มารู้จักกับอาชีพสุดเท่อย่างทหารอากาศกัน
ก่อนจะมารู้จักกับคำว่า ‘ทหารอากาศ’ ขอเกริ่นประวัติความเป็นมาสักเล็กน้อย ว่าอาชีพทหารอากาศนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร
กองทัพอากาศไทย (อักษรย่อ: ทอ., อังกฤษ: Royal Thai Air Force : RTAF) เกิดขึ้นภายหลังจากการจัดตั้งกองทัพอากาศฝรั่งเศสเพียง 4 ปี ซึ่งเป็นกองทัพอากาศฝรั่งเศสเป็นประเทศที่ก่อตั้งกองทัพอากาศเป็นหน่วยแรกของโลก จึงสามารถพูดได้ว่ากองทัพอากาศไทยเป็นองค์กรหรือหน่วยงานทางทหารที่ก่อตั้งเป็นลำดับต้นแรก ๆ ของเอเชีย และในช่วงก่อตั้งกองทัพอากาศไทยก็ไปตรงกับเหตุการณ์ที่มีกรณีพิพาทไทย-อินโดจีนฝรั่งเศส ในสมัยราชการที่ 6 พอดี
ในปีพุทธศักราช 2554 กองทัพอากาศไทยได้รับการสนับสนุนจากบริษัท Saab ซึ่งเป็นบริษัทอากาศยานและการป้องกันชั้นนำของสวีเดน ในการมองฝูงบิน Gripen และเครื่องบินเตือนภัยทางอากาศ นอกจากนี้ยังชุบชีวิตฝูงบิน F-16-A/B ให้มีมาตรฐานเท่ากับรุ่น C/D จึงทำให้กองทัพอากาศไทยมีอิทธิพลทางอากาศมากเป็นอันดับที่สองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รองจากสิงคโปร์ ในแง่ของขีดความสามารถและความทันสมัยของอากาศยาน
ปัจจุบันกองทัพอากาศไทยนั้น มีกองบัญชาการอยู่ที่เขตสายไหม เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร โดยมีกำลังทางอากาศทั้งสิ้น 11 กองบิน กับ 1 โรงเรียนการบิน รวมทั้งอากาศยานอีกประมาณ 320 ลำ และบุคลากรที่ทำงานในกองทัพอากาศไทยจะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ ‘ทหารอากาศ’
สำหรับภารกิจสำคัญของกองทัพอากาศคือการเตรียมกำลังกองทัพอากาศ การป้องกันราชอาณาจักร และดำเนินการเกี่ยวกับการใช้กำลังกองทัพอากาศตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม ภายใต้คำสั่งของผู้บังคับบัญชาการทหารอากาศ
พออ่านมาถึงตรงนี้ก็เริ่มรับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของกองทัพอากาศไทยกันแล้วใช่ไหม แต่ถ้าอยากจะเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพอากาศล่ะ จะต้องทำอย่างไร ร่วมหาคำตอบกันได้หัวข้อถัดไปกันเลย
ทหารอากาศกับหน้าที่ของพวกเขา
ทหารในกองทัพอากาศก็มีการปฏิบัติหน้าที่แตกต่างกันไปถึง 23 เหล่ากันเลยทีเดียว ว่าแต่จะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน !
1. เหล่าทหารนักบิน ก็มีหน้าที่ตามชื่อตำแหน่งเลย คือเป็น ‘นักบิน’ นั่นเอง ซึ่งเขาก็แบ่งหน้าที่นักบินเป็นประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นนักบินขับไล่ นักบินโจมตี นักบินตรวจการณ์ หรือนักบินทิ้งระเบิด นอกจากนี้ภารกิจของนักบินก็ยังมีการขนส่งทางอากาศ การลาดตะเวนทางอากาศ รวมไปถึงภารกิจทางอากาศอื่น ๆ เพื่อช่วยเหลือหรือสนับสนุนหน่วยทหารภาคพื้นดิน
2. เหล่าทหารต้นหน มีหน้าที่แนะนำนักบินในเรื่องทิศทางการบิน ประสานกับหอบังคับการบินในขณะที่บินอยู่ในอากาศ
3. เหล่าทหารตรวจการณ์ มีหน้าที่ลาดตระเวนทั้งทางอากาศและทางพื้นดิน เพื่อแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบถึงสถานการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ณ ขณะนั้น
4. เหล่าทิ้งระเบิด ทำหน้าที่เกี่ยวกับการทิ้งระเบิด เพื่อทำลายเป้าหมายทางพื้นดินตามภารกิจที่ผู้บังคับบัญชากำหนด
5. เหล่าทหารสื่อสาร ทำหน้าที่รับผิดชอบในการจัดหา เก็บรักษา เบิกจ่าย ค้นคว้า สร้างซ่อมตรวจ และให้คำแนะนำเรื่องเกี่ยวกับการสื่อสาร ตลอดจนปฏิบัติหน้าที่ในการสื่อสาร
6. เหล่าทหารสรรพาวุธ ทำหน้าที่รับผิดชอบในการจัดหา เก็บรักษา เบิกจ่าย สร้าง ซ่อมตรวจ ทดลองค้นคว้า และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการสรรพาวุธ ตลอดจนถึงสงครามเคมี เชื้อโรคและปรมาณู
7. เหล่าทหารอากาศโยธิน ทำหน้าที่ป้องกันสนามบิน สถานที่สำคัญของกองทัพอากาศจากการรุกรานทางพื้นดินและทางอากาศ
8. เหล่าทหารขนส่ง ทำหน้าที่เกี่ยวกับการขนส่ง เก็บรักษาเบิกจ่าย รับผิดชอบการจัดหาอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ในการขนส่งให้แก่หน่วยต่าง ๆ ในกองทัพอากาศให้เป็นปัจจุบัน
9. เหล่าทหารสารวัตร ทำหน้าที่ตรวจตรา ควบคุม ข้าราชการกองทัพอากาศ ให้อยู่ในระเบียบวินัยทหารกับมีหน้าที่รักษาความสงบ รักษาความปลอดภัยให้แก่บุคคล และสถานที่ราชการกองทัพอากาศ
10. เหล่าทหารช่างอากาศ ทำหน้าที่ในการจัดหา เก็บรักษา เบิกจ่ายและซ่อมเครื่องมือ เครื่องยนต์ อุปกรณ์การบินต่าง ๆ ของกองทัพอากาศ
11. เหล่าทหารพลาธิการ ทำหน้าที่ในการจัดหา เก็บรักษา เบิกจ่าย เครื่องอุปโภคบริโภค กับการสัมภาระทั้งปวง รวมทั้งเครื่องมือเครื่องใช้ในหน่วยงานต่าง ๆ ตามนโยบายของกองทัพอากาศ
12. เหล่าทหารช่างโยธา ทำหน้าที่ในการซ่อม – สร้างสนามบิน ถนน อาคาร การไฟฟ้า ประปา หรือปัจจัยในการอำนวยความสะดวกของหน่วยงานทั้งปวง ตลอดจนการจัดหา เก็บรักษา เบิกจ่าย เครื่องมือเครื่องใช้แก่หน่วยต่าง ๆ ตามนโยบายกองทัพอากาศ
13. เหล่าทหารแผนที่ มีหน้าที่ทำแผนที่ สำรวจเส้นทาง แก้ไขและเพิ่มเติมรายละเอียดของตำบลต่าง ๆ ในแผนที่ให้ถูกต้องตามปัจจุบัน
14. เหล่าทหารอุตุนิยมวิทยา ทำหน้าที่พยากรณ์อากาศที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการบิน และนำความรู้จากศาสตร์อุตุนิยมวิทยามาใช้งาน
15. เหล่าถ่ายรูป ทำหน้าที่ถ่ายรูปทั้งทางพื้นดินและทางอากาศ
16. เหล่าทหารการเงิน ทำหน้าที่เกี่ยวกับการเงิน การบัญชี การงบประมาณ การตรวจเงิน ตลอดจนการตรวจสอบ ควบคุมการจ่ายเงินให้เป็นไปตามแบบธรรมเนียมของราชการ
17. เหล่าพระธรรมนูญ ทำหน้าที่ทางกฎหมายและศาลทหาร
18. เหล่าทหารดุริยางค์ ทำหน้าที่เกี่ยวกับการดุริยางค์ การบรรเลงเพื่อกล่อมขวัญทหารของกองทัพอากาศ
19. เหล่าทหารสารบรรณ ทำหน้าที่เกี่ยวกับงานสารบรรณและงานธุรการทั่วไปในกองทัพอากาศ
20. เหล่าทหารแพทย์ ทำหน้าที่เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ค้นคว้าในด้านการแพทย์ วางนโยบายการสุขาภิบาล รับผิดชอบในการจัดหา เก็บรักษา เบิกจ่ายเวชภัณฑ์ต่าง ๆ
21. เหล่าทหารพลร่ม ทำหน้าที่เกี่ยวกับการรบพิเศษ การรบแบบกองโจร การช่วยเหลือค้นหาเมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น
22. เหล่าทหารพัสดุ ทำหน้าที่เกี่ยวกับพัสดุ การจัดหา เก็บรักษา แจกจ่ายพัสดุต่าง ๆ ให้กับหน่วยในกองทัพอากาศ
23. เหล่าทหารวิทยาศาสตร์ มีหน้าที่วางแผนอำนวยการ ประสานงาน ให้การศึกษาวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับการสร้างอาวุธยุทธภัณฑ์ที่สำคัญ ซึ่งต้องใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูงมาดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นด้านเคมี ชีวภาพ รังสี รวมไปถึงกิจการวิทยาศาสตร์ การใช้เครื่องจักรคำนวณสนับสนุนในการวิจัยระบบอาวุธยุทธภัณฑ์ การส่งกำลังบำรุงและการบริหารงานของกองทัพอากาศและให้การสนับสนุนแก่สถานวิจัยของส่วนราชการ ประสานงานกับทางโรงงานอุตสาหกรรมของส่วนราชการ รวมถึงหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อนำผลสรุปที่ได้มาใช้ในการสร้างอาวุธยุทธภัณฑ์ นอกจากนี้ยังมีหน้าที่ให้การศึกษาและควบคุมตรวจตรากิจการในสายวิทยาการเหล่าทหารวิทยาศาสตร์ด้วย
เส้นทางสู่การเป็นทหารอากาศ
สำหรับคนที่พึ่งจบมัธยมต้น หรือมีวุฒิม.3 อยู่แล้ว
โรงเรียนดุริยางค์ทหารอากาศ
- ผู้สมัครจะต้องมีอายุระหว่าง 15 – 18 ปี มีความสามารถทางดนตรีทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ (ส่วนใหญ่จะเป็นด้านวงโยธาวาทิต ดุริยางค์ และเครื่องสาย) ในแต่ละปีจะรับเพศชายจำนวน 15 – 17 คน และเพศหญิงจำนวน 5 คน
- เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 3 ปีแล้ว จะได้รับวุฒิปวช. ดนตรี และแต่งตั้งยศเป็นจ่าอากาศตรี บรรจุงานตามกองดุริยางค์ทหารอากาศทั่วประเทศ
โรงเรียนช่างฝีมือทหาร
- หน่วยงานภาคปกติจะรับผู้สมัครอายุ 15 – 18 ปี เพศชาย แต่ละปีเปิดรับผู้สมัครประมาณ 250 – 300 คน เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 3 ปี จะได้รับวุฒิปวช. ตามสาขาช่างที่เลือกศึกษา และแต่งตั้งยศเป็นจ่าอากาศตรี บรรจุงานในกองทัพอากาศ กองทัพไทย และกองทัพบก ซึ่งการจะได้บรรจุที่หน่วยงานใดนั้น ขึ้นกับผลคะแนนสอบหรือผลการศึกษาของแต่ละคน
โรงเรียนเตรียมทหาร
- ผู้สมัครจะต้องมีอายุ 15 – 18 ปี เพศชาย แต่ละปีเปิดรับผู้สมัครจำนวน 84 นาย เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 2 ปีจากร.ร.เตรียมทหารแล้ว จะได้รับวุฒิ ม.6 สายวิทย์ – คณิต และเข้าเรียนต่อปริญญาตรีที่โรงเรียนนายเรืออากาศทันทีโดยไม่มีการสอบคัดเลือก เมื่อเรียนจบ 5 ปี จะได้รับการแต่งตั้งยศเป็นเรืออากาศตรี บรรจุทำงานในกองทัพอากาศ ส่วนใหญ่จะได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนการบินกำแพงแสน เพื่อเป็นนักบินของกองทัพอากาศ และมีการทดสอบสมรรถภาพทางร่างกายเพื่อต่อยอดในการฝึกหลักสูตรต่าง ๆ เช่น หน่วยปฏิบัติการพิเศษคอมมานโด เป็นต้น
หมายเหตุ: นักเรียนนายเรืออากาศชั้นปีที่ 1 ที่มีผลการเรียนดีจะได้รับทุนการศึกษาต่อที่โรงเรียนนายเรืออากาศต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นที่ ญี่ปุ่น สเปน สหรัฐอเมริกา หรือฝรั่งเศส
ข้อมูลเพิ่มเติม
https://nine100.com/including-full-information-about-the-air-force/
รวมข้อมูลเกี่ยวกับ ‘ทหารอากาศ’ ฉบับจัดเต็ม
ก่อนจะมารู้จักกับคำว่า ‘ทหารอากาศ’ ขอเกริ่นประวัติความเป็นมาสักเล็กน้อย ว่าอาชีพทหารอากาศนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร
กองทัพอากาศไทย (อักษรย่อ: ทอ., อังกฤษ: Royal Thai Air Force : RTAF) เกิดขึ้นภายหลังจากการจัดตั้งกองทัพอากาศฝรั่งเศสเพียง 4 ปี ซึ่งเป็นกองทัพอากาศฝรั่งเศสเป็นประเทศที่ก่อตั้งกองทัพอากาศเป็นหน่วยแรกของโลก จึงสามารถพูดได้ว่ากองทัพอากาศไทยเป็นองค์กรหรือหน่วยงานทางทหารที่ก่อตั้งเป็นลำดับต้นแรก ๆ ของเอเชีย และในช่วงก่อตั้งกองทัพอากาศไทยก็ไปตรงกับเหตุการณ์ที่มีกรณีพิพาทไทย-อินโดจีนฝรั่งเศส ในสมัยราชการที่ 6 พอดี
ในปีพุทธศักราช 2554 กองทัพอากาศไทยได้รับการสนับสนุนจากบริษัท Saab ซึ่งเป็นบริษัทอากาศยานและการป้องกันชั้นนำของสวีเดน ในการมองฝูงบิน Gripen และเครื่องบินเตือนภัยทางอากาศ นอกจากนี้ยังชุบชีวิตฝูงบิน F-16-A/B ให้มีมาตรฐานเท่ากับรุ่น C/D จึงทำให้กองทัพอากาศไทยมีอิทธิพลทางอากาศมากเป็นอันดับที่สองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รองจากสิงคโปร์ ในแง่ของขีดความสามารถและความทันสมัยของอากาศยาน
ปัจจุบันกองทัพอากาศไทยนั้น มีกองบัญชาการอยู่ที่เขตสายไหม เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร โดยมีกำลังทางอากาศทั้งสิ้น 11 กองบิน กับ 1 โรงเรียนการบิน รวมทั้งอากาศยานอีกประมาณ 320 ลำ และบุคลากรที่ทำงานในกองทัพอากาศไทยจะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ ‘ทหารอากาศ’
สำหรับภารกิจสำคัญของกองทัพอากาศคือการเตรียมกำลังกองทัพอากาศ การป้องกันราชอาณาจักร และดำเนินการเกี่ยวกับการใช้กำลังกองทัพอากาศตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม ภายใต้คำสั่งของผู้บังคับบัญชาการทหารอากาศ
พออ่านมาถึงตรงนี้ก็เริ่มรับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของกองทัพอากาศไทยกันแล้วใช่ไหม แต่ถ้าอยากจะเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพอากาศล่ะ จะต้องทำอย่างไร ร่วมหาคำตอบกันได้หัวข้อถัดไปกันเลย
ทหารอากาศกับหน้าที่ของพวกเขา
ทหารในกองทัพอากาศก็มีการปฏิบัติหน้าที่แตกต่างกันไปถึง 23 เหล่ากันเลยทีเดียว ว่าแต่จะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน !
1. เหล่าทหารนักบิน ก็มีหน้าที่ตามชื่อตำแหน่งเลย คือเป็น ‘นักบิน’ นั่นเอง ซึ่งเขาก็แบ่งหน้าที่นักบินเป็นประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นนักบินขับไล่ นักบินโจมตี นักบินตรวจการณ์ หรือนักบินทิ้งระเบิด นอกจากนี้ภารกิจของนักบินก็ยังมีการขนส่งทางอากาศ การลาดตะเวนทางอากาศ รวมไปถึงภารกิจทางอากาศอื่น ๆ เพื่อช่วยเหลือหรือสนับสนุนหน่วยทหารภาคพื้นดิน
2. เหล่าทหารต้นหน มีหน้าที่แนะนำนักบินในเรื่องทิศทางการบิน ประสานกับหอบังคับการบินในขณะที่บินอยู่ในอากาศ
3. เหล่าทหารตรวจการณ์ มีหน้าที่ลาดตระเวนทั้งทางอากาศและทางพื้นดิน เพื่อแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบถึงสถานการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ณ ขณะนั้น
4. เหล่าทิ้งระเบิด ทำหน้าที่เกี่ยวกับการทิ้งระเบิด เพื่อทำลายเป้าหมายทางพื้นดินตามภารกิจที่ผู้บังคับบัญชากำหนด
5. เหล่าทหารสื่อสาร ทำหน้าที่รับผิดชอบในการจัดหา เก็บรักษา เบิกจ่าย ค้นคว้า สร้างซ่อมตรวจ และให้คำแนะนำเรื่องเกี่ยวกับการสื่อสาร ตลอดจนปฏิบัติหน้าที่ในการสื่อสาร
6. เหล่าทหารสรรพาวุธ ทำหน้าที่รับผิดชอบในการจัดหา เก็บรักษา เบิกจ่าย สร้าง ซ่อมตรวจ ทดลองค้นคว้า และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการสรรพาวุธ ตลอดจนถึงสงครามเคมี เชื้อโรคและปรมาณู
7. เหล่าทหารอากาศโยธิน ทำหน้าที่ป้องกันสนามบิน สถานที่สำคัญของกองทัพอากาศจากการรุกรานทางพื้นดินและทางอากาศ
8. เหล่าทหารขนส่ง ทำหน้าที่เกี่ยวกับการขนส่ง เก็บรักษาเบิกจ่าย รับผิดชอบการจัดหาอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ในการขนส่งให้แก่หน่วยต่าง ๆ ในกองทัพอากาศให้เป็นปัจจุบัน
9. เหล่าทหารสารวัตร ทำหน้าที่ตรวจตรา ควบคุม ข้าราชการกองทัพอากาศ ให้อยู่ในระเบียบวินัยทหารกับมีหน้าที่รักษาความสงบ รักษาความปลอดภัยให้แก่บุคคล และสถานที่ราชการกองทัพอากาศ
10. เหล่าทหารช่างอากาศ ทำหน้าที่ในการจัดหา เก็บรักษา เบิกจ่ายและซ่อมเครื่องมือ เครื่องยนต์ อุปกรณ์การบินต่าง ๆ ของกองทัพอากาศ
11. เหล่าทหารพลาธิการ ทำหน้าที่ในการจัดหา เก็บรักษา เบิกจ่าย เครื่องอุปโภคบริโภค กับการสัมภาระทั้งปวง รวมทั้งเครื่องมือเครื่องใช้ในหน่วยงานต่าง ๆ ตามนโยบายของกองทัพอากาศ
12. เหล่าทหารช่างโยธา ทำหน้าที่ในการซ่อม – สร้างสนามบิน ถนน อาคาร การไฟฟ้า ประปา หรือปัจจัยในการอำนวยความสะดวกของหน่วยงานทั้งปวง ตลอดจนการจัดหา เก็บรักษา เบิกจ่าย เครื่องมือเครื่องใช้แก่หน่วยต่าง ๆ ตามนโยบายกองทัพอากาศ
13. เหล่าทหารแผนที่ มีหน้าที่ทำแผนที่ สำรวจเส้นทาง แก้ไขและเพิ่มเติมรายละเอียดของตำบลต่าง ๆ ในแผนที่ให้ถูกต้องตามปัจจุบัน
14. เหล่าทหารอุตุนิยมวิทยา ทำหน้าที่พยากรณ์อากาศที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการบิน และนำความรู้จากศาสตร์อุตุนิยมวิทยามาใช้งาน
15. เหล่าถ่ายรูป ทำหน้าที่ถ่ายรูปทั้งทางพื้นดินและทางอากาศ
16. เหล่าทหารการเงิน ทำหน้าที่เกี่ยวกับการเงิน การบัญชี การงบประมาณ การตรวจเงิน ตลอดจนการตรวจสอบ ควบคุมการจ่ายเงินให้เป็นไปตามแบบธรรมเนียมของราชการ
17. เหล่าพระธรรมนูญ ทำหน้าที่ทางกฎหมายและศาลทหาร
18. เหล่าทหารดุริยางค์ ทำหน้าที่เกี่ยวกับการดุริยางค์ การบรรเลงเพื่อกล่อมขวัญทหารของกองทัพอากาศ
19. เหล่าทหารสารบรรณ ทำหน้าที่เกี่ยวกับงานสารบรรณและงานธุรการทั่วไปในกองทัพอากาศ
20. เหล่าทหารแพทย์ ทำหน้าที่เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ค้นคว้าในด้านการแพทย์ วางนโยบายการสุขาภิบาล รับผิดชอบในการจัดหา เก็บรักษา เบิกจ่ายเวชภัณฑ์ต่าง ๆ
21. เหล่าทหารพลร่ม ทำหน้าที่เกี่ยวกับการรบพิเศษ การรบแบบกองโจร การช่วยเหลือค้นหาเมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น
22. เหล่าทหารพัสดุ ทำหน้าที่เกี่ยวกับพัสดุ การจัดหา เก็บรักษา แจกจ่ายพัสดุต่าง ๆ ให้กับหน่วยในกองทัพอากาศ
23. เหล่าทหารวิทยาศาสตร์ มีหน้าที่วางแผนอำนวยการ ประสานงาน ให้การศึกษาวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับการสร้างอาวุธยุทธภัณฑ์ที่สำคัญ ซึ่งต้องใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูงมาดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นด้านเคมี ชีวภาพ รังสี รวมไปถึงกิจการวิทยาศาสตร์ การใช้เครื่องจักรคำนวณสนับสนุนในการวิจัยระบบอาวุธยุทธภัณฑ์ การส่งกำลังบำรุงและการบริหารงานของกองทัพอากาศและให้การสนับสนุนแก่สถานวิจัยของส่วนราชการ ประสานงานกับทางโรงงานอุตสาหกรรมของส่วนราชการ รวมถึงหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อนำผลสรุปที่ได้มาใช้ในการสร้างอาวุธยุทธภัณฑ์ นอกจากนี้ยังมีหน้าที่ให้การศึกษาและควบคุมตรวจตรากิจการในสายวิทยาการเหล่าทหารวิทยาศาสตร์ด้วย
เส้นทางสู่การเป็นทหารอากาศ
สำหรับคนที่พึ่งจบมัธยมต้น หรือมีวุฒิม.3 อยู่แล้ว
โรงเรียนดุริยางค์ทหารอากาศ
- ผู้สมัครจะต้องมีอายุระหว่าง 15 – 18 ปี มีความสามารถทางดนตรีทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ (ส่วนใหญ่จะเป็นด้านวงโยธาวาทิต ดุริยางค์ และเครื่องสาย) ในแต่ละปีจะรับเพศชายจำนวน 15 – 17 คน และเพศหญิงจำนวน 5 คน
- เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 3 ปีแล้ว จะได้รับวุฒิปวช. ดนตรี และแต่งตั้งยศเป็นจ่าอากาศตรี บรรจุงานตามกองดุริยางค์ทหารอากาศทั่วประเทศ
โรงเรียนช่างฝีมือทหาร
- หน่วยงานภาคปกติจะรับผู้สมัครอายุ 15 – 18 ปี เพศชาย แต่ละปีเปิดรับผู้สมัครประมาณ 250 – 300 คน เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 3 ปี จะได้รับวุฒิปวช. ตามสาขาช่างที่เลือกศึกษา และแต่งตั้งยศเป็นจ่าอากาศตรี บรรจุงานในกองทัพอากาศ กองทัพไทย และกองทัพบก ซึ่งการจะได้บรรจุที่หน่วยงานใดนั้น ขึ้นกับผลคะแนนสอบหรือผลการศึกษาของแต่ละคน
โรงเรียนเตรียมทหาร
- ผู้สมัครจะต้องมีอายุ 15 – 18 ปี เพศชาย แต่ละปีเปิดรับผู้สมัครจำนวน 84 นาย เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 2 ปีจากร.ร.เตรียมทหารแล้ว จะได้รับวุฒิ ม.6 สายวิทย์ – คณิต และเข้าเรียนต่อปริญญาตรีที่โรงเรียนนายเรืออากาศทันทีโดยไม่มีการสอบคัดเลือก เมื่อเรียนจบ 5 ปี จะได้รับการแต่งตั้งยศเป็นเรืออากาศตรี บรรจุทำงานในกองทัพอากาศ ส่วนใหญ่จะได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนการบินกำแพงแสน เพื่อเป็นนักบินของกองทัพอากาศ และมีการทดสอบสมรรถภาพทางร่างกายเพื่อต่อยอดในการฝึกหลักสูตรต่าง ๆ เช่น หน่วยปฏิบัติการพิเศษคอมมานโด เป็นต้น
หมายเหตุ: นักเรียนนายเรืออากาศชั้นปีที่ 1 ที่มีผลการเรียนดีจะได้รับทุนการศึกษาต่อที่โรงเรียนนายเรืออากาศต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นที่ ญี่ปุ่น สเปน สหรัฐอเมริกา หรือฝรั่งเศส
ข้อมูลเพิ่มเติม https://nine100.com/including-full-information-about-the-air-force/