คุณคิดว่า .... การชุมนุมที่ใช้ความเดือดร้อนของประชาชนเป็นตัวประกัน จะสามารถอ้างว่าทำเพื่อประชาชนได้หรือไม่ ?

"เจตนาหํ กมฺมํ วทามิ"    คือบาลีพุทธศาสนสุภาษิตที่ถอดความเป็นไทยได้ว่า
"เจตนานั่นแหละเป็นกรรม"  อรรถกถาฉบับเต็มคือพุทธพจน์
"เจตนาหํ ภิกฺขเว กมฺมํ วทามิ, เจตยิตฺวา กมฺมํ กโรมิ กาเยน วาจาย มนสา"
แปลว่า  "ภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวว่า เจตนานั่นแหละเป็นกรรม เมื่อมีเจตนาแล้ว 
บุคคลย่อมกระทำกรรมโดยทางกาย วาจา ใจ"

หรือจะกล่าวสรุปเป็นภาษาชาวบ้านที่เข้าใจง่ายก็คือ ....
 "กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา" 

วันนี้ ... ได้พบเห็นอ่านข่าว พฤติกรรมของการชุมนุมที่อ้างว่าตัวเอง
เป็นประชาธิปไตย ทำเพื่อประชาชน ...

วิเคราะห์ดูการกระทำกลับมีหลายสิ่งหลายอย่าง ที่บ่งชี้ว่าไม่น่าจะเป็น
ไปตามนั้น ....

บรรพบทบ่งชี้สมมติฐาน ค่อย ๆ คลี่คลาย พบเห็นได้ทั่วไปทั้งบนท้องถนน
ที่มีการชุมนุม และในเว็บบอร์ดแห่งนี้ ....

ดังเช่นผู้สนับสนุนม๊อบท่านหนึ่งได้กล่าวเอาไว้ว่า
" แฟลชม็อบ มาเร็วไปเร็ว  รัฐบาลต้องเปิดการเจรจา  ถ้าไม่อยากให้ปชช.เดือดร้อน "
(ผมขอละการอ้างอิง  เพื่อมิให้เกิดกินแหนงใจกันว่า ผมมีอคติต่อตัวบุคคล ....
เจตนาเพียงแค่จะแสดงตัวอย่างเท่านั้น)

คติอธรรม ลักษณะนี้ใช่หรือไม่ ที่เคยนำพามวลชนเสื้อเหลืองเข้าสู่พฤติกรรมปิดขวาง
สนามบิน,  นำพาม๊อบสุเทือกเข้าชัตดาวน์บางกอก ..... เคยแม้กระทั่งสร้างความมืดบอด
ในจิตใจของผู้บงการให้เกิดเงื่อนไขการปะทะที่ราชประสงค์ของม๊อบเสื้อแดง ....

กฎการเคลื่อนที่ข้อที่สามของนิวตัน ยืนยันมิติของ "กรรม" ในเชิงวิทยาศาสตร์
เอาไว้ว่า  " ทุกแรงกิริยาย่อมมีแรงปฏิกิริยา ....."
ขยายความให้กว้างขึ้นก็คือ
" Every Action Has Consequences "

ดังนั้น  พฤติกรรมของม๊อบในวันนี้ จึงดูไม่ต่างจากอดีตสักเท่าไร ...
สร้างความเดือดร้อน  สร้างเวร สร้างกรรม ให้ประชาชนผู้ไม่รู้อิโหน่
อิเหน่ .... แต่ต้องกลายมาเป็นจำเลยการเมือง  ตัวประกันในเกมแห่ง
อำนาจ .... ซึ่งเจ้าของม๊อบ เขารู้ดีว่า  การจะล้มรัฐบาลที่ดื้อด้านต่อ
อาญาสิทธิ์ของตัวเอง  ไม่มีอะไรจะได้ผลแม่นยำมากไปกว่า

บ่อนทำลาย - ยั่วยุ - ใช้ความเดือดร้อนของประชาชนเป็นเครื่อง
ต่อรอง - ปิดท้ายด้วยการออกมาเอ๊กเซอไซ ของจ๊อกกี้สีเขียว ....

ในท่ามกลางเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ ผมมีความหวังเล็ก ๆ อยู่ว่า ชาวบ้าน
ชาวช่องที่เขาเดือดร้อนเพราะคนพวกนี้  จะอโหสิกรรมกันไป  ละเลิก
การจองเวร แก้แค้นกัน .... เพื่อให้เหตุการณ์ยุติโดยเร็ว

แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับม๊อบด้วยเช่นกัน  ว่าเขาตั้งใจทำเพื่อประชาชน
จริง ๆ หรือเปล่า  .... หรือเพียงมาเป็นบันไดขึ้นสู่อำนาจให้ กลุ่ม
, คณะใด คณะหนึ่ง ....

เพื่อเป็นการฟังความรอบด้าน  จึงอยากจะถามความเห็น เพื่อน ๆ สมช.
ในประเด็น ตามกระทู้นี้ครับ .
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
การเอาความเดือนร้อนของประชาชนมาเป็นข้อต่อรองมันไม่ควรมีครับ

การสร้างความเกลียดชังที่ผ่านมายังไม่พออีกหรือ เสียหายกันไปเท่าไร แล้วประชาชนที่เฉยๆ อาจจะทนไม่ได้ แล้วรอยร้าวที่เกิดขึ้นมันยากที่จะแก้ไข

ผมว่าทุกฝ่ายควรมาคุยกัน โดยเฉพาะนักการเมือง ให้ออกแบบนโยบายเชิงสร้างสรรค์ในการเลือกตั้ง เลิกนโยบายประชานิยมและสร้างภาระระยะยาวให้ประเทศ และมีนโยบายปรับลดหนี้ระยะยาว ให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้

แข่งกันที่นโยบายการสร้างความเจริญควบคู่กับการกระจายรายได้ พัฒนาส่วนต่างๆอย่างจริงจัง และสร้างระบบตรวจสอบการใช้งบประมาณ และแก้ไขปัญหาการคอร์รัปชั่น  

ฝ่ายที่แพ้เลือกตั้งก็ควรพัฒนาปรับปรุงนโยบาย ไม่ใช่หาเรื่องรัฐบาลทุกเรื่อง ทำทั้งบนดิน ใต้ดิน ประมาณว่า ข้าไม่ได้ เอ็งก็ต้องล้มไปด้วย สุดท้ายประเทศนั่นแหละเสียหายที่สุด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่