โดยรวมแล้วคนไม่ทานปลาไหลก็มาร้านนี้ได้เพราะมีเมนูให้เลือกเยอะทานกันได้ทั้งครอบครัวเลยจ้า
กลับมานั่งที่โต๊ะจาน-ตะเกียบถูกวางเอาไว้เตรียมพร้อม เครื่องปรุงบนโต๊ะก็มีพริกป่น 7 สีกับโชยุเอาไว้ทานกับซูชิ-ซาชิมิ ส่วนซอสราดปลาไหลถ้าหากชอบทานแบบฉ่ำๆก็สามารถบอกเชฟให้ราดมาจากในครัวได้เลย เครื่องดื่มที่ร้านนี้เขามีให้ดื่มฟรีเป็นชาเกนมัยฉะที่หอมละมุนข้าวคั่วอ่อนๆไม่ตีขึ้นจมูกบาดคอแบบหลายๆร้านที่เคยทาน ขอยกให้ชาร้านนี้อร่อยอันดับ 1 ในดวงใจ หากใครอยากดื่มชาเขียวก็มีแต่ต้องจ่ายเงินค่ารีฟีลเพิ่มอีก 60 บาท แนะนำว่าของฟรีดีกว่าเยอะมาพร้อมกับผ้าเย็นหอมๆเช็ดหน้าเช็ดมือให้สดชื่น สั่งอาหารให้เรียบร้อยแล้วเข้าไปส่องในครัวกันครับ
ถือว่าสดจริงไม่จกตาเพราะเชฟเขาเพิ่งแล่เสร็จเมื้อกี้แยกออกมาเป็นส่วนๆทั้งเนื้อท่อนใหญ่ขาวอวบ/ก้างที่กลางลำตัวและหัวติดกับตับและลำไส้ซึ่งวันนี้เราสั่งมาลองทุกส่วนเลย ก่อนอื่นเชฟเขาจะนำไปนึ่งก่อนย่างสไตล์คันโตเพื่อให้เนื้อปลานุ่มฟูพร้อมกับไล่ไขมันออกก่อนในขั้นตอนนี้และนำไปหั่น-เสียบไม้พร้อมลงย่างในเตาถ่านกันแล้วครับผม
วิธีการย่างปลาไหลของร้านนี้เขาจะนำปลาไหลนึ่งสุกเสียบไม้ลงย่างฝั่งหนังให้สุกกรอบก่อนจะตามด้วยฝั่งเนื้อให้น้ำมันส่วนเกินไหลออกจนเป็นโพรงด้านใน เสร็จแล้วนำไปจุ่มในซอสอายุ 10 ปีที่ทางร้านเคี่ยวใหม่แล้วเพิ่มหัวเชื้อเก่าลงไปเรื่อยๆจนชุ่มดีแล้วย่างต่อให้ซอสเคลือบตัวปลาด้านนอกหอมกลิ่นรมควันอ่อนๆ ก่อนจะชุบแล้วย่างอีกทีจนได้สีสันสวยงาม ตักข้าวสวยร้อนๆราดด้วยซอสย่างจนทั่วข้าวก่อนวางปลาไหลที่ย่างเสร็จแล้วลงไปและทาด้วยซอสอีกชั้น โดยทุกขั้นตอนมีการแบ่งหน้าที่อย่างชัดเจนคนย่างมีหน้าที่ดูและพัดมือไปเรื่อยๆไม่ให้คลาดสายตา อีกคนปรุงเมนูที่ได้จากปลาไหลก่อนเสิร์ฟลูกค้า ถ้าจำไม่ผิดร้านนี้เคยชื่อ Nakamura มาก่อนถึงแม้จะเปลี่ยนชื่อเป็น Sanya แล้วก็ยังคงใช้พ่อครัวกับซอสชุดเดิมจากร้านเก่ามั่นใจในความอร่อยได้เลยครับผม เสร็จแล้วไปทานที่โต๊ะกันเลยจ้า~
เมนูจานแรกคือ "Unaju (Matsu)"หรือข้าวหน้าปลาไหลย่างไซส์ใหญ่ราคา 2,030 บาท เสิร์ฟมาพร้อมผักดองและซุปใสสาหร่าย+ยูสุ+ตับปลาไหล ใส่ปลาไหลย่างมาให้ 1 ตัวเต็มแน่นกล่องจนต้องเกยกันเป็นชั้นๆ เริ่มชิมกันจากเนื้อปลาก่อนถ้าใครเคยทานปลาดุกย่างมาก่อนต้องบอกว่าสัมผัสเนื้อแน่นคล้ายๆกันแต่ปลาไหลมีกลิ่นไขมันเฉพาะที่ไม่เหมือนกันย่างมาหนังกรอบเคลือบซอสรสเค็มนำ-หวานอ่อนๆพอกลมกล่อมแต่สิ่งที่ทำให้มันพิเศษกว่าแบบสำเร็จพร้อมทานคือ "ความนุ่มฟูและฝีมือการย่างของเชฟ" ที่ทำให้ไขมันส่วนเกินออกกลายเป็นช่องว่างให้ซอสไหลเข้าไปที่เนื้อแทนอีกทั้งการที่ผ่านมาหลายปีในน้ำซอสจึงมีกลิ่นรมควันและไขมันของปลาไหลเข้มข้นกว่าในเนื้อปลาสด ทานคู่กับข้าวสวยญี่ปุ่นเมล็ดนุ่มราดซอสย่างแบบฉ่ำๆยิ่งอร่อยสมกับราคาที่จ่ายไปมากๆครับ เพราะจานนี้เราสามารถแบ่งทานกันได้ 2 คน (ด้วยขนาดกระเพาะของคนไทย) คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ทานเยอะก็สั่งชุดนี้ทานคนเดียวครับ จานต่อไปเป็นวัตถุดิบหายากที่ร้านอื่นไม่ค่อยมีเสิร์ฟคือ "Unagi Kimo Yaki" หรือตับปลาไหลย่างถ่านราคา 380 บาท เป็นตับ+ไส้อ่อนของปลาไหลย่างถ่านแล้วเคลือบด้วยซอสอายุ 10 ปี รสชาติมันละเอียดคล้ายตับห่านชิ้นเล็กๆแต่มีกลิ่นหอมไขมันปลาไหลติดกับส่วนไส้อ่อนเคี้ยวกรุบๆทานพร้อมกันได้ 2 สัมผัสไม่เหมือนใคร ถ้าอยากทานเมนูนี้ก็แนะนำให้โทรมาจองก่อนนะครับ เพราะปลาไหล 1 ตัวมีแค่ 1 ชิ้นจานนี้เสิร์ฟประมาณ 10 ตัวต้องจับจองกันหน่อยครับผม
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น