【 The Journey Of My Little Prince 】
นิทรรศการแสดงของสะสมเจ้าชายน้อยของพี่ตา - อรุณี ชูบุญราษฎร์
77 ปี เจ้าชาย(น้อย) แห่งโลกวรรณกรรม
⏰10-18 OCT 2020 (11.00 - 18.00)
🍰Spoonful Zakka Café (Sukhumvit 32)
หากคุณเริ่มหลงลืมความเป็นเด็ก ให้กัปตันสองตาพาคุณนั่งไทม์แมชชีนแห่งความทรงจำ กลับไปสำรวจช่วงเวลาแห่งความไร้เดียงสาและบริสุทธิ์ของคุณ ผ่านการเดินทางของเจ้าชายน้อยแห่งดาว B612
ไปสุขุมวิทสิ…ที่นั่นมีชื่อเสียงมากนะ
“ตอนที่อองตวน เดอ แซ็งเต็ก-ซูเปรี เขียนหนังสือเรื่องเจ้าชายน้อย เขาคงไม่เคยคิดว่าผลงานของเขาจะกลายเป็นงานเขียนที่อยู่ในใจ และมีอิทธิพลต่อผู้คนทั่วโลกมายาวนานเพียงนี้...นานถึง 77 ปี และจะไม่มีวันหยุดด้วย”
บทเกริ่นนำในสูจิบัตรนิทรรศการ The Journey Of My Little Prince ของ ‘สองตา’ อรุณี ชูบุญราษฎร์ ผู้ช่วยบรรณาธิการนิตยสารพลอยแกมเพชร สะกดให้สองเท้าของผมเดินทางมาสู่คาเฟ่ลับกลิ่นอายมูจิแห่งหนึ่งในซอยสุขุมวิท 32
การที่วรรณกรรมเล่มหนึ่งสามารถเดินทางมาถึง 77 ปี ไม่ใช่เรื่องธรรมดา และไม่ใช่แค่วาระครบรอบที่เวียนมาและผ่านไป
การโตเป็นผู้ใหญ่ไม่ใช่ปัญหาหรอก แต่เป็นการลืมวัยเด็กต่างหาก
เลื่อนประตูเข้าไปภายใต้เรือนกระจก เราได้พบกับโปสเตอร์เจ้าชายน้อยสุดเท่ยืนต้อนรับด้วยชุดเต็มยศ พร้อมพนักงานที่ยิ้มและผายมือเชิญให้ก้าวทะลุทางเชื่อม สู่ห้องที่เต็มไปด้วยหนังสือเจ้าชายน้อยกว่า 25 ภาษาวางเรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบ
ภาพเจ้าชายน้อยและกุหลาบแสนรักที่ปรากฏเป็นฝีมือการวาดของพี่ตา ก่อนส่งไม้ต่อให้ทีมงานชาวญี่ปุ่นช่วยออกแบบโปสเตอร์
ທ້າວນ້ອຍ
“คำนี้อ่านว่าอะไรกันนะ” ผมพูดเบาๆ
“เล่มนี้เป็นเจ้าชายน้อยฉบับภาษาลาว ชื่อว่าท้าวน้อย” น้ำเสียงอบอุ่นดังขึ้นจากด้านหลัง และภายใต้กรอบแว่นกลมโต นาทีนั้นผมได้พบกัปตัน ‘สองตา’
ผู้ช่วยบรรณาธิการพลอยแกมเพชรและนักเขียนเจ้าของนามปากกา 'สองตา' อรุณี ชูบุญราษฎร์ (เพจ : บันทึกของสองตา)
หนังสือเจ้าชายน้อยฉบับภาษาไทย
กาลครั้งหนึ่งของเจ้าชายน้อยบนหน้าปกนิตยสาร Writer
จุดเริ่มต้นของเจ้าชายน้อยและผู้ช่วยบก.พลอยแกมเพชรไม่ได้เกิดขึ้นเพราะรักแรกพบ แต่เป็นการอ่านเพื่อนำไปสอบของนักศึกษาภาควิชาภาษาฝรั่งเศสและวรรณคดี เธอจึงไม่ได้รู้สึกสนุกกับเนื้อหานัก แถมยังต้องทำความเข้าใจกับความคิดที่ซ่อนอยู่ในเนื้อหา ซึ่งลึกซึ้งเกินจะเป็นวรรณกรรมเด็ก
“ตอนเด็กๆ พี่ก็ไม่ค่อยเข้าใจ อย่างมากเราก็ อ๋อ! คนจุดตะเกียงมีหน้าที่แค่จุดตะเกียง หรือนักธุรกิจก็จะคิดแต่เรื่องเงินเท่านั้น กระทั่งวันหนึ่งที่เพื่อนซื้อหนังสือเจ้าชายน้อยให้เป็นของขวัญวันเกิด จำได้ว่าค่อยๆ อ่านและใช้เวลาอยู่นานจนหลงรักหนังสือเล่มนี้ พร้อมกับทึ่งในความสามารถของอองตวน เดอ แซ็งเต็ก-ซูเปรี ที่ทั้งเขียนและวาดรูปประกอบได้เอง”
หนังสือเจ้าชายน้อยที่จัดแสดงจะมีเวอร์ชั่นภาษาต่างๆ จำนวนทั้งสิ้น 25 ภาษา และหากนับเฉพาะปกจะมีจำนวนประมาณ 70-80 เล่ม
หลังจากที่ตกหลุมรักชาว B612 ทุกครั้งที่ไปต่างประเทศ เธอจะซื้อหนังสือหรือของสะสมที่เกี่ยวข้องกับเจ้าชาวน้อยกลับมาด้วยเสมอ
เช่นเดียวกับเพื่อนๆของเธอที่ช่วยเติมเต็ม Collection นี้
นอกจากเจ้าชายน้อยแล้ว สตรีผู้หลงรักวรรณกรรมบอกว่า ปริศนาความลึกลับของนักเขียนชาวฝรั่งเศสก็น่าสนใจ เพราะหลังจากหนังสือถูกตีพิมพ์ไม่นาน ผู้เขียนซึ่งมีอาชีพหลักคือนักบิน ได้ขับเครื่องบินออกไปทำภารกิจ จากนั้นเขาก็หายสาบสูญ คล้ายกับเรื่องเจ้าชายน้อยที่บรรยายเหตุการณ์เครื่องบินตกในทะเลทราย จนเป็นที่มาของมิตรภาพระหว่างนักบินและเด็กชายจากต่างดาว
“ทุกอย่างมันเป็นปริศนาและเป็นอะไรที่ชวนติดตาม” เธอกล่าว
ตุ๊กตาเจ้าชายน้อยเย็บมือ ฝีมือของทีมงานผู้จัดนิทรรศการ
โปสการ์ดเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่ระลึกภายในงาน ซึ่งรายได้จากการจำหน่าย ผู้จัดนิทรรศการจะนำไปทำบุญกับโรงพยาบาลรามาธิบดี
แค่รู้ว่ามีชั้นสอง ตอนอยู่ชั้นหนึ่ง ฉันก็เริ่มเป็นสุขแล้ว
“มีชั้นสองด้วยนะ อย่าลืมขึ้นไปชมนะคะ” กัปตันสองตากล่าว จากนั้นก็นำลูกเรืออย่างผมเดินทางสู่จุดหมายสุดท้าย
เมื่อก้าวสู่บริเวณชั้นสอง สายตาผมถูกดึงดูดด้วยโต๊ะสีฟ้าที่เต็มไปด้วยของสะสมมากมาย แต่ที่สะดุดใจกว่าเพื่อนคงเป็นธนบัตร 50 ฟรังก์ และคอลัมน์เจ้าชายน้อยจากหนังสือพิมพ์ Bangkok Post (1997) พร้อมข่าวละครเวทีเจ้าชายน้อยที่ ‘อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร’ นักแสดงชื่อดังรับบทนำและโซโล่เดี่ยวกว่า 3 ชั่วโมง
ธนบัตรฝรั่งเศส 50 ฟรังก์ เนื่องในวาระครบรอบ 50 ปี แห่งการจากไปของแซงเตกซูเปรี
หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ฉบับวันที่ 23 ตุลาคม 1997
จากโต๊ะสีฟ้า กัปตันหญิงก็พาเราเข้าห้องนิทรรศการเพื่อพบจุดไฮไลท์ของการเดินทางครั้งนี้ เพราะที่นี่เต็มไปด้วยสมบัติแห่งความรักความทรงจำ ซึ่งสิ่งของแต่ละชิ้น ต่างมีเรื่องราวข้างหลังภาพมากมาย อย่างเช่นหน้าปกเจ้าชายน้อยที่ดูไม่ใช่เจ้าชายน้อยในแบบที่คุ้นเคย เพราะเจ้าชายน้อยไม่ได้เป็นวรรณกรรมที่ติดลิขสิทธิ์อย่างเรื่องอื่นๆ จึงทำให้ทุกคนสามารถออกแบบเจ้าชายน้อยได้ในแบบที่ต้องการ (ยกเว้นบางประเทศ เช่น ฝรั่งเศสและญี่ปุ่น)
เวลาที่เธอเสียไปให้เจ้าชายน้อยของเธอ ทำให้สิ่งของเหล่านี้ยิ่งทวีความสำคัญ
“พี่ตาครับ ของที่ระลึกที่หายากและได้มาลำบากที่สุดของพี่คืออะไรครับ” ผมกล่าวแม้จะยังไม่ได้เห็นกับตาหรือฟังกับหู แต่ก็สัมผัสด้วยใจว่า เบื้องหน้าของผมจะต้องมีของรักประหนึ่งชุดตัวโปรดของนักเขียนท่านนี้
“อันนี้คือของที่หายากที่สุด พี่ต้องคอยตามข่าวบ่อยๆ จนได้เพื่อนชาวฝรั่งเศสช่วยซื้อให้”



ชุดภาพพิมพ์หินขนาด 400 x 320 มม. จำนวน 20 ชิ้น พิมพ์บนกระดาษพิเศษตามภาพเขียนเขียนสีน้ำต้นฉบับของ Antoine de Saint- Exupéry จัดทำโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ “Succession Antoine de Saint- Exupéry” พร้อมพิมพ์ลายเซ็น Antoine de Saint- Exupéry
บนภาพทุกภาพ ; LIMITED EDITION
“พี่ครับ ประโยคเด็ดหรือวรรคทองของเจ้าชายน้อยคำไหนที่พี่ประทับใจที่สุดครับ” ผมถาม
“สำหรับพี่ พี่ชอบตัวละครมากกว่า พี่ชอบหมาป่าเพราะหมาป่ามีความเป็นมนุษย์ ดังนั้นบทที่ว่าด้วยหมาป่าจะพูดถึงความสัมพันธ์ของคนว่าถ้าเราอยากรู้จักกันเราก็ต้องทำความคุ้นเคยหรือให้ใจต่อกัน”..เธอตอบพร้อมอมยิ้มน้อยๆ
【 The Journey Of My Little Prince 】
“ตอนที่อองตวน เดอ แซ็งเต็ก-ซูเปรี เขียนหนังสือเรื่องเจ้าชายน้อย เขาคงไม่เคยคิดว่าผลงานของเขาจะกลายเป็นงานเขียนที่อยู่ในใจ และมีอิทธิพลต่อผู้คนทั่วโลกมายาวนานเพียงนี้...นานถึง 77 ปี และจะไม่มีวันหยุดด้วย”
การที่วรรณกรรมเล่มหนึ่งสามารถเดินทางมาถึง 77 ปี ไม่ใช่เรื่องธรรมดา และไม่ใช่แค่วาระครบรอบที่เวียนมาและผ่านไป
การโตเป็นผู้ใหญ่ไม่ใช่ปัญหาหรอก แต่เป็นการลืมวัยเด็กต่างหาก
เลื่อนประตูเข้าไปภายใต้เรือนกระจก เราได้พบกับโปสเตอร์เจ้าชายน้อยสุดเท่ยืนต้อนรับด้วยชุดเต็มยศ พร้อมพนักงานที่ยิ้มและผายมือเชิญให้ก้าวทะลุทางเชื่อม สู่ห้องที่เต็มไปด้วยหนังสือเจ้าชายน้อยกว่า 25 ภาษาวางเรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบ
“คำนี้อ่านว่าอะไรกันนะ” ผมพูดเบาๆ
“เล่มนี้เป็นเจ้าชายน้อยฉบับภาษาลาว ชื่อว่าท้าวน้อย” น้ำเสียงอบอุ่นดังขึ้นจากด้านหลัง และภายใต้กรอบแว่นกลมโต นาทีนั้นผมได้พบกัปตัน ‘สองตา’
“ตอนเด็กๆ พี่ก็ไม่ค่อยเข้าใจ อย่างมากเราก็ อ๋อ! คนจุดตะเกียงมีหน้าที่แค่จุดตะเกียง หรือนักธุรกิจก็จะคิดแต่เรื่องเงินเท่านั้น กระทั่งวันหนึ่งที่เพื่อนซื้อหนังสือเจ้าชายน้อยให้เป็นของขวัญวันเกิด จำได้ว่าค่อยๆ อ่านและใช้เวลาอยู่นานจนหลงรักหนังสือเล่มนี้ พร้อมกับทึ่งในความสามารถของอองตวน เดอ แซ็งเต็ก-ซูเปรี ที่ทั้งเขียนและวาดรูปประกอบได้เอง”
“ทุกอย่างมันเป็นปริศนาและเป็นอะไรที่ชวนติดตาม” เธอกล่าว
“มีชั้นสองด้วยนะ อย่าลืมขึ้นไปชมนะคะ” กัปตันสองตากล่าว จากนั้นก็นำลูกเรืออย่างผมเดินทางสู่จุดหมายสุดท้าย
“พี่ตาครับ ของที่ระลึกที่หายากและได้มาลำบากที่สุดของพี่คืออะไรครับ” ผมกล่าวแม้จะยังไม่ได้เห็นกับตาหรือฟังกับหู แต่ก็สัมผัสด้วยใจว่า เบื้องหน้าของผมจะต้องมีของรักประหนึ่งชุดตัวโปรดของนักเขียนท่านนี้
“อันนี้คือของที่หายากที่สุด พี่ต้องคอยตามข่าวบ่อยๆ จนได้เพื่อนชาวฝรั่งเศสช่วยซื้อให้”