วันนี้ไทยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 4 ราย รวมป่วยสะสม 3,669 ราย
16 ต.ค. 63 (10:51 น.)
วันนี้ (15 ต.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายงานถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ว่า....✏
ล่าสุด สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 ในไทยวันนี้ (16 ต.ค. 63) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 4 ราย เป็นผู้เดินทางมาจาก ไนจีเรีย 1 ราย สหราชอาณาจักร 1 ราย เอธิโอเปีย 1 ราย และ สิงคโปร์ 1 ราย
ส่งผลให้ผู้ป่วยติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 3,669 ราย หายป่วยเพิ่ม 4 ราย รวมหายแล้ว 3,467 ราย โดยยังมีผู้ป่วยที่รักษาอาการอยู่ 143 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม มีผู้เสียชีวิตรวม 59 ราย
https://www.sanook.com/news/8275386/
สธ.พบคนติดโควิด 2 รายที่จ.ตากเร่งสอบสวนโรค
สธ.พบคนติดโควิด 2 ราย ที่ จ.ตาก ทีมเร่งสอบสวนโรค ขอปชช.อย่าตระหนก ยกการ์ดสูง สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือ
เมื่อวันที่ 16 ต.ค. นายธนิตพล ไชยนันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า เพิ่งได้รับรายงานเบื้องต้นว่าพบคนที่อยู่ในประเทศไทย แต่ไม่มีบัตร 2 ราย ที่จังหวัดตาก ติดเชื้อโควิด-19 เป็นสามีภรรยาที่ทำงานอยู่ในส่วนที่มีประวัติเคยสัมผัสกับคนขับรถส่งของชาวเมียนมา ที่ติดเชื้อโควิด-19 ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้แถลงข่าวไปแล้วนั้น โดยการตรวจผู้ติดเชื้อสามีภรรยาดังกล่าว ก็เพราะมาตรการเชิงรุก ที่มีการตรวจและเฝ้าสังเกตอาการ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทีมสอบสวนโรคอยู่ระหว่างการสอบสวนโรคและปฏิบัติมาตรการควบคุมป้องกันโรคเพิ่มเติม ทั้งนี้ ไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนก โดยขอให้ประชาชนยกการ์ดสูง สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อย ๆ ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
อ่านต่อที่ :
https://www.dailynews.co.th/politics/801439
สธ.มั่นใจลดกักตัว นทท. 10 วันเอาอยู่ ชงศบค.สัปดาห์หน้า
สธ. เผยชง ศบค.ชุดเล็ก ลดวันกักตัวนทท.ประเทศเสี่ยง
ต่ำ 10 วัน ประเมินผล 1 เดือน ชี้หลายประเทศ เริ่มเดินหน้าหลังวันที่ 11-14 ไม่พบปัญหาคนติดเชื้อเพิ่ม แจง "โควิด"ทำหูดับเฉียบพลัน พบน้อย
ศุกร์ที่ 16 ตุลาคม 2563 เวลา 15.02 น.
เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวในการแถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ว่า หลังจากพบคนขับรถเมียนมาติดโควิด 3 ราย ทางไทยก็มีการตรวจเชิงรุกคนที่มีความเสี่ยงในพื้นที่แม่สอด จ.ตาก โดยตรวจทั้งหมด 4,680 ราย ผลออกแล้ว 2,280 เป็นลบ ไม่ติดเชื้อ ส่วนที่เหลือก็เชื่อว่าทั้งหมดจะเป็นลบเช่นกัน เพราะถ้าพบพบเป็นบวกจะต้องมีรายงานออกมาด้วยวาจาก่อน ส่วนถ้าผลลบจะต้องรายงานเป็นเอกสารเลยช้า อย่างไรก็ตาม ย้ำคนไทยต้องช่วยกันควบคุมป้องกันโรค โดยเฉพาะหน้ากากอนามัยต้องไม่ตก ขอให้สวมหน้ากากอนามัย 100% เมื่อไปที่สาธารณะ
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ. กองโรคติดต่อทั่วไป กล่าวว่า ขณะนี้มีหลายประเทศที่มีการปรับระยะเวลาการกักตัวผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศ น้อยกว่า 14 วัน บนพื้นฐานข้อมูลวิชาการ โดยมีเงื่อนไขพิเศษประกอบ เช่น จำกัดประเทศที่เข้ามา มีผลตรวจ PCR ไม่พบเชื้อ เช่น สเปน สหรัฐอเมริกา สวีเดน มัลดีฟส์ บลาซิล สหราชอาณาจักร ลักเซมเบิร์ก แอฟริกาใต้ และโปรตุเกส ทั้งนี้ ประเทศที่ลดเวลากักตัวมาอยู่ที่ 10 วัน ได้แก่ ฮังการี สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ สโลวีเนีย และลัตเวีย ส่วนประเทศที่ลดการกักตัวเหลือ 7 วันคือ เบลเยียม ฝรั่งเศส ซึ่งประเทศที่มีการกักตัวเพียง 10 วัน เมื่อมีการติดตามผลก็ไม่พบว่า วันที่ 11, 12, 13, 14 จะไปสร้างปัญหาเพิ่มการติดเชื้อแต่อย่างใด
นพ.โสภณ กล่าวว่า สำหรับประเทศไทยขณะนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุขก็มีทีมผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อ นักวิชาการร่วมกันศึกษาข้อมูลก็พบว่า การลดเวลากักตัว 14 วันมาเหลือ 10 วันนั้น ไม่มีความต่างกัน อาจจะมีความเสี่ยงบ้างแต่ไม่มาก และอยู่ในศักยภาพในการควบคุมป้องกันการติดเชื้อและแพร่ระบาดได้ โดยเลือกประเทศที่ไม่มีความเสี่ยงเพื่อนำร่องก่อน เป็นเวลา 1 เดือน พร้อมออกมาตรการเสริม โดยมีการติดตามผู้ที่เข้าสู่การกักกันเมื่อครบ 10 วัน ต้องลงแอพพลิเคชั่นติดตามตัว ดูว่าคนเหล่านี้มีอาการป่วยหรือไม่ เมื่อไหร่ก็ตามที่มีผู้ป่วยรายใหม่เกิดขึ้นจะต้องดูว่ามีการเชื่อมโยงกับคนที่ออกจากสถานที่กักกัน 10 วันหรือไม่ โดยจะมีการติดตามและประเมินผลเป็นระยะเวลา 1 เดือน ทั้งนี้ จะมีการนำเสนอ ศบค.ชุดเล็กในสัปดาห์หน้า ก่อนเสนอ ศบค.ชุดใหญ่ต่อไป คาดว่าไม่เกินเดือนนี้
“จากตัวเลขคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าพักในสถานที่กักกัน 14 วัน นั้นพบว่ามีหลายประเทศที่ตรวจไม่พบการติดเชื้อ หรือพบน้อย อาทิ นิวซีแลนด์ เข้ามา 800 กว่าคน ไม่พบการติดเชื้อเลย ไต้หวันเข้ามากว่า 5 พันคนไม่พบเชื้อ 2 คน จีน เข้ามา 2 พันกว่าคนพบเชื้อ 1 คน เป็นต้น นับว่าเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ รวมไปถึงออสเตรเลีย ฮ่องกง ด้วย” นพ.โสภณ กล่าวและว่า ส่วนที่มีรายงานอาการโรคโควิด-19 ก่อให้เกิดภาวะหูดับเฉียบพลันนั้น เป็นอาการแทรกซ้อนที่พบได้น้อยมาก มีรายงานในต่างประเทศอยู่บ้าง ใน 2 วันนี้มี 1 รายในยุโรป ส่วนประเทศไทยยังไม่เคยพบ
เมื่อถามว่านอกจากลดวันกักตัวเหลือ 10 วันแล้ว มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะลดวันกักตัวเหลือ 7 วัน นพ.โอภาส กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยยังใช้มาตรการกักตัว 14 วัน ส่วนมาตรการลดลงมาเหลือ 10 วันนั้นเป็นข้อมูลที่รวบรวมจากข้อมูลเชิงวิชาการและมีการปรึกษาหารือกับคณะวิชาการหลายคณะ ถือว่าการลดวันกักตัวเหลือ 10 วันนั้น มีความเป็นไปได้ แต่มีสิ่งที่ต้องดำเนินการเพิ่มเติม คือการตรวจทางห้องปฏิบัติการมากในวันที่ 1 และวันที่ 10 และมีการตรวจด้วย 2 วิธีคือ ทั้งแยงจมูก และตรวจจากน้ำลาย รวมถึงการติดตามตัวซึ่งจะต้องทำมากขึ้นควบคู่กัน ซึ่งจากการประเมินคิดว่าน่าจะมีประสิทธิภาพดี
“ส่วนจะสามารถลดลงมาเหลือ 7 วันหรือมากกว่านี้ได้หรือไม่นั้นมีหลายปัจจัยที่มาเกี่ยวข้อง เช่น หากประเทศต้นทางมีอัตราการติดเชื้อต่ำ มีความปลอดภัยเทียบเท่าไทย เช่น จีน นิวซีแลนด์ ถือว่าความเสี่ยงจะต่ำ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะลดกักตัวเหลือ 7 วัน ส่วนประเทศที่มีความเสี่ยงสูงหากจะลดเหลือ 7 วันจริงๆ จะต้องมีมาตรการอื่นมาเสริม เช่น ต้องตรวจห้องบริการมาก การติดตามตัวที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการทดสอบตรวจสอบยืนยัน ซึ่งเรื่องการลดวันกักตัวมาที่ 7 วันนั้น ต้องพิจารณาอีกครั้งหลังประเมินแล้วว่ามาตรการลดการกักตัวมาอยู่ที่ 10 วันได้ผลดีก่อน ซึ่งถ้าลดวันกักตัวมาที่ 10 วันผมค่อนข้างมั่นใจ ยิ่งเป็นประเทศเสี่ยงต่ำยิ่งมั่นใจ” นพ.โอภาส กล่าว
อ่านต่อที่ :
https://www.dailynews.co.th/politics/801411
🔴มาลาริน/16 ต.ค.ไทยพบโควิด 4ราย กลับจาก 4ประเทศ/พบในไทย2รายที่ตาก/สธ.มั่นใจลดกักตัว นทท.10 วันเอาอยู่ ชงศบค.สัปดาห์หน้า
16 ต.ค. 63 (10:51 น.)
วันนี้ (15 ต.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายงานถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ว่า....✏
ล่าสุด สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 ในไทยวันนี้ (16 ต.ค. 63) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 4 ราย เป็นผู้เดินทางมาจาก ไนจีเรีย 1 ราย สหราชอาณาจักร 1 ราย เอธิโอเปีย 1 ราย และ สิงคโปร์ 1 ราย
ส่งผลให้ผู้ป่วยติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 3,669 ราย หายป่วยเพิ่ม 4 ราย รวมหายแล้ว 3,467 ราย โดยยังมีผู้ป่วยที่รักษาอาการอยู่ 143 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม มีผู้เสียชีวิตรวม 59 ราย
https://www.sanook.com/news/8275386/
สธ.พบคนติดโควิด 2 รายที่จ.ตากเร่งสอบสวนโรค
สธ.พบคนติดโควิด 2 ราย ที่ จ.ตาก ทีมเร่งสอบสวนโรค ขอปชช.อย่าตระหนก ยกการ์ดสูง สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือ
เมื่อวันที่ 16 ต.ค. นายธนิตพล ไชยนันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า เพิ่งได้รับรายงานเบื้องต้นว่าพบคนที่อยู่ในประเทศไทย แต่ไม่มีบัตร 2 ราย ที่จังหวัดตาก ติดเชื้อโควิด-19 เป็นสามีภรรยาที่ทำงานอยู่ในส่วนที่มีประวัติเคยสัมผัสกับคนขับรถส่งของชาวเมียนมา ที่ติดเชื้อโควิด-19 ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้แถลงข่าวไปแล้วนั้น โดยการตรวจผู้ติดเชื้อสามีภรรยาดังกล่าว ก็เพราะมาตรการเชิงรุก ที่มีการตรวจและเฝ้าสังเกตอาการ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทีมสอบสวนโรคอยู่ระหว่างการสอบสวนโรคและปฏิบัติมาตรการควบคุมป้องกันโรคเพิ่มเติม ทั้งนี้ ไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนก โดยขอให้ประชาชนยกการ์ดสูง สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อย ๆ ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/politics/801439
สธ.มั่นใจลดกักตัว นทท. 10 วันเอาอยู่ ชงศบค.สัปดาห์หน้า
สธ. เผยชง ศบค.ชุดเล็ก ลดวันกักตัวนทท.ประเทศเสี่ยง
ต่ำ 10 วัน ประเมินผล 1 เดือน ชี้หลายประเทศ เริ่มเดินหน้าหลังวันที่ 11-14 ไม่พบปัญหาคนติดเชื้อเพิ่ม แจง "โควิด"ทำหูดับเฉียบพลัน พบน้อย
ศุกร์ที่ 16 ตุลาคม 2563 เวลา 15.02 น.
เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวในการแถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ว่า หลังจากพบคนขับรถเมียนมาติดโควิด 3 ราย ทางไทยก็มีการตรวจเชิงรุกคนที่มีความเสี่ยงในพื้นที่แม่สอด จ.ตาก โดยตรวจทั้งหมด 4,680 ราย ผลออกแล้ว 2,280 เป็นลบ ไม่ติดเชื้อ ส่วนที่เหลือก็เชื่อว่าทั้งหมดจะเป็นลบเช่นกัน เพราะถ้าพบพบเป็นบวกจะต้องมีรายงานออกมาด้วยวาจาก่อน ส่วนถ้าผลลบจะต้องรายงานเป็นเอกสารเลยช้า อย่างไรก็ตาม ย้ำคนไทยต้องช่วยกันควบคุมป้องกันโรค โดยเฉพาะหน้ากากอนามัยต้องไม่ตก ขอให้สวมหน้ากากอนามัย 100% เมื่อไปที่สาธารณะ
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ. กองโรคติดต่อทั่วไป กล่าวว่า ขณะนี้มีหลายประเทศที่มีการปรับระยะเวลาการกักตัวผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศ น้อยกว่า 14 วัน บนพื้นฐานข้อมูลวิชาการ โดยมีเงื่อนไขพิเศษประกอบ เช่น จำกัดประเทศที่เข้ามา มีผลตรวจ PCR ไม่พบเชื้อ เช่น สเปน สหรัฐอเมริกา สวีเดน มัลดีฟส์ บลาซิล สหราชอาณาจักร ลักเซมเบิร์ก แอฟริกาใต้ และโปรตุเกส ทั้งนี้ ประเทศที่ลดเวลากักตัวมาอยู่ที่ 10 วัน ได้แก่ ฮังการี สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ สโลวีเนีย และลัตเวีย ส่วนประเทศที่ลดการกักตัวเหลือ 7 วันคือ เบลเยียม ฝรั่งเศส ซึ่งประเทศที่มีการกักตัวเพียง 10 วัน เมื่อมีการติดตามผลก็ไม่พบว่า วันที่ 11, 12, 13, 14 จะไปสร้างปัญหาเพิ่มการติดเชื้อแต่อย่างใด
นพ.โสภณ กล่าวว่า สำหรับประเทศไทยขณะนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุขก็มีทีมผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อ นักวิชาการร่วมกันศึกษาข้อมูลก็พบว่า การลดเวลากักตัว 14 วันมาเหลือ 10 วันนั้น ไม่มีความต่างกัน อาจจะมีความเสี่ยงบ้างแต่ไม่มาก และอยู่ในศักยภาพในการควบคุมป้องกันการติดเชื้อและแพร่ระบาดได้ โดยเลือกประเทศที่ไม่มีความเสี่ยงเพื่อนำร่องก่อน เป็นเวลา 1 เดือน พร้อมออกมาตรการเสริม โดยมีการติดตามผู้ที่เข้าสู่การกักกันเมื่อครบ 10 วัน ต้องลงแอพพลิเคชั่นติดตามตัว ดูว่าคนเหล่านี้มีอาการป่วยหรือไม่ เมื่อไหร่ก็ตามที่มีผู้ป่วยรายใหม่เกิดขึ้นจะต้องดูว่ามีการเชื่อมโยงกับคนที่ออกจากสถานที่กักกัน 10 วันหรือไม่ โดยจะมีการติดตามและประเมินผลเป็นระยะเวลา 1 เดือน ทั้งนี้ จะมีการนำเสนอ ศบค.ชุดเล็กในสัปดาห์หน้า ก่อนเสนอ ศบค.ชุดใหญ่ต่อไป คาดว่าไม่เกินเดือนนี้
“จากตัวเลขคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าพักในสถานที่กักกัน 14 วัน นั้นพบว่ามีหลายประเทศที่ตรวจไม่พบการติดเชื้อ หรือพบน้อย อาทิ นิวซีแลนด์ เข้ามา 800 กว่าคน ไม่พบการติดเชื้อเลย ไต้หวันเข้ามากว่า 5 พันคนไม่พบเชื้อ 2 คน จีน เข้ามา 2 พันกว่าคนพบเชื้อ 1 คน เป็นต้น นับว่าเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ รวมไปถึงออสเตรเลีย ฮ่องกง ด้วย” นพ.โสภณ กล่าวและว่า ส่วนที่มีรายงานอาการโรคโควิด-19 ก่อให้เกิดภาวะหูดับเฉียบพลันนั้น เป็นอาการแทรกซ้อนที่พบได้น้อยมาก มีรายงานในต่างประเทศอยู่บ้าง ใน 2 วันนี้มี 1 รายในยุโรป ส่วนประเทศไทยยังไม่เคยพบ
เมื่อถามว่านอกจากลดวันกักตัวเหลือ 10 วันแล้ว มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะลดวันกักตัวเหลือ 7 วัน นพ.โอภาส กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยยังใช้มาตรการกักตัว 14 วัน ส่วนมาตรการลดลงมาเหลือ 10 วันนั้นเป็นข้อมูลที่รวบรวมจากข้อมูลเชิงวิชาการและมีการปรึกษาหารือกับคณะวิชาการหลายคณะ ถือว่าการลดวันกักตัวเหลือ 10 วันนั้น มีความเป็นไปได้ แต่มีสิ่งที่ต้องดำเนินการเพิ่มเติม คือการตรวจทางห้องปฏิบัติการมากในวันที่ 1 และวันที่ 10 และมีการตรวจด้วย 2 วิธีคือ ทั้งแยงจมูก และตรวจจากน้ำลาย รวมถึงการติดตามตัวซึ่งจะต้องทำมากขึ้นควบคู่กัน ซึ่งจากการประเมินคิดว่าน่าจะมีประสิทธิภาพดี
“ส่วนจะสามารถลดลงมาเหลือ 7 วันหรือมากกว่านี้ได้หรือไม่นั้นมีหลายปัจจัยที่มาเกี่ยวข้อง เช่น หากประเทศต้นทางมีอัตราการติดเชื้อต่ำ มีความปลอดภัยเทียบเท่าไทย เช่น จีน นิวซีแลนด์ ถือว่าความเสี่ยงจะต่ำ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะลดกักตัวเหลือ 7 วัน ส่วนประเทศที่มีความเสี่ยงสูงหากจะลดเหลือ 7 วันจริงๆ จะต้องมีมาตรการอื่นมาเสริม เช่น ต้องตรวจห้องบริการมาก การติดตามตัวที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการทดสอบตรวจสอบยืนยัน ซึ่งเรื่องการลดวันกักตัวมาที่ 7 วันนั้น ต้องพิจารณาอีกครั้งหลังประเมินแล้วว่ามาตรการลดการกักตัวมาอยู่ที่ 10 วันได้ผลดีก่อน ซึ่งถ้าลดวันกักตัวมาที่ 10 วันผมค่อนข้างมั่นใจ ยิ่งเป็นประเทศเสี่ยงต่ำยิ่งมั่นใจ” นพ.โอภาส กล่าว
อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/politics/801411