โซ่รัก บทที่ 5

กระทู้สนทนา

.

               รถแท็กซี่ค่อย ๆ ขับเข้ามาในหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ภายในบริเวณดูสงบร่มรื่น บ้านแต่ละหลังที่ขับผ่านมาไม่ได้หลังใหญ่อลังการงานสร้างอะไรมากมาย ทว่าราคามันก็คงหลายบาทเอาเรื่อง

               อรพินจะมีปัญญาเป็นเจ้าของบ้านพวกนี้มั้ยนะ เธอนั่งมองบ้านแต่ละหลังที่ขับผ่านไปอย่างเพลิดเพลิน รูปทรงคล้ายกัน ทาสีเดียวกัน บ้างก็เป็นบ้านแฝด เดี่ยวบ้างสลับกันไป ก็คงอีกสักสิบปียี่สิบปีแน่นอน ที่เธอจะได้เป็นเจ้าของพวกมัน อรพินนึกพลางคลี่ยิ้มตลกความคิดของตน นั่งอยู่เบาะหลังคนขับ

               “หลังไหนครับ” คนขับแท็กซี่หันหน้ามาถามเธอ รถขับเคลื่อนไปอย่างช้า ๆ เหมือนคนขับเกรงว่าจะเลยบ้านเป้าหมายไปไกล

               “145 ทับ อ่อนั่นไงคะ หลังนี้ ๆ จอดตรงนี้ก็ได้ค่ะ” อรพินมองเห็นบ้านของอรรถพลพอดี ชี้มือให้คนขับจอดรถข้าง ๆ กำแพงรั้วบ้านหลังข้างหน้า ซึ่งคือบ้านของอรรถพลเอง เธอควักเงินให้ค่าแท็กซี่ก่อนจะลงจากรถ เห็นอรอุมาเดินออกมารอรับตนที่หน้าบ้านแล้ว เนื่องจากก่อนจะถึงตนส่งข้อความบอกล่วงหน้าไว้

               “อรนึกว่ารพินจะมาไม่ถูกซะอีก พี่อรรถบ่นอรกลัวรพินหลงทาง” อรอุมาเปิดประตูรั้วให้แขกที่มาเยือน พร้อมกล่าวทักทาย แถมแอบบ่นถึงบุคคลที่สามด้วย

               “รพินไม่หลงหรอกแท็กซี่เขารู้ทาง” อรพินพูดยิ้ม ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอมาบ้านอรอุมา กลัวหลงอยู่เหมือนกัน ทำใจดีสู้เสือดีที่แท็กซี่พามาถูก ส่งถึงหน้าบ้านได้อย่างไม่หลงทาง และปลอดภัย “แม่มาถึงกี่ทุ่มล่ะอรเมื่อคืน”

               “สองทุ่มกว่าน่ะ ปะเข้าบ้านไปหาแม่กันเถอะ พี่อรรถกับแม่รออยู่ในบ้าน ”

               สองคนยืนคุยกันก่อนจะชวนกันเข้าบ้าน อรพินรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองขึ้นมาดื้อ ๆ เธอเขินใครระหว่างแม่ของอรอุมา หรืออรรถพลพี่ชายของเพื่อนกันแน่ คำตอบก็ต้องเป็นแม่แน่นอน แค่อรรถพล เจอกันทุกวัน จะเขินทำไม เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพ่นออกมาก่อนจะเดินตามอรอุมาเข้าบ้านไป

               “รพินทำงานด้วยกันตั้งนานแล้วแกจะเขินอะไร พี่อรรถพี่ชายยัยอรนะเว้ย” เธอพูดกับตัวเอง ปลอบใจตัวเอง หากไม่เคยเจอสายตาคู่นั้นที่อรรถพลมองตัวเอง อรพินคงไม่สบายใจแบบนี้ เธอไม่ได้ชอบแววตานั้นเลยสักนิด เธอคิดกับเขาแค่เพียงพี่ชาย

               สองสาวก้าวเท้าเดินเข้ามาในตัวบ้าน เห็นแม่กับพี่ชายของอรอุมานั่งอยู่ที่โซฟารับแขก ภายในห้องโถงของบ้าน อรพินยกมือไหว้สวัสดีผู้อาวุโสที่นั่งอยู่ตรงหน้าทั้งสองคน “คุณแม่ พี่อรรถสวัสดีค่ะ “

               “ไหว้พระเถอะลูก ทานข้าวมาหรือยัง”

               แม่ของอรอุมากล่าวทักทายเธออย่างเป็นกันเอง ทำให้เธอลดอาการเกร็งลงมามาก เกือบจะทั้งหมด ยกเว้นก็แต่กับอรรถพล ที่ยังรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองอยู่บ้าง ถ้าทำได้อยากให้เขาออกไปจากตรงนี้ เหลือไว้แค่แม่กับอรอุมาและเธอ มันจะเป็นไปได้อย่างไรนี่บ้านของอรรถพล เธอกำลังอยู่บ้านของเขา

               “วัสดีครับน้องรพิน นั่ง ๆ “ เจ้าของบ้านลุกขึ้นต้อนรับ เชิญแขกผู้มาเยือนอย่างเธอให้นั่งแบบเป็นกันเอง ไม่มีพิธีรีตองอะไร อรพินนั่งลงบนโซฟาข้าง ๆ กับอรอุมา

               “รพินทานมาแล้วค่ะแม่ คุณแม่มาอยู่กับอรกับพี่อรรถกี่วันคะ”

               ความเกร็งหายไปความเป็นกันเองเริ่มทำงาน อรพินชวนผู้เป็นแม่ของเพื่อนคุย เธอหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึง หรือเอ่ยชื่อบางคน นั่นคืออรรถพลเจ้าของบ้าน ทั้งที่เขาเป็นเจ้าของบ้าน เธอเป็นแขก แต่อรพินไม่ค่อยชวนเขาคุย หากแต่ชวนแม่ของเขากับน้องสาวคุยเท่านั้น

               อรรถพลนั่งมองและนั่งฟังพวกเธอคุยกันอยู่เงียบ ๆ ไม่ยอมลุกไปไหน ถ้าหากเขาลุกไปที่อื่น หรือออกไปข้างนอก อรพินเธอจะเป็นตัวของตัวเองมากกว่านี้ เหมือนเขารู้ความในใจของเธอ นั่งเงียบ ๆ เป็นผู้ฟังที่ดีเท่านั้น มีบ้างที่ตอบคำถามผู้เป็นแม่ของตน

          ตี๊ด ตี๊ด เสียงโทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้น “ว่าไงไอ้น้องรัก อ้อจะแวะมาบ้านเหรอ มาดิแม่ถึงตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ” อรรถพลรับสายและนั่งคุยโทรศัพท์กับวินิจอยู่ตรงนี้ ทุกคนมองเป็นสายตาเดียวกัน เป็นเชิงคำถามว่าใครจะมาอีก “คุณแม่ไอ้วินิจกับเมียมันจะแวะมาหาคุณแม่ด้วยครับ

               อรรถพลแจ้งข่าวกับทุกคน พร้อมหันมายิ้มให้อรพินก่อนจะลุกไปจากตรงนี้ กะจะเตรียมของกินรอเพื่อนรุ่นน้อง วินิจมาหาถึงบ้านแบบนี้มีหรือเขาจะปล่อยโอกาสที่จะได้ดื่มเหล้าหลุดลอยไป และถือโอกาสปล่อยให้อรพินรู้สึกเป็นตัวของตัวเองขึ้นมาบ้าง จะได้ไม่อยากรีบกลับ

               “อรรถไปไหนลูก” ผู้เป็นแม่ถามลูกชาย เมื่อเห็นอรรถพลลุกขึ้น ทำท่าจะเดินเข้าไปในครัว

               “ผมว่านะไปเตรียมกับแกล้มรอวินิจสักหน่อยครับ”

               “ไม่ต้องเดี๋ยวแม่จัดการให้ นั่งเล่นกับน้อง ๆ เค้านี่แหละ รายนั้นถึงไหนแล้วล่ะ ” แม่ของอรรถพลถามหาแขกที่กำลังจะมาถึงอย่างสนิท คงรู้จักกันมานานแล้ว

               “ครับ”

               พูดจบผู้เป็นแม่ก็เดินหายเข้าไปในครัว อรพินมองตามแม่ของเพื่อนไปอย่างสายตาละห้อย ไม่อยากให้แม่ไปไหน นี่ถ้าอรอุมาลุกหนีไปอีกคนเธอจะงอนไม่คุยด้วยสองสามวันไปเลย

                “พี่ขอตัวไปเตรียมสถานที่รอพี่วินิจดีกว่า เราก็คุยกันสองคนไปก่อน น้องรพินไม่ต้องเขินนะ กันเองเหมือนอยู่ที่ทำงานนั่นแหละ”

               อรรถพลพูดเปรย ๆ รู้ว่าอรพินรู้สึกอย่างไร เขาจึงพูดดักทางไว้ก่อน ก่อนที่เขาจึงขอตัวแยกออกมา ให้เพื่อนน้องสาวรู้สึกอยากอยู่ต่อนาน ๆ ขืนเขานั่งตรงนั้นด้วย อรพินคงอยากกลับบ้านเร็วแน่ ตั้งแต่อรพินมาถึงคุยกับเขาไม่กี่คำ อรรถพลออกไปเตรียมสถานที่ตรงหน้าบ้าน พอเสร็จเรียบร้อยก็เข้าไปในครัวหาผู้เป็นแม่ แทนที่จะกลับมานั่งกับพวกน้องสาว

               “รพินไม่ต้องอายนะ พี่ชะเอมแฟนพี่วินิจนิสัยดี ยังนึกอยู่เลยทำไมได้คนแบบพี่วินิจมาเป็นพ่อของลูกก็ไม่รู้”

               อรอุมาพูดถึงเพื่อนของพี่ชายแบบตลก ตอนนี้อรพินรู้สึกเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น พูดคุยเยอะขึ้นเพราะอยู่กันสองคน อรรถพลไม่อยู่ แต่อรพินไม่รู้เลยว่ากำลังถูกแอบมอง ไม่รู้เลยว่ากำลังถูกคุกคามด้วยสายตาของเจ้าของบ้านแบบเงียบ ๆ ด้วยความรัก

               “พี่วินิจเค้ามีลูกแล้วเหรอ อรก็ว่าพี่เค้า พี่เค้าอาจจะนิสัยดีกับพี่ชะเอมก็ได้”

               “มีแล้ว เธอหมดสิทธิ์นะยัยรพิน”

               เป็นคำพูดเชิงตลกขบขันมากกว่าจะต่อว่า อรพินก็ไม่ได้อะไรทั้งนั้น แค่วินิจหน้าตาดี สาว ๆ หลายคนก็หมายปอง อรรถพลด้วยอีกคน แต่อรรถพลเป็นถึงหัวหน้าแผนกจึงไม่มีใครกล้าเล่นด้วยเท่าไหร่ ไม่เหมือนวินิจที่ยังพอมีน้อง ๆ พนักงานกล้าคุยกล้าคุยหยอกล้อ เล่นไปวัน ๆ

               “นั่นไงพูดถึงก็มาพอดีเลย” อรพินมองเห็นรถเก๋งสีดำวิ่งมาจอดเทียบหน้าบ้าน คงจะเป็นรถของวินิจกับภรรยา แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ เมื่อเห็นเจ้าของรถเปิดประตูลงมา พร้อมเด็กชายคนหนึ่ง หน้าตาจิ้มลิ้ม น่ารักน่าชัง

               วินิจมากับภรรยาและก็ลูกชาย อายุ 2 ขวบ ทั้งสามคนดูสนิทสนมกันกับสมาชิกบ้านหลังนี้มาก ทั้งแม่ของอรอุมาด้วย ไม่แปลกพวกเขาคงจะรู้จักกันมานาน อรรถพลกับวินิจแยกวงขอตัวออกมานั่งคุยกันแบบผู้ชาย ๆ ที่หน้าบ้าน ตรงสถานที่ ๆ เขาเตรียมไว้รอ มีแอลกอฮอล์ดื่มนิดหน่อย ส่วนภรรยาและลูกชายเข้ามานั่งในบ้านกับพวกเธอ

               แม่ของอรอุมาจัดการอาหารว่างเสร็จเรียบร้อย นำไปเสิร์ฟลูกชายที่หน้าบ้าน พร้อมแบ่งให้พวกเธอรับประทาน พร้อมนั่งพูดคุยกันด้วย อรพินสังเกตว่า แม่ของอรอุมาเอ็นดูเด็กคนนี้มาก ๆ

               “ไหว้ย่าเร็ว สวัสดีครับย่าก่อน” ชะเอมจับมือลูกชายไหว้ ประกบกัน ยกมือไหว้สวัสดีแม่เพื่อนสามี เด็กน้อยทำตามแบบไม่ขัดขืน

               “วัสดีจ้าบ”

               เด็กน้อยออกเสียงไม่ชัดเจนเท่าไหร่ ตามวัย ฟังดูน่ารักมาก ๆ ทุกคนหัวเราะกับคำพูดของเด็กชายตัวน้อยคนนี้ ถือเป็นตัวทำลายบรรยากาศเงียบเชียบของบ้านได้เป็นอย่างดี รวมทั้งอาการเกร็งเคอะเขินของเธอด้วย

               “น่ารักจังเลย” แม่ของอรอุมายื่นมือมาจับแก้มเด็กชายเบา ๆ ด้วยความมั่นเขี้ยว “แม่ล่ะอยากมีหลาน เมื่อไหร่เจ้าอรรถมันจะหาเมีย แล้วมีหลานให้แม่สักที ยายอรก็เหมือนกัน เรียนจบแล้วเมื่อไหร่จะมีแฟน พามาไหว้แม่สักที” กลับกลายเป็นว่าอรอุมากับอรรถพลโดนบ่นซะงั้น ทุกคนหัวเราะกับคำพูดของแม่ อรพินแอบหันไปมองคนถูกบ่นที่หน้าบ้าน ไม่รู้เรื่องอะไรเลย

               “อะไรแม่ ทีงี้มาบังคับให้อรหาผัว ที่ตอนเรียนห้ามมีนะ ห้ามมีเด็ดขาด แล้วจะให้อรหาผัวจากที่ไหนล่ะ ทำแต่งานไม่ค่อยได้เจอใคร ที่ทำงานก็มีแต่ผัวเค้าทั้งนั้น เป็นไงล่ะผลของการให้อรตั้งใจเรียน หาลูกเขยให้แม่ยากเลยเห็นมั้ย” อรอุมาพูดแซวผู้เป็นมารดาอย่างอารมณ์ขัน และโดนแม่มองค้อนแบบตลกกลับมา

               “รพินล่ะลูกมีแฟนกับเค้ายัง” เธอโดนถามบ้าง

               “ยังเหมือนกันค่ะแม่ ที่ทำงานมีแต่แฟนเค้ากันหมด เหมือนยัยอรว่านั่นแหละ” อรพินพูดหยอกแม่เพื่อนบ้าง ทุกคนหัวเราะก่อนจะหันมาให้ความสนใจเด็กชายตัวน้อยอีกครั้ง

               “สวัสดีครับพี่ยังลูก วัสดีค้าบ” ชะเอมภรรยาของวินิจสอนให้ลูกชายพูดสวัสดีพวกเธอ เด็กชายน่ารักตาโตแก้มป่องอย่างกับลูกซาลาเปา อรพินรู้สึกเอ็นดูอยู่ไม่น้อย เด็กชายทำตามผู้เป็นแม่บอกอย่างว่าง่าย พูดไม่ชัดยิ่งเพิ่มความน่ารักไปในตัว

               “กี่ขวบแล้วคะเนี่ย” อรพินหันไปถามชะเอมทว่ามือยื่นไปแกล้งเด็กชายให้หัวเราะเสียงดังลั่นอย่างสนุก เด็กชายเล่นกับเธอด้วย เหมือนว่าจะชอบเธอเข้าให้แล้ว

               “จะสามขวบแล้วค่ะ อีกไม่กี่เดือนนี่แหละ”

               “ชื่ออะไรครับ ชื่อน้องอะไรเนี่ย” อรพินไม่เกรงใจแม่เด็ก ขอเล่นกับเด็กชายเธอรู้สึกเอ็นดูมาก อรพินจับเด็กน้อยมาใกล้ ๆ เด็กน้อยก็ยอมเข้ามา ไม่ดื้อ ไม่หวงตัว ยอมเข้ามาใกล้ ๆ เธอ

               “อาร์เก” เด็กชายพูดไม่ค่อยชัด ออกเสียงไม่ถูก กำลังนั่งอยู่บนตักของเธอ

               “อาร์เก อาร์เจ!” ทั้งเธอ อรอุมา และชะเอมผู้เป็นแม่พูดพร้อมกัน ทุกคนหัวเราะชอบใจ “อ่อชื่อน้องอาร์เจ อันนี้มันเล่นยังไงสอนพี่รพินเล่นหน่อย” เธอกับน้องอาร์เจเข้ากันได้

               “ฝากด้วยนะคะ พี่ขอตัวไปหาสองหนุ่มนั่นก่อน”สักพักก็ขอตัวออกมานั่งคุยกับสองหนุ่มที่หน้าบ้าน ฝากอาร์เจลูกชายไว้กับเธอและอรอุมา

               “สาวสวยมั้ยครับ” แม่ของอรอุมาแกล้งถามหลาน เป็นการถามไปในเชิงเอ็นดูตามประสาเด็ก ที่กำลังหัดพูดและสอนให้พูดตามผู้ใหญ่ พร้อมชี้นิ้วมายังพวกเธอสองคน

               “ขวย” เด็กชายตอบเสียงใสแจ๋ว

               อรพินกับอรุอุมาหัวเราะทันทีเมื่อได้ฟัง คำพูดของเด็กชายฟังดูแปลก ๆ ทั้งผู้เป็นแม่ก็หัวเราะหลานชายด้วย “ขวยอะไรละลูก สวยพี่เค้าสวยมั้ยครับ”

               “ขวยจ้าบ

               “ขวยก็ขวย ดีนะไม่ออกเสียงเป็น ค.ควาย” อรพินพูดติดตลก หัวเราะเด็กชาย กอดไว้กับตัว อยากจะฟัดชะมัด ตัวอ้วน ๆ กลม ๆ ใครได้พบเจอต้องหลงไหล อยากฟัดอยากเหวี่ยงกันทุกคน

           “หอมแก้มหน่อย รพินขอหอมหน่อยเร็ว” เธอเข้ากับลูกชายไว้สองขวบของวินิจได้อย่างง่ายดาย “หอมคืนด้วย หอมแก้มรพินคืนด้วย” เธอเอียงใบหน้าให้เด็กชายหอมคืน เด็กชายก็ทำตามที่เธอสั่ง

               “แนะหอมแก้มสาว ขออนุญาตแฟนพี่รพินหรือยัง” อรอุมาพูดแกล้งน้องอาร์เจ “หอมแฟนคนอื่นได้ไงน่ะ” เด็กชายอยู่ในอ้อมแขนของอรพิน เล่นกันไปเรื่อย อรพินเอียงแก้มให้อาร์เจหอม อรอุมาพูดแหย่ให้เด็กชายโกรธ สองคนนี้เป็นไม้เบื่อไม้เมากัน ดูน้องอาร์เจจะไม่ค่อยชอบอรอุมาที่ชอบแกล้งตน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่